บทที่ 44 : GTL...เกรททีชเชอร์ หลินฟ่าน ...ข้าจะเป็นอาจารย์!!
เมืองราชวงศ์หยางเกริกไกรนับว่ามีคนมากมายมหาศาล บริเวณถนนสายหนึ่งที่มีพ่อค้าแม่ค้ามาเรียงรายขายของกันอย่างไม่มีวันหยุด ผู้คนล้วนเรียกถนนสายนี้ว่า ถนนคนเดิน...หลินฟ่านเองก็กำลังเดินชมดูของอย่างสนุกสนานอยู่ด้วยอารมณ์สุนทรี
หากให้เทียบกับการใช้ชีวิตในนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนว่าหลินฟ่านชอบที่จะเดินอย่างอิสระอยู่บนถนนคนเดินแห่งนี้มากกว่า แต่ว่าเขาก็ไม่ได้คิดที่จะอยู่อะไรเมืองนี้นานมากนัก เขาคิดว่าเมื่อเขามีระดับที่สูงกว่านี้มากๆ เขาจะกลับไปสร้างความตกตะลึงให้คนรู้จักในนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์
เขาสงสัยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหากเขาไปปรากฏตัวต่อหน้าเพื่อนๆพี่น้องของเขาอีกครั้ง พร้อมกับระดับที่เรียกว่าคงกระพันอยางถึงขีดสุดในหมู่เหล่าศิษย์
หลินฟ่านเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่เบื่อ เมื่อมันเห็นชายเจ้าของร้านน้ำชาคนหนึ่งท่าทางอัธยาศัยดี มันจึงเดินเข้าไปหา
"พี่ชายสุดหล่อ เมืองแห่งนี้มีตระกูลที่ทรงอำนาจและอิทธิพลอยู่บ้างหรือไม่" หลินฟ่านถามไปยังเจ้าของร้านน้ำชาเพิงหมาแหงนด้วยความสุภาพ
"มีสิ ก็มีตระกูลหยาง ตระกูลฮั่น ตระกูลเซียว แล้วก็ตระกูลหยุน ทั้งสี่ตระกูลนี้นับว่ามีประวัติศาสตร์อันยาวนานนัก และอยู่ในเมืองราชวงศ์หยางเกริกไกรมาเนิ่นนานแล้ว"เจ้าของร้านน้ำชาหนุ่ม กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น ดูเหมือนมันจะปลื้ม 4 ตระกูลอยู่ไม่น้อย
หลินฟ่านไม่มีอะไรจะถามอีก มันหยิบเงินที่ปล้นมาจากฉูเซี่ยงเกอให้เจ้าของร้านน้ำชา ก่อนที่จะเดินเตร็ดเตร่ไปทั่วเมืองราชวงศ์หยางอีกครั้ง
หลินฟ่านเดินผ่านบ้านเมืองและเห็นสิ่งปลูกสร้างใหญ่โตหลายแห่ง และได้เห็นพื้นที่ของตระกูลใหญ่ทั้งสี่อย่างที่เจ้าของร้านน้ำชาเพิงหมาแหงนบอกเอาไว้ พิจารณาพื้นที่กว้างใหญ่และอาคารหรูหรา ก็นับว่าพวกมันมั่งคั่งร่ำรวยมหาศาลอย่างแท้จริง
หลินฟ่านฉุกคิดอะไรนิดหน่อย ตอนนี้เขาสามารถเก็บค่า EXP ได้จากการออกไปฆ่าสัตว์อสูรแล้วก็ต่อสู้กับผู้คน แต่ทว่า ก็มีการได้ EXP จากการได้รับโอสถต่างๆเช่นกัน และนับว่าปลอดภัยไร้ผลข้างเคียงอีกด้วย
ในขณะที่หลินฟ่านหยุดคิดนั้นเองมันก็พึ่งสังเกตถึงสถานที่ ที่มันยืนอยู่
นี่คือพระราชวังหยาง
จักรพรรดิของราชวงศ์หยางอาศัยอยู่ที่นี่
เป็นเคหะสถานที่กว้างใหญ่ไพศาลนัก ...
นี้ทั้งยังเป็นพื้นที่หวงห้ามอีกด้วย...
"เจ้าเป็นผู้ใดกัน หยุดอยู่ตรงนั้น? หยุด...อย่าหนีนะ"
เมื่อหลินฟ่านเห็นยามที่เฝ้าประตูเดินมาหาเขามันก็รีบวิ่งหนีออกไป มันรู้สึกโกรธมาก แค่ยืนมองทำไมต้องเข้ามาด้วยท่าทางเอาเรื่องแบบนั้นกัน
หลังจากมั่นใจว่ายามเฝ้าประตูไม่ได้ไล่กวดตามมาแล้วหลินฟ่านก็หยุดวิ่ง
หลินฟ่านคิดจะสำรวจทีท่าอีกสักหน่อยก่อนที่เขาจะเริ่มวางแผนว่า จะทำอะไรต่อไปดี
ณ ทางเข้าสำนักนภาสวรรค์
หลินฟ่านที่เดินอย่างไม่รู้ทิศทาง ตอนนี้สังเกตว่าเขาเดินโต๋เต๋มาถึง สำนักนภาสวรรค์ และ เห็นทางเข้าสองทาง ติดประกาศอะไรบางอย่างอยู่
สำนักนภาสวรรค์กำลังหาอาจารย์ผู้ฝึกสอน ...ช่างประจวบเหมาะกับเขาที่กำลังคิดที่จะหาตำแหน่งบังหน้าอยู่พอดี
หลินฟ่านรู้สึกว่าสถานะศิษย์หรือนักเรียนนั้นมันไม่เหมาะสมกับเขา อย่างเขามันต้องเป็นครูผู้สอนหรืออาจารย์เท่านั้น และเขาคิดว่าเขามีความเหมาะสมที่จะเป็นอาจารย์อย่างยิ่ง
ปัจจุบันมีโต๊ะรับสมัครอยู่สองจุด ด้านหนึ่งมีเด็กอายุราวๆ 13-14 ปีต่อแถวกันยาวเหยียด
หลินฟ่านมายังโต๊ะรับสมัครอีกโต๊ะที่ไม่มีใครยืนต่อแถว
"เฮ้ ข้ามาสมัครตำแหน่งอาจารย์" หลินฟ่านที่มาถึงโต๊ะก็กล่าวกับเจ้าหน้าที่ๆ กำลังสัปหงกทันที
เจ้าหน้าที่ๆกำลังสัปหงกอยู่ เมื่อรู้ตัวว่ามีคนมาสมัครมันลืบจัดแจงท่าที ก่อนจะกล่าวออกมาทันที
"เจ้าอยากเป็นอาจารย์รึ" เจ้าหน้าที่อ้วนๆมองหลินฟ่านด้วยตาเป็นประกาย
"ใช่" หลินฟ่านพยักหน้า
"อาล่ะ อาจารย์ของสำนักนภาสวรรค์นั้นถือว่าเป็นอาชีพที่ร่ำรวยมาก แต่ทว่าการจะสมัครเข้าไปเป็นอาจารย์ได้นั้น ต้องใช้เงิน 12 เหรียญในการสมัคร" เจ้าหน้าที่อ้วนๆกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม
หลินฟ่านไม่ค่อยสนใจเรื่องราคาสักเท่าไร เพราะยังไงเงินที่เขาใช้ ก็ปล้นมาจากชาวบ้านอยู่ดี เขาเลยหยิบถุงเงินออกมากองไว้ตรงหน้า
หัวใจของเจ้าหน้าที่อ้วน พองโตขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะรีบคว้าถุงเงินไปสูดดม มันหันมากล่าวกับหลินฟ่านอย่างสุภาพ
"ตามข้ามา หากท่านสามารถสอบผ่านเกณฑ์ของที่นี่ได้ ท่านจะได้เป็นอาจารย์ของสำนักนภาสวรรค์อย่างเป็นทางการ" คนเจ้าอ้วนกล่าว
...
เจ้าอ้วนได้นำหลินฟ่านมายัง กระท่อมไม้ไผ่หลังหนึ่ง "ผู้ที่อยู่ด้านในจะสำรวจความสามารถของเจ้า"
เมื่อหลินฟ่านเข้าไป เจ้าอ้วนก็นับเงินในถุงทันทีว่ามีเท่าไร "ไม่เลวไม่เลย ... มีมากกว่าสิบสองเหรียญเงิน หึหึ"
เจ้าหน้าที่อ้วนเชื่อว่า อีกไม่นานหลินฟ่านต้องถูกตีหน้าช้ำ ก่อรที่จะวิ่งหนีออกมาอย่างแน่นอน
การรับสมัครอาจารย์เป็นเรื่องจริง แต่ทว่าความสามารถของอาจารย์ที่ต้องการนั้นต้องสูงมาก มีหลายต่อหลายคนมาสมัครตั้งแต่แรกๆที่เปิดรับสมัคร แต่ทว่าทุกคนต่างล้มเหลวทั้งสิ้น
เจ้าหน้าที่อ้วนรออย่างมีความสุข มันเพียงเฝ้ารอเวลาที่หลินฟ่านจะถูกไล่ออกมา
จากนั้นไม่นานก็มีคนเดินออกมาจากข้างใน
เจ้าหน้าที่อ้วนอดประหลาดใจไม่ได้ ทำไมมันถึงดูท่าทางปกตินัก?
"พลาดหรือ?" เมื่อเห็นหลินฟ่านเดินออกมาอย่างไม่ทุกข์ร้อน มันกล่าวถามออกมา เพื่อความแน่ใจ
หลินฟ่านเพียงยิ้มบางๆตอบมัน
"พาเขาไป ห้อง D" มีเสียงๆเรียบๆจากกระท่อมไม้ไผ่ดังขึ้น แต่หากฟังให้ดีจะพบร่องรอยเกรี้ยวกราดแฝงมาในน้ำเสียง
เจ้าหน้าที่อ้วนแทบไม่อยากจะเชื่อว่าหลินฟ่านผ่านการคัดเลือกจริงๆ! คนมากกว่าร้อยก่อนหน้านี้ที่มาล้วนล้มเหลวทั้งสิ้น แต่ชายหนุ่มผู้นี้...
แต่ห้อง D ก็นับว่าเป็นห้องที่มีศิษย์ไร้สามารถที่สุด การที่มันต้องไปสอนห้องนั้นท่าทางจะเป็นเรื่องร้ายมากกว่าดี ท่าทางของมันก็ไม่ค่อยแข็งแกร่งสักเท่าไร จะเอาปัญญาที่ไหนไปสอนพวกโง่เง่านั่น
"เข้าใจแล้ว" เจ้าหน้าที่กล่าวรับคำคนที่อยู่ในกระท่อม ก่อนที่จะพาหลินฟ่านเดินไปทางซ้ายทางซ้าย ก่อนที่จะเดินออกไปหลินฟ่านหันมองย้อนไปที่กระท่อมเล็กน้อย ตอนนี้เขาพอเข้าใจระดับความแข็งแกร่งคร่าวๆแล้ว
หลินฟ่านไม่ได้ใช้ พลิกสวรรค์ผันแปรพิภพ หรือ เสือร้ายขโมยใจ แต่เขาเลือกใช้วิชาที่เหมาะสมแก่การทดสอบอย่าง หมัดราชันย์ไร้พ่าย และ คลื่นกระบี่ตัดวายุ ตอนนี้หลินฟ่านเข้าใจถึงการมีค่าพลังงานที่แท้จริงจำนวนมากแล้ว ยิ่งมีมากเท่าไรมันยิ่งส่งผลกับความแรงของวิชามากเท่านั้น
ปัจจุบันเขามีพลังงานที่แท้จริง 2,200 ซึ่งสามารถเทียบได้กับระดับก่อเกิดขั้นที่ 5 แต่หากเขาทุ่มสุดตัวอาจจะเทียบกับระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 1 ได้เพราะ Lv ของวิชาเขามากเกินกว่าคนทั่วไปไกลโข
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่อ้วนก็นำหลินฟ่านมายังบริเวณที่พักอาศัย
"หากเจ้าต้องการย้ายมาอยู่ก็แจ้งข้าได้ทุกเมื่อ และข้าจะรายงานไปยังสำนักว่าเจ้าเป็นอาจารย์คนใหม่ของห้อง D ให้รวดเร็วที่สุด เจ้าสามารถเริ่มทำงานพรุ่งนี้เลยก็ได้" เจ้าหน้าที่อ้วนพยายามอธิบายทุกอย่างละเอียด
"ห้อง D นี่เป็นไงเหรอ?" หลินฟ่านรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย นี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาได้สอนใครบนโลกแห่งนี้ เขาเคยมีประสบการณ์การสอนเด็กอนุบาลสองให้สามารถฉี่เป็นที่เป็นทางและทิ้งขยะลงถังขยะได้เป็นผลสำเร็จ เขามั่นใจว่าความสามารถของเขาถึงขั้นพอ...
เจ้าหน้าที่อ้วนมองไปยังหลินฟ่านก่อนที่จะกล่าวอธิบายออกมาว่า "สำนักนภาสวรรค์นั้นจะแบ่งเหล่าศิษย์ของสำนักออกเป็นห้อง ซึ่งมี ห้อง A B C และ ห้อง D สำหรับห้อง D ที่เจ้ารับผิดชอบนั้น ศิษย์ก็ไม่ค่อยจะมีพรสวรรค์สักเท่าไร ส่วนมากก็จะเป็นคนที่ไร้อนาคตแล้วนั่นล่ะ "
หลินฟ่านถึงกลับกลอกตาไปมา ไออ้วนนี่มันพูดจริงงั้นเหรอ สงสัยเป็นเพราะไอบัดซบที่ทดสอบเขาเป็นแน่ แค่เขาลงมือหนักไปหน่อย เผลอทำเสื้อผ้ามันขาดกระจุยพร้อมจิ้มไปที่หัวนมมันจนทะลุแค่นั้นเอง?...
‘ห้องกากแล้วไงวะ ไอเราก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องสอนอะไรมากมาย ก็แค่อยากได้สถานะเอาไว้เท่านั้นล่ะหน่า หึหึรอข้าก่อน ไอพวกสี่ตระกูลใหญ่กับราชวงศ์หยาง ...พวกลูกศิษย์เหรอ หึ เดะพวกเอ็งเจอ Great Teahcher Lin Fan !!’