px

เรื่อง : ทุ่งรวงทอง (นิยายแปล)**จบแล้ว**
Re-new ตอนที่ 22  ขวางถนน


ตอนที่ 22  ขวางถนน

 

เด็กในหมู่บ้านทั้งหมดยกเว้นเฉียนเหวินที่เรียนเก่งมาก ๆ แล้ว หยูฮังก็ยังชื่นชมจ้าวฮันมากที่สุด จ้าวฮันไม่ได้แค่ต่อสู้เก่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่ก็ยังเป็นพรานที่เก่งอีกด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่ปฏิเสธอีก หยูฮังเอาเนื้อย่างชิ้นที่ใหญ่ที่สุดให้น้องสาวแล้วถามเสี่ยวเฉากับฉีโตวว่า  “เจ้าอยากกินอีกหรือไม่ ? ”

 

เสี่ยวเฉารีบโบกมือปฏิเสธ “ข้าอิ่มแล้ว ฉีโตวเองก็เหมือนกัน ดูพุงเขาซิ เหมือนกับอึ่งอ่างพองลมก็มิปาน”

 

ฉีโตวหัวเราะพร้อมกับลูบพุงกลม ๆ ของเขา

 

“ดีเสียจริง ! มาแอบกินเนื้อกันอยู่ที่นี่เพียงลำพัง ! ข้าจะไปฟ้องท่านย่า ท่านย่าเอาพวกเจ้าตายเป็นแน่ ! ” หยูไห่สือกระโดดออกมาจากร่องข้างถนนและข่มขู่พวกเขา  เขาจ้องเนื้อกระต่ายย่างในมือของเสี่ยวเหลียนตาเป็นมัน

 

จ้าวฮันไม่ค่อยได้พูดคุยกับเด็กคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านนอกจากหยูฮังกับน้อง ๆ ของเขา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เคยได้ยินชื่อเสียงแย่ ๆ ของไห่สือ ดังนั้นเขาจึงทำหน้าบึ้งและก้าวออกมาพร้อมกับพูดว่า “ข้าเป็นคนให้เนื้อย่างพวกเขาเอง เจ้ามีปัญหาอะไรเยี่ยงนั้นรึ ? ”

 

หยูไห่สือจอมขี้ขลาดก้าวถอยหลังเมื่อเห็นจ้าวฮันที่สูงกว่าเขาหนึ่งช่วงหัวและแข็งแรงกำยำ แต่เขาไม่คิดจะทิ้งโอกาสที่จะได้กินเนื้อ เขามองไปรอบ ๆ แล้วร้องตะโกนออกมาด้วยท่าทางที่ดุร้าย

 

“ข้ามิสน ! พวกเจ้ากินเนื้อกันเอง ไม่สนใจท่านปู่ท่านย่ากับคนอื่น ๆ ในครอบครัวเลย พวกเจ้ามิเห็นหัวผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ ! ถ้าข้าเอาไปฟ้องท่านย่าแล้วล่ะก็ พวกเจ้าต้องโดนตีเป็นแน่ เว้นแต่ว่า... ”

 

“เว้นแต่ว่าอะไรรึ ? ” จ้าวฮันมองเจตนาของเขาออกแล้ว

 

ไห่สือใช้แขนเสื้อสกปรกของเขาเช็ดน้ำลายแล้วพูดอย่างมั่นใจว่า “ ง่ายมาก ถ้าไม่อยากให้ข้าฟ้องก็แค่เอาเนื้อมาให้ข้าครึ่งหนึ่ง ! ”

 

จ้าวฮันเม้มปากแล้วเหยียดยิ้ม “ พวกเราแบ่งให้เจ้าได้ แต่คงแบ่งให้ครึ่งหนึ่งมิได้ เนื้อย่างต้องแบ่งให้เท่า ๆ กันทั้งสามคน ถ้าเจ้าไม่ตกลง ข้าก็จะเอามันกลับไป ไม่ต้องกินกันแล้ว ! ”

 

พอได้ยินจ้าวฮันพูดเช่นนั้น หยูไห่สือก็ละทิ้งความโลภและตกลงทันที ถ้าเขายังต่อรองต่อไปก็อาจจะไม่ได้เลียแม้แต่กระดูก

 

จ้าวฮันเอากระต่ายย่างที่ไม่มีขาหลังสองข้างมาฉีกขาหน้าและเนื้อรอบ ๆ ออก  จากนั้นก็ส่งให้หยูฮังกับเสี่ยวเหลียน จากนั้นก็ส่งส่วนซี่โครงและหลังซึ่งมีเนื้อน้อยให้หยูไห่สือ

 

หยูไห่สืออยากคัดค้านแต่ก็ต้องยกเลิกความคิดเมื่อจ้าวฮันชายตามองมา ถึงเขาจะได้ส่วนแบ่งเนื้อน้อยกว่า แต่เขาก็ได้ชิ้นใหญ่กว่า เขามิได้กินเนื้อมานานแล้ว ดังนั้นจึงรู้สึกพอใจที่อย่างน้อยก็ได้แทะกระดูก !

 

พอไห่สือจากไปพร้อมเนื้อย่าง หยูเสี่ยวเฉาก็เอานกเขาที่ซ่อนไว้ข้างหลังออกมาและส่งให้หยูฮังกับเสี่ยวเหลียน สองพี่น้องกินมื้อเย็นจากที่บ้านมาได้แค่ครึ่งท้องเท่านั้น แต่กระต่ายย่างกับนกเขาทำให้พวกเขาอิ่มจนเรอออกมา

 

ลูกกตัญญูอย่างหยูฮังจึงพูดอย่างรู้สึกผิดว่า “เสียดายที่เราเอากลับไปให้ท่านพ่อกับท่านแม่มิได้... ”

 

ฉีโตวเอาไข่พอกโคลนหลายฟองออกมาจากกระเป๋าแล้วยิ้มกว้าง “ มิเป็นไร เรายังมีไข่ไก่ฟ้าปิ้งอยู่ ไว้ค่อยแอบเอาให้ท่านพ่อกับท่านแม่กินคืนนี้ ! ”

 

แค่กินไข่ก็ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เหมือนขโมย จ้าวฮันถอนหายใจแล้วลูบหัวฉีโตวด้วยความรู้สึกสงสาร

 

หยูเสี่ยวเฉาไม่ได้อยู่บ้านตลอดทั้งวัน ดังนั้นพอพวกเขากลับถึงบ้าน นางจึงต้องทนให้นางจางด่าเป็นชุดอย่างเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตามเสี่ยวเฉาไม่ใช่แรงงานหลักของบ้าน  นางจางจึงแทบไม่สนใจนางนัก แค่ยัยเด็กนี่ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยให้ต้องเสียเงินค่ารักษาอีกก็ดีแค่ไหนแล้ว !

 

“เสี่ยวเฉา เจ้ายังมิได้กินข้าวมาใช่หรือไม่ ? อาเล็กมีไข่กับหมั่นโถวอยู่ครึ่งลูก  เอาไปแบ่งกับฉีโตวสิ ระวังอย่าให้ท่านย่าเห็นเข้าล่ะ” หยูไซตี้ ท่านอาเล็กของนางอาศัยช่วงที่นางจางไม่ได้มองแอบยัดไข่ใส่มือเสี่ยวเฉา

 

ถึงเสี่ยวเฉาจะอิ่มมากแล้ว แต่นางก็ไม่สามารถบอกกับอาของนางตรง ๆ ได้ จึงกระซิบว่า “ท่านอาเล็กคะ มิเป็นไรหรอกเจ้าค่ะ ! ถ้าท่านย่ารู้เข้าแล้วล่ะก็... ”

 

“เอาไปเร็วเข้าสิ ถ้าท่านย่าของเจ้าไม่รู้ก็ไม่เป็นไรมิใช่รึ ? อันที่จริงท่านย่าของเจ้าก็เพียงแค่ปากจัดเท่านั้น มิใช่คนไม่ดีอะไรหรอก... ” หยูไซตี้มีนิสัยอ่อนโยนและพูดด้วยเสียงนุ่มนวลฟังสบายอย่างมาก

 

หยูเสี่ยวเฉาไม่ปฏิเสธอีกต่อไปและรู้สึกขอบคุณอยู่ในใจ ยังมีเวลาอีกมาก นางจะตอบแทนน้ำใจของท่านอาในวันหน้าอย่างแน่นอน !

 

“เสี่ยวเฉา ! เจ้าถืออะไรอยู่ในมือน่ะ ? ซ่อนอาหารอร่อย ๆ เอาไว้รึเยี่ยงไร ? ”  ร่างอวบอ้วนของนางหลี่กระเพื่อมขึ้นลงขณะวิ่งออกจากห้อง นางมองมาที่ไหในมือของเสี่ยวเฉา

 

หยูเสี่ยวเฉาไม่มีความประทับใจดี ๆ เกี่ยวกับท่านป้าใหญ่เลยสักนิด นางจึงพึมพำเสียงอู้อี้ว่า “ นี่อะไรงั้นรึ ? ก็มาดูเองสิเจ้าคะ ! อย่าได้มากล่าวหาข้ามั่ว ๆ ว่าเป็นขโมยอีก ! ”

 

“ พี่สามไม่เหมือนท่านพี่ไห่สือที่ชอบย่องเข้าห้องคนอื่นทุกวันหรอกนะขอรับ ! ไหนั่นใส่ปลาที่พี่ฮันลูกชายลุงจ้าวช่วยเราจับ พี่สามบอกว่าอยากทำแกงปลาให้พวกเรากิน ! ”

 

ขณะที่ทุกคนมัวแต่สนใจพี่ ๆ ของเขา ฉีโตวน้อยก็ได้ย่องเอาไข่ไก่ฟ้าเข้าไปซ่อนในห้องของเขาเรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นว่าท่านป้าใหญ่พยายามจะคว้าเอาไหในมือพี่สาวไปและใส่ร้ายพี่ของเขาว่าเป็นขโมย เขาจึงออกตัวปกป้องพี่สาวในทันที

 

นางหลี่จ้องฉีโตวอย่างโกรธจัด นางยื่นมือหมายจะไปบิดหูของฉีโตว “เจ้าเด็กสารเลว ! พูดจาเหลวไหลอะไรกัน ? ท่านพี่ไห่สือของแกไปยุ่งย่ามกับห้องของผู้อื่นเมื่อไหร่กัน ? ระวังปากเอาไว้บ้าง มิเช่นนั้นข้าจะฉีกปากเจ้าให้ถึงรูหูเลยคอยดูเอาไว้เถิด ! ”

 

ฉีโตวหลบมือชั่วร้ายของนางหลี่อย่างคล่องแคล่วแล้วตะโกนว่า “ ข้ามิได้พูดจาเหลวไหล ! แล้วใครกันที่ขโมยขนมที่อาสามเอากลับมาเยี่ยมบ้านคราวที่แล้วกันเล่า ?  ท่านพี่ไห่สือยังมีเศษขนมติดอยู่ที่ปากอยู่เลยตอนที่ถูกจับได้ ! ”

 

นางจางออกจากห้องและตะคอกเสียงดัง “ โวยวายอะไรกันอีก ? พวกเจ้ามิกลัวคนอื่นหัวเราะเยาะเอาบ้างรึเยี่ยงไร ? ไซตี้เอาไหนั่นมาไว้ในห้องแม่ ลูกสามส่งจดหมายมาบอกว่าจะกลับบ้านในอีกไม่กี่วันนี้ เราไม่มีของดี ๆ ที่บ้านเลยแม้แต่น้อย เยี่ยงนั้นพรุ่งนี้ก็เอาปลาพวกนี้มาทำอาหารแล้วกัน ! ”

 

“ท่านย่าคะ ปลาพวกนี้ยังไม่ตาย เอาไปไว้ในถังน้ำจะดีกว่านะเจ้าคะ ถ้าปลาตาย อากาศร้อน ๆ เยี่ยงนี้มันจะเน่าเอาได้ ” หยูเสี่ยวเฉาส่งไหดินเผาให้อาเล็กของนางแล้วแนะนำ นางไม่อยากกินแกงปลาเหม็น ๆ ในพรุ่งนี้

 

“เออ ! ” นางจางทำเสียงไม่พอใจ นางมองหลานสาวเอาปลาไปใส่ถังน้ำแล้วนับจำนวนปลาก่อนจะกลับเข้าห้องไป

 

มิน่าเล่าท่านย่าถึงได้ใจดีนัก ไม่ด่าเสี่ยวเฉาเกินครึ่งชั่วยามเมื่อรู้ว่าวันนี้เสี่ยวเฉาไปที่เมืองมา ที่แท้ก็เพราะอาสามกำลังจะกลับบ้านนี่เอง !

 

วันนี้เสี่ยวเฉารู้สึกเหนื่อยเป็นอย่างมาก หลังจากซ่อนเงินที่ได้มาวันนี้อย่างรอบคอบดีแล้ว นางก็ถึงกับสัปหงกขณะที่แม่อาบน้ำให้ เสี่ยวเฉาเหนื่อยมากจนไม่รู้ว่าอาบน้ำเสร็จตอนไหน นางเริ่มลืมตาไม่ขึ้นอีกต่อไปตอนที่แม่ของนางอุ้มนางไปที่เตียง และหลับไปทันทีที่หัวถึงหมอน

 

ตอนสายของวันรุ่งขึ้น เสี่ยวเฉายังคงนอนไม่ยอมลุกขึ้นจากเตียง ขาของนางปวดไปหมด เท้าของนางก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บ ! ร่างกายนี้ไม่มีความทนทานเอาเสียเลย ! นางไม่ควรอยู่ในห้องตลอดเวลา ฉีโตวที่อายุน้อยกว่านางถึง 3 ปีวิ่งรอบภูเขาและช่วยงานบ้านอยู่ทุกวัน แต่ฉีโตวก็ยังมีเรี่ยวมีแรงกระฉับกระเฉงดีหลังจากได้นอนหลับพักผ่อนแค่ตอนกลางคืน

 

หยูเสี่ยวเฉาสวมเสื้อตัวนอกแล้วเดินออกไปที่ลานบ้านเพื่อล้างหน้า แต่นางหลี่ที่ถือไม้กวาดเตร็ดเตร่อยู่แถวนั้นโดยไม่ได้กวาดพื้นจริง ๆ ก็เริ่มเข้ามาหาเรื่องนาง

รีวิวผู้อ่าน