ตอนที่ 22 ตีฝ่าวงล้อมและสุนัขยักษ์ !
“บัดซบเอ๊ย คงจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับป้าหวางและพี่หลี่แล้ว!”
ในขณะทีมองไปทางประตูที่ถูกกระแทกจนสั่นไปทั้งบานอย่างต่อเนื่องนั้น หลิวซินก็นึกเรื่องอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
ป้าหวางที่หลิวซินพูดถึงคือแม่บ้านที่ทำหน้าที่ทำความสะอาดและทำอาหารให้กับเจ้าของบ้าน ส่วนพี่หลี่คนนั้นก็คือผู้รักษาความปลอดภัยที่พ่อของเขาจัดมาให้
ถึงอย่างไรวิกฤตการณ์ซอมบี้ในตอนนี้ก็ยังไม่คลี่คลาย พ่อของหลิวซินต้องการรับรองความปลอดภัยให้กับลูกหลานของเขาโดยเฉพาะ
“เก็บของแล้วไปกันเถอะ ขืนอยู่เงียบๆที่นี่ต่อไปก็คงได้ดึงดูดความสนใจของซอมบี้เหล่านี้มากขึ้น ถึงตอนนั้นพวกเราก็ยากที่ฝ่าวงล้อมออกไปแล้ว”
ศักยภาพของฮวางซางในตอนนี้ ซอมบี้เพียงแค่ 1- 2 ตัวในตอนนี้จึงไม่ได้อยู่ในสายตาเขานัก ดังนั้นเขาจึงรีบเก็บโทรศัพท์และโน๊ตบุ๊คที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็เอาลิ้นที่ขาดของลิกเกอร์ที่อยู่ในกระเป๋าเดินทางยัดใส่เข้าไปในกระเป๋าโน๊ตบุ๊ค
“ระวังตัวด้วย แล้วตามฉันมา!”
หลังจากเก็บของเสร็จแล้ว ฮวางซางก็เดินไปที่ประตู ก่อนจะหันไปกระชับหลิวซินแล้วก็เปิดประตูนั้นออก
โฮกกกกก!
เมื่อประตูเปิดออก เงาตนหนึ่งก็พุ่งเข้ามาหาฮวางซางที่อยู่ตรงประตูทันที
แผละ!
แต่ทว่าพละกำลังและการตอบสนองของฮวางซางในตอนนี้จะรอให้ซอมบี้พุ่งเข้ามาถึงตัวได้อย่างไรกัน แทบจะพริบตาเดียวกับที่ซอมบี้ตัวนั้นพุ่งเข้ามา ฮวางซางได้ยกขาขึ้น แล้วเตะมันออกไปเต็มแรง
หลังจากที่วิชาหลอมรวมเป็นหนึ่งบรรลุไปขั้นหนึ่งแล้ว พลังกำลังของฮวางซางในตอนนี้มากกว่าคนทั่วไปอย่างน้อย 5 เท่า เมื่อเป็นเช่นนี้ ขาข้างนี้จึงได้ระเบิดพลังที่น่าตกใจออกมา แล้วเตะซอมบี้ตัวนั้นลอยละลิ่วออกไป จนชนเข้ากับซอมบี้อีกตัวที่อยู่ด้านหลังของมัน
“ป้าหวาง พี่หลี่.....”
เมื่อเห็นทั้งซอมบี้ทั้งสองตัวล้มลงไปกองกับพื้น จนไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ ดวงตาของหลิวซินก็แดงก่ำขึ้นมาเล็กน้อย
คนนะไม่ใช่ผักหญ้า ที่จะไร้ความรู้สึก ถึงยังไงสองคนนี้กับเขาก็คุ้นเคยสนิทสนมกันมาก ดังนั้นเมื่อเห็นพวกขาล้มลงไปกองกับพื้น หลิวซินก็อดที่จะรู้สึกเสียใจขึ้นมาไม่ได้
แต่ทว่าในขณะที่หลิวซินกำลังรู้สึกเสียใจกับการกลายร่างของทั้งสองคนอยู่นั้น ฮวางซางกลับเคลื่อนไหวอีกครั้ง เพียงแค่รวดเร็วกว่า ก่อนพุ่งออกไปจากห้อง หลังจากนั้นก็จับม้านั่งเหล็กที่อยู่ห้องรับแขกตัวหนึ่งขึ้นมา แล้วทุบไปบนหัวซอมบี้ที่สวมชุดทหารคนนั้นอย่างโหดเหี้ยม
แผละ!
ภายใต้กำลังมหาศาลของฮวางซางนั้น ม้านั่งเหล็กที่แข็งแรงนี้ก็ได้ถูกทุบจนพังทลายอย่างคาดไม่ถึง หัวของซอมบี้ที่สวมชุดทหารคนนั้นก็ถูกทุบจนระเบิดออกจนดังสะเทือนเลื่อนลั่น เลือดสดๆและมันสมองของมันได้ทะลักออกมาเป็นจำนวนมาก
แต่การเคลื่อนไหวของฮวางซางกลับไม่ได้หยุดลงแต่อย่างใด เขาได้กวัดแกว่งม้านั่งเหล็กที่เหลืออยู่เพียงครึ่งหนึ่งในมือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะใช้ขาม้านั่งแหลมๆที่หักออกนั้นเสียบไปที่ซอมบี้สาวตัวนั้นอย่างโหดเหี้ยม
แผละ!
หลังจากนั้น เสียงแตกหักอันน่าสดยสยองก็ดังขึ้นมา หัวของซอมบี้สาวตัวนั้นก็ได้ถูกปลายแหลมขอขาม้านั่งเสียบจนทะลุไปด้านหลัง หลังจากนั้นก็ล้มลงไปกับพื้น แล้วไม่ขยับอีกต่อไป
“ฮ่องแต้............”
เมื่อเห็นฮ่องเต้กำลังลงมือสังหารซอมบี้อย่างโหดเหี้ยมและรวดเร็วนั้น หลิวซินก็อึ้งและนิ่งไปทั้งตัว
“จำเอาไว้ ในตอนที่พวกเขาได้กลายร่างแล้ว พวกเขาจะไม่ใช่คนที่นายรู้จักอีกต่อไป”
ฮวางซางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หลังจากนั้นก็เก็บปืนพกสีดำที่เหน็บอยู่ที่เอวของทหารคนนั้นขึ้นมา แล้วยื่นให้กับหลิวซิน ก่อนพูดขึ้นว่า “ซอมบี้ที่อยู่ด้านนอกในตอนนี้มีมาก ถ้าหากนายยังลังเลไม่ตัดสินใจเด็ดขาด งั้นนายก็ฆ่าตัวเองตายไปซะ อย่าลืมว่า พ่อแม่ของนายกำลังรออยู่!”
“ฉันรู้แล้ว!”
ถึงอย่างไรหลิวซินเองก็เป็นหมอนิติเวช ดังนั้นสภาพด้านจิตใจของเขาถือว่าไม่เท่ากับฮวางซางแต่ก็แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป หลังจากได้ยินฮวางซางพูดขึ้น เขาก็ทำได้เพียงกัดฟันกรอด หลังจากนั้นก็รับปืนมา แล้วก้มลงไปค้นหาบางอย่างที่อยู่บนตัวของซอมบี้ทหารคนนั้น
“เอาละ เดี๋ยวคอยอยู่ข้างๆฉันไว้!”
เมื่อเห็นหลิวซินสงบลงแล้ว ฮวางซางก็พยักหน้า หลังจากนั้นก็เดินไปที่ประตูใหญ่ ก่อนจะเปิดออกไป
หอพักครอบครัวทหารประจำการภายในเขตมหาวิทลัยกองกำลังป้องกันประเทศที่หลิวซินและฮวางซางอยู่ในตอนนี้ หอพักหนึ่งมีทั้งหมด 8 ชั้น ภายในมีคนอยู่อย่างน้อย 70-80 คน เมื่อเป็นเช่นนี้ ถึงแม้ว่าจะยังมีซอมบี้อีกหลายตัวถูกขังอยู่ภายในห้องของตัวเองก็ตาม แต่ชั้นสามที่พวกเขาอยู่นั้นกลับปรากฏซอมบี้ขึ้นมาไม่น้อยเลย
เมื่อเห็นฮวางซางและหลิวซินปรากฎตัว ซอมบี้ที่กำลังกัดกินซากศพอยู่ในชั้นนี้ทั้งสองตัวก็รีบเงยหน้าขึ้น หลังจากนั้นก็ทิ้ง “อาหาร” ที่อยู่ในมือ ก่อนจะยืนขึ้นแล้วพุ่งเขามาหาทันที
ปังปัง!
ซอมบี้ทั้งสองตัวนั้นเพิ่งจะก้าวเข้ามาได้แค่สองก้าว หน้าผากของพวกเขาก็ปรากฏรูกลมๆคล้ายดั่งดอกไม้สีเลือดขึ้นมา ก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้นอย่างแรง
ปืนที่ยิงออกไปนั้นเป็นฝีมือของหลิวซิน ในฐานะที่เขาเป็นลูกหลานของทหารย่อมไม่พลาดโอกาสที่จะได้ยิงปืนอยู่แล้ว ดังนั้นทักษะการยิงปืนก็ไม่ได้เลวร้ายเช่นกัน อย่างน้อยก็สามารถยิงได้ในระยะสั้นๆ ที่ไม่ถึง 10 เมตรโดยที่ไม่พลาดได้
“สวยงามมาก พวกเราลงบันไดไปชั้นล่างกันเถอะ!”
ถึงแม้ว่าสมรรถนะของฮวางซางจะสามารถจัดการซอมบี้สองตัวนี้ได้อย่างง่ายดายก็ตาม แต่ก็ไม่เร็วเท่ากับการใช้ปืนของหลิวซิน ดังนั้นเมื่อเห็นการกระทำของหลิวซิน เขาจึงได้เอ่ยปากชมหลิวซินอย่างที้ไม่เคยเป็นมาก่อน หลังจากนั้นก็พาหลิวซินวิ่งลงบันไดทางออกฉุกเฉินไปทันที
ถึงอย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขาอยู่เพียงแค่ชั้น 3 เท่านั้น จึงยังไม่อยากลงลิฟต์ที่เสี่ยงต่อการถูกซอมบี้โจมตี
สิ่งที่ยังเป็นความโชคดีก็คือ ภายในบันไดทางออกฉุกเฉินนี้ยังไม่มีซอมบี้ปรากฏตัว ดังนั้นหลิวซินและฮวางซางจึงออกจากอาคารหอพักนั้นได้อย่างรวดเร็ว
แต่การออกจากอาคารใหญ่ก็ยังไม่นับว่าปลอดภัยนัก เพราะระยะไกล ๆเบื้องหน้าของพวกเขา ก็ได้มีกลุ่มเงาที่เดินโซซัดโซเซบางส่วนปรากฏตัวอยู่
“มากับฉัน!”
หลิวซินเติบโตอยู่ในเขตมหาวิทยาลัยกองกำลังป้องกันประเทศ เขาจึงคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของที่นี่อย่างมาก ดังนั้นเขาจึงได้สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะฝ่าฝนที่ตกเทกระหน่ำลงที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด พุ่งตรงไปยังทิศทางของกองกำลังทหารสนับสนุน
“บรึ๋ย หนาวจัง!”
เส้นทางที่เพิ่งพุ่งตัวออกไปนั้น เมื่อเขาถูกเข้ากับฝน หลิวซินก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาไม่ได้
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเข้าใจผิดของเขาหรือว่าดูเหมือนน้ำฝนนี้จะหนาวมากขึ้น ราวกับถูกคนเอาน้ำเย็นมาราดลงบนตัวของเขา จนทำให้ร่างทั้งร่างแข็งไปทั้งตัว
แต่หลิวซินที่อยู่ในสถานการณ์คับขันเช่นนี้ไม่อาจหยุดลงได้แต่อย่างใด เขากัดฟันไว้ แล้วพุ่งตัวออกไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง!
“เป็นพลังเหนือธรรมชาติที่แข็งแกร่งมาก!”
แต่สิ่งที่แตกต่างจากหลิวซินก็คือ ฮวางซางที่กำลังอาบน้ำฝนนั้นกลับรู้สึกถึงความอบอุ่นและพละที่กำลังชำระล้างอยู่ภายในร่างกายของเขาอย่างไม่ขาดสาย ไม่เพียงแต่จะทำให้เขารู้สึกอบอุ่นไปทั่วทั้งตัวแล้ว อีกทั้งยังทำให้จิตวิญญาณของเขาแปรเปลี่ยนเป็นดีมากขึ้นเรื่อย ๆอีกด้วย
เขาเพิ่งจะค้นพบว่า พลังเหนือธรรมชาติที่ปะปนอยู่ในสายฝนนี้มีความหนาแน่นเข้มขนจนน่าจกใจอย่างมาก แม้กระทั้งแค่เพียงเวลาสั้นไม้กี่วินาที พลังเหนือธรรมชาติที่ชำระล้างอยู่ภายในตัวเขาแทบจะเพียงพอต่อการไล่ล่าพลังเหนือธรรมชาติที่เขาได้รับจากการฆ่าซอบี้ไป 1 ตัว
ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เพียงแค่อาบน้ำฝน 1- 2 ชั่วโมง ก็จะสามารถบำเพ็ญวิชาหลอมรวมเป็นหนึ่งให้ถึงขอบเขตของการบรรลุได้แล้ว!
ประสิทธิภาพเช่นนี้ มันช่างเกินไปจริงๆ
แต่น่าเสียดาย ที่ตอนนี้เขาดูเหมือนจะไม่มีเวลาทำแบบนี้!
โฮก โฮก โฮก!
ข้อดีของฝนที่ตกลงมานี่ไม่เพียงแต่จะมีประสิทธิภาพที่ดีต่อฮวางซางแล้ว ก็ยังมีประสิทธิภาพที่ดีสำหรับซอมบี้เหล่านั้นด้วย ท่ามกลางฝนที่ตกกระหน่ำลงมานี้ ดูเหมือนซอมบี้ที่อยู่ไกลๆก็ได้รับความแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน ไม่เพียงแต่ได้กลิ่นของฮวางซางและหลิวซินในระยะไม่กี่ 10 เมตรแล้ว อีกทั้งยังพุ่งตรงเข้ามาหาฮวางซางและหลิวซินด้วยความเร็วที่มากกว่าซอมบี้ก่อนหน้านั้นหลายเท่าอีกด้วย
เมื่อเห็นภาพนี้ ฮวางซางก็เข้าใจได้อย่างฉับพลันทันที
มิน่าละทหารที่พ่อของหลิวซินจัดให้มารับพวกเขาถึงได้ตกอยู่ในน้ำมือของซอมบี้เหล่านี้ เพราะศักยภาพของซอมบี้เหล่านี้ได้แข็งแกร่งมากขึ้นหลายเท่าแล้ว
ปังปังปังปังปังปังปัง!
และในเวลาเดียวกัน เมื่อเห็นซอมบี้พุ่งเข้ามา หลิวซินก็กัดฟันกรอดแล้วยิงปืนออกไป
ไม่รู้ว่าเพราะทำไม ท่ามกลางฝนที่ตกลงมานี้ ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะหนาวมากขึ้นก็ตาม แต่เขากลับยังมีการตอบสนองของตัวเอง แม้กระทั้งความสามารถในการมองเห็นก็ดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย รวมไปถึงต่อให้ฝนตกลงมาจนมืดครึ้มก็ตาม แต่ปืนของเขาก็ยังเล็งไปที่ซอมบี้ที่อยู่ห่างออกไป 20 เมตร 10 กว่าตัวนั้นได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังยิงระเบิดไปที่หัวอีกด้วย!
ทักษะการยิงปืนนี้ แทบจะเทียบเท่ากับนักแม่นปืนในกองกำลังระดับสูงได้เลย!
“ฉันโหดร้ายแบบนี้ตั้งตอนไหนกันเนี่ย?”
ในขณะที่มองไปยังซอมบี้ที่ถูกจัดการด้วยปืนของตัวเองอยู่นั้น หลิวซินก็รู้สึกตื่นตกใจขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
“ระวัง!”
แต่ทว่าในเวลานี้ เสียงของฮวางซางที่ดูตื่นตกใจก็ดังขึ้นมาทันที
ฟิ้ว ฟิ้ว !
ในเวลาต่อมา เงาสีดำที่มีความเร็วน่าตกใจสองตัวก็ได้พุ่งออกมาจากพุ่มไม้อีกด้านหนึ่ง มาขวางด้านหน้าของหลิวซินและฮวางซางไว้!
“อะไรกัน ?”
แต่ทว่าก็เป็นอย่างที่หลิวซินและฮวางซางคาดเดาไว้ เงาสีดำที่พุ่งออกมาจากพุ่มไม้สองตัวนั้นไม่ใช่ซอมบี้แต่อย่างใด อีกทั้งยังมีร่างกายที่แข็งแรง มัดกล้ามปูดนูน เขี้ยวยืดออกมาด้านนอก ดวงตาแดงฉาน ดูเหมือนสุนัขยักษ์ที่ทั้งโหดร้ายทั้งแปลกประหลาด ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเหรียญทองแดงที่ห้องอยู่บนคอของสุนัขตัวนี้ คาดว่าพวกมันน่าจะเป็นสุนัขฝึกของกองทัพแห่งนี้
เพียงแต่ไม่มีใครคาดคิดว่า สุนัขเดิมทีที่เป็นเหมือนเพื่อนของมนุษย์กลับเกิดการกลายพันธ์เช่นนี้ด้วย กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่กินมนุษย์เป็นอาหาร!
วู้! วู้!
หลังจากที่สุนัขที่ไม่รู้จะเรียกว่าสุนัขกลายพันธุ์หรือสุนัขซอมบี้ดีพุ่งออกมาจากพุ่มไม้แล้ว แทบจะเป็นเวลาเดียวกับที่ฮวางซางและหลิวซินยังไม่ทันตั้งตัว มันได้กระโดดพุ่งพรวดมาด้านหน้า แล้วตรงเข้ามาหาฮวางซางและหลิวซินราวกับสายฟ้าสีดำที่ฟาดลงมาอย่างไรอย่างนั้น
“เวรเอ๊ย!”
สุนัขยักษ์สองตัวที่วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วนี้ เร็วกว่าลิกเกอร์ที่ฮวางซางประสบพบเจอก่อนหน้านั้นซะอีก เมื่อเป็นเช่นนี้ต่อให้เป็นหลิวซินที่ได้อาบน้ำฝนจนมีการตอบสนองและความเร็วเพิ่มขึ้นไม่น้อยก็ตาม แต่สำหรับสุนัขยักษ์ที่พุ่งเข้ามาด้านหน้าอย่างรวดเร็วนี้ เขาก็ยังไม่สามารถมีปฏิกิริยาตอบสนองได้ทันเวลาได้ นอกจากทำได้เพียงเบิกตามองสุนัขตัวนั้นเข้ามาใกล้ตัวเองเรื่อย ๆเท่านั้น
แต่สิ่งที่ถือว่ายังโชคดีก็คือ ถึงแม้ว่าหลิวซินจะมีปฏิกิริยาตอบโต้ไม่ทัน แต่กลับไม่ได้หมายความว่า
ฮวางซางจะมีปฏิกิริยาตอบโต้ไม่ทันด้วย!
“ไสหัวออกไป!”
วิชาหลอมรวมเป็นหนึ่งได้นำพาพละกำลังและความเร็วที่เหนือกว่าคนทั่วไปมาให้กับฮวางซาง ในขณะที่สุนัขทั้งสองตัวนี้โจมตีเข้ามา ฮวางซางก็ได้ร้องตะโกนออกมาด้วยความโกรธ แล้วคว้าซากศพซอมบี้ตัวหนึ่งที่อยู่บนพื้นที่เร็วกว่าสุนัขยักษ์ตัวนั้น ก่อนทุบไปบนตัวของสุนัขตัวหนึ่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว พร้อมกับยื่นมือขวาออกไปราวกับสายฟ้า จับไปที่คอของสุนัขยักษ์อีกตัวได้อย่างแม่นยำ!
แผละ!
ถึงอย่างไรก็ตามสุนัขยักษ์ตัวนี้ก็ไม่ใช่เจ้าลิกเกอร์ ถึงว่ามันจะเร็วแต่พละกำลังกลับไม่มากพอ ดังนั้นในเวลาต่อมา เสียงกระแทกที่น่าหดหู่ใจก็ดังขึ้น สุนัขตัวหนึ่งได้ถูกซากศพของซอมบี้ทุบไปอย่างโหดเหี้ยม ส่วนสุนักอีกตัวก็ถูกฮวางซางจับเอาไว้แน่น ไม่ว่าจะดิ้นพล่านอย่างไรก็ไม่มีทางสลัดหลุดได้
แต่ว่า....
วู้ !
หลิวซินที่ได้รับการช่วยเหลือของฮวางซาง พริบตาเดียวที่กำลังถอยหายใจออกมาด้วยความโล่งอกนั้น กลับมีสุนัขยักษ์อีกตัวพุ่งออกมาจากพุ่มไม้ ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตั้งตัว ก่อนจะกระโจนใส่
หลิวซินที่อยู่ใกล้จนล้มลงไปกองกับพื้น มันอ้าปากกว้างก่อนจะกัดไปบนตัวของหลิวซินอย่างโหดเหี้ยม!