ตอนที่ 35 แกนพลังงาน!
ลิกเกอร์เป็นซอมบี้กลายพันธุ์ขนาดใหญ่ มีความอาฆาตพยาบาทมาก และก็เป็นซอมบี้ที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวถึงขีดสุด ในเวลาเดียวด้วย จริง ๆแล้วมันสัมผัสได้ถึงตำแหน่งของเซรุ่มไวรัสได้ แต่เพราะมันก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของโกว๋หวางหลุนด้วย ดังนั้นมันถึงไม่กล้าเข้ามาช่วงชิงเซรุ่มไวรัสตั้งแต่แรก อีกทั้งมันกำลังเสาะหากลิ่นอายของลิ้นขาดอันนั้นจนไปเจอกับเจ้าจมูกงอนและพรรคพวก จึงได้ทำการชำระแค้นส่วนตัว แล้วก็รอโอกาส
ตอนนี้โกว๋หวางหลุนก็ตายไปแล้ว เจ้าลิกเกอร์จึงลงมือได้ในที่สุด
ถึงอย่างไรหากไม่ลงมือในตอนนี้ ไม่นานไทแรนท์ก็จะต้องตามมาทันอย่างแน่นอน!
“บัดซบเอ๊ย นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้วนะ?”
ในเวลาเดียวกัน ขณะที่มองไปทางเจ้าลิกเกอร์ที่ร่วงหล่นลงมาจากฟ้า ใบหน้าของวัยรุ่นผมดำที่ถูกเรียกว่าตั้วลั่วก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที
เขาเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าวันนี้ตัวเองจะโชคร้ายขนาดนี้ ตอนแรกเป็นเพราะเต้าหู้เหม็นจึงทำให้หน้าที่ของเขาล้มเหลว แล้วตอนนี้เขาก็เพิ่งจะได้รับหน้าที่ใหม่ด้วยความยากลำบาก ผลสุดท้ายก็ต้องมาเจอกับสิ่งที่น่ากลัวมากขนาดนี้อีกครั้ง
รู้งี้จัดการของเจ้านี้ตั้งแต่แรกดีกว่าก่อนที่จะตามหาเจ้าหนุ่มนั่น ....
……
แต่ในใจของตั้วลั่วนั้นรับรู้ได้อย่างชัดเจนดี ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ถึงเขาจะปล่อยวางหน้าที่นี้ไป แต่เจ้าหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าคนนี้จะต้องไม่ปล่อยตัวเขาไปแน่ ๆ ในเมื่อเป็นเช่นนี้.....
นาทีต่อจากนั้น อารมณ์ความรู้สึกมากมายในแววตาของตั้วลั่วก็มลายหายไปทันที แล้วมีแววตาที่แสนเย็นชาและไม่สนใจเข้ามาแทนที่ จากนั้นก็ชักปืนออกมาเล็งไปที่เจ้าลิกเกอร์ โดยไม่พูดไม่จา ก่อนจะเหนี่ยวไกปืนออกไปอย่างไม่ลังเลเลยสักนิดเดียว !
ปังปังปัง!
ต่อมาเสียงปืนที่รุนแรงสามครั้งก็ดังขึ้น กระสุนปืนสามนัดได้ฝ่าความมืดออกไปราวกับสายฟ้า พุ่งตรงไปที่หัวและดวงตาทั้งสองข้างของเจ้าลิกเกอร์โดยตรง
เห็นได้ชัดว่า ตั้วลั่วต้องการฉวยโอกาสจู่โจมในยามที่ฝ่ายตรงข้ามไม่ทันระวังตัว เพื่อจัดการเจ้าตัวน่ากลัวตัวนี้ซะ
แต่ทว่า เขาดันประเมินความสามารถของเจ้าลิกเกอร์ตัวนี้ต่ำเกินไป
ถ้าตรงหน้าของพวกเขา ในตอนนี้คือเจ้าลิกเกอร์ที่เพิ่งจะกลายพันธุ์อย่างเสร็จสมบูรณ์ในตอนแรก กระสุนสามนัดนี้ของตั้วลั่วก็คงจะปลิดชีพได้สำเร็จ แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือความสามารถในการสังหารและการกลืนกิน รวมไปถึงน้ำฝนที่เทกระหน่ำเสริมสร้างความแข็งแกร่งในหลายวันมานี้ เจ้าลิกเกอร์ตัวมหึมาที่อยู่ด้านหน้าของพวกเขาในตอนนี้ไม่ใช่ตัวเดิมที่อ่อนแอเหมือนตอนแรกอีกแล้ว!
ซื่อ!
พริบตาเดียวที่กระสุนสามนัดนี้พุ่งเข้าใส่เจ้าลิกเกอร์ ดวงตาที่เล็กละเอียดของเจ้าลิกเกอร์ก็ได้ฉายแววกระหายเลือดขึ้นมาแวบหนึ่ง จากนั้นมันก็อ้าปากที่กว้างราวกับสิงโตนั้น ก่อนที่ลิ้นยาวๆที่ฟื้นคืนกลับมาสภาพเดิมอย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังแข็งแกร่งกว่าตอนแรกได้พุ่งออกมาจากปากราวกับฟ้าแลบสีเลือด ตรงเข้าปะทะกับกระสุนสามนัดนั้น!
จากนั้น ภาพที่ไม่จะอยากเชื่อก็เกิดขึ้น!
ตึงตึงตึง!
พริบตาเดียว เสียงปะทะของโลหะอย่างรุนแรงก็ดังขึ้น เมื่อเปลวไฟที่เปล่งประกายอยู่ในค่ำคืนที่ฝนตกกระหน่ำทั้งสามสายนั้นพุ่งออกไป กระสุนที่เดิมที่ต้องการจะยิงพุ่งใส่เจ้าลิกเกอร์ตัวนั้นก็ถูกลิ้นยาวๆของมันปัดออกจนลอยไปตกบนพื้นที่ที่อยู่ไกลออกไปในทันที
“อ่ะ? !”
เมื่อเห็นภาพนั้น รูม่านตาของตั้วลั่วก็หดลงทันที เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าการตอบสนองของเจ้าลิกเกอร์จะเร็วถึงขนาดนี้ เร็วจนกระทั่งขัดขวางกระสุนไว้ได้!
แต่เนื่องจากความพิเศษบางส่วน หลังจากที่ตั้วลั่วได้เข้าร่วมในสงครามนี้แล้วอารมณ์ความรู้สึกมากมายเหล่านั้นก็ได้ถูกกดทับเอาไว้ ดังนั้นต่อให้ต้องเผชิญกับศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้ สีหน้าของเขาก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลแต่อย่างใด แต่ยังคงยิงโจมตีเจ้าลิกเกอร์ต่ออย่างต่อเนื่อง
หวือ!
แต่ทว่าความน่ากลัวที่สุดของเจ้าลิกเกอร์ก็คือความเร็วและการตอบสนองที่พอๆกันของมัน ดังนั้นแทบจะพริบตาเดียวกับเสียงปืนที่ดังขึ้นมาอีกครั้ง รูปร่างใหญ่โตของเจ้าลิกเกอร์ตัวนั้นก็กระโดดไปข้างหน้า พร้อมทั้งหลบหลีกกระสุนเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนพุ่งตรงเข้าไปหาตั้วลั่วทันที!
อย่างไรก็ตามในฐานะ “เอจโพธิ์ดำ” ใน “บริษัท” ซึ่งเป็นที่สองรองจาก “ต้าหวาง” และ “เสี่ยวหวาง” ความแข็งแกร่งของตั้วลั่วย่อมไม่มีเพียงแค่นี้อย่างแน่นอน เมื่อเห็นเจ้าลิกเกอร์ที่กระโดดพุ่งเข้ามา และสามารถหลบหลีกกระสุนที่พุ่งออกไปของตั้วลั่วได้ในพริบตา รูม่านตาของตั้วลั่วก็หดลงเช่นกัน หลังจากนั้นเท้าขวาของเขาก็เตะออกไป เพื่อเบี่ยงเบนจากจุดศูนย์กลาง จากนั้นก็ม้วนตัวหลบด้วยพลังทั้งหมด หลบหลีกออกไปทางด้ายซ้ายด้วยความเร็ว
การหลบหลีกด้วยการม้วนตัวนี้ ก็ทำให้ตั้วลั่วยิงปืนได้อีกครั้ง
ครั้งนี้ กระสุนไม่ได้ร่วงลงแต่อย่างใด มันได้ยิงใส่บนตัวของเจ้าลิกเกอร์ที่ลอยเคว้งอยู่ในอากาศอย่างโหดเหี้ยม จนสามารถสกัดกั้นการเคลื่อนไหวของมันไว้ได้
แต่การป้องกันของเจ้าลิกเกอร์นั้นเพิ่มระดับขึ้นอย่างน่าตกใจ ดังนั้นถึงแม้ว่าในมือของตั้วลั่วจะมีปืนพกรุ่น P226 ที่ได้รับการแก้ไขดัดแปลงแล้ว กระสุนของมันยังสามารถเจาะเข้าเสื้อเกราะกันกระสุนจนทะลุได้ก็ตาม แต่สำหรับร่างกายในตอนนี้ของเจ้าลิกเกอร์กลับไม่ก่อเกิดประสิทธิภาพที่ดีนัก เพียงแค่สร้างรอยแผลเล็กน้อย และฝังอยู่ในเนื้อที่แข็งราวกับเหล็กของเจ้าลิกเกอร์เท่านั้น
สำหรับพลังงานทั้งหมดของกระสุนเหล่านั้น ก็ยังไม่สามารถขัดขวางเจ้าลิกเกอร์ตัวนี้ได้!
ครืน!
จากนั้น เสียงที่น่าหดหู่ใจก็ดังขึ้นมา ลิกเกอร์ได้ร่วงลงมาห่างจากตั้วลั่วไม่ถึง 5 เมตร ลิ้นยาวๆของมันได้ยิงออกมาราวกับสายฟ้าและพุ่งตรงไปที่หัวของตั้วลั่วอย่างรวดเร็ว!
เห็นได้ชัดว่า ภายใต้สถานการณ์ที่เจ้าไทแรนท์ใกล้จะมาถึงนี้ มันไม่มีกระจิตกระใจจะเสียเวลากับ “อาหาร” เหล่านี้เลย!
แต่ทว่า ตั้วลั่วที่ประเมินศักยภาพของเจ้าลิกเกอร์นั้นต่ำไป เหมือนๆกับที่เจ้าลิกเกอร์ได้ประเมินศักยภาพของตั้วลั่วต่ำไปเช่นกัน
“ปลอดล็อก!”
ในขณะที่ลิ้นยาวๆนั้นของเจ้าลิกเกอร์ตัวนั้นพุ่งตรงไปหาตั้วลั่วอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจนั้น เพียงแค่พริบตาเดียวที่ผ่านทะลุไป ในดวงตาของตั้วลั่วก็ฉายแววตากระหายเลือดแดงฉานออกมา
ในเวลานั้น ร่างกายของเขาก็เหมือนได้ปลดปล่อยพลังงานบางอย่างออกมา กล้ามเนื้อทั้งตัวของเขาได้ปูดขึ้นมาอย่างรวดเร็วและรุนแรง ระดับความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน มือซ้ายก็ได้ชักมีดสีดำที่เหน็บไว้ที่เอวออกมาราวกับสายฟ้า แล้วตัดไปที่ลิ้นยาวๆที่พุ่งออกมานั้นอย่างรวดเร็ว
เกร้ง!
จากนั้น เสียงปะทะกันของโลหะที่รุนแรงก็ดังขึ้น ก่อนที่เลือดนั้นจะพุ่งออกมาจากลิ้นยาวๆของเจ้าลิกเกอร์ตัวนี้อย่างฉับพลัน ส่วนตั้วลั่วเองก็ถูกเจ้าลิกเกอร์โจมตีใส่จนลอยละลิ่วออกไปด้านหลัง ก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้นที่ห่างไกลออกไปหลายเมตร
เขาสามารถขัดขวางการโจมตีที่คร่าชีวิตของเขาไว้ได้ แล้วก็ยังทำให้เจ้าลิกเกอร์บาดเจ็บอีกด้วย!
เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์จึงเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาไม่น้อย!
พวกเขาเพิ่งจะค้นพบว่า ศักยภาพของตั้วลั่วนั้นน่ากลัวกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้ซะอีก!
แต่ในเวลานี้ ฮวางซางกลับสังเกตเห็นว่า ถึงแม้ว่าตั้วลั่วจะขัดขวางการโจมตีของเจ้าลิกเกอร์ไว้ได้ และดูเหมือนจะได้เปรียบกว่าก็ตาม แต่ในความเป็นจริงแล้วมือขวาที่จับมีดสั้นด้ามนั้นไว้กลับสั่นเทาเบาๆ ยิ่งไปกว่านั้นง่ามนิ้วของเขาก็เกิดฉีกขาดจากการปะทะกันอย่างรุนแรง จนมีเลือดสดๆไหลทะลักออกมาเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่า เพื่อการขัดขวางการโจมตีนี้ เขาต้องเสียกำลังไปไม่น้อยเลย!
ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไปละก็ เกรงว่าอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ตั้วลั่วล้มได้!
“ระบบ!”
เมื่อคิดได้ ในใจของฮวางซางก็ร้อนใจขึ้นมาทันใด พร้อมกับนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ในทันที ก่อนจะพูดขึ้นในใจว่า “ทำไมฉันฆ่าโกว๋หวางหลุนไปแล้วยังไม่ได้รับการชดเชยพลังอีกละ?”
เขาเพิ่งจะนึกได้ เมื่อยึดจากความเคยชินที่ปฏิบัติมาแล้ว ถ้าเขาฆ่าซอมบี้ที่มีพลังแข็งแกร่งได้หนึ่งตัวเขาก็น่าจะได้รับพลังที่เพิ่มขึ้น แต่ตอนนี้เขากลับไม่ได้พลังจากโกว๋หวางหลุนแม้แต่นิดเดียวเลย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!
“ซอมบี้ขั้นสูงมีแกนพลังงานของตัวเองอยู่แล้ว มีเพียงต้องช่วงชิงแกนพลังงานนั้นมา ถ้าไม่อย่างนั้นก็ไม่สามารถดูดซับพลังงานนั้นได้ ”
ในเวลานี้ เสียงระบบก็ดังขึ้นอีกว่า “แต่พลังชีวิตนั้นแข็งแกร่งเกินไปสำหรับผู้อาศัย การดูดซับพลังงานนั้นจะนำมาซึ่งผลดีมหาศาลแก่ตัวผู้อาศัยก็จริง แต่ในเวลาเดียวกันมันก็จำเป็นต้องใช้เวลายาวนานจึงจะสามารถย่อยพลังงานนั้นได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นระบบจึงช่วยระดมพลังความเป็นความตายหยินหยางไว้อย่างสุดกำลัง เพียงแค่ผู้อาศัยต้องทำการรีสตาร์ทพลังเหนือมนุษย์ขึ้นมาใหม่ แล้วนำพลังเหนือมนุษย์ไปรวมตัวผ่านทางสื่อกลางของ “พู่กันพิพากษา” มาดูดซับแกนพลังงานของสิ่งมีชีวิตนี้
“ถึงแม้ว่าทำแบบนี้แล้วจะไม่สามารถเสริมสร้างร่างกายของผู้อาศัยได้มากมายนักก็ตาม แต่พลังเหนือมนุษย์นั้นกลับเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้น และยังสามารถใช้พลังเหนือมนุษย์มารักษาพลัง “ชีวิต”ได้อีกด้วย ดังนั้นวิธีการนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของผู้อาศัยในสถานการณ์เช่นนี้! ”
แน่นอนว่าระบบไม่ต้องการเห็นฮวางซางถูกศัตรูฆ่าตาย ดังนั้นไม่ต้องรอให้ฮวางซางเอ่ยปาก ระบบก็หาวิธิช่วยฮวางซางอยู่แล้ว
ในเวลานี้ เมื่อสิ้นสุดเสียงของระบบ ฮวางซางก็สัมผัสได้ถึงพลังเหนือมนุษย์ภายในที่เดิมทีใช้เกินขีดจำกัดไปแล้วกลับได้รับความชุ่มชื่นของพลังงานบางอย่างขึ้นมาอย่างฉับพลัน ความกระฉับกระเฉงได้เกิดขึ้นมาใหม่ แสงสว่างสีขาวดำก็ได้รวมตัวขึ้นมาอีกครั้งในฝ่ามือของเขา กลายเป็นพู่กันสีขาวดำ
หรือพูดได้อย่างมั่นในว่า นี่คือ “พู่กันพิพากษา” ที่ระบบเคยพูดไว้!
“ใช้พู่กันพิพากษาเสียบเข้าไปในหัวใจของสิ่งมีชีวิตนั้น ในนั้นมีแกนพลังงานของมันอยู่!”
และในเวลาเดียวกัน เสียงของระบบก็ดังขึ้นในหัวของฮวางซางอีกครั้ง
“เข้าใจแล้ว!”
เมื่อได้ยินคำพูดของระบบ ฮวางซางก็กัดฟันกรอด แล้วพยายามกดความเจ็บปวดอันน่ากลัวที่แผ่ขยายออกมาจากร่างกายของเขาไว้ ก่อนใช้พลังเฮือกสุดท้าย ปีนป่ายเขาไปหาซากศพของโกว๋หวางหลุนทีละก้าวๆ จากนั้นก็กวัดแกว่งพู่กันพิพากษาในมือขึ้นมาที่ดูเหมือนกับสว่านโละอันหนึ่ง เสียบเข้าไปตรงตำแหน่งของหัวใขของโกว๋หวางหลุนอย่าโหดเหี้ยมทันที!
กรอบ!
สิ่งที่ฮวางคาดเดาไว้ก็คือ ด้านหน้าของปลายพู่กันสีดำของพู่กันพิพากษานั้น ร่างกายแข็งแรงของโกว๋หวางหลุนอ่อนนุ่มลงราวกับเค้กอย่างคาดไม่ถึง ไม่มีแม้แต่แรงที่จะขัดขวาง พู่กันพิพากษาจึงเสียบเข้าไปตรงหน้าอกและทะลุเข้าไปในหัวใจโดยตรง!
ต่อมาหลังจากที่หัวใจของโกว๋หวางหลุนได้ถูกเสียบด้วยพู่กันพิพากษาแล้ว ฮวางซางเองก็สัมผัสได้ว่าตัวเองนั้นได้ทำการติดตั้งดินปืนที่ทำให้เกิดการลุกไหม้นั้นขึ้นมา พลังงานที่ทั้งแข็งแรงและมหาศาลนั้น ได้ระเบิดออกมาจากหัวใจของโกว๋หวางหลุน แล้วพุ่งเข้ามาผสานในพู่กันพิพากษานั้นด้วยความเร็วจนน่าตกใจ !
จากนั้น แสงสว่างแสบตา ก็เปล่งรัศมีออกมาจากพู่กันพิพากษานั้นทันที!