px

เรื่อง :
ตอนที่ 36 คนตายที่มีชีวิต!


ตอนที่ 36 คนตายที่มีชีวิต!

 

“ให้ตายเถอะ ทำไมปีศาจตัวนี้ถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้เนี่ย!”

ในขณะที่ฮวางซางนำพู่กันพิพากษาเสียบเข้าไปในหัวใจของโกว๋หวางหลุน เมื่อดูดซับพลังของโกว๋หวางหลุนนั้น ตั้วลั่วที่กำลังปะทะอยู่กับเจ้าลิกเกอร์ก็ได้บ่นพึมพำออกมาอย่างต่อเนื่องด้วยความหงุดหงิด

เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าในโลกใบนี้จะมีสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวเช่นนี้  ถ้าไม่ใช่เพราะพลังเหนือมนุษย์ที่ฟื้นตื่นขึ้นมาตอนที่ฝนตกลงมาจนมีศักยภาพที่แข็งแกร่งขนาดนี้ละก็  เขาก็คงจะถูกเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ฉีกร่างจนขาดกระจายไปแล้ว

แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ความกดดันในตอนนี้จึงใหญ่ขึ้นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้  อีกทั้งพลังเหนือมนุษย์ที่ย้อนกลับมาทั้งหมดที่ร่างกายแบกรับไว้นั้นก็ยิ่งหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป  เกรงว่าเขาก็คงจะควบคุมได้ไว้ไม่นานแล้ว!

หวือ!

แต่ในตอนนั้นเอง  แสงสว่างสีขาวอันแสบตานั้นกลับเปล่งประกายออกมาจากตัวของฮวางซางที่นอนอยู่อย่างฉับพลัน แทบจะสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้าที่มืดมิดเลยก็ว่าได้และมันก็สร้างความตื่นตกใจให้กับตั้วลั่วไม่น้อยเช่นกัน

“เจ้าหมอนี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก?”

ในขณะที่มองไปทางฮวางซางที่จับพู่กันพิพากษาไว้แน่นภายใต้แสงสีขาวแวววาวนั้น รูม่านตาของตั้วลั่วก็หดลงในทันที

เขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้อย่างแท้จริง ไม่เพียงแต่จะชำนาญในด้านการต่อสู้แล้วเท่านั้น ก็ยังมีความสามารถในการสังเกตการณ์ของสนามรบที่แข็งแกร่งอีกด้วย ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะไม่เห็นขั้นตอนในการต่อสู้ของฮวางซางและโกว๋หวางหลุนก็ตาม แต่จากการสำรวจร่องรอยของการต่อสู้ในตอนนี้ รวมไปถึงซากศพของโกว๋หวางหลุนและสุนัขกลายพันธุ์ในบริเวณนี้เหล่านั้นแล้ว เขาก็สามารถรับรู้ถึงศักยภาพของฮวางซางได้ในทันที เขารู้ว่าเจ้าหนุ่มคนนี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

เห็นได้ชัดว่าฮวางซางนั้นเพิ่งจะได้รับบาดเจ็บที่แสนสาหัสและมีชีวิตได้อีกไม่นานแล้ว ดังนั้นตั้วลั่วจึงไม่เอาคนที่ใกล้จะตายมาไว้ในใจของเขาให้วุ่นวายใจ

แต่ดูเหมือนว่าในตอนนี้ เขาชักจะดูถูกเจ้าหมอนี้เกินไปแล้ว!

“กลับมาจากความตายได้!”

“คนตายที่มีชีวิต! ”

แต่อีกด้านหนึ่ง  เมื่อพลังงานอันแข็งแกร่งภายในหัวใจของโกว๋หวางหลุนได้ถูกพู่กันพิพากษานั้นดูดซับแล้ว  ฮวางซางก็สัมผัสได้ถึงการเชื่อมต่อกันของพู่กันพิพากษาและตัวเขาเองที่ดูเหมือนจะใกล้ชิดแน่นแฟ้นกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพู่กันพิพากษานั้นได้ดูดซับพลังงานของโกว๋หวางหลุนจนหมดไปได้เพียงชั่วเวลาหนึ่งแล้ว  ในที่สุดการเชื่อมต่อก็ถึงขีดจำกัด  พริบตาเดียวเขาก็สามารถควบคุมวิธีการใช้งานอย่างแท้จริงของพู่กันพิพากษาได้ด้วยสัญชาตญาณบางอย่างนั้นไว้ได้

เมื่อเป็นเช่นนี้ฮวางซางก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆพร้อมกกับถือพู่กันพิพากษานั้นไว้แน่น ก่อนออกแรงกวัดแกว่ง เสียงตะโกนของเขาก็ดังขึ้น

หวือ!

หลังจากฮวางซางตะโกนออกไปแล้ว ด้ามจับพู่กันดุจหยกสีขาวนั้นก็เปล่งแสงสีขาวแวววาวออกมาอย่างฉับพลัน  จากนั้นแสงสีขาวนั้นก็พุ่งออกไปก่อนแยกออกเป็นสองส่วน กลายเป็นคำว่า “ชีวิต”  ผสานเข้ามาในร่างของฮวางซางและหลิวซินที่ดูเหมือนจะใกล้ขาดใจตายนอนไร้สติอยู่ข้างกายของเขาอย่างรวดเร็ว

ต่อจากนั้น ภาพปฏิหาริย์ก็บังเกิดขึ้น!

หลังจากที่คำว่า “ชีวิต” สองส่วนนั้นได้ผสานเข้าไปภายในร่างกายของพวกเขาแล้ว   ร่างกายของ

ฮวางซางและหลิวซินก็เปล่งประกายแสงสีขาวอ่อนๆออกมาอย่างฉับพลัน ภายใต้การปกคลุมของแสงสีขาวนี้  ร่างกายของพวกเขาที่เกิดอาการบาดเจ็บที่น่ากลัวและโหดร้ายนั้นก็เริ่มจะสมานเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว แม้กระทั่งหน้าอกที่ถูกโกว๋หวางหลุนทุบจนบุบลงไปของหลิวซิน ก็เหมือนจะได้รับพลังงานบางอย่างหล่อหลอมมันขึ้นใหม่อีกครั้งและค่อยๆฟื้นคืนสภาพเดิมทีละนิดๆดังเช่นตอนแรก!

3 วินาที!

สุดท้ายฮวางซางและหลิวซินอาการบาดเจ็บแสนสาหัสปางตางก็ได้หายเป็นปกติโดยใช่เวลาเพียงสั้นๆแค่ 3 วินาทีเท่านั้น  ไม่เพียงแค่นี้  แม้กระทั่งพลังชีวิตที่แข็งแกร่งเหล่านั้นก็ได้แตกกระจายอยู่ภายในตัวของพวกเขา ทำให้พละกำลังที่ใช้เกินขีดจำกัดของพวกเขาได้รับการเติมเต็มอย่างสมบูรณ์ขึ้นมาอีกครั้ง!

“เหี้ย นี่มันขี้โกงชัดๆ!”

เมื่อเห็นภาพนี้ ตั้วลั่วก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้

ขนาดว่า”เสินหนงรุ่น 3 ” ที่เป็นผลงานวิจัยล่าสุดของ“บริษัท”ของพวกเขาก็ยังไม่สามารถฟื้นคืนกลับมาสภาพเดิมในเวลาเพียงแค่ 3 วินาทีเหมือนกับเจ้าเด็กหนุ่มอาการปางตายทั้งสองคนนี้?

นี่มันพลังอะไรกันเนี่ย ถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้!

“พลังความเป็นความตายหยินหยาง มีชื่อเสียงเรียงนามสมดังคำล่ำลือจริง ๆ!”

แต่ในเวลาเดียวกันเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังงานที่เต็มอิ่มและพลังชีวิตที่ฮึกเหิมภายในร่างกายแล้ว ในดวงตาของฮวางซางก็เปล่งประกายความมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันใด

ถึงแม้ว่าพลังความเป็นความตายหยินหยางภายในร่างกายของเขาจะเป็นเพียงแค่การปล้นมาและพลังอานุภาพของมันอาจจะไม่เท่ากับ1ในหมื่นของพลังที่แท้จริง อีกทั้งเขาก็ยังไม่รู้วิธีใช้พลังหยินหยางอีกด้วย  ตอนนี้จึงใช้ได้เพียงพลังแห่งความเป็นความตายเท่านั้น แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ความแข็งแกร่งของพลังงานนี้กลับเหนือกว่าที่เขาคาดคิดไว้

แต่ยิ่งพลังงานนี้แข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะต้องทุ่มเทออกไปมากขึ้นเท่านั้น ถึงแม้ว่าตอนนี้หลิวซินและฮวางซางจะฟื้นกลับมาสู่สภาพเดิมแล้ว แม้กระทั่งกำลังกายที่สูญเสียไปนั้นก็ได้ฟื้นคืนกลับมาสู่สภาพเดิมเช่นเดียวกับตอนแรกแล้วก็ตาม แต่พลังงานของพู่กันพิพากษาที่ดูดซับมากจากโกว๋หวางหลุนดูเหมือนจะต้องสูญเสียไป 3 ใน 4 ส่วน  เหลือทิ้งไว้เพียงส่วนสุดท้ายเช่นกัน

เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้ ฮวางซางจึงรู้สึกเจ็บใจโดยไม่รู้ตัว

เมื่อรู้ว่าพลังส่วนนี้ไม่เพียงแต่จะรวบรวมมาจากจำนวนซอมบี้ที่ถูกฆ่าตายหลายร้อยตัวแล้ว  อีกทั้งสิ่งสำคัญที่สุดก็คือความบริสุทธิ์และความแข็งแกร่งของพลังงานเช่นนี้ก็มากเกินกว่าจะเทียบเท่ากับพลังงานซอมบี้ทั่วไปซะอีก

ถ้าเขาสามารถกลืนกินพลังงานทั้งหมดนี้ได้ละก็ นอกจากจะเสริมสร้างศักยภาพที่แข็งแกร่งให้กับเขาแล้ว  การบรรลุวิชาหลอมรวมเป็นหนึ่งหลังจากนี้ก็จะสามารถจัดการกับขีดสุดของการสะสมพลังนี้ได้ ด้วยพลังความบริสุทธิ์นี้วิชาหลอมรวมเป็นหนึ่งก็จะบรรลุเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น

แต่ตอนนี้ ทุกอย่างมันไม่มีอีกแล้ว!

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามานั่งปวดใจ  เพราะตอนนี้ดูเหมือนเจ้าลิกเกอร์ที่กำลังตื่นตกใจกับร่างกายที่ฟื้นคืนกลับมาจนหยุดชะงักโจมตีตั้วลั่วลงฉับพลันแล้วกระโดดไปด้านหลัง จากนั้นก็กวาดสายตามองมาทางฮวางซางและหลิวซิน

แต่ตอนที่เจ้าสัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนี้กวาดสายมาหยุดลงที่ใบหน้าของฮวางซาง รูม่านตาของมันก็หดลงอย่างฉับพลัน จากนั้นความกระหายในการสังหารอย่างโหดร้ายก็ปรากฏขึ้นมา!

มันจำใบหน้านี้ได้!

นี่คือเจ้าหนุ่มที่ตัดลิ้นของมันไป ทำให้มันต้องทนกับความทุกข์ยากลำบาก!

“หึ เจอกันอีกแล้วนะ!”

เมื่อเห็นสายตาที่เปลี่ยนไปของเจ้าลิกเกอร์  ฮวางซางก็ยิ้มอย่างเยือกเย็นออกมา ดวงตาแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมมากยิ่งขึ้น

“บัดซบ เกิดเรื่องอะไรขึ้นเนี่ย  ฉันควรตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ  หรือว่าทั้งหมดนี้มันคือภาพลวงตา? หรือว่าตอนนี้ฉันตายไปแล้วจริงๆ?”

ในเวลาเดียวกัน หลิวซินที่อยู่ข้างกายเขาก็ได้ฟื้นขึ้นมา  ในขณะที่มองไปยังร่างกายของตัวเองที่แทบจะไม่บุบสลายแต่อย่างใด เขาก็ตื่นตกใจขึ้นมาทันที  จากนั้นก็ลูบไปที่หน้าอกของตัวเองภายใต้จิตสำนึกทันที  ก่อนหันไปพูดกับฮวางซางว่า “พี่  นี่...มัน...ลิกเกอร์!”

เดิมที  หลิวซินเองเพิ่งจะเคยเจ้าลิกเกอร์ที่ใกล้ขนาดนี้  จากนั้นท่าทางเขาเหมือนจะสตั้นไป  เขาตะโกนออกมาด้วยความตกใจ  จนเหงื่อเย็นได้ผุดขึ้นมาบนหน้าผากของเขา

เหมือนเปรียบเทียบกับโกว๋หวางหลุนแล้ว ลิกเกอร์เป็นเงามืดและฝันที่โหดร้ายที่สุดในเรื่องเรซิเดนต์อีวิลของเขา!

“ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องไร้สาระแล้ว  เราจะต้องคิดหาทางจัดการเจ้าลิกเกอร์นี้ซะก่อน  จากนั้นก็ออกไปจากที่นี่กัน!”

ฮวางซางส่ายหน้าแต่สายตายังคงจับจ้องไปที่เจ้าลิกเกอร์ไม่ละไปไหน ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “ขืนถ้ายืดเวลาออกไปอีก  เจ้าไทแรนท์ต้องตามมาทันแน่ๆและพวกเราก็คงจะหนีไปไม่ได้อีกแล้ว!”

เขาจำได้ว่าไทแรนท์และลิกเกอร์เข้ามาเขตป้องกันประเทศพร้อมกัน เพียงแต่ความเร็วของไทแรนท์ไม่เร็วเท่ากับลิกเกอร์นัก แต่ถ้าคิดคำนวนเวลาดีๆละก็ ตอนนี้เจ้านั้นก็กำลังใกล้มาถึงแล้ว

เมื่อเป็นเช่นนี้ฮวางซางจึงหันพูดกับตั้วลั่วว่า “ ถ้าไม่รีบจัดการเจ้านี้ เราหรือไม่ว่าใครก็จะไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้  เรามาร่วมมือกันดีกว่า นายคิดว่าไง?”

“เอาสิ เชิญคุณก่อนเลย!”

เมื่อได้ยินคำพูดของฮวางซาง ตั้วลั่วก็พยักหน้า  หลังจากนั้นก็เปลี่ยนรังกระสุนของปืนที่ไร้ลูกกระสุนนั้น  พร้อมพูดกับฮวางซางว่า  “ถึงยังไงฉันก็ไม่มีพลังชีวิตเช่นเดียวแบบคุณแมลงสาปหรอก  ดังนั้นสิ่งที่สามารถทำได้มากที่สุดในตอนนี้ คือให้คุณลงมือก่อน จะสัญญาว่าจะช่วยสนับสนุนคุณอยู่ข้างๆ”

ตั้วลั่วคือนักฆ่าแต่นักฆ่ามักจะไม่เชื่อคนอื่นง่ายๆ ยิ่งเป็นคนแปลกหน้าอีก ดังนั้นในตอนนี้เขาจึงไม่คิดที่จะลงมือก่อนยังไงละ

“ได้!”

ฮวางซางคาดเดาไว้แล้วว่าตั้วลั่วจะไม่ลงมือก่อนง่ายๆแน่ ดังนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของตั้วลั่ว เขาจึงไม่ได้โกรธเคืองแต่อย่างใด กลับพยักหน้าด้วยซ้ำ  จากนั้นก็ก้าวเท้าไปทางทหารรักษาการณ์ข้างถนน แล้วชักร่มกันแดดขนาดใหญ่ออกมาจากทหารรักษาการณ์นั้น ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วออกแรงดึงเหล็กร่มและด้านร่มออกมาอย่างรุนแรง

ฉัวะ!

พริบตาเดียว เสียงแตกหักอันน่าหดหู่ใจก็ดังขึ้น  ผ้าของร่มและโครงของร่มกันแดดอันนั้นก็ถูกฮวางดึงออกเหลือทิ้งไว้เพียงเหล็กด้ามจับความยาว 2 เมตรในมือของฮวางซางเท่านั้น

ขวานที่ใช้ก่อนหน้านั้นของเขาก็ได้ชำรุดไปแล้ว ตอนนี้จึงไม่มีอาวุธที่เหมาะสมอีกแล้ว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องฝืนใจใช้เจ้าสิ่งนี้แทน

“ฮู้!”

จากนั้นฮวางซางก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ  พร้อมกับจับด้ามเหล็กร่มนั้นทั้งสองมือ แล้วชี้ปลายแหลมของด้ามร่มราวกับหอกแหลมด้ามหนึ่ง ไปทางเจ้าลิกเกอร์โดยตรง ก่อนจะตะโกนออกไป “ฉันมาแล้ว!”

สิ้นสุดเสียง  ฮวางซางก็ถีบไปด้านหน้าอย่างรุนแรง  ก่อนที่ร่างกายของเขาจะระเบิดพลังออกมา  ราวกับสายฟ้าพุ่งตรงเข้าไปหาเจ้าลิกเกอร์ทันที!

เขารับรู้ได้อย่างชัดเจนภายในใจว่า เจ้าลิกเกอร์และเขามีความแค้นเก่าต่อกัน ถึงแม้ว่าหลิวซินจะลงมือก็ตาม แต่ไม่แน่ว่าเจ้าลิกเกอร์อาจจะหันมาโจมตีเขาด้วยพลังทั้งหมดของมัน ในเมื่อเป็นอย่างนี้งั้นเขาก็ขอลงมือเองซะจะยังดีกว่า เขาจะทำการล็อคเจ้าลิกเกอร์ไว้แล้วให้หลิวซินและตั้วลั่วเข้ามาสมทบในการต่อสู้ครั้งนี้!

มีเพียงทางนี้เท่านั้น พวกเขาจึงจะสามารถจัดการเข้าลิกเกอร์แล้วออกไปจากที่นี่ได้ก่อนที่เจ้าไทแรนท์จะมาถึง!

 

 

รีวิวผู้อ่าน