ตอนที่ 42 หนีและปีศาจหนวด!
“ฮ่องเต้ ถอยไปหน่อยเราจะได้รับพี่ขึ้นมา!”
เฮลิคอปเตอร์ที่หลิวซินและพรรคพวกขับมานั้นคือเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธจื่อ-9ที่เป็นที่รู้จักกันดีภายในประเทศ หลังจากที่เฮลิคอปเตอร์ลำนี้บินเข้ามาใกล้แล้วเสียงของหลิวซินก็ดังขึ้นมาจากเครื่องขยายเสียงของเฮลิคอปเตอร์
“ได้!”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวซิน ฮวางซางก็รีบตอบสนองทันที จากนั้นก็วิ่งไปทางริมขอบของดาดฟ้าอย่างรวดเร็วทันที
โฮกกกกก!
เพียงแค่ว่าในเวลานี้ เจ้าไทแรนท์ตัวนั้นกลับส่งเสียงคำรามออกมา จากนั้นก็ปะทะเข้ากับหากระสุนที่ยิงเขามาแล้วพุ่งเข้ามาหาฮวางซางทันที
สำหรับเจ้าไทแรนท์ทีกลายพันธุ์ภายใต้ฝนที่ตกกระหน่ำนั้น ปืนกลปากกระบอกลำกล้องขนาด 12.7mm ที่ติดตั้งอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธจื่อ-9นั้นไม่สามารถคุกคามมันได้มากนักและไม่สามารถขัดขวางไม่ให้มันพุ่งเข้ามาหาฮวางซางได้เช่นเดียวกัน!
แต่อาวุธที่ติดตั้งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธจื่อ-9นั้นไม่ได้เพียงแค่ปืนกลตัวเดียวเท่านั้น!
หวือหวือหวือหวือหวือหวือ!
วินาทีต่อจากนั้น เสียงแตกกระจายกลางอากาศอันรุนแรงก็ดังขึ้น จรวดขีปาวุธที่ห้อยติออยู่ที่เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธจื่อ-9ทั้งสองด้านก็ได้เริ่มเปิดฉากขึ้น ระเบิดจรวดขนาดเล็กก็ได้แหวกอากาศออกไปภายใต้การปกคลุมของห่ากระสุนนั้น มันได้โจมตีใส่ร่างของเจ้าไทแรนท์จากนั้นก็ระเบิดขึ้นในทันที!
ถึงแม้ว่าเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธจื่อ-9จะเต็มไปด้วยระเบิดจรวดขนาดที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 57mm และถึงแม้ว่าพลานุภาพของจรวดชนิดนี้จะเทียบไม่ได้กับระเบิดจรวดที่ใหญ่กว่าก็ตาม แต่พลานุภาพของมันนั้นรุนแรงกว่าปืนกลและปืนท่าอากาศยานทั่วไปซะอีก หลังจากที่เสียงระเบิดอันรุนแรงดังขึ้นมาในชั่วพริบตา ร่างขนาดใหญ่ของเจ้าไทแรนท์ก็ถูกกลืนกินหายเข้าไปในแสงสว่างที่แสบตานั้นอย่างฉับพลัน แม้กระทั่งฮวางที่วิ่งห่างออกไปหลายสิบเมตรแล้วก็ยังสัมผัสได้ถึงความร้อนและแรงกระแทกที่กวาดตามหลังเขามาแทบจะทำให้เขาล้มลงไปกองกับพื้นเลยก็ว่าได้!
“ให้ตายเถอะ?”
เมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นความร้อนที่ไล่หลังมาจากด้านหลังของเขา ฮวางซางจึงหันกลับไปดูพื้นที่ที่ถูกเปลวไฟ ฝุ่นละอองและหมอกควันปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่นั้น จากนั้นก็ค่อยๆถอนหายใจผ่อนคลายออกมา
ต่อให้ไทแรนท์ที่แข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่สามารถขัดขวางระเบิดจรวดหลายสิบลูกนี้ได้หรอก?
โฮกกกกก!
แต่ทว่าความจริงนั้นได้บอกฮวางซางว่าเขาไม่เพียงแต่จะประเมินพลานุภาพของจรวดที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 57mm นั้นสูงเกินไปแล้ว อีกทั้งก็ยังประเมินความสามารถในการป้องกันของเจ้าไทแรนท์ต่ำเกินไปอีกด้วย
วินาทีต่อจากนั้น หลังจากเสียงคำรามด้วยความบ้าคลั่งนั้นดังขึ้นมาแล้ว ร่างขนาดใหญ่ของเจ้าไทแรนท์ก็ได้พุ่งออมาจากเปลวไฟนั้นอย่างฉับพลันอีกครั้ง
ตอนนี้ร่างกายของมันได้ถูกเผาจนไหม้เกรียมและเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดเนื้อ ดูแล้วน่าเวทนาเกินกว่าที่จะทนดูได้ แต่ในความเป็นจริงอาการบาดเจ็บเหล่านี้กลับไม่ได้คร่าชีวิตของเจ้าไทแรนท์แต่อย่างใด ไม่แม้กระทั่งจะส่งผลกระทบต่อการพลังการต่อสู้ของมันเลยด้วย!
เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้สามารถเห็นระดับความเร็วอันน่ากลัวที่พุ่งออกมาจากเปลวไฟนั้นได้อย่างชัดเจน!
เพียงแต่ว่าหลังจากที่ได้รับการโจมตีของจรวดหลายสิบลูกนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าเจ้าไทแรนท์รับรู้ได้ถึงภัยคุกคามต่อเขาที่ได้จากเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ ดังนั้นนาทีต่อจากนั้นเขาก็จับคอนกรีตที่ถูระเบิดจนแตกเป็นเสี่ยงๆขึ้นมาชิ้นหนึ่ง จากนั้นก็กวัดแกว่งขั้นมาอย่างรวดเร็วและรุนแรงแล้วทุบไปยังเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธที่บินต่ำลงมานั้นอย่างโหดเหี้ยม
หวือ!
แต่ยังมีความโชคดีอย่างหนึ่งคือคนที่ขับเฮลิคอปเตอร์ไม่ใช่คนอื่นคนไกลแต่เป็นตั้วลั่วนั้นเอง ความสามารถในการตอบสนองของตั้วลั่วนั้นดีมาก แทบจะในชั่วพริบตาเดียวที่เขาสังเกตเห็นไทแรนท์ทำสิ่งนั้นเขาก็ได้กดยิงระเบิดจรวดออกไปอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในขณะที่คอนกรีตชิ้นนั้นกำลังทุบลงมายังเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ ระเบิดจรวดลูกหนึ่งก็ได้ยิงพุ่งเข้าใส่ทันทีอีกครั้ง จากนั้นคอนกรีตนั้นก็ระเบิดแตกกระจายพร้อมกับเสียงระเบิดที่รุนแรงได้ดังขึ้นจนสามารถโจมตีใส่ร่างของเจ้าไทแรนท์ได้อย่างต่อเนื่อง
และในเวลาเดียวกันเฮลิคอปเตอน์ลำนั้นก็ได้ทิ้งบันไดเชือกลงมา เสียงอันรีบร้อนของหลิวซินก็ดังแผ่ขยายออกมาจากเครื่องขยายเสียงทันที “ฮ่องเต้ รีบจับบันไดเชือกไว้เร็ว กระสุนของพวกเราจะหมดแล้ว!”
“ได้!”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวซิน รูม่านตาของฮซางซางก็หดลงพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆทันที จากนั้นก็พุ่งเขาไปยังตำแหน่งของบันไดเชือกนั้น
เนื่องจากเป็นกังวลว่าบันไดเชือกจะไปเกี่ยวกับสิ่งกีดขวางของดาดฟ้าจนทำให้เกิดความผิดพลาด ดังนั้นตำแหน่งของบันไดเชือกนี้จึงไม่ได้อยู่บนดาดฟ้าแต่อย่างใดแต่มันกำลังกวัดแกว่งไปมาห่างจากริมขอบของดาดฟ้า 2-3 เมตร
ซึ่งพูดได้ว่าถ้าฮวางซางอยากหลุดพ้นจากสถานการณ์อันตราบแบบนี้ เขาก็ทำได้เพียงคือต้องกระโดดออกมาจากดาดฟ้าเหมือนกับนักแสดงในหนังฟอร์มยักษ์อย่างไรอย่างนั้น เพื่อจับบันไดเชือกนั้นไว้แต่ถ้าเขาเกิดจับพลาด เขาก็จะหล่นลงไปจากอาคารที่สูงถึง 18 ชั้น ถึงตอนนั้นต่อให้ฮวางซางจะมีร่างกายแข็งแรงเพียงใด แต่ถ้าตกลงไปก็คงจะมีโอกาสตายได้เช่นเดียวกัน
แต่เมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วนี้เป็นตัวเลือกเพียงอย่างเดียวแต่ยังดีที่สมรรถภาพทางกายในตอนนี้และระดับการตอบสนองของฮวางซางนั้นเร็วอยู่ เพียงแค่ต้องระมัดระวังเล็กน้อย ต่อให้ทำสิ่งนี้ก็น่าจะไม่ยากเท่าไหร่นัก
โฮกกกกก!
แต่ในขณะที่ฮวางซางกำลังพุ่งตรงไปทางริมขอบดาดฟ้านั้น ดูเหมือนเจ้าไทแรนท์เองก็ตระหนักได้ว่าเซรุ่มไวรัสวิวัฒนาการของมันกำลังจะถูกมนุษย์เหล่านั้นพรากจากไป ดังนั้นวินาทีต่อจากนั้นมันก็ได้ส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความโกรธเคือง ก่อนจะยกกรงเล็บขนาดใหญ่ขึ้นมาป้องกันด้านหน้าของมัน เป็นเวลาเดียวกับที่แสงสีฟ้าเล็กๆนั้นได้ปรากฏออกมาจากร่างกายของเจ้าไทแรนท์ จากนั้นก็ระเบิดจรวดนั้นทันทีแล้วพุ่งเข้าหาฮวางซาง
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
ภายใต้การปกคลุมของแสงสีฟ้านั้น พลังและความเร็วของเจ้าไทแรนท์ดูแหมือนจะเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว แม้กระทั่งผลกระทบจากการระบิดของจรวดลูกนี้ก็ไม่สามารถขัดขวางการเคลื่อนไหวของเจ้าไทแรนท์ไว้ได้ ถึงแม้ว่ามันจะอยู่ท่ามกลางการระเบิดที่รุนแรงและเปลวไฟที่ลุกโชนก็ตาม แต่เจ้าไทแรนท์ก็เข้าใกล้ฮวางซางเข้ามาเรื่อยๆ
แต่ในเวลาเดียวกันกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและทรหดบนร่างกายของเจ้าไทแรนท์กลับแห้งเหี่ยวอย่างรวดเร็วจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เห็นได้ชัดว่าพลังและความเร็วที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาเองโดยไม่มีสาเหตุ แต่มันต้องแลกเปลี่ยนกับรูปแบบของพลังชีวิตที่เกินขีดจำกัด
“แม่งเอ๊ย!”
เมื่อเห็นเจ้าไทแรนท์กำลังกันพลังการโจมตีของจรวด อีกทั้งยังไล่ตามเขามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ฮวางซางจึงเกิดความรูสึกเคร่งเครียดขึ้นมาในใจทันที
เขารู้ว่าเจ้าไทแรนท์นั้นแข็งแกร่งมาก แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเจ้านี้จะแข็งแกร่งมากถึงขนาด ยอมนำพลังชีวิตของตัวเองที่เกินขีจำกัดมาแลกกับพลังที่แข็งแกร่งมากขึ้น!
“ระวัง!”
เจ้าไทแรนท์นั้นใกล้ฮวางซางเข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั้งพวกเขาทั้งสองห่างกันเพียงไม่ถึง 10 เมตรด้วยซ้ำ วินาทีนั้นเองเสียงของหลิวซินที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์จึงดังขึ้นมาอย่างฉับพลัน
หวือหวือหวือหวือ!
จากนั้น ระเบิดจรวดสิบลูกสุดท้ายก็ได้ถูกตั้วลั่วยิงออกมาอีกครั้ง เพียงแค่ว่าเป้าหมายในการโจมตีครั้งนี้ของระเบิดจรวดกลับไปไม่ใช่ที่ตัวไทแรนท์แต่เป็นดาดฟ้าด้านหน้าของเจ้าไทแรน์ต่างหาก!
บึ้มบึ้มบึ้มบึ้มบึ้ม!
บางทีระเบิดจรวดที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 57mm อาจจะไม่สามารถสร้างภัยคุกคามให้กับเจ้าไทแรนท์ได้ แต่การยิงออกไปสิบลูกนี้กลับสามารถทำลายพื้นคอนกรีตแผ่นใหญ่ได้มากพอ หลังจากที่เสียงระเบิดอันรุนแรงถึงขีดสุดได้ดังขึ้นดาดฟ้าระหว่างเจ้าไทแรนท์กับฮวางซางกลับระเบิดจนแตกกระจายก็เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ขึ้น
เนื่องจากการระเบิดก่อนหน้านั้นได้ทำลายโครงสร้างของดาดฟ้าแห่งนี้จนเกิดความเสียหายอย่างหนักอยู่แล้ว ดังนั้นหลุมขนาดใหญ่ในพื้นที่นี้ก็ได้ก่อเกิดปฏิกิริยาขึ้นราวกับลูกโซ่ ส่งผลให้ดาดฟ้าทั้งหลังเริ่มยุบตัวลงไป
แต่อีกด้านหนึ่ง เนื่องจากตำแหน่งในการระเบิดของระเบิดจรวดเหล่านี้ใกล้กับฮวางซางมาก ดังนั้นฮวางซางเองก็ยากที่จะหลบหลีกแรงกระแทกนั้นได้ เปลวไฟที่ลุกโชนและเศษหินส่วนหนึ่งรวมไปเศษกระสุนก็ได้กวาดพามาพร้อมกับแรงระเบิดอันน่ากลัว พุ่งเข้าใส่ตัวของฮวางซางอย่างหนักหน่วง
ผละ!
พริบตาเดียว แผ่นหลังของฮวางซางก็สัมผัสได้ถึงแรงกระแทกอย่างรุนแรงที่คล้ายกับมีคนขับรถยนต์ชนและก็ยังเหมือนกับถูกคนใช้เตารีดร้อนๆทาบใส่เขาอย่างไรอย่างนั้น ความเจ็บปวดที่รุนแรง อาการปวดและอาการแสบร้อนได้เริ่มแผ่ขยายออกมา ทำให้ภาพเบื้องหน้าในดวงตาของเขาเริ่มเป็นสีดำพร้อมกับเลือดสดๆได้ทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“ชีวิต!”
แต่ฮวางซางรับรู้ได้อย่างชัดเจนภายในใจว่าตอนนี้เป็นโอกาสสุดท้ายของเขาแล้ว ถ้าเขายังลังเลอยู่เขาก็คงจะถูกฝังอยู่ในซากปรักหักพังกับเจ้าไทแรนท์ตัวนนี้ ถึงตอนนั้นยังไงเขาก็ต้องตายแน่ๆ!
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ วินาทีต่อจากนั้นฮวางซางก็ปล่อยพลังเหนือมนุษย์ทั้งหมดของตัวเองออกมา เมื่อพลัง “ชีวิต”ได้ไหลเวียนอยู่ภายในร่างกายส่งผลให้ความเจ็บปวดที่แผ่ขยายไปทั่วร่างกายของเขาได้ทุเลาลง อีกทั้งกำลังที่เดิมทีแทบจะหมดลงไปแล้วก็ได้ฟื้นคืนกลับมาไม่น้อย
หลังจากนั้นก็ยืมพลังขับเคลื่อนของแรงระเบิดอันนั้นกลัวนั้น รวมไปถึงพลังบางส่วนที่ได้รับจากพลัง “ชีวิต” ฮวางซางกัดฟันกรอด แล้วยกขาขวากระแทกไปบนพื้นดาดฟ้าที่ทรุดตัวลงไป ก่อนจะกระโดดพุ่งพรวดออกไปข้างหน้าตรงไปยังริมขอบของดาดฟ้าอย่างรวดเร็ว!
แต่ปัญหาคือเนื่องจากดาดฟ้าทั้งหลังนั้นได้ทรุดตัวลง ดังนั้นเพื่อหลักเลี่ยงไม่ให้ตัวเองตกลงไปรวมเป็นซากปรักหักพังนั้น ฮวางซางจึงกระโดดไปทางริมขอบดาดฟ้าที่อยู่ห่างออกไป 5-6 เมตร แล้วไหนจะบันไดเชือกที่อยู่ห่างออกไปอีก 3-4 เมตร ถึงแม้ว่าฮวางซางจะใช้ประโยชน์จากพลังการระเบิดนั้นกระโดดออกไป แต่เมื่อพลังในการก้าวกระโดดของเขานั้นกำลังจากหมดไปและกำลังเริ่มร่วงหล่นลงไปนั้น บันไดเชือกและเขาอยู่ห่างเพียงแค่ 1-2 เมตรเท่านั้น!
แต่ 1-2 เมตรนี้ ก็เป็นระยะห่างที่เป็นตายเท่ากัน!
“จบแล้ว!”
ในขณะมองไปทางบันไดเชือกที่อยู่ห่างเพียงแค่ 1-2 เมตรเท่านั้น แววตาของฮวางซางก็ฉายแววสิ้นหวังออกมาทันใด
“จับไว้!”
แต่ในตอนนั้นเอง เสียงของตั้วลั่วกลับดังแผ่ขยายขั้นมาจากเฮลิคอปเตอร์ลำนั้น จากนั้นก็เพิ่มความเร็วในการขับเคลื่อนเฮลิคอปเตอร์ไปด้านหน้า นำพาบันไดเชือกทิ้งไปยังตำแหน่งของฮวางซาง
“จับไว้เดี๋ยวนี้!”
ในช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตายนี้การตอบสนองของฮวางซางนั้นไวต่อความรู้สึกมาก ชั่วพริบตาเดียวที่บันไดเชือกนั้นทิ้งลงมา มือซ้ายของเขาก็ยื่นออกไปราวกับสายฟ้าแล้วจับบันไดเชือกนั้นไว้แน่น
และในเวลาเดียวกัน เฮลิคอปเตอร์ก็เริ่มขับเคลื่อนขึ้นไปด้วยความเร็ว ในที่สุดเสียงระเบิดของซากปรักหักพังนั้นก็ดึงออกมาขยายแผ่ไปบนท้องฟ้า!
ส่วนเจ้าไทแรนท์ที่ทั้งน่ากลัวและทั้งดุร้ายตัวนั้น ได้ถูกฝังอยู่ในซากปรักหักพังหนาๆของดาดฟ้าที่ทรุดตัวลงมา
วินาทีหลังจากนั้น......
บึ้ม!
หลังจากที่เสียงระเบิดอันรุนแรงได้ดังขึ้น หินขนาดใหญ่และซากปรักหักพังแผ่นใหญ่ก็ได้กระจัดกระจายไปทั่วทุกทิศทางราวกับระเบิด เป็นเวลาเดียวกับที่เจ้าไทแรนท์ที่ดูเหมือนกับถูกย่อตัวลง 1 ใน 4 ส่วน ร่างกายขนาดใหญ่ของมันกลับยืนขึ้นในซากปรักหักพังนี้
โฮกกกกก!
ในขณะที่มองไปทางเฮลิคอปเตอร์ที่บินจากไป ไทแรนท์ก็อดที่จะส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความความโกรธเคืองอย่างบ้าคลั่งไม่ได้
แต่ในวินาทีต่อจากนั้นเจ้าไทแรนท์กลับรับรู้ได้ถึงบางสิ่งบางอย่างจึงได้หยุดคำรามไปฉับพลัน จากนั้นก็หันหลังกลับไปด้วยความรวดเร็ว ดวงตาที่แดงฉานทั้งสองข้างได้จ้องมองไปทางเงาสีดำไกลๆ ความหวาดกลัวลึกๆได้ปรากฏขึ้นมาในดวงตาของมัน รวมไปถึงความน่ากลัวที่อธิบายไม่ได้ด้วย
สถานที่ที่เจ้าไทแรนท์จ้องมองไปนั้นคือทางเดินระหว่างหอพักสองหลัง ในนั้นนอกจากท่อระบายน้ำที่มีฝาปิดแล้วก็ไม่มีสิ่งอื่นใด แต่ในเวลานี้เจ้าไทแรนท์กลับรู้สึกกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่ากลัวบางอย่าง จนแทบไม่อาจเคลื่อนไหวได้ กล้ามเนื้อทั้งตัวของมันก็ปูดขึ้นมาเห็นได้ชัดว่ามันกำลังตึงเครียดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
บึ้ม!
ทันใดนั้นฝาท่อนั้นก็ระเบิดขึ้น จากนั้นบางสิ่งบางอย่างที่แปลกประหลาด ดูคล้ายกับวุ่นนุ่มนิ่มมันๆ ซึ่งมันกลับหล่อหลอมขึ้นมาจากเลือดเนื้อ ในนั้นยังสามารถเห็นลักษณะที่คล้ายหนวดที่เต็มไปด้วยกระดูกซากศพเป็นจำนวนมากได้พุ่งออกมาจากฝาท่อนั้น จากนั้นก็เคลื่อนตัวมาพันบนขาซ้ายของเจ้าไทแรนท์อย่ารวดเร็วแล้วกระชากมันไปอย่างรุนแรง!
บึ้ม!
นาทีต่อจากนั้นภาพที่น่าเหลือเชื่อก็เกิดขึ้น!
ภายใต้การกระชากของหนวดนั้น เจ้าไทแรนท์ที่มีชื่อเสียงด้านพลังมหาศาลก็ถูกเจ้านั้นกระชากจนล้มลงไป จากนั้นร่างกายขนาดใหญ่ก็ถูกหนวดเส้นนั้นดึงเขาไปในท้อระบายน้ำนั้น สุดท้ายเสียงระเบิดอันรุนแรงก็ดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงแตกหักในท่อระบายนั้นก่อนจะมลายหายไปในท่อระบายนั้น
โฮกกกกก!
จากนั้นเจ้าไทแรนท์ก็ได้ส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความหวาดกลัวและโกรธเคืองได้ดังแผ่ขยายขึ้นมาจากท่อระบายที่อยู่ลึกลงไป
ต่อมาไม่นานเสียงคำรามอันรุนแรงกลับเงียบไปในฉับพลันแล้วแทนด้วยเสียงของความเงียบแห่งความตาย!