GED : 16 ผลจิตวิญญาณอมตะ
โดยเฉพาะสายตาคู่นั้น.. ดูเฉียบแหลม เหมือนมีดที่พร้อมเฉือนร่างของอีกฝ่าย.. กลิ่นอายรอบตัวของเขาดูแข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่เท่าชุนหลิงเหยีย
“ซุ้น ลำดับที่สอง ทำไมเจ้าจึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ..?" เฟิงซุ่นตบบ่าชายหนุ่มในชุดคลุมสีน้ำเงิน
เฟิงหวูโตขึ้นในเมืองหลวงแต่นางก็ออกมาอาศัยอยู่นอกเมืองเป็นเวลาตั้งห้าปี.. ซึ่งในตอนที่นางจากมา พวกเขามีอายุราว ๆ สิบปี ดังนั้นเฟิงหวูจึงจำหน้าผู้มาเยือนได้ในทันที
เขาคือซุ้น อี้ ลูกชายลำดับที่สองหรือลูกชายคนรองของตระกูลซุ้นและยังเป็นเพื่อนสมัยเด็กของชุนหลิงเหยีย ชายผู้มีใบหน้านิ่งตั้งแต่วัยเยาว์ มีเพียงแต่ความถือตัวของเขาเท่านั้นที่เพิ่มขึ้นมาตามอายุ
ซุ้น อี้มองเฟิงหวูอย่างสำรวจเพียงเสี้ยววินาทีด้วยสายตาอันหลักแหลมของเขา ก่อนจะขมวดคิ้วแล้วถาม "นางเป็นใคร?"
"นางเป็นผู้หญิงที่ข้าเพิ่งจะช่วย ว่าแต่ว่า..เจ้าชื่ออะไรนะ? ส่วนเจ้านี่คือ-" เฟิงซุ่นพูดด้วยท่าทียิ้มแย้มในขณะที่ซุ้น อี้นั้นแสดงท่าทีตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
"ข้าชื่อ เฟิง เซี่ยวอู๋-" เฟิงหวูแนะนำตัวได้เพียงแค่นั้น
ซุ้น อี้ก็ยกมือขึ้นมาหาด้วยน้ำเสียงที่ต่างจากตอนพูดกับเฟิง ซุ่น "ข้าไม่มีเวลามาสนใจว่าเจ้าเป็นใครหรอก ถึงเวลาที่เราต้องไปแล้ว"
ซุ้น อี้ยังคงเป็นพวกไม่ไว้หน้าใครเหมือนดังที่นางพอจะจำเรื่องของเขาได้ เฟิงหวูแสดงอาการตกใจเล็กน้อย
เฟิงซุ่นจ้องมองไปที่ซุ้น อี้ก่อนจะถอนหายใจแล้วจึงจับมือของเฟิงหวู "ชายคนนี้เป็นพวกใจร้อนเหมือนคนแก่นั่นแหละ ..เซี่ยวอู๋ เจ้ามากับพวกข้าเถอะ"
ซุ้น อี้เดินใกล้เข้ามาอีกสองก้าว เขามองมาด้วยใบหน้านิ่วคิ้วขมวด สายตาเฉียบคมของเขามองเฟิงหวูอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก
เฟิงหวูรู้ทันทีเมื่อเห็นนัยน์ตาของซุ้น อี้ ซึ่งเขากำลังบอกนางให้รีบไปให้พ้น
เฟิงหวูถอนหายใจ...ทำอย่างกับว่าข้าอยากอยู่กับพวกเจ้าอย่างนั้นแหละ! ถ้าเฟิงซุ่นไม่ขวางนาง นางก็คงหนีไปด้วยตัวเอง
เมื่อคิดเช่นนั้น เฟิงหวูรีบซ้อนมือแล้วทำท่าเคารพเฟิงซุ่น "พี่เฟิง ภูผาย่อมมิแปรเปลี่ยนและสายน้ำย่อมมิหยุดไหล.. ก็เหมือนกับความสัมพันธ์ระหว่างเรา เมื่อมีการพบเจอข้าก็ต้องจากลาท่านเช่นกัน และเราจะได้พบกันอีกเมื่อเวลานั้นมาถึง.."
เฟิงหวูหมุนตัวไปอีกทิศ แล้วเดินออกมา
ทว่าเฟิงซุ่นคว้าเอวของนางไว้ "พวกเราอยู่ในส่วนลึกของป่าหิมะน้ำแข็ง เจ้าไม่มีทางรอดออกไปได้แน่ เจ้าไม่มีพลังวิญญาณใด ๆ เลยแม้แต่นิดเดียว.. ดังนั้นเจ้าจะไปไหนไม่ได้ เจ้าต้องอยู่กับพวกข้า!"
ซุ้น อี้ไม่สนใจคำพูดของเฟิงซุ่นอีกต่อไป เขาจ้องเฟิงหวูแล้วถามด้วยสายตาเย็นชา "เจ้าอยากจะออกไปเองหรืออยากให้ข้าเป็นคนทำให้เจ้าออกไป?"
ด้วยคำพูดนั้น เฟิงหวูรู้ว่าเขาเตรียมลงมือกำจัดนางแน่
พลังของเจ้าคงสูงกว่าข้ามากในตอนนี้! เฟิงหวูยิ้ม "ข้าลาล่ะ!"
"ซุ้น อี้!" เฟิงซุ่นตะโกน ดวงตาของเขาแสดงถึงความขุ่นเคือง "ทำไมเจ้าเลือดเย็นเช่นนี้!? เซี่ยวอู๋ไม่ได้มีพิษมีภัยแต่อย่างใด นางเป็นแค่ผู้หญิงโชคร้ายที่ข้าได้เจอในวันนี้ นางโดนลูกหลงระหว่างการต่อสู้ของชุนหลิงเหยีย แล้วยังถูกอินทรีย์เมฆาเพลิงยักษ์พาตัวไป ทั้งข้ายังทำให้นางตกอยู่ในอันตรายท่ามกลางเหล็กในของต่อโลหิตเขายักษ์! และในที่สุดนางก็ปลอดภัยเสียที แต่เจ้ากลับไล่นางไปให้พ้นงั้นหรือ?!"
"แล้วทำไมข้าต้องสนใจนางด้วยเล่า ?"ซุ้นมองเฟิงซุ่นด้วยสายตาที่เย็นชาราวกับจะมีน้ำแข็งร่วงลงมา "เจ้าจำไม่ได้รึไงว่านายท่านชุนหลิงเยียเป็นอย่างไรเมื่อเขาอารมณ์ไม่ดี?"
ต่อหน้าคนแปลกหน้า องค์รัชทายาทคือคนที่ไม่เป็นมิตรมากที่สุดบนโลกนี้ เมื่อไม่สบอารมณ์ เขาสามารถทำให้ทุกคนกลัวได้โดยไม่ต้องส่งเสียงใด อย่างไรก็ตามเขาขีดเส้นชัดเจนระหว่างเพื่อนของตนกับคนแปลกหน้า!
เฟิงซุ่นเม้นปากและทำท่าทีเศร้าสร้อย
ซุ้น อี้จึงเสริมต่อ "ยิ่งกว่านั้น พวกเรามีภารกิจที่สำคัญที่ต้องทำที่นี้ จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ ถ้านางเป็นสายลับ?"
เฟิงซุ่นเกือบจะหลุดขำ "นี่เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าหญิงที่ไม่มีทางสู้เช่นนางจะมาขโมยผลจิตวิญญาณอมตะ ของพวกเรา?!”
“เจ้าเฟิง ลำดับสาม!!"ซุ้น อี้โมโหขึ้นมาในตอนนี้!เหตุใดเฟิงซุ่นจึงเปิดปากพูดเรื่องผลจิตวิญญาณอมตะ อย่างง่ายดาย?! เขาคิดอะไรอยู่กันแน่?!
จบตอน