GED : 18 ร่วมกลุ่ม
เฟิงซุ่นดีใจจนเกือบจะกระโดดโลดเต้น "ท่านชุน! หมายความว่าข้าพานางไปด้วยได้ใช่ไหม? จริงรึเนี่ย เหลือเชื่อไปเลย!!"
“ก็แล้วแต่เจ้า รึจะไม่พาไป?"" ชุนหลิงเหยียตอบอย่างตรงไปตรงมา
ซุ้น อี้ที่เคยเมินเฉยกลับเบิกตากว้าง..!
ไม่มีทางจะเกิดเรื่องแบบนี้สิ!
ชุนหลิงเหยียจะเห็นด้วยได้อย่างไร ? นี่ไม่ใช่วิถีของชุนหลิงเหยียเลยด้วยซ้ำ ซุ้น อี้มองชุนหลิงเหยียอย่างสงสัย
"แน่นอน ข้าจะพานางไปด้วย! ข้าจะดูแลนางเอง!" เฟิงซุ่นตอบด้วยใบหน้าพึงพอใจ "ข้าคือเฟิงลำดับที่สามและนางคือเฟิงลำดับที่ห้า แล้วข้าจะไม่ดูแลนางได้อย่าง?"
ชุนหลิงเหยียไม่สนใจท่าทีของเฟิงซุ่นอีกต่อไป เขาไปมองที่ซุุ้น อี้แทน
ซุ้น อี้เข้าใจทันทีโดยที่ชุนหลิงเหยียไม่ทันเอ่ยปาก "ข้าตรวจสอบดูแล้ว ผลจิตวิญญาณอมตะ อยู่ที่หุบเขาน้ำแข็งทมิฬแต่พวกเราจำเป็นต้องสำรวจอีกเพื่อหาอาณาเขตที่แม่นยำ"
หัวใจของเฟิงหวูเต้นระสำ
หุบเขาน้ำแข็งทมิฬ... ใช่แล้ว! นั่นคือที่ที่ผลจิตวิญญาณอมตะอยู่!
ผลจิตวิญญาณอมตะ..ผลจิตวิญญาณอมตะของนาง! เพียงเท่านี้นางก็สามารถกลับมาฝึกฝนวิชา และนางจะไม่ต้องเป็นคนสามัญชนแบบนี้อีกต่อไป!
ในมหาทวีปแห่งนี้พลังการต่อสู้คือสิ่งที่มีค่าเหนือสิ่งอื่นใด ความสามารถคือทุก ๆ อย่างของฝู้ฝึกตน เฟิงหวูได้แต่กำหมัดแน่นเมื่อคิดถึงเรื่องนั้น!
ชุนหลิงเหยี่ยพยักหน้าเช่นเดิม ก่อนจะเดินนำกลุ่มไป
เพื่อไปยังหุบเขาน้ำแข็งทมิฬ พวกเขาต้องปีนข้ามเนินแห่งเปลวเพลิงก่อน ทั้งหมดเดินทางไปยังที่หมายแรกด้วยความรวดเร็ว
ลำธาร พุ่มไม้ ยอดเขา.. ไม่มีอะไรขวางพวกเขาให้ล่าช้าได้
เฟิงซุ่นจะคอยดูแลเฟิงหวูเสมอและถามย้ำตลอดทาง "นี่..เจ้ายังไหวไหม?"
เฟิงหวูคือคนเดียวในกลุ่มที่ไม่มีพลังวิญญาณ ดังนั้นการปีนเขาโดยมีพลังกายเพียงอย่างเดียวนั้น ทำให้นางต้องลำบากมากกว่าใครเพื่อน
เฟิงหวูมองแผ่นหลังของชุนหลิงเหยียและซุ้น อี้ นางได้แต่ฝืนยิ้ม "ข้ายังไหว ข้าจะเป็นอะไรได้ล่ะ ข้ายังมีเรี่ยวแรงอยู่!"
เมื่อเห็นหน้าตาที่ซีดเซียว ทว่าน้ำเสียงของนางยังเต็มไปด้วยความกล้าและการมองโลกในแง่ดี นั่นก็เพื่อไม่ให้ตัวเองกลายเป็นตัวถ่วง เฟิงซุ่นยิ่งรู้สึกสงสารนาง "เจ้าอย่างขี่หลังข้าไหม?"
ไม่ทันที่เฟิงหวูจะพูดอะไร ซุ้นอี้ก็หันมาในทันที
"ถ้าเจ้าไม่ไหว เจ้าก็ออกไปซะ เจ้ากำลังเป็นตัวถ่วงแก่พวกเรา" ซุ้น อี้พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาขณะจ้องหน้าเฟิงหวู "ยิ่งเดินลึกเข้าไป พวกเราต้องพบเจอสัตว์วิเศษที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ แล้วตอนนั้นเจ้าจะไม่มีทางกลับออกไปได้อีก แม้ว่าเจ้าอยากจะออกไปมากแค่ไหนก็ตาม!"
เฟิงซุ้นมองซุ้น อี้ " ซุ้น ลำดับที่สอง ข้ารู้ว่าเจ้าก็พูดจริงไม่มีความเท็จใด ๆ ผสมแต่ท่านช่วยมีเมตตาอีกหน่อยไม่ได้หรือ?"
เฟิงหวูไม่พูดอะไร
ซุ้นอี้ถอนหายใจก่อนจะรีบเดินตามชุนหลิงเหยียที่เดินนำขึ้นไปเรื่อย ๆ
เมื่อเห็นเฟิงหวูก้มหน้าต่ำลง เฟินซุ่นคิดว่านางคงเจ็บปวดจากคำพูดของซุ้น อี้ เขาลูบหัวนางอย่างอ่อนโยน "อย่าคิดมากเลย เขาเป็นคนเช่นนั้นแหละ เมินเขาซะ เพราะข้าอยู่ที่นี้กับเจ้า เข้าใจไหม? ขึ้นมาบนหลังข้าสิ"
เฟิงซุ่นมองเฟิงหวูอย่างสงสารเพราะนางต้องกับเรื่องเลวร้ายมากมายมาแล้วทั้งวัน จนเฟิงซุ่นอดที่จะดูแลนางไม่ได้
กลับกันเฟิงหวูไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่ซุ้น อี้พูดเลยสักนิด
แม้เขาจะเย็นชาและปากร้ายแต่ตราบเท่าที่เขาสามารถหาผลจิตวิญญาณอมตะมาให้นางจนฟื้นวิชากลับมาได้ นางก็จะไม่ได้ต้องพบเจอกับเรื่องเลวร้ายอีกต่อไป
เมื่อคิดอย่างนั้น เฟิงหวูได้แต่มองเฟิงซุ่นด้วยความรู้สึกผิด
ชายคนนี้ดูแลนางเป็นอย่างดีแต่เฟิงหวูกลับใช้เขาเพื่อเข้าร่วมการเดินทาง นางได้แต่หวังว่าแผนการของนางจะไม่ทำร้ายจิตใจของเฟิงซุ่นผู้มีจิตใจบริสุทธิ์เท่าใดนัก..
เฟิงหวูส่ายหน้าก่อนจะตอบ "เจ้าไม่ต้องใจดีกับข้าถึงเพียงนี้หรอก.."
"บ้าน่า ถ้าไม่ใจดีกับเจ้าแล้วจะให้ข้าใจดีกับใครล่ะ? ซุ้นลำดับที่สองเหรอ? ถ้าให้พูด วันนี้เจ้าก็เจอเรื่องร้าย ๆ มาทั้งวันแล้วไม่ใช่หรือ " เฟิงซุ่นลูบหัวเฟิงหวูอีกครั้ง
ทั้งกลุ่มไม่ได้หยุดเดินทางเพื่อให้เฟิงหวูพักเลย จนกระทั่งพระจันทร์ขึ้น พวกเขาจึงตั้งอาณาเขตค่ายนอน
สายตาของเฟิงหวูเป็นประกายเมื่อนางเดินเข้าไปบริเวณที่ตั้งค่าย….
จบตอน