px

เรื่อง : กระทะเหล็กกู้โลก
บทที่ 3 การผลิตขึ้นเองเสร็จสมบูรณ์


รอให้พี่ชายกุ้ยออกไปก่อน ซ่งเจิงจึงเอากระทะเหล็กวางไว้ข้างๆเตา แล้วจึงเดินสำรวจรอบๆห้องครัวก่อน

ตั้งแต่หลังจากวันสิ้นโลก ซอมบี้และสัตว์ชีวะออกอาละวาด ผู้รอดชีวิตทั้งหลายก็มักจะหนีไปทั่วสารทิศ ในกระบวนการหลบหนี โรงแรมหลายแห่ง ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารมักจะถูกเป็นตัวเลือกในการปล้น สิ่งอำนวยความสะดวกมากมายต่างถูกทำลายจนพัง

 

แม้แต่ตอนนี้เอง ภายใต้คำสั่งของกองทัพและมนุษย์ชาติพันธุ์ใหม่ มนุษย์ได้สร้างฐานเมืองขึ้นมา แต่ทรัพยากรส่วนใหญ่ล้วนรวมอยู่ใจกลางเมืองของแต่ละฐานเมือง เมืองลิตเติลร็อคเองก็เช่นกัน เหมือนกับซ่งเจิงและหัวหน้าเฉิน แหล่งที่อยู่ของพวกเขาอยู่รอบนอกโรงแรมพวกนั้น นอกจากทุกๆเดือนจะนับจำนวนคนเพื่อจัดเตรียมอาหาร เกือบจะปล่อยให้พวกเขาอยู่ในสภาวะที่เกิดขึ้นและดับสูญเอง

 

แม้ว่าทุกๆเดือนจะมีการแบ่งวัตถุดิบอาหาร แต่ก็เป็นจำนวนที่น้อยมากๆ

แถมยังมักจะเป็นอาหารกระป๋องและบิสกิต ค่าตอบแทนของนักรบที่ออกไปฆ่าซอมบี้ข้างนอกก็จะดีกว่าอยู่นิดหน่อย ทุกๆวันยังสามารถกินอิ่มท้องได้ แต่คนที่ไม่ได้เป็นนักรบต่อสู้ หนึ่งวันสามารถกินได้แค่เพียงสองมื้อเท่านั้น แถมยังสามารถรักษาความอิ่มท้องได้เพียงครึ่งเดียว

 

ก็เหมือนกับตอนนี้ ผู้รอดชีวิตทั้งโรงแรมสองร้อยกว่าคน ทุกคนจะได้รับการแบ่งข้าว2มื้อต่อวัน นอกจากนั้นทุกคนจะได้ผักกาดดองกระป๋องคนละครึ่งนึง

แม้กระทั่งพวกเนื้อหรือผัก ยังมีพวกพาสต้าชั้นดี ยิ่งไม่ต้องคิดเลย พวกนั้นล้วนเป็นของคนชั้นสูงที่อยู่รอบในของเมืองลิตเติลร็อค ถึงจะสามารถเพลิดเพลินกับอาหารหรูหรานั้นได้

 

อย่างน้อยที่สุดในความทรงจำของซ่งเจิงคนก่อนหน้านี้ ได้กินผักก็เมื่อสี่ห้าเดือนก่อน ครั้งนั้นทีมสำรวจออกไปล่าแล้วฆ่าซอมบี้แปลงร่างชั้นหนึ่งมาได้ ใช้ร่างซอมบี้ทั้งร่างแลกเปลี่ยนอาหารจากในเมืองมา

ครั้งนี้ไม่รู้ว่าไปพบเจอความโชคดีอะไรมา สินค้าและวัตถุดิบที่ขนกลับมาคาดไม่ถึงว่าข้างในจะมีผักกาดขาวใหญ่อยู่สองต้น หมูสามชั้นอยู่หนึ่งแถว ในช่วงวาระสุดท้ายของโลกนั้นเป็นรสชาติหอมหวานที่ยากที่จะได้ลิ้มรสอีกแล้ว

 

ซ่งเจิงคิดถึงตอนที่อยู่ในโรงเรียนของโลกที่แล้ว ที่ตัวเองกินบ่อยที่สุดคงเป็นแพนเค้กชิ้นใหญ่ที่ขโมยมา หนึ่งชิ้นหนักถึงครึ่งกิโล ก่อนที่จะเอาออกจากเตาโรยด้วยงา พริกหยวก หอม…….

คิดแล้วก็น้ำลายไหล

แต่ตอนนี้ แม้แต่บะหมี่ก็ยังไม่มี ต่อให้ซ่งเจิงอยากจะทำแพนเค้กสักชิ้นตอนนี้ ก็เป็นเรื่องยากที่จะสำเร็จเพราะขาดปัจจัยพวกวัตถุดิบ

 

ขณะที่กำลังคิด ซ่งเจิงก็รูดแขนเสื้อขึ้น มองไปที่วัตถุดิบถึงแม้ว่าจะมีอยู่จำนวนน้อย แต่ต้มน้ำซุปที่มีทั้งผักและเนื้อออกมาสักหม้อหนึ่ง เรื่องนี้สำหรับเขาแล้วไม่ใช่เรื่องยากอะไร

 วาระสุดท้ายของโลกก็ล่วงเลยมาหลายปี น้ำประปาไม่มีมาตั้งนานแล้ว ก๊อกน้ำก็กลายเป็นของจัดแสดงเท่านั้น ดีที่แม่น้ำที่อยู่รอบนอกของเมืองลิตเติลร็อคยังนับว่าสะอาดอยู่ ยังไม่มีสารปนเปื้อนมากเกินไปจากเชื้อไวรัส ทุกๆโรงแรมที่อยู่รอบนอกก็ยังมีเสบียงสำรองไว้

 

ซ่งเจิงหยิบชามหนึ่งใบขึ้นมา นำผักกาดขาวมาล้างน้ำให้สะอาด แล้ววางผักไว้บนเขียงหลังจากนั้นก็เริ่มสับ

ในขณะที่กำลังสับ ในใจก็คิดถึงเมื่อก่อนตอนที่กินโรตีใส่ไข่ ก็อดไม่ได้ที่น้ำลายเกือบจะไหลออกมา

ใช้มีดหั่นเนื้อหมูออกเป็นเส้นเล็กๆอย่างคล่องแคล่ว เมื่อตอนที่ซ่งเจิงคว้ามือไปหยิบกระทะเหล็กขึ้นมา ก็ตกตะลึงขึ้นทันใด

 

จ้องมองกระทะแล้วขยี้ลูกตา

เพียงเวลาไม่กี่นาที คาดไม่ถึงว่าจะมีแพนเค้กขนาดใหญ่ร้อนๆอยู่ในกระทะ

แผ่นแพนเค้กอบมาเหลืองกรอบ โรยด้วยงาและหอมบางๆอีกชั้นหนึ่ง ได้กลิ่นหอมๆของไข่

 “นี่มันเรื่องอะไรกัน? หรือว่าสมองของฉันคิดมากเกินไปจนเกิดภาพลวงตา?ซ่งเจิงขยี้ตาอีกที หยิกที่หลังมือตัวเองอย่างแรง เจ็บมาก!

 

คาดไม่ถึงว่านี้จะเป็นเรื่องจริง!

กระทะที่ว่างเปล่าปรากฏแพนเค้กหนึ่งชิ้นขึ้นมา  แถมยังดูๆแล้ว เกรงว่าชิ้นนี้น้ำหนักถึงหนึ่งจิน! เหมือนกับที่เขาคิดไว้ทุกอย่าง!

อีกทั้งข้างๆกระทะเหล็กก็ปรากฏชามลายครามหนาๆอีกหนึ่งใบ ข้างในมีน้ำใสบริสุทธิ์

ในปีนี้ บนโลกนี้ไม่มีแนวคิดเรื่องน้ำบริสุทธิ์อีกแล้ว น้ำในแม่น้ำหรือน้ำบาดาลล้วนได้รับสารปนเปื้อนจากมลพิษไม่มากก็น้อย เพียงแต่ความแตกต่างระหว่างระดับมากกับน้อย ดื่มในช่วงระยะสั้นๆไม่เป็นอะไร แต่ถ้าระยะเวลายาวนานไป สารพิษก็จะสะสมขึ้นไป จนเกิดเจ็บป่วยขึ้นมานี่ก็ไม่แน่ใจแล้ว!

 

ว่ากันว่าฐานเมืองรอบนอกของเมืองลิตเติลร็อค เคยมีคนดื่มน้ำไม่สะอาด ไม่รู้ว่านานแค่ไหนถึงจะเปลี่ยนเป็นซอมบี้ ถูกเจ้าถิ่นอย่างพวกมนุษย์พันธุ์ใหม่จัดการไปแล้ว!

แหล่งทรัพยากรน้ำรอบนอกของเมืองลิตเติลร็อคถึงแม้ว่ายังไม่มีสารพิษเจือปนมากนัก แต่ผู้รอดชีวิตที่ดื่มน้ำพวกนี้ไป ในใจก็ยังคงกังวลอยู่ เพียงแค่ไม่มีใครพูดออกมาเท่านั้น

เมื่อซ่งเจิงเข้ามาอยู่ในร่างปัจจุบันนี้ ยังรักษาความทรงจำก่อนหน้านี้ได้ ดังนั้นจึงรู้จุดนี้อย่างชัดเจน

 

หรือว่า แพนเค้กชิ้นนี้และน้ำสะอาด ล้วนสร้างมาจากกระทะเหล็กใบนี้?!

ซ่งเจิงมองกระทะเหล็กอย่างตาค้าง ในหัวมีความคิดหนึ่งอย่างออกมา เดินเข้าไปสัมผัสที่กระทะเหล็ก ก็ได้ยินเสียงเสียงหนึ่ง โผล่ขึ้นมาข้างในหัว : ติง! น้ำยาวิวัฒนาการระดับต่ำสุดถูกนำไปใช้เรียบร้อยแล้ว ผลิตด้วยตนเองเสร็จสมบูรณ์ ตามความต้องการของเจ้าของ ผลิตแพนเค้กหนึ่งชิ้น! น้ำสะอาดอีกหนึ่งถ้วย!”

เสียงนั้นดังขึ้นมาหนึ่งรอบแล้วก็หายไป แม้ว่าในหัวของซ่งเจิงจะตั้งคำถามข้อสงสัยขึ้นมา แต่ก็ไม่มีการตอบรับ

 

แต่ขณะที่ฟังความหมายของประโยคเมื่อครู่นี้ ในใจของซ่งเจิงก็ค่อยๆเข้าใจขึ้นมา ในความรู้สึกหรือว่ากระทะเหล็กจะผลิตขึ้นมาเอง? อีกทั้งขณะที่ฟังความหมาย..ยังสามารถผลิตอาหารออกมาตามความต้องการของตนเองได้?

เมื่อครู่เขาเพียงแค่คิดถึงแพนเค้กที่กินเมื่อครั้งอยู่ในโรงเรียนสมัยก่อน ถ้าเป็นเช่นนั้น กระเหล็กใบใหญ่นี้ยังสามารถเข้าถึงความคิดที่อยู่ในใจของเขาได้อีกด้วย?

 

ถึงแม้ว่าจะมีบางจุดที่ยังไม่เข้าใจ แต่ซ่งเจิงได้กลิ่นหอมๆจากงาและต้นหอม เสียงท้องร้องที่ดังโครกครากมาตั้งนานแล้ว จึงรีบเดินเข้าไปหยิบแพนเค้กที่อยู่ในกระทะออกมา ในขณะที่กำลังอยากจะเอามาเก็บไว้ ก็คิดขึ้นมาได้ ฉีกแพนเค้กออกอีกครึ่งหนึ่งแล้วแพนเค้กที่เหลือก็เก็บไว้ข้างในเสื้อของตน

หลังจากนั้นก็รีบกินแพนเค้กอย่างรวดเร็วจนหมด ก็ดื่มน้ำสะอาดเข้าไปในเวลาอันรวดเร็วกหลังจากที่กินอิ่มและดื่มอย่างพอใจ เขาก็รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมา!

 

เหมือนว่าจะอร่อยมากกว่าที่ตัวเองทำซะอีก ในวาระสุดท้ายของโลกแบบนี้ เกรงว่าผู้คนจำนวนมากแม้แต่สิ่งนี้ก็ยังหากินไม่ได้

ซ่งเจิงคิดถึงร่างเมื่อก่อนที่วันๆได้กินแต่ผักดองกระป๋องกับข้าวหยาบๆ ในท้องกลับเกิดอาการคลื่นไส้ขึ้นมา

ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นสมาชิกกองทัพของม่อเสี่ยง ช่วงเวลาที่ฝึกรบรากันเป็นเวลานานกับเพื่อนร่วมชั้นและครูในการเข้าร่วมการแข่งขันทำอาหารระดับประเทศ  ในช่วงเวลาที่เร่งรีบก็กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไส้กรอกแฮมไปเป็นจำนวนไม่น้อย  แต่ประสบการณ์แบบนั้นมีน้อยมากจริงๆ

 

มื้ออาหารนี้ คือร่างกายของซ่งเจิงในช่วงสองสามปี น้อยครั้งที่จะมีมื้ออาหารที่กินอิ่มแบบนี้

ใช่แล้ว ยังต้องต้มซุปผัก รีบต้มแล้วส่งให้พวกเขาไปดีกว่า

ซ่งเจิงเกาหัวไปมา แล้วจึงหยิบกระทะเหล็กวางไว้อีกด้านนึง แล้วหยิบหม้อเหล็กสองสามใบจากด้านหลังห้องครัวของโรงแรมออกมา เอามาล้างหนึ่งรอบ เริ่มทำการต้มซุปผัก ในเวลาเดียวกันในหม้ออีกหนึ่งใบก็กำลังนึ่งข้าว

 

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง มีกลิ่นหอมหวนของน้ำซุปผักขึ้นมาแล้ว ทีมสำรวจสองสามคนที่อยู่ระเบียงทางเดินข้างนอกได้เริ่มเข้ามาที่หน้าประตูแล้ว ทำด่อมๆมองๆเข้ามาที่ด้านในครัว

ทำให้ผู้คนด้านนอกเกิดเสียงดังกึกก้อง ซ่งเจิงคิดไปคิดมาก็ถอนหายใจ : “หมาป่าเยอะขนาดนี้เนื้อกลับมีน้อย! ฉันในฐานะพ่อครัวคนหนึ่ง วันนี้คงทำได้เพียงแจกจ่ายน้ำให้กับทุกคน!”

ว้าว! ในหม้อมีน้ำเป็นจำนวนมาก! แต่กลิ่นหอมยังคงแพร่กระจายออกไป คนที่รออยู่ด้านนอกก็สูดกลิ่นหอมของน้ำเข้าไป!

 

สามารถกินได้แล้ว

ได้ยินประโยคนี้ของซ่งเจิง ทีมสำรวจสองสามคนถึงกับยิ้มออกมาแล้วเดินเข้ามาในครัว ทุกคนถือถ้วยมาตักข้าว ถึงขนาดมีคนวิ่งออกไปประกาศคนอื่นๆในโรงแรมให้มากินข้าว

คืนนี้ ทุกคนในโรงแรมฟู่คังได้รับซุปผักและเนื้อคนละถ้วย

 

ตามกฎที่หัวหน้าเฉินกำหนดไว้ ทุกวันเมื่อถึงเวลากินข้าว จะประกาศให้ผู้รอดชีวิตทุกๆชั้นให้มารับอาหาร ภาชนะใส่อาหารจะให้กับมือเมื่อเข้ามารับอาหาร ความหมายก็เหมือนกับหยิบกล่องข้าวมารับข้าว จำนวนข้าวของทุกคนที่ให้ไปมีจำกัด ไม่สามารถให้เกินได้ หรือไม่สามารถรับแทนกันได้

รีวิวผู้อ่าน