จริงๆแล้วเมื่อวานที่เขาฟาดกระทะเหล็กใส่นายหลี่ที่เปลี่ยนเป็นซอมบี้ได้ตายที่ห้องโถงใหญ่ในโรงแรม ในตอนนั้นหัวหน้าเฉินเองก็พูดในความหมายว่าต้องการดึงเขาเข้าร่วมทีมสำรวจ
แต่ตอนนั้นแค่พูดออกไปอย่างนั้นเอง ถ้าเกิดว่าอยากจะเข้าร่วมจริงๆ ยังต้องไปพูดเจรจาถึงจะได้ ในวาระสุดท้ายของโลกนี้ ต้องเคารพผู้ที่แข็งแกร่ง เพียงแค่เผชิญหน้ากับทีมสำรวจ ถึงจะมีความเป็นไปได้ที่จะมีข้าวกิน! แม้กระทั่งอาจจะมีความสามารถในการกำหนดความเป็นความตายของตนเอง!
เพราะว่าสำหรับหัวหน้าเฉินแล้วก็ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ ซ่งเจิงจึงไปหาพี่ชายกุ้ยรองหัวหน้าทีมสำรวจก่อน ปีนี้พี่ชายกุ้ยอายุสี่สิบกว่าปี ยึดความซื่อสัตย์เป็นหลักการ แถมได้รับคำยกย่องสรรเสริญจากผู้รอดชีวิตในโรงแรมที่ดีมากอีกด้วย ซ่งเจิงเองก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อเขา
ห้องของพี่ชายกุ้ยอยู่ที่ชั้นสองของโรงแรม ซ่งเจิงเองก็รู้เบอร์ห้องของเขาอยู่แล้ว จึงเป็นการง่ายที่จะหาเขาเจอ
เมื่อได้ยินว่าซ่งเจิงจะเข้าร่วมทีมสำรวจ พี่ชายกุ้ยยังรู้สึกประหลาดใจ และดีใจ และพูดอย่างกังวลใจว่า : “อาเจิง นายคิดดีแล้วใช่ไหม ทีมสำรวจถึงแม้ว่าสามารถออกไปฆ่าพวกซอมบี้ได้ แต่ก็มีความอันตราย และการหายสาบสูญไปอย่างไม่เหลือแม้แต่จิตวิญญาณ อาจจะถูกพวกซอมบี้พวกนั้นฆ่าตาย เมื่อวานเหตุการณ์ของนายหลี่นายเองก็เห็นแล้วนี่”
ซ่งเจิงพยักหน้ารับอย่างแน่วแน่ : “พี่ชายกุ้ย ฉันเข้าใจ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของพี่”
ได้ยินเขาพูดแบบนั้น พี่ชายกุ้ยเองก็พยักหน้ารับ พร้อมกับพูดว่า : “ดูๆแล้วนายคงคิดมาดีแล้ว งั้นก็ดี ฉันจะพานายไปพบกับหัวหน้าเฉิน ถึงแม้ว่าฉันเป็นรองหัวหน้าของทีมสำรวจ แต่เรื่องการรับสมาชิกเข้าออกพวกนี้ ยังคงต้องให้หัวหน้าเฉินรับด้วยตัวเองถึงจะได้”
“ได้ครับ”
ชื่อจริงของหัวหน้าเฉินคือเฉินเฟิง
สำหรับคนนี้แล้ว ในความทรงจำของซ่งเจิงยังคงมีอยู่บ้างเล็กน้อย
เฉินเฟิงเดิมทีเป็นครูสอนฟิตเนสจากคลับฟิตเนสส่วนตัวในเมืองลิตเติลร็อค เรียนรู้การต่อสู้อย่างอิสระมาตั้งแต่เด็ก ทั้งยังเรียนวิชามวยกับทหารที่ปลดประจำการท่านหนึ่งอยู่สองสามวัน ฝีมือก็ไม่เลว เทียบกับคนธรรมดาทั่วไป สามถึงห้าคนไม่สามารถเข้าถึงตัวได้ ต่อให้เป็นซอมบี้ ระดับต่ำที่สุดก็ถูกเฉินเฟิงฆ่าได้อย่างง่ายดาย
ได้ยินว่าเมื่อก่อนเฉินเฟิงเคยพบกับซอมบี้ที่แปลงร่างระดับหนึ่งมา ทั้งยังหนีรอดมาได้ แต่ประสบการณ์นี้เขาเองไม่เคยพูดถึง ดังนั้นซ่งเจิงเพียงแค่แอบได้ยินมา และรู้ไม่มากเท่าไหร่
แต่เฉินเฟิงลักษณะของคนคนนี้ไม่ต้องพูดถึง เรื่องการจัดการในโรงแรม เมื่อมีข้อพิพาทระหว่างผู้รอดชีวิต จัดการเรื่องอย่างยุติธรรม บวกกับพละกำลังของเขา ถือว่าแข็งแกร่งที่สุดในโรงแรมฟู่คัง ทุกคนเองก็เลื่อมใสในตัวเขาด้วยความจริงใจ
ในห้องที่อยู่ข้างในสุดของชั้นหนึ่งของโรงแรม ซ่งเจิงต้องพบเจอกับหัวหน้าเฉินท่านนี้
หลังจากที่พี่ชายกุ้ยแนะนำซ่งเจิงให้ เฉินเฟิงก็พิจารณาสังเกตเขาอย่างละเอียด ไม่ได้รีบร้อนพูดอะไรออกมา
จริงๆแล้วทีมสำรวจของโรงแรมฟู่คังนั้นมีที่มา
อย่างเมืองเจียหยางแบบลิตเติลร็อค เมื่อยามที่ก่อสร้างตอนแรกเริ่ม ล้วนผ่านประสบการณ์กวาดล้างมาแล้ว ทั้งกองทัพและมนุษย์พันธุ์ใหม่ได้นำทีมจัดการกวาดล้างซอมบี้และสัตว์กลายพันธุ์รอบเมืองใกล้ๆ ส่วนใหญ่ล้วนถูกฆ่าตาย ยังมีพวกที่ฆ่าได้ยากอย่างสัตว์ชีวะ ก็ถูกขับไล่ออกจากเขตเมืองลิตเติลร็อค
แต่พื้นที่ด้านนอก และริมถนนในเมือง ยังมีซอมบี้ที่หลงทางอยู่อีกมาก จำเป็นต้องออกกวาดล้างในทุกๆเดือน หน้าที่นี้ถูกวางไว้บนไหล่ของผู้รอดชีวิตเขตรอบนอกที่รวมตัวกัน
กลุ่มที่รวมตัวกันในเขตด้านนอกจึงกลายมาเป็นทีมสำรวจ ก่อให้เกิดการวิวัฒนาการแบบนี้ขึ้นมา
ผู้รอดชีวิตทั้งหมดในโรงแรมมีสองร้อยกว่าคน ชายผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มยี่สิบคน ก็รวมตัวกันเป็นทีมสำรวจ ตามเงื่อนไขที่กองทัพเขตด้านในกำหนด ทุกๆเดือนจำเป็นต้องออกไปกวาดล้างสองครั้ง ฆ่าซอมบี้ให้ได้สี่สิบหัว ถึงจะนับว่าภารกิจสำเร็จ ไม่เช่นนั้น เดือนต่อไปก็จะถูกลดอาหารและวัตถุดิบที่จัดให้
โดยเฉลี่ยแล้วทุกคนจะต้องฆ่าซอมบี้ให้ได้สองหัว
นี่ไม่ใช่ภารกิจที่ง่ายเลย เพราะว่าซอมบี้ที่หลงทางอยู่ด้านนอกถึงแม้ว่าจะไม่เยอะ แต่ต่อให้เป็นซอมบี้ระดับที่ต่ำที่สุด พลังของคนธรรมดาทั่วไปก็เทียบไม่ถึง แถมยังไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าเหน็ดเหนื่อย พลังชีวิตก็แข็งแกร่งขึ้นเป็นพิเศษ นอกจากตัดหัวให้ขาด มิฉะนั้นต่อให้ตัดมือและเท้า ก็ยังสามารถเคลื่อนไหวต่อได้
การกวาดล้างในทุกๆเดือน ล้วนมีสมาชิกของทีมสำรวจจำนวนมากตายอยู่ด้านนอก
เรื่องราวนี้ซ่งเจิงคนก่อนเองก็ไม่รู้เรื่อง หลังจากได้ยินหัวหน้าเฉินอธิบาย ก็ถึงบางอ้อขึ้นในทันที
เฉินเฟิงพูดจบ มองไปที่ซ่งเจิงแล้วพูดว่า : “เป็นอย่างไรบ้าง รู้เรื่องพวกนี้ นายยังเต็มใจจะเข้าร่วมทีมสำรวจอยู่อีกไหม?”
ซ่งเจิงพยักหน้าอย่างไม่ลังเล และตอบกลับว่า : “เข้าร่วมแน่นอน ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เปลี่ยนใจ”
ถึงแม้ว่าอัตราการเสียชีวิตของสมาชิกทีมสำรวจนั้นสูงขึ้น เมื่อเทียบกับรออยู่ที่โรงแรม แน่นอนว่าปลอดภัยกว่า แต่ผู้รอดชีวิตที่รออยู่ในโรงแรม ทุกวันก็ได้รับอาหารน้อยมาก ทำได้เพียงรักษาไม่ให้หิวตายเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นทีมสำรวจยังต้องกำหนดวันเวลาทดแทนคนใหม่ เพราะว่าถ้าเกิดว่าวันไหน เกิดสงครามระหว่างทีมสำรวจกับพวกซอมบี้แล้วเกิดถูกทำลายล้างทั้งกองทัพ เช่นนั้นอาหารและวัตถุดิบที่ถูกจัดส่งให้โรงแรม ก็จะถูกตัดออกไป ผู้รอดชีวิตที่เหลือก็อาจจะต้องหิวตาย หรืออาจจะเพราะขาดทีมสำรวจปกป้อง จนถูกซอมบี้ได้กลิ่นแล้วโดนกัดตาย
ถ้าเกิดว่าไม่มีกระทะเหล็ก ซ่งเจิงอาจจะคิดอีกสักหน่อย ว่าในที่สุดแล้วจะเข้าร่วมทีมสำรวจหรือไม่ แต่ในเมื่อเขามีสิ่งนี้อยู่ แถมยังมีเพียงฆ่าซอมบี้และสัตว์ชีวะ ถึงจะสามารถผลิตอาหารและน้ำสะอาดได้ เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ เพื่อที่จะได้กินแพนเค้ก เขาจึงปฏิเสธไม่ได้ ซ่งเจิงก็มีแต่ต้องสู้เท่านั้นแหละ!
เฉินเฟิงพยักหน้ารับยิ้มแล้วพูดว่า : “งั้นก็ดี ซ่งเจิง นายคือคนที่เหล่ากุ้ยนำมา งั้นก็อยู่กับกลุ่มของเหล่ากุ้ยเถอะ ตอนที่พวกเราออกไปพรุ่งนี้ นายก็ออกไปด้วยกันล่ะกัน”
“ขอบคุณครับหัวหน้า”
ซ่งเจิงถอนหายใจออกมา ก่อนที่กำลังจะออกไป เฉินเฟิงกลับเรียกเขาไว้อย่างกะทันหัน
“ใช่แล้ว ในเมื่อตอนนี้นายได้เข้าร่วมทีมสำรวจแล้ว หลังจากนี้ก็จะเลี่ยงไม่ได้ที่จะพบเจอพวกซอมบี้ งั้นก็ควรจะมีอาวุธข้างกายสักชิ้น ห้องเก็บของด้านหลังโรงแรมยังมีพวกกระบองเหล็กพวกนั้นอยู่ นายเข้าไปเลือกเอาสักชิ้นเถอะ” เฉินเฟิงพูด
ซ่งเจิงกลับส่ายหน้า แล้วพูดว่า : “ไม่ต้องหรอก ฉันถือกระทะเหล็กจนชินแล้ว งั้นก็เอากระทะเหล็กนั่นแหละ”
“กระทะเหล็ก?”
ในยุคของวาระสุดท้ายของโลก มีโรงงานจำนวนน้อยมากที่ผลิตอาวุธความร้อนอย่างเช่นปืนได้ เมื่อยามที่ต้องต่อสู้กับซอมบี้ที่ดุร้ายพวกนั้น ผู้รอดชีวิตจำนวนมากมักจะใช้อาวุธเย็น โดยเฉพาะกริช มีด กระบองเหล็ก ขวานเป็นที่พบมากที่สุด ยังไม่เคยมีคนไหนที่ใช้กระทะเหล็กไปต่อสู้กับพวกซอมบี้เลย
แต่เฉินเฟิงเองก็เห็นมาเยอะ จึงไม่ได้พูดอะไร โบกมือให้ซ่งเจิงออกไปได้แล้ว
ซ่งเจิงกลับออกมาที่ระเบียงทางเดิน พี่ชายกุ้ยยังคงรออยู่ที่ข้างนอก มองเห็นเขาออกมา จึงรีบเข้ามาพูดว่า : “เป็นไงบ้าง อาเจิง หัวหน้าเฉินตอบตกลงแล้วใช่ไหม?”
ซ่งเจิงยิ้มแล้วพูดว่า : “หัวหน้าเฉินตอบตกลงแล้ว ทุกอย่างราบรื่นดี”
พูดคุยกับพี่ชายกุ้ยอีกสักพักแล้วซ่งเจิงก็ขอตัวออกมา กลับมาที่ห้องของตัวเอง
ตอนนี้เขาได้เข้าร่วมทีมสำรวจแล้ว พรุ่งนี้จะต้องออกไปฆ่าซอมบี้ข้างนอก พวกของที่จำเป็นต้องนำออกไปด้วย เขาจะต้องเตรียมตัวไว้ก่อน