px

เรื่อง : กระทะเหล็กกู้โลก
บทที่ 9 การยั่วยุของตู่หมิง


เดินมาถึงหน้าประตูห้อง ซ่งเจิงก็ได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากด้านใน หนึ่งในนั้นเหมือนว่าจะเป็นหลี่หวานหรู น้ำเสียงมีความวิงวอน : “คุณ…..คุณอย่าเข้ามานะ ที่นี้คือห้องของซ่งเจิง ทำไมคุณถึงบุกเข้ามาได้ตามใจชอบแบบนี้ล่ะ?

ต่อมาได้ยินเสียงของชายอีกคน ยิ้มเย็นชาแล้วพูดว่า : “ซ่งเจิง? คนที่วันๆอยู่แต่ในครัวของโรงแรม? ฉันว่าคนอย่างเธอหลี่หวานหรู สเปคเธอต่ำเกินไปแล้ว มองข้ามผู้ชายตั้งมากมาย แล้วมายอมให้กับเจ้าซ่งเจิงคนนี้ เขามีอะไรดี มีอะไรคุ้มค่าให้เธอกอดกัน?

 

หลี่หวานหรูได้แต่ถอยตัวไปข้างหลัง ไม่พูดอะไร

ที่ซ่งเจิงให้กับเธอ แน่นอนว่าคือแพนเค้กชิ้นนั้น เพื่อแพนเค้กครึ่งเดียวก็สามารถคู่ควรกับร่างกายบริสุทธิ์ เรื่องแบบนี้ถ้าเกิดว่าเกิดขึ้นในโลกก่อนหน้านี้ มันจะเป็นเรื่องที่น่าหัวเราะสิ้นดี แต่กับคนที่ใช้ชีวิตในวาระสุดท้ายของโลกมาสิบกว่าปีนี้ล้วนรู้ดี ทุกวันนี้ อาหารมีค่ามากกว่าของสิ่งใด

หลี่หวานหรูไม่ได้รู้ความลับของกระทะเหล็ก แต่เธอเห็นแพนเค้กของซ่งเจิง ไม่ว่าแพนเค้กนี้จะมาจากไหน ถ้าข่าวที่ซ่งเจิงทำอาหารได้แพร่ออกไป แน่นอนว่าต้องดึงดูดความวุ่นวายไม่น้อยแน่ๆ

 

เพราะว่ารู้ในจุดนี้ หลี่หวานหรูถึงได้เงียบไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว

แต่ด้วยท่าทีของเธอแบบนี้ จึงทำให้ชายที่อยู่ในห้องเข้าใจผิด ยิ้มอย่างเยือกเย็น : “ฉันเข้าใจแล้ว ดูเหมือนว่าหญิงสาวต่ำช้าแบบเธอต้องการผู้ชายสินะ? เหอะ เมื่อก่อนคิดว่าเธอเป็นของดี ที่แท้ก็เป็นสินค้าประเภทนี้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ไม่อย่างนั้นก็มากับฉัน ฉันสามารถทำให้เธอรับรู้ถึงชีวิตที่สุขสบายได้ ส่วนไอ้คนอย่างซ่งเจิงให้อะไรกับเธอ เชื่อไหมว่าฉันสามารถบดขยี้เขาได้ด้วยนิ้วโป้งเพียงข้างเดียว?

“คุณหุบปากเดี๋ยวนี้นะ!”  หลี่หวานหรูพูดด้วยความโกรธ

พูดยังไม่ทันจบก็เห็นประตูถูกเปิดออก และมีเสียงนิ่งสงบดังออกมา : “ฉันไม่เชื่อ”

คนที่พูดออกมาอย่างกะทันหันก็คือซ่งเจิงเอง

 

เมื่อเข้ามาในห้อง ซ่งเจิงก็มองเห็นภาพเหตุการณ์ในห้องได้อย่างชัดเจน หลี่หวานหรูยืนตัวสั่นหลบอยู่ที่มุมห้อง แต่ตรงหน้าเขา มีชายร่างสูงกำลังยืนอยู่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความน่ากลัวกำลังเยาะเย้ย

ตู่หมิง!

คนนี้ซ่งเจิงจำได้ เขาคือสมาชิกคนหนึ่งของทีมสำรวจโรงแรมฟู่คัง ก่อนที่จะถึงวาระสุดท้ายของโลกเขาเป็นผู้จัดการของบริษัทแห่งหนึ่ง รูปร่างสูง ค่อนข้างแข็งแกร่ง เพียงแต่ดวงตาคู่นั้นแสดงให้เห็นถึงความดุร้าย เมื่อก่อนซ่งเจิงไม่กล้าที่จะไปยุ่งกับเขา

 “ก็นึกว่าใคร ที่แท้เด็กน้อยอย่างแกกลับมาแล้วหรอ? เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ?

 

ตู่หมิงมองซ่งเจิงโดยไร้รอยยิ้ม เขาไม่เคยมองชายคนนี้อยู่ในสายตาเลย ดังนั้นตอนนี้เองก็ไม่ได้มีความกลัวใดๆ

ซ่งเจิงมองไปที่ตู่หมิงด้วยใบหน้านิ่งเฉย พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า : “ฉันพูดว่าฉันไม่เชื่อ คุณจะสามารถบดขยี้ผมได้ด้วยนิ้วโป้งข้างเดียว ถ้าอย่างนั้นลองดูไหมล่ะ?

คำพูดนี้พูดอย่างไม่เกรงกลัว สีหน้าของตู่หมิงเปลี่ยนไปทันที!

สายตาคู่นั้นแอบสังเกตซ่งเจิง แล้วพูดว่า : “ได้ คิดไม่ถึงว่าเจ้าเด็กคนนี้ปกติไม่มีปากมีเสียง คาดไม่ถึงว่ายังมีศักดิ์ศรีอยู่บ้าง กล้ามีเรื่องกับฉันงั้นเหรอ? คิดว่าตัวเองแน่จริงๆใช่ไหม? มา วันนี้ฉันจะสอนว่าต้องทำตัวยังไง!”

 

ขณะที่พูด ตู่หมิงปล่อยหมัดออกมา ท่าทางพุ่งตรงมาทางนี้

หลี่หวานหรูที่อยู่ข้างๆถึงแม้ว่าจะหวาดกลัว แต่เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้เข้า ก็รีบส่งเสียงร้องขึ้น : “ตู่หมิงคุณห้ามมาก่อความวุ่นวาย ตามกฎของโรงแรมนี้ทุกคนก็รู้ดี ถ้าคุณลงมือกับซ่งเจิง หัวหน้าเฉินต้องทำโทษคุณแน่ๆ…….”

ตู่หมิงยิ้มอย่างเย็นชา : “กฎ? อย่ามาล้อฉันเล่นได้ไหม ฉันคือสมาชิกของทีมสำรวจ สามารถจัดการคนอย่างแกที่เป็นผู้รอดชีวิตคนธรรมดาได้ ฉันไม่เชื่อว่าหัวหน้าเฉินจะออกหน้าแทนแก!”

ซ่งเจิงมีสีหน้านิ่งลง

 

จริงๆแล้วในโรงแรมมีกฎอยู่มากมาย กฎระหว่างผู้รอดชีวิตภายในของโรงแรม ห้ามลงมือทำร้ายซึ่งกันและกัน ห้ามก่อให้เกิดจลาจลโดยตั้งใจ

ถึงแม้ว่าผู้รอดชีวิตสองร้อยกว่าคนในที่นี้ ก็คงหนีไม่พ้นที่จะปะทะเสียดสีกัน แต่เพราะว่ามีกฎข้อนี้ที่กำหนดไว้แล้ว คนส่วนใหญ่จึงไม่กล้าลงมือโดยพลการ

แต่กับสมาชิกทีมสำรวจ เดิมทีฐานะก็อยู่สูงกว่าผู้รอดชีวิตธรรมดาทั่วไป ถ้าเกิดว่าคู่ต่อสู้เป็นผู้รอดชีวิตคนธรรมดา ไม่ต้องพูดก็เห็นได้อย่างชัดว่ามีคุณค่าน้อยลงอย่างชัดเจน

ไม่เพียงแต่สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกทีมสำรวจได้ ส่วนใหญ่คนที่มีมีพละกำลัง ชายหนุ่มที่ดูท่าทางแข็งแกร่ง โดยปกติสองสามคนไม่สามารถเข้าถึงตัวพวกเขาได้ รวมไปถึงอาหารที่ดีกว่าคนธรรมดา แต่ไหนแต่ไรไม่ใช่คนธรรมดาที่จะเอาชนะได้

 

เจ้าหนุ่มน้อยคนนี้แกว่งเท้าหาเสี้ยนแล้ว

เห็นซ่งเจิงเงียบไป ตู่หมิงก็คิดว่าเขาแอบกลัวขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา : “เป็นไง รู้จักกลัวแล้วรึไง? ฉันจะให้นายหดหัวอยู่ตรงนั้นแหละ อย่ามาเล่นกับฉัน แม่สาวหลี่หวานหรูคนนี้มีความงามขนาดไหน ไม่ใช่เจ้าหนุ่มน้อยแบบแกจะมาเชยชมได้ ฉันจะเอาเธอกลับไปด้วย…..”

ขณะที่ตู่หมิงพูด ก็ยื่นมือออกมาตบที่หน้าของซ่งเจิงเบาๆ ด้วยสีหน้าท่าทางดูถูกผู้อื่น

ในตอนนี้เอง ซ่งเจิงก็ใช้มือคว้าไปจับที่ข้อมือของตู่หมิง

 

“เฮ้ย แกยังคิดจะ…..” ตู่หมิงอยากดึงมือกลับมาทันที แต่เมื่อขยับ กลับพบว่านิ้วทั้งห้าของซ่งเจิงเหมือนกับคีมเหล็ก ล็อกข้อมือของเขาไว้ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย!

“ไสหัวออกไปซะ!”

เมื่อซ่งเจิงปล่อยมือจากตู่หมิง อีกนิดเดียวเขาก็เกือบล้มลงไปที่พื้น และมองเขาด้วยสายตาเย็นชา พร้อมกับตะโกนออกไป

ตู่หมิงเสียหน้าเป็นอย่างมาก ใช้สายตาแหลมๆมองไปที่ซ่งเจิงอย่างพิจารณา ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า : “เจ้าตัวดี เมื่อก่อนไม่เคยดูออกว่าแกจะทำแบบนี้ได้ แค่คิดว่ามีพละกำลังที่มือคู่นั้น แล้วจะสามารถมากำเริบกับฉันได้งั้นเหรอ? แกมันยังอ่อนแอเกินไป!”

ขณะที่ตู่หมิงพูด ก็ปล่อยหมัดขึ้นมาเหนือหัวอย่างไม่มีเยื่อใยตรงไปที่หัวของซ่งเจิง

 

เมื่อเห็นเขาปล่อยหมัดออกมา ซ่งเจิงก็ขยับเท้าด้านล่าง แล้วยื่นมือขวาออกไปจับที่แขนของตู่หมิง หลังจากนั้นก็ล็อกมือเขาไว้จากด้านหลัง! ก็สามารถล็อกตัวของตู่หมิงได้แล้ว แล้วใช้มืออีกข้างจับที่คอของเขา : “อย่าขยับ!”

ภาพเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเร็วมาก แม้กระทั่งตู่หมิงเองยังไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับได้ทัน ก็ถูกซ่งเจิงควบคุมได้แล้ว แต่หลี่หวานหรูยิ่งตะลึงเข้าไปใหญ่ ภาพที่ไม่น่าเชื่อแบบนี้ กำลังมองซ่งเจิงจนตาค้าง

ถ้าเกิดว่าเปลี่ยนเป็นซ่งเจิงคนก่อนที่จะทะลุมิติมา แน่นอนว่าไม่สามารถทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างแน่นอน

แต่กับซ่งเจิงที่ข้ามทะลุมิติมานั้น เป็นนักเรียนดีเด่นของโรงเรียนเทคโนโลยีโม๋เซียงโดยเฉพาะการสอบสำเร็จการศึกษาที่ราวกับฟ้าผ่า และนิสัยนี้ได้ปะทุออกมา โดยปกติพื้นฐานของงานพลาธิการ ต้องจัดการกับหมูถึง1500กว่าตัว  ทั้งยังมีเทควันโดไว้ใช้ปกป้องร่างกาย

 

การจัดกับกับตู่หมิงที่มีกำลังมากกว่าคนธรรมดาทั่วไปนิดหน่อย จึงทำให้ลงมือได้อย่างง่ายดาย

ไม่เพียงแค่ใช้เวลาน้อย ซ่งเจิงยังยั้งมือไว้อยู่ ถ้าเกิดว่าใช้แรงมากไป ชีวิตของตู่หมิงอาจจะไม่เหลือแล้ว!

ตู่หมิงเองไม่รู้ว่าตัวเองได้ผ่านประตูความตายมารอบหนึ่งแล้ว หลังจากได้สติคืนมา รีบพูดด่าขึ้นมาทันที : “ซ่งเจิง….คาดไม่ถึงว่าแกจะกล้าลงมือกับฉัน รีบปล่อยข้าออกไปเดี๋ยวนี้! มีอะไรก็มาตัวต่อตัวกับฉัน!”

 

“เหอะ!”

ซ่งเจิงทำเสียงเหอะออกมาอย่างเย็นชา นึกไม่ถึงว่าจะปล่อยมือจริงๆ เพียงแค่ผลักมือออกไปอย่างไม่ตั้งใจ ก้นของตู่หมิงก็ลงไปนั่งอยู่ที่พื้น เขารีบใช้มือสองข้างยันตัวลุกขึ้นมา เท้าก็เตะออกมาอย่างมั่วๆ

“ได้ เจ้าตัวดี แกกล้าลงมือกับฉัน ฉันคิดว่าแกคงอยากเหนื่อยกับการใช้ชีวิตแล้วสินะ…..”

รีวิวผู้อ่าน