px

เรื่อง : The Strongest System จบแล้ว!!!
บทที่ 57 : สิ่งที่ลูกผู้ชายควรกระทำ


บทที่ 57 : สิ่งที่ลูกผู้ชายควรกระทำ

 

ตอนนี้ทางเลือกของหลินฟ่านนั้นไม่ได้ปลอดภัยสักทีเดียว ถึงจะมีภูเขาทรัพย์สมบัติอยู่ตรงหน้าเขา แต่ภูเขาสองลูกนั้นดันมีกองทหารที่ดูแข็งแกร่งนับร้อยเฝ้าอยู่

หากเขาทะเล่อทะล่าเข้าไปเอาซึ่งๆหน้ารับรองเขาได้เป็นปุ๋ยให้ต้นไม้แน่...เผลอๆจะไม่เหลือแม้แต่ซากด้วยซ้ำ

ให้จัดการทหารเนี่ยแค่ 2-3 คนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก แต่ถ้าเกิดไก่ตื่นแล้วเจอรุมเป็นสิบๆ มันจะแย่เอา  แล้วสิ่งที่ต้องคิดคือ หลังจากปล้นแล้วจะทำยังไง? ตอนนี้หลินฟ่านจึงได้แต่ยืนหลับตาคิดแผนอยู่ อย่างจริงจัง....20 ผ่านไป ในที่สุดดวงตาของหลินฟ่านก็เปิดออกมาพร้อมแสงเปล่งประกาย

'จะกลัวเชี่ยไรวะเนี่ยยยยย?'

‘ช่างมันปล้นพวกมันก่อนแล้วค่อยกว่ากัน หากสถานการณ์เลวร้ายกว่าที่จะรับไหวก็แค่หนีกลับไปนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์ อย่างเราไม่คิดจะรังแกคนอ่อนแออยู่แล้ว แมนๆมันต้องจัดการพวกแข็งแกร่งเฟ้ยยย ... ตอนนี้เราก็เป็นอาจารย์แถมมีลูกศิษย์ไรกับเค้าแล้ว ต้องมีเป้าหมายกันหน่อยย’

'พอๆเลิกคิด ล่อแม่งเลยดีฝ่า'

ณ จุดๆ นี้หากหลินฟ่านไม่ปล้น ทั้งที่มีสมบัติมาให้เขาถึงที่ เขาก็คงไม่ใช่หลินฟ่านแล้ว

'หึหึ รวยยย ... ' หลินฟ่านค่อยๆแอบเนียนในกลุ่มคนเดินไปทางห้องพักของจักรพรรดิ

จักรพรรดิและราชินีอยู่อยู่ที่สำนกเพียงหนึ่งวันเท่านั้น ในช่วงเที่ยงพวกเขาจะเข้าพักยังห้องที่ทางสำนักได้จัดเตรียมเอาไว้ให้ โอกาสดีที่สุดของเขาก็อยู่ตรงนี้นี่เอง

...

ณ เวลาเที่ยงวัน

หลินฟ่านได้มาแอบอยู่ในห้องพักที่ดูหรูหราอยู่นานแล้ว มันอาศัยเร้นกายเข้ามาแอบซ่อนตัวไว้ ตอนนี้หัวใจของมันเต้นรัวราวกับจะกระเด็นออกจากอก เขาไม่เคยตื่นเต้นอะไรเท่านี้มาก่อน ความรู้สึกมันเหนือกว่าตอนที่ยกเค้าโม่อี้ซวนและหนี่หมันเทียนมากมายนัก...ถ้าจะถามว่ามันรู้ได้ไงว่าเป็นห้องนี้ มันแค่ดูว่าทหารนั้นเรียงรายเฝ้าห้องไหนอยู่มากที่สุดเท่านั้นเอง มันก็อาศัยวิชาเร้นกายย่องเข้ามาแอบ ตอนที่พวกมันมาจัดห้อง

"จักรพรรดิหยาง องคราชินี เสด็จแล้ววววว"

เสียงแจ้งดังขึ้นมาจากด้านนอก หลินฟ่านที่ยกเลิกวิชาเร้นกายเพื่อประหยัดพลังงานที่แท้จริงเอาไว้ ถึงกับรีบใช้วิชาออกมาด้วยความตกใจ ก่อนที่เขาจะเดินออกไปยืนรอหลังเก้าอี้นิ่งๆ วัดใจว่าระดับสู่สวรรค์ กับระบบเทพเจ้า ผู้ใดจะแน่กว่ากัน

"แอ๊ดดดดด... ปัง!"

ประตู้ไม้ที่น่าจะทำจากไม้หอมขนาดใหญ่ถูกผลักเข้ามาองค์จักรพรรดิและราชินีเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งขรึม อาจจะเป็นเพราะทั้งสองคนหงุดหงิดจากบรรยากาศที่ร้อนและพิธีการที่เคร่งเครียดสีหน้าพวกมันจึงดูบูดบึ้งเล็กน้อย...แต่ทว่าเมื่อประตูปิดลงเท่านั้นแหล่ะ

"อา จักรพรรดิของข้าข้าปวดเมื่อยไปทั้งตัวเลย อากาศก็ร้อนอย่างมาก" ราชินีทำท่ายั่วยวนก่อนที่จะเอามือดึงเสื้อเผยอให้เห็นร่องอกเล็กน้อยก่อนที่จะดึงไปดึงมารวมกับจะให้ลมพัดเข้าไป

"แม่ยอดยาหยี มานั่งตักพี่เร็วเข้า" ท่าทางเคร่งเครียดจริงจังของจักรพรรดิมลายหายไปสิ้น ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับ หนุ่มวัยกลัดมันที่หลินฟ่านเห็นในผับยามจะล่อสาวแม้แต่น้อย ...จักรพรรดิที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ตัวที่หลินฟ่านยืนอยู่ด้านหลังกำลังกวักมือเรียกราชินีพร้อมทั้งตบไปที่หน้าขา...ราวกับอาเสี่ย

...และตอนนี้หลินฟ่านมันได้ชนะเดิมพันเรียบร้อยแล้ว ระดับสู่สวรรค์อมตะยังไม่สามารถตรวจจับระดับพลัง ที่ระเบบเทพเจ้าปิดซ่อนไว้ของมันได้

"อ๊า จักรพรรดิของข้า...นี่มันไม่ใช่ในวังของเรานะ" ราชินีที่เดินมานั่งตักด้วยท่าทางอิดออดแต่ดูเหมือนเต็มใจอย่างมาก บ่นกระแนะกระแหนออกมาแต่ทว่ากลับซบลงไปกลางอกพร้อมเบียดไปเบียดมาราวกับจะยั่วยวน ????

"อย่าได้ห่วงเลยยาหยี มีพี่อยู่ทั้งคนผู้ใดจักกล้าเปิดประตูเข้ามา ... "

หลินฟ่านผู้เป็นหนุ่มโสดแถมยังเวอร์จิ้น ซิงก็ยังไม่แตกถึงกับยืนเขินพร้อมกับหน่วงๆที่เป้าเล็กน้อยอยู่ด้านหลังเก้าอี้ มันถึงกับเหวอไปเลย ‘เชี่ยหมดกันมาดอย่างเท่ห์ที่เราประทับใจ สึดเอ๊ยพวกเอ็งเก็กขรึมทำเท่ห์กันหรอกเหรอวะเนี่ย?’ มันอดคิดขึ้นมาไม่ได้ เมื่อได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของทั้งสองที่ไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดา ผิดกับตอนวางมาดน่าหวาดกลัวด้านนอกลิบลับ..ยิงสภาพของราชินีตอนนี้ ราวกับเด็กในชุดนักศึกษามาหาเสี่ยอย่างแท้จริง

"จักรพรรดิของข้าดูเหมือนตอนนี้เหล่าศิษย์ของสำนักนภาสวรรค์จะแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนอย่างมากเลยทีเดียว นี่เป็นเพราะท่านส่งเสริมพวกมันเพื่อให้กลายมาเป็นกองกำลังของท่านใช่หรือไม่ แผนการท่านช่างแยบคายนัก?" ราชินีทีนั่งอยู่บนตักของจักรพรรดิหยางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงซุกซน ในขณะที่นางก็ขยับสะโพกบดหน้าขาของจักรพรรดิพร้อมกับเอามือลูบไล้แผงอกมันไปด้วย

"ตอนนี้กำลังของข้านับว่ากล้าแกร่งขึ้นมามากแล้ว อีกไม่นานข้าจะปลดแอกเมืองแห่งนี้ ไม่ยอมตกอยู่ใต้การปกครองของนิกายศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป เพื่อไม่ให้บรรพชนของข้าเสื่อมเสีย... อืมม นุ่มมือดีนัก ยาหยีของข้า" จักรพรรดิหยางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทว่ามือของมันยังคงลูบคลึงไปทั่วปทุมถันของราชินีอย่างดุเดือด มันทั้งนวดเค้นทั้งลูบคลึงพร้อมขยี้ยอดปทุมอย่างคล่องแคล่วราวกับมือของมันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้เท่านั้น...

หลินฟ่านที่มองมาจากด้านบนนั้นไม่ทันเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ...แต่ดีแล้วที่มันไม่เห็น หากให้ไอ่หนุ่มเวอร์จิ้นอย่างมันเห็นเกรงว่าจะใจแตกเสียเปล่าๆ...

ตอนนี้หลินฟ่านกำลังสนใจในหัวข้อที่จักรพรรดิสนทนากับราชินีอย่างมาก มันจึงพยายามเดินไปใกล้ๆทั้งคู่อีกนิด และเมื่อเข้าไปใกล้แล้ว หัวข้อที่พวกมันกำลังพูดถึงนั้นทำให้มันเบิกตาออกกว้างในทันที

"ข้ายินดีช่วยท่านเต็มที่สามีข้า อ๊า..องจักรพรรดิที่แข็งแกร่ง หากพวกเราจู่โจมทั้งนอกในประสานรับรองนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์ย่อมไม่สามารถต้านทานเราได้อย่างแน่นอน นิกายสาขาของมันต้องจบสิ้นลงอย่างแน่นอน " ราชินีกล่าวออกมาด้วยแววตาหยาดเยิ้ม แฝงด้วยความมั่นใจเล็กน้อย ลมหายใจของนางเริ่มหอบถี่ขึ้นเมื่อถูกจักรพรรดิจู่โจมด้วยเพลงดัชนีที่ร้ายกาจใต้ร่มผ้า

"ราชินีของข้า เจ้ากับข้าก็แต่งงานกันมาหลายปีแล้ว ข้าเคยได้รับรู้มาก่อนว่า ผู้ก่อตั้งนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์ได้หยาดโลหิตเทวะมารเทพเจ้า มาจากดินแดนการล่มสลายแห่งทวยเทพ เจ้าพอจะบอกข้าได้หรือไม่ว่าตอนนี้มันเป็นเช่นไรแล้ว? " องค์จักรพรรดิกล่าวขึ้นมาพร้อมกับมือที่เริ่มซุกซนหนักข้อ

“อ๊ะ.. องค์จักรพรรดิของข้า ข้าเป็นของท่านแล้วเหตุใดยังถามเช่นนี้ อื้มม...ผู้ก่อตั้งนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์ได้รับโลหิตเทวะมารเทพเจ้ามาจริง แต่ทว่าเขาเพียงผู้เดียวไม่สามารถรองรับโลหิตทั้งหมดได้ พันปีที่แล้วเขาจึงแจกจ่ายหยาดโลหิตนี้ให้แก่บริวารที่เขาเชื่อถือ นั่นจึงทำให้พวกเขาแข็งแกร่งอย่างยิ่ง แต่ทว่าตอนนี้พวกมันกำลังจัดเตรียมการที่สำคัญยิ่งเป็นช่วงเวลาที่การป้องกันของพวกมันหละหลวมมากที่สุด หากเราลงมือตอนนี้ชัยชนะต้องเป็นของพวกเราอย่างแน่นอน...อาา”

...

หลินฟ่านที่ยืนอยู่ด้านหลังได้รับข่าวที่ไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไรและนี่นับว่าเป็นข่าวสำคัญอย่างมาก ดูเหมือนตอนนี้พวกมันกำลังวางแผนจัดการนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์?

แล้วดินแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ กับ หยาดโลหิตเทวะมารเทพเจ้า คืออะไรกันแน่?

ถึงหลินฟ่านจะเป็นแค่สาวกฝ่ายนอกของนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์แต่ทว่ามันก็ใช้เวลาอยู่ในนิกายไม่น้อย มันย่อมมีความรู้สึกผูกพันอยู่บ้าง

ที่สำคัญ ราชวงศ์หยางเกริกไกรนี่เป็นแค่เมืองใต้อาณัติเท่านั้น แค่ว่ามันกลับกล้าที่จะแข็งข้อก่อกบฏ นี่นับว่าพวกมันห้าวหาญไม่น้อย

นิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์เองก็ไม่ได้กดดันอะไรพวกมัน ให้สิทธิเสรีภาพ เพียงแต่คอยป้องกันให้พวกมันใช้กำลังรุนแรงก็แค่นั้น อีกทั้งยังคอยป้องกันพวกมันจากกองกำลังอื่นที่หวังจะแย่งชิงเมืองของพวกมันอีก ...แลกกับบรรณาการเล็กๆน้อย แต่คิดไม่ถึงพวกมันยังกล้าคิดกบฏ!

"ไอพวกสารเลว แม่งกล้ามากก" หลินฟ่านที่ยังอยู่ในโหมดเร้นกายไม่คิดจะทนอีกต่อไป มันชักอิฐแดง 95 ออกมาชิตังเมโป้งกลางกบาลทั้งสองไปคนละหนึ่งที ...จักรพรรดิที่กำลังบรรจงล้วง? ราชินีอยู่ และราชินีที่กำลังวาบหวิวอยู่ถึงกับหมดสติล้มลงไปกองทันที

"ฮ่าฮ่า ชายโฉดหญิงชั่วกล้านัวกันกลางวันแสกๆ พวกเอ็งกล้าปองร้ายนิกายข้างั้นเรอะ หากข้ายังไม่ตายอย่าหวังจะได้ทำเรื่องบัดซบแบบนั้น ตอนนี้มาดูกันเถอะ..ว่าพวกเอ็งจะโดนอะไรบ้าง หึหึ" หลินฟ่านเอาเท้าย่ำลงไปบนใบหน้าทั้งสองด้วยความโกรธ อีกทั้งมันยังเตะมือของจักรพรรดิทุกซุกอยู่ในร่มผ้าออกมาด้วยความขัดใจ

ถึงแม้เขาจะรู้ว่าระดับการบ่มเพาะของทั้งสองคนนั้นสูงมาก แต่ตอนนี้ระดับพวกนั้นมันไม่มีค่าอะไรเลยมาก หลินฟ่านเริ่มทำการรูดทรัพย์ทันที อันดับแรกหลินฟ่านรีบถอดแหวนมิติของทั้งคู่เข้าช่องเก็บของมิติของตัวเองก่อนทันที ถึงแม้ว่าแหวนมิติของจักรพรรดิจะถอดง่ายแปลกๆไปหน่อยก็เถอะ...

หลินฟ่านรีบจัดการถอดเสื้อผ้าชั้นนอกของทั้งสองคนและตรวจสอบเสื้อผ้าทันที ...น่าเสียดายที่เสื้อผ้าของทั้งคู่เป็นแค่ผ้าที่สวยงามเท่านั้นไม่ได้มีคุณสมบัติใดๆ นี่คงเป็นเพราะพวกมันมีระดับที่สูงมากจึงไม่ต้องพึ่งพาอาภรณ์วิเศษใดๆ...และนอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรพิเศษอยู่อีก

แต่ยังไงการปล้นครั้งนี้ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะคนระดับนี้สิ่งของในแหวนมิติต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

ตอนแรกหลินฟ่านคิดว่าปล้นของชิงแหวนเสร็จแล้วจะรีบหนี แต่ทว่าความโกรธในหัวใจยังไม่จางหาย มันจึงกระทืบไปทั้งสองคนอีกคนละที ก่อนที่จะเอาอิฐทุบหัวทั้งคู่ไว้กันเหนี่ยว

ถึงแม้พวกเขาจะยังไม่ได้เวลาที่จะฟื้นขึ้นมา หลินฟ่านก็ยังเคาะอิฐรัวๆไปที่หัวของทั้งสองอย่างเมามัน เมื่อจับทั้งคู่เคาะไปเคาะมาในที่สุดก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ เมื่อหลินฟ่านทำองค์จักพรรดิหลุดมือ เสื้อผ้าที่หลุดรุ่ยอยู่แล้ว กลับลื่นหลุดออกมาเผยให้เห็น ผ้าเตี่ยวสีขาวที่พัน มังกรจักรพรรดิเอาไว้

"หืม ... " หลินฟ่านที่มองไปแล้วเกิดความรู้สึกผิดปกติ มันบังเกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที มันถกทั้งกางเกงและผ้าเตี่ยวของจักรพรรดิลงออกมาทั้งหมด และมันก็ต้องพบกับเรื่องที่น่าสะพรึงอย่างมาก...

ลูกท้อสองใบที่เล็กยิ่งกว่าเม็ดก๋วยจี้ ... กับมังกร...ไส้เดือนจะเหมาะกว่า ที่มีขนาดเล็กเชี่ยๆ เล็กบัดซบ โคตรของโคตรเล็ก ...‘เชี่ยแม้ง ต้องใช้คีมกับแว่นขยายช่วยไหมวะเนี่ยตอนเอ็งจะไปเย่วน่ะเฮ่ย!’

‘น่าสงสาร พี่จะส่งเคราะห์ให้เองไอ่น้อง’

"พลิกสวรรค์ผันแปรพิภพ"

หลินฟ่านไม่ค่อยได้ใช้วิชานี้ ที่พัฒนามาจาก "ลิงขโมยลูกท้อ" มากสักเท่าไร เพราะว่ามันไม่ได้ทำเดเมจหนักหน่วงเท่าเดิม ที่สามารถสยบท่านชายภายในหนึ่งกระบวนท่าได้อีกแล้ว แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจ ขอให้มันบึ้มไส้เดือน จักรพรรดิที่เล็กจนขัดใจได้เป็นพอ

'ติ๊ง!! ... ขอแสดงความยินดี "พลิกสวรรค์ผันแปรพิภพ"  EXP +100,000'

เมื่อหลินฟ่านได้ยินการแจ้งเตือนครั้งนี้เขาถึงกับตะลึง เขาไม่คิดเลยว่าลงมือครั้งเดียวจะได้ ค่า EXP มากถึง 100,000 แต่ว่าเมื่อลองคิดดูดีๆ ไอจักรพรรดิที่มีเจ้าโลกขนาดเท่าไส้เดือนนี่มันก็มีระดับถึง สู่สวรรค์อมตะ ขั้นที่ 7 จะให้ EXP มากขนาดนี้ก็ไม่แปลก

หลังจากใช้ "พลิกสวรรค์ผันแปรพิภพ" หลินฟ่านก็ ถกผ้าเตี่ยวลงมาอีกครั้ง และพบว่าไส้เดือนกับเม็ดก๋วยจี้ค่อยๆหลุบหายไป เห็นภาพดังกล่าวหลินฟ่านถึงกับตลกขบขันออกมา

‘5555+ ไส้เดือนจะมุดดินหนีเหรอวะเนี่ย? จะปายหนายยย ออกมาก่อนนน’

"พลิกสวรรค์ผันแปรพิภพ"

'ติ๊ง!!... ขอแสดงความยินดี "พลิกสวรรค์ผันแปรพิภพ" EXP +100,000'

ไส้เดือนที่ค่อยๆหดหายไปเริ่มงอกขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับต้นถั่วลันเตากำลังจะแตกหน่อ

แต่เมื่อต้นถั่วนั้นกำลังงอกขึ้นมา หลินฟ่านก็ลงมือใช้ "พลิกสวรรค์ผันแปรพิภพ" อีกครั้ง และมัน...ก็เริ่มหดหายไปอีก " หากผู้ชายคนไหนได้มาเห็นภาพนี้รับรองว่าต้องเหงื่อตกและหวาดกลัวสุดขั้วหัวใจ ภาพไอนั่นค่อยๆหดจนหายไป และค่อยๆผุดงอกออกมาใหม่ มันช่างทำให้รู้สึกวูบไหวยิ่งนัก

...

'ติ๊ง!!... ขอแสดงความยินดี "พลิกสวรรค์ผันแปรพิภพ" Lv +1'

" พลิกสวรรค์ผันแปรพิภพ Lv 2 EXP (0/2,000,000) '

"ผลกระทบ : พลิกสวรรค์ผันแปรพิภพ  สามารถพลิกผันหยินหยาง แปรเปลี่ยนได้ตามใจหมาย สามารถใช้ซ้ำอีกครั้งเพื่อย้อนกลับกระบวนการได้ และเมื่อเป้าหมายถูกจู่โจมด้วยวิชานี้ ร่างกายของมันจะแปรสภาพเป็นร่างหยินหยางบรรจบในตำนาน ที่จะปรากฏขึ้นทุกๆ 1,000 ปี '

ในขณะที่หลินฟ่านกำลังกลั่นแกล้ง ของรัก ของจักรพรรดิให้หายไปแล้วกลับมาอย่างสนุกสนานอยู่นั้น มันก็ได้เห็นคำอธิบายของวิชา พลิกสวรรค์ผันแปรพิภพ

“เฮ้ย ทำไมข้อมูลของวิชา "พลิกสวรรค์ผันแปรพิภพ" ถึงเพิ่งมาแสดงเอาตอนนี้ ไม่แสดงตั้งแต่แรกวะเนี่ย? ชิบหายละ พลิกสวรรค์ผันแปรพิภพ ...สร้างร่างหยินหยางบรรจบในตำนาน ที่จะโผล่มาทุกๆ 1,000ปี นี่..นี่....นี่มันคืออะไรวะ แล้วสำคัญรึเปล่า?” ...

หลังจากนั้นหลินฟ่านก็คิดถึง ฉูเซี่ยงเกอและพรรคพวกมันจำไม่ได้แล้วว่าทั้งหมดมีกี่คนกันแน่

"ชิบหายละ เราน่าจะสร้างร่างหยินหยางอะไรนั่นไปเกือบๆ 20 คนได้แล้วมั้ง? บ้าจริง นี่ไม่ใช่แค่สกิลแปลงเพศหรอกเหรอวะเนี่ย? แล้วมันเป็นยังไงหว่าไอ้ร่าง หยินหยางบรรจบเนี่ย เฮ้อโลกนี้ช่างพิลึกดีแท้? ช่างเหอะไม่ว่ามันจะเป็นอะไร แต่เดี๋ยวแกตื่นมาแกคงรู้เองแหล่ะเนาะ ตอนนี้มาสนุกกันต่อดีกว่า หุหุหุ "

“แน่นอนไม่ต้องขอบใจพี่หรอก ... พี่แค่ใจดีมีเมตตาทำเรื่องที่สมควรทำน่ะ ไม่ต้องเกรงใจนะ ข้าหลินฟ่านนับว่าเป็นคนดี ย่อมทำเรื่องที่สมควรกระทำอยู่แล้ว 555”

 

รีวิวผู้อ่าน