GED : 27 อ่อนแอ
เฟิงซุ่นเองก็เห็นด้วยกับมู๋เหยียว "ใช่ นั่นคือความผิดของตระกูลฝูง ความโลภของพวกเขาทำลายหญิงสาวที่เก่งกาจที่สุดในตระกูลของพวกเขา..ช่างน่าเสียดายนัก...เฮ้อ"
เฟิงหวูสูดหายใจเข้าลึก ๆ จัวชิงหลวน เจ้าไม่เพียงแค่ทำลายโลหิตวิหคเพลิงของข้า แต่เจ้ายังมาว่าร้ายข้าและแพร่ข่าวลือร้าย ๆ เกี่ยวกับข้า ทั้งชื่อเสียงและพลัง เจ้าเอามันไปทั้งหมด! เก่งเสียเหลือเกินนะ!
เมื่อคิดเช่นนั้นเฟิงหวูกำหมัดแน่นอีกครั้ง ..ผลจิตวิญญาณอมตะ! นางต้องรีบตามหามันให้เจอ!
ค่ำคืนที่เงียบสงบเข้ามาเยือน..ท่ามกลางเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เฟิงหวูนอนอยู่ในฟูกนอนที่ได้รับมาจากคนรับใช้เฟิง ก่อนนางจะหลับตาทันทีที่หัวถึงหมอน-
ทว่าดวงตาของนางเบิกกว้างในทันใด ด้วยสัญชาตญาณว่ามีอันตรายคืบคลานเข้ามาใกล้
เฟิงซุ่นตกใจเมื่อเห็นเฟิงหวูตื่นอยู่ "เจ้าตื่นอยู่เหรอ"
"เกิดอะไรขึ้น?" เฟิงหวูนั่งและรีบเก็บฟูก นางดูตื่นตัวดวงตาใสแจ๋วของและกำลังเพ่งมองเฟิงซุ่นที่กำลังถือดาบไว้นอกฝัก
เฟิงซุ่นชะงักเล็กน้อยงุนงงเล็กน้อย เขาสังเกตเห็นแววตาแสนเย็นชาจากสายตาของเฟิงหวู ดวงตาที่เปรียบเสมือนนักฆ่าที่สังหารชีวิตมามากมายและสายตาของคนที่ผ่านการต่อสู้เสี่ยงตายมานับครั้งไม่ถ้วน? ไม่สิ..ข้าคงเข้าใจอะไรผิดไป
เมื่อเขาพยายามมองเฟิงหวู ท่าทีเมื่อครู่ก็หายไปจนหมด
"อะไรเหรอ?"เฟิงหวูถาม โดยไร้ท่าทีเป็นอันตราย
เฟิงซุ่นขยี้ตา "ข้ารู้สึกอะไรบางอย่าง ..ข้าสังเกตเห็นสายตาที่เยือกเย็นและเต็มไปด้วยจิตสังหารจากวดวงตาของเจ้า ข้าตาฝาดเหรอเนี่ย ? แปลกใจจัง"
เฟิงซุ่นมองเฟิงหวูที่เตรียมตัวจนเพรียบพร้อมตั้งแต่หัวจรดเท้าต่างจาก นางฟ้ามู๋เหยียวที่ยังคงนอนอยู่ในฟูกของนาง
“ เซี่ยวอู๋ที่ดูจะไร้ความสามารถกับหญิงสาวผู้เชี่ยวชาญพลังวิญญาณขั้นที่ 5 งั้นเหรอ.." เฟิงซุ่นส่ายหน้า
เมื่อเห็นเฟิงหวูเดินตามหลังเฟิงซุ่นออกมา ซุ้น อี้ขมวดคิ้ว เขามองเฟิงหวูด้วยสายตาเย็นชาแล้วเดินไปหาเฟิงซุ่นเพื่อพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ "รับผิดชอบตัวเองด้วย อย่าให้เป็นภาระของคนในกลุ่ม "
เฟิงหวูรู้ดีว่าซุ้นอี้กำลังพูดกับนางไม่ใช่เฟิงซุ่นแต่อย่างใด ในสายตาของเขา..นางคือภาระ
เฟิงซุ่นขยี้จมูกเล็กน้อยแล้วมองเฟิงหวูด้วยดวงตาแสนสดใจ "เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง.."
ดวงตาของเฟิงหวูดูเจิดจ้าท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคื่น จนเขาหวนนึกถึงดวงดาวที่ส่องแสงประกายบนท้องนภา นางกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่เงียบไปเมื่อคิดว่าอาจจะมีสายตาของชุนหลิงเหยียมองนางอยู่
คิดแค่นั้น นางก็รู้สึกไม่ค่อยดี.. นางจึงนิ่งเงียบ
นางกำลังจะบอกเขาว่าพวกหมาป่าหินทมิฬกำลังจะบุกเข้ามาโจมตีและนางมีบางอย่างที่สามารถขับไล่พวกหมาป่าพวกนั้นได้ ดังนั้นพวกเขาสามารถไล่พวกมันไปทั้งหมดโดยไม่ต้องเสียเหงื่อแม้แต่หยดเดียว แต่อย่างไรก็ตามนางยังไตร่ตรองและไม่พลั้งปากบอกความสามารถของตนออกไป ยิ่งตอนที่ชุนหลิงเหยียอยู่รอบ ๆ ยิ่งต้องระวัง นางต้องดูเหมือนคนไร้ประโยชน์ตามที่พวกเขาคิดว่านางเป็นเช่นนั้น...
นางพยายามแสดงละครให้เหมือนตนเป็นกระต่ายน้อยไร้พิษภัย ก่อนจะเผยตัวแล้วชิงผลจิตวิญญาณอมตะไปจากชุนหลิงเหยีย.. นางไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
เมื่อคิดเช่นนั้นสายตาเฉียบคมก็หายไปจากดวงตาของเฟิงหวูก่อนนางจะร้องออกมาด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว " ทำยังไงดี..? ข้ากำลังจะตายเหรอ? ข้ายังไม่อยากตาย.."
“อยู่ข้างหลังข้า อย่าไปไหน"เฟิงซุ่นพูดอย่างจริงใจ "เจ้าไม่มีพลังวิญญาณดังนั้นอะไรก็ตามที่อยู่สามารถสังหารเจ้าได้อย่างง่ายดาย!
เฟิงหวูพยักหน้า "เข้าใจแล้ว"
"เดี๋ยวก่อน.. แล้วองค์รัชทายาทไปไหน?" เมื่อมองไปรอบ ๆ นางเริ่มสังเกตว่ามีเพียงนางเฟิงซุ่น ซุ้นอี้ และนางฟ้ามู๋เหยียว ที่ยังไม่ตื่นรวมตัวกันอยู่ที่นี้
ทั้งชุนหลิงเหยียและคนรับใช้เฟิงไม่ได้อยู่ตรงนี้..
เฟิงซุ่นดึงตัวเฟิงหวูมาไว้ด้านหลังตาเขาแล้วตอบด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อย “พวกเราโดนสะกดรอยตาม !!”
จบตอน