GED : 31 โชคดี ?
“ปล่อยนางได้แล้ว”
เสียงที่น่าเกรงขาม เด็ดเดี่ยว ไม่ว่าใครที่ได้ยินก็รู้สึกให้ความเคารพต่อเจ้าของเสียง..
พวกเขาหันไปมองเจ้าของเสียงโดยไม่รู้ตัว
ทุกคนมองใบหน้าและดวงตาที่งดงามของบุรุษหนุ่มผู้มีท่าทีสุขุม ทรนงและแข็งแกร่ง
“ท่านชุน”ซุ้น อี้ขมวดคิ้ว "แม้คำพูดของมู๋เหยียวอาจไม่มีหลักฐานแต่นางก็น่าสงสัย เซี่ยวอู๋คนนี้อาจจะไม่ได้เป็นคนอย่างที่พวกเราเข้าใจ"
เฟิงซุ่นมองซุ้น อี้อย่างไม่พอใจแล้วตอบโต้ด้วยคำพูดกดดัน "ท่านชุนพูดเช่นนั้น เจ้าก็จงปล่อยนางเสีย"
ซุ้น อี้มองเฟิงหวูอย่างไม่พอใจแม้ตัวเขาเองจะเป็นเพื่อนสมัยเด็กของชุนหลิงเหยียก็ตาม แต่เขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของชุนหลิงเหยีย
ดังนั้นซุ้น อี้จึงยอมปล่อยมือจากเฟิงหวู
เฟิงซุ่นดึงตัวเฟิงหวูมาข้างกายแล้วถามอย่างเป็นกังวล "เจ้าเป็นอะไรไหม? เจ็บตรงไหนบ้างรึเปล่า?"
บทบาทของเฟิงหวูในตอนนี้ก็คือนางต้องดูใสซื่อและบอบบาง ต้องทำตัวเป็นคนที่ดูอ่อนแอที่สุดในกลุ่ม ถึงแม้นางจะแสดงละครตบตาไม่เก่งแต่เพราะนางอาศัยอยู่กับมารดามาหลายปี นางจึงรู้ว่าจะต้องวางตัวอย่างไรเพื่อให้ดูไร้พิษภัยเหมือนดวกบัว..ตัวแทนของหญิงสาวจิตใจบริสุทธิ์
ขอบตาของนางแริ่มแดงเพราะนางพยายามฝืนทำให้ดูเหมือนกำลังร้องไห้ น้ำตาปริ่ม ๆ ทำให้ดวงตาของนางดูระยิบระยับและคล้ายกับคนที่พยายามกลั้นน้ำตา
เอาล่ะเฟิงหวู..เจ้าต้องทำตัวให้เหมือนคนธรรมดา ที่ไม่ยอมพ่ายแพ้ให้แก่ความอยุติธรรม!
ซุ้น อี้จ้องเฟิงหวูแวบหนึ่ง ก่อนจะรู้สึกผิด หรือข้าจะเข้าใจนางผิดไป?
เฟิงซุ่นยิ่งรู้สึกสงสารเฟิงหวูมากกว่าเดิมจนเขาอดไม่ได้ที่จะมองซุ้น อี้อย่างดุดันไม่ได้
ซุ้นอี้พูดอย่างอารมณ์เสีย “ข้ามีคำถามคาใจมากมาย ทำไมหมาป่าหินทมิฬจึงโจมตีแต่มู๋เหยียว? หญิงคนนี้โชคดีขนาดนั้นเลยหรือ ? ข้าไม่เชื่อหรอก!"
"ก็คงใช่..นางเป็นคนที่โชคดีมาก.."ชุนหลิงเหยียเม้มริมฝีปากบาง ๆ ของตน เขาพูดด้วยเสียงเบาแต่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
"อะไรนะ?"ซุ้นอี้จ้องชุนหลิงเหยีย เขาพูดอะไรไม่ออก
ชุนหลิงเหยียไม่ตอบอะไร เพียงแต่พยักหน้าให้คนรับใช้เฟิง
คนรับใช้เฟิงจึงพูดต่อด้วยใบหน้านิ่ง ๆ "ข้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นของหญ้าเจ็ดหยาดน้ำค้างบนตัวของแม่นางเฟิง ข้าไม่ใจว่านายน้อยซุ้นทราบหรือไม่ ว่าหญ้าเจ็ดหยาดน้ำค้างเป็นส่วนผสมหลักที่ช่วยขับไล่หมาป่าหินทมิฬ?"
แน่นอนว่าซุ้นอี้ไม่ทราบเรื่องนั้น.. ศาสตร์การปรุงยานั้นคือเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในความสนใจของเขา
คนรับใช้เฟิงเดินเข้าไปหาพวกเขาแล้วชี้ไปที่พื้นซึ่งเฟิงหวูกลิ้งซ้ำไปซ้ำมา ก่อนจะอธิบายช้า ๆ "ตอนที่แม่นางเฟิงล้มลง นางโชคดีมากที่หล่นทับหญ้าเจ็ดหยาดน้ำค้าง จนหญ้าพวกนั้นติดอยู่ตามร่างกายของนาง พวกหมาป่าหินทมิฬมีความไวต่อกลิ่นนี้มาก พวกมันจึงไม่เข้าไปใกล้แม่นางเฟิง "
มู๋เหยียวอ้าปากค้าง "คนรับใช้เฟิง ท่านหมายความว่า เฟิง เซี่ยวอู๋ ไม่ใช่คนขี้โกงแต่แค่โชคดีงั้นหรือ?"
"ใช่แล้ว" คนรับใช้เฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเช่นเคย
"ข้าไม่เชื่อ! มันจะบังเอิญอะไรขนาดนั้นที่หญ้าเจ็ดหยาดน้ำค้างจะขึ้นอยู่ตรงนางล้มลงไปอย่างพอดิบพอดี! ไม่มีใครโชคดีขนาดนั้นหรอก! ข้าไม่เชื่อที่ท่านพูด! นางเป็นคนขี้โกหกและผลักข้าลงไปในฝูงหมาป่านั่น!" มู๋เหยียวยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้!
เฟิงหวูเหล่มองมู๋เหยียวโดยไม่ให้นางรู้ตัว
ในความจริง นางไม่ใช่คนโชคดีอย่างที่คนอื่นเข้าใจ
เฟิงหวูวางแผนทุกอย่างไว้ตั้งแต่ตอนที่นางดึงมู๋เหยียวไปอยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่ากับตน ก่อนจะหยิบหญ้าเจ็ดหยาดน้ำค้างออกมาจากวงแหวนจิตวิญญาณมังกรและวิหคเพลิงของตนแล้วกลิ้งทับพวกมัน
อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้เรื่องนี้นอกจากเฟิงหวู....
จบตอน