CF:บทที่ 4 โจรกรรมมือถือเจี่ยคุ่ย
มองไปที่กลุ่มระดับ 1 อู๋ ฮ่าวเหรินเล็งหากลุ่มใหญ่ๆ ตอนนี้เขาต้องเลือกให้ดี ถ้าเขาเลือกพลาดไปเลือกกลุ่มที่ไม่มีใครเลย แม้เขาอยากจะปล้นซองแดงแต่จะไม่มีใครส่งให้เขา
แน่นอนว่าเขาหวังจะเข้ากลุ่มที่มีเจ้าถิ่นเยอะๆ กลุ่มแบบนั้นง่ายที่จะปล้นซองแดงมากกว่าเพราะว่ามีเจ้าถิ่นคอยส่งซองแดงเยอะกว่านั่นเอง
แต่โชคไม่ดีที่เราตรวจจำนวนคนในกลุ่มไม่ได้ ดังนั้นจะต้องพึ่งดวงอย่างเดียวในการหากลุ่มดีๆ
อู๋ ฮ่าวเหรินสักการะเทพทุกองค์ในใจเขาเงียบๆ แล้วมองไปที่กลุ่มระดับ 1ที่เป็นกระจุกอยู่ และจิ้มไปที่ปุ่มแบบสุ่มๆ
ในกรณีนี้ การใช้ระบบสุ่มตรงๆไปเลยนั้นดีกว่า จะได้ไม่มีกลุ่มตาย กลุ่มตายโดยทั่วไปแล้วคนในกลุ่มนี้จะมีระดับสูงกว่าและไม่ค่อยทำซองแดงในกลุ่มระดับต่ำ
อย่างไรก็ตาม ถ้าใครสักคนทำซองแดงขึ้นมาละก็ มันจะเป็นซองแดงมูลค่าสูงแน่นอน ดังนั้นกลุ่มแบบนี้ปกติจะมีแต่พวกระดับสูงและคนที่ไม่สนว่ากลุ่มระดับต่ำจะได้อะไรเข้าไปอยู่กัน
ในความเป็นจริง ไม่เกี่ยวว่าจะเข้ากลุ่มอะไร อู๋ ฮ่าวเหรินผู้ที่มาจากยุคโบราณมาในระบบนี้เพื่อมาหาเงิน ไม่เกี่ยวว่าจะมีซองแดงอะไรส่งมาในกลุ่ม มันคือของดีสำหรับเขาในตอนนี้
“มีเข้ามาอีกคนแล้ว ยินดีต้อนรับ ทำไมไม่มีชื่อล่ะ พี่ชายรีบตั้งชื่อให้ไวเลยไม่งั้นไม่เรียกนายนะ”
“ใช่ๆ ตั้งชื่อเร็ว อีกแป๊ปเดียวคุณเรดาร์จะทำซองแดงที่ใส่อุปกรณ์สื่อสารตัวล่าสุดของบริษัทเขามาให้เราได้ปล้นกันแล้ว”
อู๋ ฮ่าวเหรินพบว่ากลุ่มนี้มีคนเพียงโหลเดียวเท่านั้น ซึ่งทำให้เขาหดหู่
แต่เมื่อเห็นว่ามีใครสักคนอยากจะส่งซองแดงเขาก็ตื่นเต้น
ไม่คาดคิดเลยว่า มือถือเขาเพิ่งพังไปแต่เมื่อเข้ามาในกลุ่มแรกก็มีคนส่งอุปกรณ์สื่อสาร นี่มันเป็นกลุ่มที่กำหนดมาตามสถานการณ์ของเขาเลยรึเปล่า?
เขาหวังว่าเทคโนโลยีของอุปกรณ์นี้จะไม่สูงเกินไป ไม่งั้นมันก็ไม่ได้ใช้ ต่อให้ฉกมาได้ก็ตาม
คิดแล้วก็ตั้งชื่อตัวเองว่าพ่อค้าของเก่า เทียบกับคนอื่นแล้วเขาน่าจะถูกเรียกว่าโบราณในระบบนี้ได้เลย
“ฉันว่าตามชื่อนั้นนะ พี่ชายชอบเรียนประวัติศาสตร์และเศษซากประวัติศาสตร์การบริหารหรอ?”
“หยุดคุยกันได้แล้ว เริ่มนับถอยหลังการฉกซองแดงแล้ว”
ทุกคนพร้อมแล้ว ขึ้นอยู่กับท่านเรดาร์เจ้าถิ่นในครั้งนี้ได้ส่งซองแดงสิบซองออกมาอย่างไม่คาดคิด
อู๋ ฮ่าวเหรินดูเวลานับถอยหลังข้างบนและซองแดงจะถูกส่งมาในอีกไม่กี่วินาที จู่ๆเขาก็สับสนเล็กน้อย เพราะเขาไม่รู้วีธีจับซองแดง เขาจึงรีบเช็กคู่มือและพบว่าตราบเท่าที่นิ้วจ่อไปที่ปุ่มสีแดงบนจอ เขารีบตั้งท่า เริ่มจ่อไปที่ปุ่มอย่างบ้าคลั่ง
“3, 2, 1, จับเลย”
เมื่ออู๋ ฮ่าวเหรินคว้าซองแดงได้เขากระโดดออกมาจากที่ยืนอยู่ทันทีหน้าแดงเพราะความตื่นเต้นและร่างกายสั่นโดยไม่ได้ตั้งใจ
แต่เขาก็พบว่านอกจากซองที่เขาฉกมา ซองที่เหลืออีกเก้าซองไม่ถูกฉกมาเลย แล้วเขาก็เห็นคำสาปส่งบนจอ
“ท่านเรดาร์ นี่มันหมายความว่ายังไงที่ส่งเกมแบบนี้มาให้เรา? เขาจะทำให้เราเสียเหรียญพลังงาน เขาถูกเห็นว่าทำแบบนี้มาสักพักแล้ว โดยที่มันไม่นับเป็นการโกง เขารู้ว่าจะต้องมีคนถูกหลอกจากการส่งซองแดงมาเยอะๆ บ้าเอ๊ย ใครถูกปล้นไปนะเมื่อกี้?”
“ใช่ ไอเจ้าเรดาร์ ฉันรู้ว่ามันต้องไม่ใจดีแน่ ไว้ฉันจะไปบ่นเรื่องเขาทีหลัง บ้าจริง ฉันไม่น่าเชื่อเขาเลย ว่าเขาอยากจะโกงเหรียญพลังงานของเรา”
“...”
“ฉันขอโทษๆ ฉันส่งผิดเป็นเครื่องรุ่นล้าสมัยน่ะ ขอโทษพ่อค้าของเก่าที่ฉันเพิ่งปล้นไปนะ เดี๋ยวส่งของดีๆไปให้ทีหลัง ฉันสัญญาเลยว่าคราวนี้จะส่งอุปกรณ์สื่อสารที่ล้ำสมัยที่สุดไปเลย เพื่อจะให้นายสบายใจ ฉันจะเซ็นจดหมายการันตีให้ นายไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นแล้ว”
ดูข้อมูลบนหน้าจอแล้ว อู๋ ฮ่าวเหรินเข้าใจทันทีว่าเขาถูกหลอกโดยเจ้าเรดาร์ เหมือนว่าจะส่งเครื่องสื่อสารแบบล้าสมัยมากๆมา เพื่อที่จะหลอกเอาเหรียญพลังงานจากทุกคน
คิดดูแล้วมันก็ประยุกต์ได้จริง เหรียญพลังงานเป็นสิ่งสำคัญมากๆของนักฉกซองแดงทุกคน ถ้าไม่มีเหรียญพลังงาน ต่อให้ฉกซองแดงมาได้แต่ก็เอาออกไปไม่ได้อยู่ดี
มากไปกว่านั้น ถ้าฉกซองแดงมาได้แต่ไม่นำไปแลกเป็นสิ่งของ ตราบเท่าที่ถึงจำนวนซองแดงสูงสุดห้าซอง ก็จะไม่สามารถฉกซองแดงเพิ่มได้
แต่อู๋ ฮ่าวเหรินตื่นเต้น สำหรับคนพวกนี้ มันก็เป็นแค่อุปกรณ์สื่อสารล้าสมัยแต่สำหรับเขามันคือของไฮเทค
“ไม่สำคัญหรอก เราฉกซองแดงเอาสนุกน่ะ”
“สมกับเป็นพ่อค่าของเก่า แล้วก็นะพี่ชายในอีกครู่หนึ่งนายสามารถส่งอะไรสักอย่างให้ท่านเรดาร์ฉกไปแล้วเอาเหรียญพลังงานคืนมาก็ได้นะ”
“ถ้าแกกล้าโกงฉันอีกล่ะก็ เราจะร่วมกันฟ้องนายนะ”
เรดาร์ทำซองแดงอีกครั้ง แต่อู๋ ฮ่าวเหรินไม่สนใจเพราะว่าซองแดงที่เขาจะส่งมาในครั้งนี้ถูกอธิบายแล้วเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่ล้ำยุคมากๆ แม้ว่าเขาจะได้แบบที่ล้ำยุคมาสักอันมันก็ไม่สามารถใช้ได้
ไม่มีทางที่เขาจะใช้ระบบสัญญาณออปติคอลได้เลย ทุกวันนี้โลกกับสัญญาณ 4G ยังไม่ครอบคลุมเลยด้วยซ้ำ แล้วอะไรคือสัญญาณออปติคอล? แม้แต่มนุษยชาติก็ไม่มีทางเข้าใจแนวคิดของมันได้เลย
ในเมื่อเขาใช้มันไม่ได้ เขาจึงไปดูว่าเครื่องสื่อสารล้าสมัยที่เขาฉกมาคืออะไรแล้วใช้อะไรได้บ้าง
เปิดซองมาเจอเจ้าเครื่องสื่อสารล้าสมัยนั่น มันขนาดเพียงฝ่ามือมันเหมือนกับแผ่นกระจกไม่มีตัวอักษรอะไรบนพื้นผิวของมัน เขาเปิดดูคู่มือที่มีข้อมูลเครื่องนี้ทั้งหมด
คู่มือเครื่องสื่อสารอัฉริยะ กาแลคซี่ : ผลิตโดยกาแลคซี่กรุ๊ป มันมีชิปอัจฉริยะสามรุ่นของบริษัทกาแลคซี่(ปัจจุบันถูกกำจัดแล้ว) ระบบฟังก์ชั่นที่หลากหลาย หน่วยความจำจากวัสดุโลหะ ชุดระบบแหล่งพลังงานความร้อน
ดูคู่มือแล้วอู๋ ฮ่าวเหรินขมวดคิ้วแน่น แต่ยิ่งดูไปเรื่อยเขาก็เริ่มผ่อนคลาย จนจะกลายเป็นยิ้มได้
“โชคดีที่มันเป็นของล้าสมัย ดูเหมือนว่าเราจะต้องสนใจของแบบนี้ในอนาคต ไม่งั้นมันคงจะล้ำสมัยเกินที่จะใช้”
อู๋ ฮ่าวเหรินรู้สึกหดหู่เล็กน้อย เขารู้ว่าระบบฉกซองแดงในอนาคตนั้นล้ำสมัยเกินไปสำหรับเขา และของหลายอย่างคงใช้ไม่ได้ต่อให้ฉกมาได้ก็ตาม
คนอื่นๆเขาอยากจะฉกของล้ำสมัย แต่เขาต้องหาทางฉกของล้าสมัยที่ตกยุคมาแทน
ระหว่างคิดเขาก็มองดูคนที่เพิ่งปล้นเจ้าเรดาร์ ที่ส่งซองแดงที่มีเครื่องสื่อสารล้ำสมัยออกไป แล้วคิ้วของเขาก็เหี่ยวลง
เราต้องหาทางแก้ปัญหานี้ ไม่งั้นเราจะใช้ระบบซองแดงนี่ไม่ได้ในภายหลัง อีกปัญหาก็คือจะหาเหรียญพลังงานยังไง
ผู้คนสามารถส่งของล้ำสมัยให้คนที่ไม่มีของล้ำสมัยได้
“นั่นพ่อค้าของเก่าเมื่อกี้นี่นา ฉันขอโทษด้วยนะ เอาล่ะคุณสามารถยื่นคำขอที่สมเหตุสมผลให้ฉันได้เลย ซึ่งจะเป็นการชดเชยที่ฉันให้คุณได้”
เห็นข้อมูลที่ส่งมาโดยเจ้าเรดาร์อู๋ ฮ่าวเหรินตกตะลึง ดูเหมือนว่าคนๆนี้กลัวที่จะถูกฟ้อง โชคร้ายที่อู๋ ฮ่าวเหรินไม่มีสิทธิ์จะฟ้องเขาได้เลย
ดูมือถือที่เขาฉกมาได้นอนอยู่ในระบบซองแดง เขากดปุ่มแลกเปลี่ยนด้วยความหวัง
ไม่มีเสียงแปลกหรือสิ่งอัศจรรย์เกิดขึ้น อู๋ ฮ่าวเหรินผิดหวังโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยว่ามีของสุดเจ๋งอยู่ในมือเขาแล้ว
----------------------------------