px

เรื่อง :
บทที่ 13: ผู้เชี่ยวชาญสนามรบอลหม่าน


โจรคนนั้นตกใจมากเมื่อเห็นมาร์วินพุ่งเข้าหาเขา เขารีบโบกมีดในมือ พยายามที่จะใช้ Stealth เพื่อซ่อนตัวหลบอยู่ในกลุ่มฝูงชน

"โง่เง่า ใช้ Stealthในระหว่างการต่อสู้ ... "

มาร์วินยิ้มเยาะและตวัดมีดโค้งไปทางด้านหลังเงาของโจรที่กำลังเคลื่อนที่

เสียงกรีดร้องดังมาจากร่างเงา สักพักก็ปรากฏเป็นร่างโจรที่ด้านหลังเต็มไปด้วยเลือด โจรตกใจจนสะดุดขาล้มลงกับพื้น

ความสามารถพวกแก๊งเหล่านี้ต่ำเกินไป เห็นได้ชัดว่าเอาไว้ข่มขู่คนธรรมดาเท่านั้น

การใช้ Stealth ต้องการเวลาเตรียมตัวนาน ดังนั้นการใช้ในระหว่างการต่อสู้นั้น มันจะไม่เป็นการล่องหนที่สมบูรณ์ ซึ่งทำให้คู่ต่อสู้สามารถมองเห็นร่องรอยได้

มาร์วินแตะมีดของโจรออกไปพร้อมกับก้มลงตวัดมีดเฉือนคอโจรในเวลาเดียวกัน มาร์วินเคลื่อนไหวมือและเท้าได้อย่างพร้อมกัน

สี่คนที่เหลือกำลังหวาดกลัว พวกเขาต้องการที่จะหลบหนี

การกระทำของมาร์วินมีความเฉียบขาดเกินไป! เฉพาะผู้เชี่ยวชาญซูเปอร์แรนเจอร์เท่านั้นที่แสดงความสามารถแบบนี้ได้

ผู้ชมจู่ๆก็ระเบิดความโกลาหลขึ้นทันที พวกเขาไม่คาดคิดว่าชายสวมหน้ากากจะแข็งแกร่งมากเพียงนี้ เผชิญหน้ากับศัตรูหกคน และกำจัดไปได้สองคนในขณะที่เขาไม่ได้รับอันตรายใดๆ นี่เป็นเรื่องที่นึกไม่ถึงอย่างยิ่ง เว้นแต่ว่าเขาเป็นทหารชั้นยอดของกองทัพ

" บางทีเขาอาจเป็นทหารรับจ้างชั้นยอด? " มีบางคนคาดเดาขึ้น

ในที่สุดแก๊งทั้งสี่คนนี้พยายามข่มความกลัวของตัวเองลง และตัดสินใจสู้กับเขาต่อ

แต่คราวนี้พวกเขาค่อนข้างระมัดระวังและคอยเฝ้าปกป้องซึ่งกันและกันเป็นพิเศษ ในขณะที่ผู้ชมค่อยๆล่าถอยไปยังมุมห้อง พวกเขากลัวจะโดนลูกหลง

มาร์วินกระโดดสูงขึ้นไปบนคานอีกครั้ง เขาปักมีดทั้งสองฝังลงบนคาน แล้วใช้มือทั้งสองข้างคว้าบางอย่างออกจากกระเป๋าเล็กๆสองอันที่ติดอยู่บนเข็มขัดของเขา

ฟรุบ!

เขาโยนอะไรบางอย่างจากมือขวาของเขาใส่พวกแก๊ง!

ทราย!

" ระวัง ! มันเป็นทราย " พวกแก๊งใช้มือและอาวุธของตนเพื่อป้องกันดวงตาไว้

พวกเขารู้สึกรำคาญอย่างมาก เนื่องจากชั้นเชิงขยะเช่นนี้เป็นของพวกมือใหม่! พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่ามันจะถูกใช้โดยชายผู้มีทักษะขั้นสูงคนนี้

ขณะที่พวกแก๊งกำลังปัดป้องทรายไม่ให้โดนตา มาร์วินโยนของอีกสิ่งจากมือซ้าย

ครั้งนี้มันเป็นผงปูนขาว ถูกโปรยลงมาคล้ายละอองฝนปรอยๆ!

ผู้ชมไม่สามารถหยุดตื่นเต้นได้ จังหวะระยะเวลาการโยนของมาร์วินเฉียบขาดมากเกินไป

แก๊งทั้งสี่คนเพิ่งลดมือและอาวุธลงหลังจากปัดป้องทราย และเตรียมพร้อมที่จะโจมตีกลับ แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะมีผงปูนขาวถูกโปรยซ้ำลงมาอีก ซึ่งคราวนี้ไม่สามารถป้องกันได้

"อ๊าก! ตาฉัน!"

"ช่วยฉันด้วย!"

"มันแสบตา!"

พวกเขาเริ่มตื่นตระหนก และหนึ่งในพวกเขาเริ่มเหวี่ยงดาบไปมาด้วยความหวาดกลัว ดาบฟันถูกคนที่อยู่ข้างๆเขา

มาร์วินยิ้มกว้าง คว้ามีดทั้งสองเล่มกระโดดพุ่งลงจากคาน

ฉับ! ฉับ! ฉับ! เขาเฉือนสองสามครั้งอย่างชำนาญราวกับว่าเขากำลังแกะสลักเนื้อ

ทั้งสี่คนค่อยๆตายลงทีละคน

ทีมชั้นยอดทั้งหกคนของแก๊งอาร์เชรอน ในที่สุดจะถูกฆ่าล้างทีมทั้งหมด

ผู้ชมรู้สึกว่าหนังศีรษะของพวกเขาด้านชา แม้กระทั่งทีมชั้นยอดยังถูกฆ่า เหล่าสมาชิกทั่วไปต่างหวาดกลัวหลบซ่อนอยู่แต่ในมุม ไม่มีใครกล้าจะส่งเสียงสักคน

แต่มีคนฉลาดบางคนรีบวิ่งลงไปในห้องใต้ดินอย่างรวดเร็วเพื่อรายงาน

"เขาต้องการอะไร? อย่าบอกฉันนะว่าเขาต้องการกำจัดแก๊งอาร์เชรอนด้วยตัวคนเดียว? ไม่มีทาง!"

ในขณะที่ทุกคนมองมาร์วินด้วยความตกใจ มาร์วินก็พบประตูลับตามที่อิสซาเบลได้บอกไว้

โครม!

เขาถีบประตู เปิดเผยให้เห็นสวนที่ว่างเปล่ากว้างใหญ่

"พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในห้องใต้ดิน" อิสซาเบลกล่าว "มีอย่างน้อยหนึ่งทีมชั้นยอดและยังมี ไดอาไฟฟ์ เขามีความแข็งแกร่งมาก"

ผู้ชมเริ่มมองมาร์วินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคารพและยำเกรง

ด้วยความแข็งแกร่งของเขา สามารถท้าทายพวกแก๊งอาร์เชรอนในชั้นใต้ดินได้ ความแข็งแกร่งแบบนี้เทียบได้กับนักผจญภัยแร็งค์ 2 ที่แข็งแกร่ง

"ไดอาไฟฟ์ซ่อนตัวอยู่ในห้องใต้ดินก็จริง แต่เขาเป็นถึงนักผจญภัยแร็งค์2 ... เขาจะไปกลัวแรนเจอร์เลเวล3หรือ4ได้ไง?" ใครบางคนพึมพำขึ้น

ในเวลานั้น ประตูลับบนพื้นถูกเปิดออก พื้นค่อยๆแยกออกเผยให้เห็นทางอุโมงค์ใต้ดิน

นักสู้คนหนึ่งพาดขวานไว้บนไหล่เดินออกมาจากอุโมงค์ที่เพิ่งเปิดกว้าง ด้านหลังมีนักผจญภัยหกคน นี่คือทีมชั้นยอด ทีมที่สี่ของแก๊งอาร์เชรอน

" บาร์ไพร็อกซีน คืนนี้ปิดแล้ว เชิญทุกคนออกไปได้"

เสียงลึกๆของไดอาไฟฟ์สะท้อนออกมา และทุกคนก็ตัดสินใจที่จะฟังคำพูดของเขา สิ่งที่น่าตื่นเต้นนี้เป็นความบันเทิงอย่างแท้จริง แต่ยังไงการมีชีวิตอยู่ก็สำคัญกว่า ผ่านไปสักพักผู้คนที่ไม่ใช่คนแก๊งอาร์เชรอนก็ออกไปหมด

ในตอนนี้เหลือเพียงแค่มาร์วินและอิสซาเบล กับไดอาไฟฟ์และทีมชั้นยอดทั้งหกคนที่เหลืออยู่ในสวนกว้างหลังบ้าน แม้แต่สมาชิกแก๊งระดับทั่วไปก็ถอยห่างอยู่ในระยะไกลๆ

พวกเขาไม่กล้าเข้าร่วมการต่อสู้ระดับสูงแบบนี้ มาร์วินเพิ่งแสดงความสามารถในการฆ่า จนทำให้พวกเขาหวาดกลัว

หากวันนี้มาร์วินสามารถเอาชีวิตรอดออกจากที่แห่งนี้ได้ เรื่องราวของหน้ากากมีดคู่จะแผ่กระจายไปทั่วเมือง River Shore

...

"ใครส่งแกมา?"ไดอาไฟฟ์ถามอย่างเย็นชา ขณะโบกขวานไปมาเบาๆ

ตอนนี้หัวใจของเขาถูกเผาไหม้ด้วยความโกรธ

แก๊งอาร์เชรอน ไม่เคยได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงแบบนี้มาก่อน ทีมแรกและทีมที่ห้าได้ถูกกำจัดอย่างสมบูรณ์ แม้กระทั่งโกดังสินค้าและคาสิโนยังได้รับผลกระทบ ไม่บอกก็รู้ว่านี่ต้องเป็นกลยุทธ์ในการล่อเสือออกจากถ้ำ

"ใครบางคนจ้างแกไปฆ่าคนอื่นได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนจ้างให้ฉันมาฆ่าแกบ้าง"

มาร์วินกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า "ไดอาไฟฟ์ แกได้ประเมินความแข็งแกร่งของพวกขุนนางชนชั้นสูงต่ำเกินไป มีใครบางคนจ้างฉันด้วยเงินจำนวนมากเพื่อตามหาคนที่ต้องการจะฆ่าขุนนางมาร์วิน ฉันตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุในป่าจนตามร่องรอยมาถึงที่นี่ อาจบอกได้ว่าฉันเป็นคนแรกที่มาถึงที่นี่ ยังมีทหารรับจ้างนับไม่ถ้วนที่ต้องการพบแกมากกว่าฉันเสียอีก "

เส้นเลือดดำสีฟ้าผุดบนหน้าผากไดอาไฟฟ์ "มันเป็นไปไม่ได้? ขยะไร้ค่าเช่นนั้นจะมีค่าอะไรมากมาย ถึงขั้นต้องทุ่มเงินจำนวนมากจ้างพวกแก? "

"ฉันไม่รู้" มาร์วินหัวเราะและแสร้งทำเป็นว่า "ฉันแค่อยากจะทำงานให้เสร็จ บอกมาว่าใครเป็นผู้ว่าจ้าง แล้วฉันจะจากไป"

"จากไป? หลังจากที่ฆ่าคนของฉันไปหลายคนแล้ว?" ไดอาไฟฟ์กล่าวด้วยความฉุนเฉียวว่า "แกยังคิดว่าจะสามารถรอดชีวิตไปจากที่นี่ได้"

"ว่าไงน่ะ? จะไม่บอกฉัน? แต่ยังไงซะ แกก็ต้องบอกคนอื่นๆที่กำลังจะตามมาในเร็วๆนี้อยู่ดี" มาร์วินหัวเราะเยาะ

"แกต้องการให้พวกลูกน้องของแกเผชิญกับความสูญเสีย จะเสียสละชีวิตของพวกเขาเพื่ออะไร?"

สายตาของเขาเหลือบมองอย่างรุนแรงไปที่สมาชิกแก๊งทุกคนในขณะพูด

สมาชิกทั้งหกคนของทีมชั้นยอดมองกันและกัน ทุกคนรู้สึกหวาดกลัว

พวกเขามองไปที่ศพทั้งหมด ดูจากสภาพศพ แต่ละศพถูกฆ่าอย่างง่ายดาย แสดงให้ถึงคนลงมือมีความคล่องแคล่วและความเชี่ยวชาญสูง

หากพวกเขาต่อสู้กับมาร์วิน คงถูกฆ่าตายเหมือนศพเหล่านี้

พวกเขาเป็นเพียงอันธพาล ไม่ใช่ทหารที่จะสู้จนตัวตาย พวกเขาสามารถข่มขู่ผู้คนธรรมดาๆได้ แต่ต่อหน้าสัตว์ร้ายอย่างมาร์วิน พวกเขาเลือกที่จะรักษาชีวิตไว้ดีกว่า

" บอส มันจะดีกว่าที่จะบอกเค้า . . . . . . . " โจรคนหนึ่งที่กล้าได้กล้าเสียได้ก้าวไปข้างหน้าพูดขึ้น แต่ขวานอันใหญ่ของไดอาไฟฟ์ได้ผ่าร่างเขาออกเป็นสองซีกทันทีก่อนที่จะพูดจบ

เลือดไหลนองเต็มพื้น!

สายตาของคนที่เหลืออีกห้าคนเปิดกว้างขึ้น พวกเขาทั้งหมดถอยห่างออกไปสองสามก้าว

"พวกขยะ!" ไดอาไฟฟ์ตาแดงกร่ำ แกว่งขวานไปทางมาร์วินตะโกนว่า "แค่ฉันคนเดียวก็สามารถฆ่าเขาได้!"

ทั้งห้าคนจ้องมองกันและกันแวบหนึ่ง แล้วก็เลือกที่จะนิ่งเฉย

มาร์วินยิ้ม

แน่นอนเขาคาดเดาได้ถูกต้อง คนเหล่านี้ชอบที่เอาเปรียบคนอ่อนแอ แต่กลัวที่จะสู้กับคนที่แข็งแกร่งกว่า

ถ้าไดอาไฟฟ์ชนะ พวกเขาจะถูกลงโทษเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการสูญเสียทีมชั้นยอดไปแล้วถึงสองทีม ไดอาไฟฟ์จะไม่กล้าก่อให้เกิดความสูญเสียที่จะนำไปสู่การยุบแก๊งอาร์เชรอน หากไดอาไฟฟ์แพ้ พวกเขาก็สามารถให้ข้อมูลนายจ้างกับมาร์วินเพื่อแลกกับชีวิตตนเองได้

นี่คือสิ่งที่พวกเขาคิด พวกเขาจะไม่ทำอะไรที่สูญเสียประโยชน์ พวกเขาจึงเลือกที่จะนิ่งเฉยปล่อยให้ทั้งสองคนสู้กันตัวต่อตัว****นกสองหัว55****

นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับมาร์วิน

ถ้าพวกเขาช่วยไดอาไฟฟ์ล้อมรอบมาร์วิน แม้ว่าประสบการณ์ของมาร์วินจะมีมากมาย แต่อาจมีหนทางชนะน้อยมาก เขาอาจต้องถอยกลับชั่วคราว โดยไปใช้กลยุทธ์อื่นแทน

แต่ถ้าเป็นการสู้ตัวต่อตัว ...

แน่นอนเขาไม่กลัวไดอาไฟฟ์

มือของไดอาไฟฟ์จับขวานขนาดใหญ่ไว้ ตาสองข้างของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและจ้องมาร์วินแทบไม่กระพริบตา

ไดอาไฟฟ์มีรูปร่างสูงใหญ่ ทั้งตัวเต็มไปด้วยมัดกล้ามที่แข็งแรงและมีรอยสักบนคอของเขา

'บาร์บาเรี่ยน?' มาร์วินคิด

มาร์วินควงมีดทั้งสองอย่างสวยงามในขณะที่แอบใช้การตรวจสอบ

ค่าสถานะของไดอาไฟฟ์ได้ถูกเปิดเผยต่อหน้ามาร์วิน

[ไดอาไฟฟ์]: สามัญชน เลเวล 5 ​​ - นักสู้(แร็งค์1) เลเวล 6 - บาร์บาเรี่ยน(แร็งค์2) เลเวล 2 - HP 179

มาร์วินต้องทุ่มสุดตัวเมื่อเผชิญหน้ากับไดอาไฟฟ์ ผู้ชายคนนี้เป็นนักสู้ที่แท้จริง ไม่งั้นเขาจะไม่สามารถสร้างอำนาจของเขาในเมือง River Shoreได้ในเวลาเพียงแค่หกเดือน เนื่องจากวิธีการของเขาในการสร้างทีมเล็กหลายๆทีมขึ้นมา มาร์วินคาดว่าเขาต้องเคยเป็นทหารมาก่อน

พวกทหารและพวกยามรักษาความปลอดภัยของเมืองนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในสนามรบ พวกทหารจะมีจิตวิญญาณต่อสู้แน่วแน่ ไม่หวั่นเกรงต่อความตาย

นี่เป็นประโยชน์มากในการต่อสู้

ยิ่งไปกว่านั้นพวกทหารถูกฝึกฝนการใช้ทักษะการต่อสู้อย่างมาก ดังนั้นการโจมตีของไดอาไฟฟ์ด้วยขวานของเขาจะรุนแรงอย่างมาก ถ้าโดนมาร์วินอาจตายได้ในทันที

"ความแข็งแรงของเขาน่าจะไม่น้อยไปกว่า19แต้ม ซึ่งสามารถยับยั้งแรงปะทะฉันได้ทั้งหมด ฉันต้องหลบให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้และหลีกเลี่ยงการบล๊อคด้วยอาวุธ "

มาร์วินค่อยๆขยับตัวด้วยสีหน้าที่สงบ แต่ในใจเขาก็เตรียมพร้อมรับมืออยู่ตลอดเวลา

นี่เป็นศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุด ตั้งแต่เขาย้ายเข้ามาในโลกนี้

ขณะที่ทั้งสองฝ่ายต่างจ้องมองกัน มาร์วินก็มองไปที่บันทึกการต่อสู้ของเขาที่ปรากฏขึ้นมา

[เนื่องจากคุณได้ต่อสู้กับศัตรูหกคนโดยลำพัง และมีหนทางชนะในสนามรบที่อลหม่านนี้ คุณจึงได้รับฉายา :ผู้เชี่ยวชาญสนามรบอลหม่าน ]

ฉายา[ ผู้เชี่ยวชาญสนามรบอลหม่าน ]: เมื่อต่อสู้กับศัตรูหลายคน ความคล่องตัวของคุณจะเพิ่มขึ้น 1]

'ศัตรูหลายคน? มันนับยังไง ? '

เห็นได้ชัดว่าแม้ว่าทีมที่สี่ไม่ได้ล้อมโจมตีเขา แต่ก็มีความเป็นปฏิปักษ์อยู่และถือว่าเป็นศัตรู

มาร์วินคิดอย่างมีความสุข เขาเปลี่ยนฉายาจาก [Newborn Ranger] เป็น [ ผู้เชี่ยวชาญสนามรบอลหม่าน ]

1แต้มความคล่องตัว !เท่ากับเขาต้องอัพสองเลเวลเพื่อให้ได้แต้มสถานะ1แต้ม! นี่มันสุดยอดมาก!

แน่นอนว่าหลังจากใส่ฉายานี้ ความคล่องตัวของเขากลายเป็น 18 (+1)!

19 ความคล่องตัว อีกแค่หนึ่งแต้มเขาจะเข้าสู่ระดับซุปเปอร์ว่องไว****ค่านี้20แต้มจะเปิดสกิลความสามารถใหม่****

ไดอาไฟฟ์ฉวยโอกาสจังหวะที่มาร์วินกำลังอยู่ในห้วงความคิด เขาคำรามออกมา

สกิลบาร์บาเรี่ยน: [คำรามขู่ขวัญ]

ร่างกายของมาร์วินก็หยุดนิ่งทันทีทั้งๆที่ยืนอยู่

[คุณได้รับผลของ คำรามขู่ขวัญ!]

[กำลังตรวจสอบ ... ]

[การตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว! ร่างกายของคุณถูกสตั้นเป็นเวลา 0.5 วินาที!]

"เชี่ย!" มาร์วินสบถออกมา ไดอาไฟฟ์หัวเราะอย่างน่ารังเกียจขณะที่เหวี่ยงขวานขนาดใหญ่ของเขาไปที่มาร์วิน

รีวิวผู้อ่าน