1639 วันที่แล้ว
++++
ฉินฟานมองไปที่ทางเข้า และเห็นชายหนุ่มรูปร่างสมส่วนถือกระเป๋าสะพายยืนอยู่หน้าประตู เส้นผมด้านหน้าของเขาด้านหนึ่งยาวมาถึงหน้าผาก และเส้นผมอีกด้านก็ยาวจนปิดตาข้างหนึ่งของเขา อย่างไรก็ตามแม้จะมีเส้นผมปิดบังใบหน้าอยู่ครึ่งหนึ่งแต่ก็ไม่สามารถปกปิดใบหน้าที่สง่างาม และหล่อเหลาของเขาได้
“เข้ามาได้”
ซูอันจีพูดด้วยรอยยิ้มที่พบเห็นได้ยากบนใบหน้าของเธอ
ชายหนุ่มคนนี้เป็นนักเรียนที่ดีที่สุด และได้รับรางวัลมากมายในระหว่างการแข่งขันคณิตศาสตร์ระดับชาติ เขาถูกรับประกันแล้วว่าจะได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยชิงหัว ดังนั้นแม้ว่าเขาจะมาสาย แต่ซูอันจีก็ไม่ได้สนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆเช่นนี้แต่อย่างใด
ชายหนุ่มที่หล่อเหลาเดินเข้าไปในห้องเรียน และดื่มด่ำกับความรักจากเหล่าหญิงสาวภายในห้อง
เมื่อมองเห็นชายหนุ่ม จิตวิญญาณของหัวหน้าห้องชางเหวินก็มีความตื่นตัวขึ้นมาทันที เธอจ้องมองไปที่ดวงตาของชายหนุ่ม และความหลงใหลก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
“ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแต่หล่อเหลา แต่เขายังฉลาดมากอีกด้วย! เขาทำคะแนนสอบได้ดีที่สุดในทุกการสอบ แต่ที่น่าโมโหยิ่งกว่าคือเขาแม่งไม่เคยต้องมาทบทวนบทเรียนอะไรเลย! ใช่! ไม่เคยเลย! เขาสามารถใช้เวลาหนึ่งคืนก่อนสอบที่ร้านเน็ตคาเฟ่เพื่อเล่น Dota และยังได้รับเกรด A+ จากการสอบอีกด้วย!” เจียงทันชิพูดอย่างขมขื่น
“เขายังเป็นแนวหน้าของทีมบาสเก็ตบอลโรงเรียน หญิงสาวส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมกับทีมเชียร์ลีดเดอร์ก็เพราะเขา และหยางเฉา”
หลังจากที่เขาพูดจาโผงผางจบ เจียงทันชิก็ถอนหายใจแล้วพูด “โชคดีที่เขาชอบซูหรงเฟย และหญิงสาวทุกคนก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี ไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีโอกาสจีบผู้หญิงคนอื่นได้เลย”
ริมฝีปากของเฉินฟานโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม
เมื่อเห็นว่าเฉินฟานไม่ได้สนใจในคำพูดของเขาอย่างจริงจัง เจียงทันชิก็หันไปมองเขา และถามขึ้นมาทันที “เหมือนว่านายจะไม่ค่อยสนใจเรื่องของซือหยินเซียมากนัก?”
เฉินฟานพูดอย่างแผ่วเบา “ทำไมฉันต้องสนด้วยล่ะ?”
ในชีวิตที่แล้วของเฉินฟาน ซือหยินเซียเป็นชายหนุ่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเกรดสิบสอง เช่นเดียวกับเจียงทันชิ เฉินฟานก็อิจฉาเขาเป็นอย่างมากเช่นกัน อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาได้เปลี่ยนเป็นคนละคน และในสายตาของเขา ซือหยินเซียก็ไม่ได้แตกต่างจากคนอื่นเลยแม้แต่นิด
(เกรดสิบสอง เป็นการเทียบระดับชั้นและผลการเรียนเกรดสิบสอง (Twelfth Grade) เริ่มใช้ในอเมริกาเหนือสำหรับนักเรียนปีสุดท้ายของระดับ Secondary School (ระดับมัธยมศึกษา)
“ให้ตายเถอะเพื่อน นายแม่งต้องเสแสร้ง และอวดดีเช่นนี้ตลอดเลยงั้นเหรอ?” เจียงทันชิบ่น “ฉันก็ไม่ชอบขี้หน้าเขาเช่นกัน แต่อย่างน้อยฉันก็ยอมรับว่าเขามีพรสวรรค์มากกว่าฉันนะเว้ย!”
เฉินฟานยิ้ม และไม่ตอบโต้
เจียงทันชิขมวดคิ้วในขณะที่เขารู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้หยิ่งมาก อย่างไรก็ตามเขาเก็บความคิดไว้กับตัวเอง
ตอนนี้ชีวิตมัธยมของเฉินฟานก็เริ่มต้นขึ้นในที่สุด
เนื่องจากเขาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน และเป็นคนเงียบขรึม ดังนั้นเพื่อนร่วมห้องส่วนใหญ่จึงไม่สนใจเขามากนัก ชางเหวินคิดว่าความเงียบขรึมของเด็กใหม่เป็นความเขินอาย และคิดว่าเขาเป็นคนกระตือรือร้น ดังนั้นเธอจึงมอบหมายหน้าที่การทำความสะอาดให้กับเฉินฟานซึ่งเป็นหน้าที่ที่ไม่มีใครอยากทำเช่นกวาดพื้น และอื่นๆ
ไม่เหมือนกับเกรดสิบสองของโรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนมัธยมไอวีลีกให้นักเรียนเลิกเรียนเร็วกว่าโรงเรียนรัฐบาลมาก เพราะเชิงวิชาการทางด้านการเรียนไม่ได้เป็นเพียงวิธีเดียวในการมุ่งสู่ความสำเร็จสำหรับวัยรุ่นที่มีสิทธิพิเศษจากครอบครัวหรือตระกูลที่ร่ำรวย และมีหลายคนที่ตัดสินใจไปศึกษาต่อต่างประเทศทันทีที่จบมัธยม พวกเขามีตัวเลือกมากมาย และมีความกดดันน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับนักเรียนมัธยมปลายปกติ
ในเย็นวันหนึ่งเหมือนตอนเย็นวันก่อน เฉินฟานเดินไปตามทางเลียบแม่น้ำหลังจากที่เขาทำหน้าที่ทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงร้องแผ่วเบาเพื่อขอความช่วยเหลือ
เฉินฟานขมวดคิ้ว และพุ่งไปทางพงหญ้าที่ซึ่งมีเสียงขอความช่วยเหลือดังขึ้น
เมื่อเขาเข้าไปใกล้ เขาก็เห็นชายคนหนึ่งในวัยสามสิบที่สวมเสื้อลายพราง และกดผู้หญิงไว้ใต้หน้าอกของเขา มือข้างหนึ่งปิดปากของผู้หญิงเพื่อที่จะระงับเสียงร้องของเธอ เสื้อผ้าของผู้หญิงถูกฉีกขาด เธอโบกมือทั้งสองไปมาอย่างหมดหนทาง และพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากการถูกจับ
“หยุด!” เฉินฟานตะโกน
ชายคนนั้นตกใจ ด้วยความลังเลเพียงเล็กน้อย เขาจึงปล่อยผู้หญิงคนนั้น และวิ่งหนีไป
เฉินฟานแค่นเสียง ‘หึ’ จากนั้นเขาก็ใช้นิ้วเท้าของเขาดีดก้อนหินก้อนหนึ่งขึ้นมาจากพื้นแล้วเตะออกไป ก้อนหินพุ่งเไปหาชายคนนั้นราวกับกระสุนปืน และกระแทกไปที่หลังของเขาอย่างเต็มแรง
“อั้ก!” ชายคนนั้นกรีดร้อง และล้มลงบนพื้น ด้วยความเจ็บปวด และความทุกข์ทรมาน เขาสามารถฝืนตัวเองลุกขึ้นยืน และวิ่งหนีไปอีกครั้ง
เฉินฟานปล่อยให้เขาหนี และไม่ได้ไล่ตามไป
การเตะที่เขาส่งไปนั้นแฝงไปด้วยพลังปราณ ทำให้ชายคนนั้นได้รับบาดเจ็บภายใน และชีวิตของเขากำลังตกอยู่ในอันตรายหากเขาไม่รีบไปโรงพยาบาลทันที
“เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” เฉินฟานถามผู้หญิงบนพื้น
จากการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เขาก็พบว่าผู้หญิงคนนั้นอายุประมาณยี่สิบเจ็ดปี และสวยงามมากเป็นพิเศษ เธอสวมใส่ชุดโทนดาร์ค และเมคอัพที่หนาเตอะ และกระโปรงสั้นสีแดงเพลิง เธอทำให้เฉินฟานนึกถึงผู้หญิงที่ทำงานในไนท์คลับ
‘ทำไมเธอถึงแต่งตัวแบบนี้ และเดินท่ามกลางที่รกร้างเช่นนี้?’ เฉินฟานคร่ำครวญ
เมื่อรู้ว่าเธอปลอดภัยแล้ว ผู้หญิงคนนี้ก็สามารถรวบรวมสติตัวเองกลับมาได้อีกครั้ง เฉินฟานช่วยพยุงเธอยืนขึ้น และเธอก็สังเกตเห็นว่าผู้ช่วยชีวิตของเธอเป็นนักเรียนมัธยมปลาย จากนั้นเธอก็พูดออกมาด้วยความซาบซึ้งอย่างสุดใจ “ขอบคุณคุณมาก! ถ้าไม่ได้คุณช่วย ฉันก็คง...”
น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเธอ และเธอก็ไม่สามารถพูดให้จบได้
“ตอนนี้เธอปลอดภัยแล้ว ไม่มีอันตรายอะไรแล้วนะ” เฉินฟานพูด
ทั้งสองเริ่มพูดคุยขณะที่ผู้หญิงค่อยๆฟื้นตัวจากการบาดเจ็บ
เมื่อพูดคุยกันไปได้สักพัก เฉินฟานจึงได้รู้ว่าชื่อของผู้หญิงคนนี้คือเฉินหยิง และเธอก็เป็นเจ้าของไนท์คลับ เธอมักจะขับรถกลับบ้านหลังเลิกงาน แต่คืนนี้เธอดื่มกับเพื่อนมา และเนื่องจากไนท์คลับของเธออยู่ไม่ไกลจากบ้านของเธอมากนัก เธอจึงตัดสินใจที่จะเดินผ่านเส้นทางนี้
เฉินหยิงดูสงบ แต่น้ำเสียงของเธอยังสั่นเครืออยู่
ถ้าไม่ใช่เพราะชายหนุ่มจากโรงเรียนมัธยมไอวีลีก เธอก็คงจะถูกข่มขืนหรืออาจแย่กว่านั้น แม้ว่าเธอจะเป็นเจ้าของไนท์คลับ แต่เธอก็ไม่ได้สำส่อนเหมือนลูกค้าบางราย
ยิ่งเธอคุยกับเฉินฟานมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือของเขา เธอแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าเขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านริมทะเลสาบด้วยเช่นกัน
“ฉันก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน!” เฉินหยิงปัดขนตาของเธอขณะที่เธอมั่นใจว่ามันเป็นโชคชะตาที่ทำให้ทั้งสองคนมาพบกันที่นี่
ทั้งสองเปลี่ยนไปเดินไปตามทางหลวงเพื่อไปที่หมู่บ้านริมทะเลสาบ ในที่สุดเมื่อฟื้นจากประสบการณ์ที่เลวร้าย ความรู้สึกเจ็บปวดจากบาดแผลของเฉินหยิงก็กลับมาหาเธออีกครั้ง
‘เสี่ยวฟานบอกว่าเขาเป็นนักเรียนของไอวีลีก แต่หนึ่งในเด็กเหลือขอเหล่านั้นเลือกที่จะเดินกลับบ้าน? เมื่อตัดสินจากเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่แล้ว เขาคงไม่ได้ร่ำรวยเช่นนั้น’
เมื่อเธอมองเฉินฟาน ไม่เพียงแต่เธอจะเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีความพอเหมาะพอดี แต่ยังเป็นอดีตของตัวเองเมื่อเธอจากบ้านเกิดในชนบทเพื่อมาทำงานในเมืองตัวคนเดียว ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกสงสารชายหนุ่มคนนี้
เมื่อพวกเขามาถึงประตูหมู่บ้าน และกำลังจะกล่าวคำอำลา เฉินหยิงก็พูดขึ้น “เสี่ยวฟาน นายเคยคิดจะทำงานพาร์ทไทม์บ้างไหม?”
“งานพาร์ทไทม์?” เฉินฟานรู้สึกแปลใจกับคำถามนี้
“ใช่ นายสามารถทำงานกับฉันได้นะ ฉันเป็นเจ้าของไนท์คลับที่ชื่อโคโค่ ไนท์คลับของฉันอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยในเมือง และอยู่ใกล้กับโรงเรียนของนายมาก นายสามารถเดินไปทำงานได้ทุกวัน ฉันสามารถเสนอเงินเดือนตามปกติของพนักงานเสิร์ฟพร้อมค่าคอมมิชชั่น 3,000 หยวนต่อเดือน” เฉินหยิงพูดอย่างระมัดระวัง เธอไม่ต้องการทำร้ายความนับถือ และความภาคภูมิใจที่เปราะบางของคนอื่น
“อืม...” เฉินฟานขบขันกับข้อเสนอ จ้าวสวรรค์ทำงานในไนท์คลับในฐานะพนักงานเสิร์ฟ
อย่างไรก็ตามเฉินหยิงนั้นเต็มไปด้วยความตั้งใจที่ดี เงินที่เธอเสนอให้นั้นนับว่าสูงมากในปี 2007
เมื่อเห็นชายหนุ่มลังเล เฉินหยิงจึงพูดเพิ่มเติม “นายสามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่มีใครมามาดูถูกนายได้ภายในไนท์คลับของฉัน ลูกค้าของฉันส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา นอกจากนี้ฉันยังคงหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น และอยากให้นายคอยปกป้องฉันสักพัก”
เมื่อเห็นความจริงใจในสายตาของเฉินหยิง เฉินฟานจึงพยักหน้า และพูด “ก็ได้ ขอบคุณมาก พี่สาวหยิง”
“พรุ่งนี้ก็อย่าลืมมาทำงานด้วยล่ะ ไนท์คลับโคโค่นะ นายสามารถถามหาฉันได้เลยเมื่อนายไปถึงที่นั่น” เฉินหยิงพูดพร้อมกับเผยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
-----------------------------------------------------
กดไลต์กดแชร์กันได้นะครับ Rebirth Of The Urban Immortal Cultivator ขอบคุณครับ
++++