px

เรื่อง : Seoul Station’s Necromancer จบแล้วอ่านฟรี!!!
SSN บทที่ 188 : มันเป็นแค่ธุรกิจ (2)


แฮซอลสะดุ้งเล็กน้อย และร่างกายของเธอเริ่มสั่น

ตอนนี้สัญชาตญาณมันร้องเตือนเธอ

ความรู้สึกของเธอมันบอกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล

นาคามูระกำลังเดินมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แต่แฮซอลรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ

"ถ้านายมีอะไรจะพูด หยุดอยู่ตรงนั้นแล้วก็พูดออกมาเลย"

นาคามูระหยุดเดินตามคำเตือนของแฮซอล

"ดีก็ได้ ผมว่ามันก็พอแล้วล่ะ มุมของดวงอาทิตย์กำลังได้ที่พอดี เงาเลยยาวออกไปได้ถึงขนาดนี้"

เธอไม่รู้ว่าคนตรงหน้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร แต่ทว่าเมื่อเธอคิดจะขยับร่างกาย มันกลับเกิดเรื่องผิดปกติขึ้น...ร่างกายของเธอมันแปลกไปราวกับไม่ใช่ร่างกายของเธอเอง

"กะ ... แกทำอะไร?"

เธอพยายามดิ้นรนเพื่อขยับเขยื้อนร่างกายแต่ว่ามันไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิดเดียว มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่นอน

นาคามูระฉีกยิ้มกว้างออกมาก่อนที่จะตอบ

"ผมแค่สัมผัสเงาของคุณ"

เงาที่ทอดยาวของนาคามูระ ตอนนี้มันซ้อนทับกับเงาของแฮซอล

“อึ๊ค

เธอพึ่งนึกขึ้นได้ ว่านาคามูระ ที่อยู่ตรงหน้านับว่าเป็นผู้มีพลังที่แข็งแกร่งระดับต้นๆของญี่ปุ่น เขาได้เข้าร่วมการแข่งขันจัดอันดับผู้มีพลังของญี่ปุ่น และนาคามูระก็มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาจากเรื่องนี้นี่เอง

เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนตรงหน้าจะลอบทำร้ายเธอแบบนี้ แต่ตอนนี้ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดก็ได้เกิดขึ้นแล้ว

เขาเป็นผู้มีพลังที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น เป็นหัวหน้ากิลด์ดาเค็น

นินจาเงา นาคามูระ

 “ฮึ่มมม”

แฮซอลพยายามกัดฟันเกร็งร่างกายเพื่อขยับตัว เธออาจจะถูกลอบจับตัวโดยไม่ทันได้ตั้งตัว แต่เธอก็เป็นผู้มีพลังของอแลนดัลที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง แฮซอลเจ้าแห่งสรรพสัตว์

เมื่อเธอฝืนใช้กำลังทั้งหมดร่างกายของเธอก็เริ่มขยับได้เล็กน้อย

"นี่มัน…."

ไม่คิดเลยว่านาคามูระที่มีระดับสูงกว่า จะจับแฮซอลให้อยู่นิ่งได้แค่ 20 วินาทีเท่านั้น

แต่อย่างไรแค่นี้ก็พอให้จัดการเธอได้แล้ว

“อั๊ค

สมาชิกกิลด์ดาเค็นที่รออยู่พุ่งเข้ามา ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะหยิบเข็มฉีดยาและฉีดสารอะไรบางอย่างเข้าที่คอของแฮซอล ไม่นานเธอก็สิ้นไร้เรี่ยวแรงได้แต่หมดสติล้มลงไป

"จะ ... เจ้าคิดจะทำอะไรกัน?"

"คุณนี่ประเมินสถานการณ์ได้ช้าจังเลยนะครับ"

นาคามูระหัวเราะออกมา เมื่อเห็นทาริคที่พึ่งวิ่งเข้ามาตกใจและทำอะไรไม่ถูก

"ตอนนี้ดาวอัลเฟ่นกำลังทุกข์ทรมานจากการถูกรุกราน กิลด์ดาเค็นของผมก็มาเพื่อช่วยยังไงล่ะ"

"ข้าไม่ได้ถามถึงเรื่องนี้ เจ้าก็มาจากดาวโลกเช่นเดียวกับนางไม่ใช่รึไง? เจ้าเล่นงานนางทำไมกัน? "

"ผมรู้สึกผิดหวังที่คุณมองว่าผมเล่นงานหรือโจมตีอะไรเธอแบบนั้น ... กิลด์ดาเค็นของผมแค่คิดจะรับสืบทอดงานต่อจากอแลนดัลเท่านั้นเอง พวกเราจะปกป้องพวกคุณเอง "

ทาริคมองไปรอบๆเขา

ราชาคนแคระราอูลกำลังส่ายหัวไปมา  ผู้นำออร์ค ครูเกอร์พ่นล่มหายใจฮึดฮัดออกมาทางจมูกด้วยอารมณ์กราดเกรี้ยว

ก็อนสึราชาหนุ่มของอาณาจักรฮอนชูโกรธจนหน้าแดง  จอมเวทย์เกรแฮมได้แต่หลับตาลงทั้งสองข้าง

สตรีศักดิ์สิทธิ์เมโลดี้ ... ท่าทางของเธอราวกับวิญญาณจะหลุดออกจากร่าง สายตาของเธอจ้องมองไปยังอากาศด้านหน้าอย่างเลื่อนลอย

ถึงแม้นาคามูระจะไม่ได้ตอบคำถาม พวกเขาก็รู้ถึงคำตอบดีอยู่แล้ว

ทาริคมองไปที่นาคามูระ ในขณะที่เขากำหมัดขึ้นมา

"พวกข้าต้องการพันธมิตร พวกข้าไม่ได้ต้องการผู้ปกป้อง "

“เฮ่อ”

นาคามูระถอนหายใจออกมาราวกับไม่อยากได้ยินคำตอบนี้ของเหล่าผู้กล้า เขาได้ประเมินความสามารถของผู้กล้าทั้งหมดเอาไว้แล้ว คนของดาเค็นกิลด์ต่างเริ่มเคลื่อนไหวแยกย้ายกันไปทำตามแผนการที่วางเอาไว้

กลุ่มคนเหล่านี้เป็นผู้มีพลังระดับสูงของกิลด์

และคนเหล่านี้นับได้ว่าเป็นผู้มีพลังระดับสูงสุดของญี่ปุ่นจำนวน 1 ใน 3 ของทั้งหมด

"เจ้าคิดจริงๆหรือว่าคนจำนวนเท่านี้จะหยุดพวกข้าเอาไว้ได้? เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นผู้คนจะทยอยกันมาเสริมกำลัง"

ทาริคที่สงบอารมณ์ได้กล่าวออกมาเมื่อเห็นนาคามูระสั่งคนของกิลด์ดาเค็นให้ลงมือเคลื่อนไหว

หากเขาสามารถหยุดยั้งความขัดแย้งได้ ยังไงมันก็จะเป็นการดีกว่า เพราะตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องราวเบื้องหลังการกระทำครั้งนี้ของกิลด์ดาเค็นว่าเกิดจากอะไร พวกมันขัดแย้งกับอแลนดัลหรือยังไงกันแน่ เมื่อทาริคไม่ทราบเหตุผลแน่ชัดเขาจึงคิดจะระงับการสู้รบแตกหักให้ได้มากที่สุด

ผู้อมตะเองก็ยังไม่กลับมา

นาคามูระกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง

“ฮะฮะ ผมว่าคุณไม่เข้าใจถึงเหตุผลที่ว่าทำไม ผมถึงต้องถ่วงเวลาไว้แล้วรอจนถึงตอนนี้”

เขากางแขนทั้งสองข้างออก

ได้เวลาแล้ว

<การยึดครองอาณานิคมเสร็จสิ้นแล้ว>

สุดท้ายแล้วอาณานิคมแห่งนี้ก็เปลี่ยนมือ ดวงตาของนาคามูระเบิกกว้างเมื่อมองเห็นถึงแต้มที่เขาได้รับจากการยึดครองอาณานิคม เขาไม่ได้ทำอะไรมากนัก แต่เขาก็ได้รับสมบัติที่น่าเหลือเชื่อ...

เขาครอบครองพื้นที่มิติจากการยึดครองสถานีรถไฟในโตเกียวไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้ดีถึงประโยชน์หลังจากครอบครองอาณานิคมได้สำเร็จ

"ผมสามารถเรียกกำลังทหารได้เรื่อยๆ แล้วล่ะ"

ตอนนี้รายการที่เขาสามารถซื้อได้ในร้านค้ามิติยังมีจำกัด เขาตัดสินใจซื้อก๊อบลินหลายพันในทันที เมื่อเขาตกลง ประตูมิติสีดำก็เปิดออกแล้ว ก๊อบลินตัวเขียวนับพันๆก็ทยอยกันออกมา

“บ ... บ้าไปแล้ว”

ราวน้ำเสียงของก็อนสึดังสะท้อนความในใจของทุกคนออกมา

ทำไมพวกเขาถึงไม่คิดมาก่อนเลย ว่าอาจจะมีมนุษย์โลกคนอื่นที่เป็นผู้ปกครองมิติ?

ตอนนี้โดยธรรมชาติแล้วนาคามูระนับว่าเป็นพระเจ้าในอาณานิคมแห่งนี้ ก็อนสึพยายามรีบเคลื่อนไหวเพื่อหลบหนีออกไป แต่ทว่ากลับมีกำแพงขนาดใหญ่โผล่ออกมาล้อมรอบพวกเขา

ครืนนนน!

อยู่ดีๆพื้นดินที่ว่างเปล่าก็ปรากฏกำแพงขนาดมหึมาที่แข็งแกร่งลอมรอบทุกคนเอาไว้ในพริบตา มันจะไม่เกินจริงไปหน่อยเลยหากว่านี่เป็นการกระทำของพระเจ้า

“ฮ่าฮ่า จับพวกมันไว้ให้หมด"

เมื่อนาคามูระออกคำสั่งทหารก๊อบลินก็เริ่มขยับตัว

กำแพงที่โผล่ออกมาล้อมรอบราวกับกำแพงปราสาทนี่กลายเป็นคุกคุมขังพวกเขา

....

ตึงงงง! ตึงงงง!

"ชิ บ้าเอ๊ย!"

ราชาคนแคระราอูล สบถออกมาเมื่อพยายามใช้ค้อนอันใหญ่โตหวดทุบทำลายไปที่กำแพง

เขาตีมันไปหลายร้อยครั้งแต่ทว่ามันยังไม่มีวี่แววว่าจะถูกทำลายแม้แต่น้อย

"พวกเราจบสิ้นแล้วตอนนี้"

น้ำเสียงหมดอาลัยของเขา แสดงถึงความรู้สึกในตอนนี้ของทุกคน

"มันเป็นความผิดของข้าเอง ... "

เมโลดี้ตอบออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงในขณะที่เธอนั่งซุกหัวเข่า ทาริคได้แต่ปลอบเธออย่างปวดใจ

"หายนะครั้งนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับท่านเลย สตรีศักดิ์สิทธิ์”

"ข้าเลือกละทิ้งคำทำนายของเทพธิดา ... "

เธอควรจะฟัง

เธอไม่ควรสงสัย

ตอนนี้เธอไม่เหลืออะไรนอกจากความเสียใจ

คำพยากรณ์นั้นเป็นจริง ผู้อมตะสูญเสียประตูกลับบ้าน และเธอสูญเสียพลังอำนาจทั้งหมด

เธอไม่ได้เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป ตอนนี้เธอเป็นแค่ผู้หญิงไร้ประโยชน์คนนึง

"ท่านอย่าโทษตัวเองเลย ในเมื่อเทพธิดาอาเรียทรงพยากรณ์เอาไว้แล้วเช่นนั้นจะอย่างไรมันก็ต้องเกิด "

เมโลดี้ได้แต่ซุกหัวลงไปอีกครั้งหลังจากได้ฟังคำกล่าวของทาริค

"ยังไงก็เถอะ ตอนนี้อาการท่านแฮซอลไม่ดีขึ้นเลย เป็นเวลา 3 วันแล้วที่ท่านยังไม่ฟื้น "

"ข้าว่าพวกมันต้องใช้ยาพิษกับนาง"

"บ้าเอ๊ยพวกเราไม่รู้ว่ามันใช้ยาพิษอะไร ... ."

ถ้าพวกเขามีความสามารถจิตสื่อสารของแฮซอล พวกเขาก็จะสามารถสื่อสารกับคนภายนอกได้ อย่างไรก็ตามตอนนี้เธอไม่ได้มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเลย นั่นทำให้พวกเขาอับจนหนทางและได้แต่หงุดหงิด

***

บริเวณป่าด้านล่างหุบเขาซัวรอส

คิมจุนยองปีนขึ้นไปบนยอดไม้ เพื่อดูสถานการณ์ภายในอาณานิคม ตอนนี้มีทหารก๊อบลินกว่า 20,000ตัวกระจายตัวออกไปเพื่อเฝ้าระวังทั่วกำแพงปราสาท

อีกทั้งยังเห็นกองกำลังพันธมิตรบางส่วนกระจายตัวไปเช่นเดียวกับพวกก๊อบลินด้วย คิมจุนยองเดาได้ทันทีว่าตอนนี้ไอพวกกิลด์ดาเค็นมันต้องเกลี้ยกล่อมกองกำลังพันธมิตรให้เข้าร่วมกับมันได้บ้างแล้วแน่นอน ตอนนี้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังมาก

"ไอพวกญี่ปุ่นชาติชั่ว ... "

ข่าวลือเริ่มแพร่กระจายออกไปราวกับไฟลามทุ่ง

กิลด์ดาเค็นได้เริ่มเป่าหูผู้คนว่าผู้อมตะได้เลือกที่จะทรยศ หน่วยเงามรณะได้หลบหนีออกไปแล้ว แต่เชแฮซอลที่เป็นหัวหน้าหน่วยเงามรณะยังไม่สามารถติดต่อได้

เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ถ้าเธอไม่ถูกฆ่าตาย ก็ถูกจับเป็นตัวประกัน

คิมจุนยองเลิกสังเกตการณ์สถานการณ์ของอาณานิคมแล้วปีนต้นไม้กลับลงมา

"หัวหน้าบลังก้า"

"เป็นไงบ้างจุนยอง? นายเห็นแฮซอลรึเปล่า "

“ไม่เลยครับ ผมไม่เห็นหัวหน้าเลย"

"แย่แล้ว ท่าทางเธอจะตกอยู่ในอันตราย "

ตอนนี้ใบหน้าของบลังก้าเต็มไปด้วยความกังวล กลุ่มเงามรณะกำลังเผชิญกับวิกฤตอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อีกทั้งตอนนี้หน่วยยังกระจัดกระจายไม่สามารถติดต่อกันได้

"หัวหน้ากิลด์ต้องกลับมาแน่นอน หรือไม่พวกเราก็ต้องพยายามหนีไปรวมกำลังกับกองทัพแห่งความตายของหัวหน้ากิลด์ให้ได้"

ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่พวกเขาจะไปช่วยเหลือแฮซอลด้านในด้วยกำลังคนแค่นี้ วูชินได้สั่งให้เจนิสนำกำลังไปกวาดล้างดันเจี้ยนและอาณานิคม และนั่นก็ได้มีการส่งหน่วยเงามรณะออกไปเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นด้วย อีกทั้งยังมีบางส่วนที่รับคำสั่งวูชินให้ไปจัดการกับวิหารแห่งราห์อีก

ตอนนี้คงดีมากหากมีใครสักคนอยู่ที่นี่ แต่ตอนนี้มันไม่มีใครอยู่เลย

"แม่งเอ๊ย"

จุนยองได้แต่สบถออกมา

เขานั้นเลื่อนระดับขึ้นมาเป็นผู้มีพลังระดับ A แล้ว แต่นี่ก็ช่วยอะไรไม่ได้

ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้มีพลังระดับสูงหรือต่ำ ยังไงเขาก็ยังเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา เขาไม่สามารถทำอะไรเพื่อช่วยเหลือได้มากนักหากต้องเจอกับผู้ปกครองมิติ

อาศัยผู้มีพลังแบบเขายังไม่สามารถต่อกรกับผู้ปกครองมิติได้  ฝ่ายตรงข้ามของเขาแข็งแกร่งเกินไป

ในขณะนั้นใบไม้ที่อยู่เหนือพวกเขาสั่นสะเทือน และในขณะเดียวกันบางสิ่งบางอย่างก็บินลงมาจากฟากฟ้า หน่วย เงามรณะที่ได้ปล่อยวางการเฝ้าระวังเอาไว้ถึงกับตกใจนึกว่าถูกจู่โจม แต่ทว่าเมื่อเห็นคนที่มาพวกมันก็ต้องตกตะลึงจนเบิกตากว้าง

"พวกนายมาทำอะไรกันตรงนี้เนี่ย?"

"ราชา!"

วูชินกระโดดลงมาจากอาชาแห่งความมืด หน่วยเงามรณะรีบวิ่งมาทักทายด้วยความดีใจ

“หัวหน้า ตอนนี้สถานการณ์ของพวกเราย่ำแย่มากครับ"

บลังการู้สึกโล่งใจที่ได้เห็นวูชิน เขาถึงกับร้องไห้ออกมา

ทำไมหัวหน้าต้องมาสายเกินไป ...

"เอาล่ะหยุดร้องไห้ แล้วเล่ามา "

วูชินเริ่มถามคำถามเมื่อหน่วยเงามรณะทั้งหมดมารวมตัวกันแล้ว

"ใครทำอย่างนี้กับเรา?"

“เอ่อ? หัวหน้ารู้เรื่องนี้ด้วยหรอ? "

แน่นอนว่าเขาต้องรู้ หน้าต่างแจ้งเตือนมันแจ้งเขาว่า อาณานิคมถูกขโมยไป

"บอกฉันมาว่าใคร"

"ไอเลวนั่นคือ นาคามูระจากดาเค็นกิลด์"

“หืม”

 

รีวิวผู้อ่าน