px

เรื่อง : Seoul Station’s Necromancer จบแล้วอ่านฟรี!!!
SSN บทที่ 192 : มังกรโลหิต


เสียงกรีฑาทัพดังสั่นสะท้านก้องไปทั่วแผ่นดิน

เสียงกระทืบเท้าครั้งนี้ดังกระหึ่มยิ่งกว่าครั้งไหนๆ แต่ละก้าวของพวกมันสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับพื้นดินไม่ต่างอะไรกับแผ่นดินไหว

ฮู่มมมม, ก๊าซซซ!

เสียงคำรามดังมาจากทุกทิศทาง ไม่ว่าจะหันมองทางไหนก็เจอ

มอนสเตอร์จำนวนมากมายมหาศาลอยู่ไปทั่วทุกคนทุกแห่ง และพวกมันประกอบไปด้วยทุกเผ่าพันธ์

ออร์ค, โอเกอร์, เอฟล์ และแม้แต่มนุษย์ ...

สิ่งมีชีวิตรวมทั้งผู้ปกครองมิติทั้งหมดใต้บังคับบัญชาของไอร์บริทล้วนตอบรับเสียงเรียกหาของมัน

อีกทั้งเหล่ามอนสเตอร์ทั้งหมดที่คิดจะทำลายกรุงโซลก็หยุดมือและเริ่มมุ่งหน้าไปตามเสียงเรียกนั่น

ตึงงง! ตึงงง! ตึงงง!

ถนนเต็มไปด้วยกองทัพมอนสเตอร์ที่เดินขบวนอัดแน่นไปเต็มพื้นที่

ผู้มีพลังและเหล่าทหารได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยความสับสน จากมุมมองของพวกเขามันเหมือนกับพวกมอนสเตอร์เหล่านี้กำลังถอยกลับไป อย่างไรก็ตามหากรวบรวมเส้นทางจากหลายๆมุมมอง ทุกคนจะสรุปได้ว่าพวกมันกำลังมุ่งหน้าไปยังทิศทางเดียวกัน

มอนสเตอร์กำลังยาตราทัพไปยังเกาะเล็กๆ

 

ศัตรูล้อมรอบไปทั่วบริเวณที่เขาอยู่

ตาของพวกมันแดงก่ำ อีกทั้งยังส่งจิตสังหารจำนวนมากไปยังวูชิน เจ้าตัวก็ได้แต่ยืนแสยะยิ้ม

"ดูเหมือนพวกเหลือขอจากมิติอื่นๆ จะแห่กันมาไม่น้อยเลย .. "

ผู้ลี้ภัยมิติ

พวกนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่สูญเสียรหัสถิ่นฐานของพวกมัน พวกมันนับว่าเป็นบุคคลที่น่าสังเวชเพราะไม่อาจกลับดาวบ้านเกิดของพวกมันได้ และเป็นแค่ตัวหมากที่ถ้าหากมีคะแนนก็สามารถเรียกใช้ได้

พวกมันกล้าแยกเขี้ยวใส่เขา วูชินเองก็ไม่ใช่คนใจดีมีเมตตาที่จะนึกสงสาร ที่จะมาเมตตาไม่ฆ่าหรือบอกให้พวกมันหนีไปอะไรแบบนั้น

ตัวเขาเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับความตายมากที่สุด

เขาเป็นราชาแห่งความตายที่ทุกคนต้องหวาดกลัว ผู้อมตะ

"ฉันจะทำความสะอาดที่นี่"

ด้วยความตาย ...

วิ้งงงงงงง!

พลังวิญญาณจำนวนมากแผ่พุ่งออกมารอบตัววูชิน ก่อนที่มันจะก่อตัวเป็นบาเรียป้องกันขนาดใหญ่ ปิดกั้นเขาจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง

วิ้งงงงง!

เสื้อเกราะของเขากระโจนออกมาจากช่องเก็บของราวกับมันมีชีวิต

<การป้องกันแห่งแทรซ>

เมื่อเขาซ่อมแซมเกราะส่วนอกที่เคยมีแต่ผ้าคลุมได้สำเร็จ ข้อกำจัดทั้งหมดที่เคยมีก็หายไปสิ้น ตอนนี้เขาสามารถสะสมดวงวิญญาณได้อย่างไร้ขีดจำกัด นอกจากนี้มันยังเพิ่มพลังให้เขาอีก 3 เท่า!

วูชินเปลี่ยนรองเท้าของเขาด้วย

<ท่วงท่าแห่งแทรซ>

ทุกๆย่างก้าวคงไว้ซึ่งความตาย... เมื่อสวมใส่รองเท้านี้ความแข็งแกร่งของข้ารับใช้แห่งความตายจะเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ นอกจากนี้ทุกๆย่างก้าวจะทิ้งไอพิษมรณะที่แม้กระทั่งผืนดินยังเน่าเปื่อย...ส่งสรรพชีวิตไปสู่ความตาย

<เกียรติยศแห่งแทรซ>

เข็มขัดที่ประดับประดาด้วยหัวกระโหลก เมื่อสวมใส่เกียรติยศแห่งแทรซ จำนวนของกองทัพแห่งความตายที่เขาสามารถอัญเชิญออกมาได้มากขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า

และด้วยไอเทมชิ้นนี้เพียงชิ้นเดียว ยังสามารถเพิ่มค่าสถานะ ควบคุม ของเขาได้ถึงสองเท่าอีกด้วย

ตอนนี้ชุดเซ็ทแห่งแทรซที่เขายังขาดอยู่เหลือเพียง 2 ชิ้นเท่านั้น..เนื่องจากเขาเหลือคะแนนความสำเร็จไม่เพียงพอที่จะซื้อส่วนประกอบเพื่อสร้าง ความกล้าแห่งแทรซ และ การลงทัณฑ์แห่งแทรซ

ป้อมปราการลอยฟ้าจำเป็นต้องใช้คะแนนมิติสำหรับการป้องกัน วูชินจึงไม่คิดใช้คะแนนมิติเพื่อมาซื้อชุดเซ็ท เขาใช้เพียงแค่ความสำเร็จเท่านั้น และนั่นมันเพียงพอให้เขาซื้อส่วนประกอบเพื่อสร้างชุดไอเทมได้แค่ 3 ชิ้น

เขาจะต้องรวบรวมชุดเซ็ทให้ครบ 5 ชิ้นเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่สูงสุดสำหรับเนโครแมนเซอร์ เมื่อเขารวบรวมครบกองทัพแห่งความตายและทุกๆอย่างรวมถึงตัวเขาเองจะแข็งแกร่งขึ้นอีก ไม่ต่ำกว่า 2 เท่า ค่าพลังเวทย์ของเขาจะเพิ่มสูงขึ้นอีกมหาศาล

"พร้อมสนุกรึยัง?"

วิ้งงงงงง!

เมื่อวูชินสลายบาเรียเสียงคำรามของเหล่ามอนสเตอร์ก็ดังสนั่นลั่นหูของเขา นอกจากนี้ยังมีเสียงปะทะที่หนักหน่วงระหว่างกองทัพแห่งความตายของเขาและเหล่ามอนสเตอร์อีกด้วย

ฟู่มมมมม!!

เมื่อวูชินเริ่มก้าวเดินพลังวิญญาณก็ค่อยๆแผ่ออกมาใต้ฝ่าเท้าของเขา

ถึงแม้ตอนนี้เขาจะไม่ได้ขี่ฉิงฉิง แต่ด้วยความสามารถของชุดเซ็ทแห่งแทรซ ทำให้เขาสามารถใช้วิญญาณแห่งความมืดเป็นฐานช่วยให้เขาก้าวเดินบนอากาศได้

ตอนนี้เขาสามารถเดินไปได้ทุกที่ๆเขาต้องการ

วูชินกระโดดพุ่งขึ้นไปในอากาศ ก่อนที่จะวิ่งบนอากาศที่ว่างเปล่ามุ่งไปทางกองทัพออร์คนักรบ ที่กำลังข้ามแม่น้ำโดยอาศัยการเหยียบหลังจระเข้ปีศาจ

"ลองของเล่นใหม่ดีไหมนะ?"

วูชินเรียกอาวุธของเขาออกมา

วิ้งงง!

อาวุธจู่โจมระยะไกลพุ่งไปฟาดหัวออร์คนักรบตัวหนึ่งจนแหลกเหลว

มันเป็นแส้!

เมื่อระดับของเขามาถึง 90 อาวุธนักรบของเขาสามารถเปลี่ยนเป็นแส้ได้ มันเป็นอาวุธที่อันตรายอย่างมากมีทั้งความคมและสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ สามารถจู่โจมได้ในแง่มุมที่ยากต่อการรับมือ อีกทั้งยังสามารถเฉือนศัตรูให้เป็นแผ่นบางๆได้อย่างง่ายดาย

“ฮู่มม...ตูมมม”

ไม่ทันที่เสียงกรีดร้องสิ้นใจของออร์คจะหายไป ศพของมันก็ระเบิดออกก่อนที่จะกลายเป็นนักรบโครงกระดูก

กี๊ !

ตอนนี้ค่าสถานะ ควบคุม ของเขามากกว่าเดิมสองเท่า

เมื่อศัตรูตายลงกองทัพแห่งความตายของเขาก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ

"ฆ่า เนโครแมนเซอร์!"

ฆ่าไอ้ชั่วร้ายนั่นน!

มนุษย์ เอลฟ์ ... แม้แต่นักรบคนแคระ ก็เริ่มข้ามแม่น้ำฮานมา

ตอนนี้พวกมันมีจำนวนมหาศาลมาก หากไม่บอกว่าที่นี่คือกรุงโซล คนที่เห็นภาพนี้ต้องบอกว่าเป็นฐานทัพของมอนสเตอร์อย่างแน่นอน

วู้มมม-วู้มมมม-วู้มมมม!

เสาแห่งแสงส่องประกายไปทั่วกรุงโซล นี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ากำลังมีดันเจี้ยนถูกจัดตั้งขึ้น

เนื่องจากการบังคับจัดตั้งดันเจี้ยนสามารถละเลยเวลาเชื่อมต่อได้ กองทัพของมอนสเตอร์จึงแห่ทะลักออกมาโดยที่กิลด์และกองกำลังต่างๆ ไม่สามารถเตรียมการป้องกันได้ทัน

แม้แต่ตัวผู้อยู่อาศัยในกรุงโซลทั้งหลายก็ไม่มีเวลาจะอพยพด้วยซ้ำ ประชาชนถูกสังเวยเป็นเหยื่อของมอนสเตอร์และล้มตายปากมาย

นี่คือผู้ปกครองมิติ บัลลังก์ที่ 70 ไอร์บริท

ด้วยการใช้อำนาจของไอร์บริท ตอนนี้มอนสเตอร์ทั้งหมดในเมืองกำลังมุ่งหน้ามายังเกาะแห่งนี้

และนี่เป็นโอกาสที่ทำให้ชาวเมืองโซลมีเวลาอพยพหลบหนี

บางคนรีบอาศัยจังหวะนี้วิ่งสวนทางพวกมอนสเตอร์ออกไป บางคนก็เลิกวิ่งหนีและพวกเขาได้ตัดสินใจที่จะรอการช่วยเหลือ และมีผู้คนจำนวนเล็กน้อยที่กำลังจับตาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเกาะ

[เฮ่ออ! ข้าล่ะเสียดายแทนเจ้าคิบะ ที่อดมางานสังสรรค์ครั้งนี้จริงๆ]

อัศวินแห่งความตายแรมสันถึงกับกล่าวออกมาด้วยความเสียใจแทนเพื่อนของตน สภาพตอนนี้...พวกเขาได้ละเลงเลือดศัตรูจนอิ่มเอม เพราะกองทัพศัตรูนั้นพากันแห่มาราวกับไม่มีวันหมด

พวกมันถูกฆ่าราวกับผักปลาแต่ทว่าจำนวนแทบไม่ลดลง

บรรยากาศตอนนี้อบอวลไปด้วยความตายและความบ้าคลั่ง ตอนนี้หากมีใครเฉียดมายังสนามรบแห่งนี้ พวกมันคงสัมผัสได้ถึงคำว่านรก

[อ่าา ทำไมมันถึงสดชื่นขนาดนี้?]

เหล่าอัศวินแห่งความตายกลับชื่นชอบบรรยากาศแบบนี้นัก แต่ละคนยิ่งสู้ยิ่งแข็งแกร่ง ยิ่งกลิ่นอายแห่งความตายหนาแน่นมากเท่าไร พลังของอัศวินแห่งความตายยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

ฟู่มมมมมม!! ฮู่มมมม กี๊ซซซซ ก๊าซซซซ!

ไฮดราอเวจี ปรากฏขึ้นมาจำนวนนับร้อยพวกมันปล่อยเพลิงที่ร้อนแรงราวกับเพลิงจากนรกอเวจีออกมาแผดเผา กองทัพศัตรูจนสลายกลายเป็นไอ

พ่อมดอมตะ เจนิสใช้พลังเวทย์ของเขาในการปลดปล่อยเวทย์มนต์ทรงอำนาจมากมายสังหารเหล่าศัตรูอย่างต่อเนื่องราวกับพลังเวทย์ของเขาไม่มีวันหมด พลังเวทย์ของพ่อมดอมตะนั้น หากไม่ฝืนใช้ออกมารวดเดียว ด้วยอัตราการฟื้นฟูของเขา เขาสามารถใช้มันได้ต่อเนื่องราวกับไร้ที่สิ้นสุด ถ้าไม่ติดว่าวูชินอยากให้กองทัพอัศวินแห่งความตายได้ปลดปล่อยอารมณ์และเป็นห่วงภูมิประเทศของโลก เขาใช้มหาเวทย์อุกกาบาตถล่มโลกลูกเดียวก็กวาดทั้งเมืองนี้ให้ราบพนาสูรไปแล้ว

[มาหาข้า! ข้าจะช่วยเหลือพวกเจ้า!]

หากชีวิตของพวกมันได้รับความทุกข์ทรมาน เขาจะปลดปล่อยพวกมันด้วยความตาย

พายุเวทย์มนต์ถูกสาดออกไปทุกทิศทางอย่างไร้จำกัด

[โกกกกกกกก!]

ตึงตึงตึง, เปรี๊ยงงงง!

ทุกๆครั้งที่โกเล็มเหล็กคว้าต้นไม้ใหญ่มาฟาด เหล่าศัตรูจะถูกบี้แหลกเหลวลงไปกองเป็นซากสยดสยองบนพื้น

และเมื่อเหล่ามอนสเตอร์ที่ตายสวมใส่อาวุธหรือชุดเกราะทำมาจากเหล็ก ทันทีที่พวกมันตาย โลหะเหล่านั้นจะถูกดูดไปรวมยังร่างกายของโดลเซ่จนขนาดของมันใหญโตขึ้นเรื่อยๆ ...หากเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกไม่กี่ชั่วโมง แค่โดลเซ่วิ่งไปวิ่งมากองทัพศัตรูคงแหลกเหลวใต้ฝ่าเท้า

ตอนนี้ซากศพของเหล่ามอนสเตอร์สุมเป็นกองพะเนินแทบจะถมแม่น้ำฮาน อีกทั้งตัวแม่น้ำฮานเองก็กลายเป็นแม่น้ำโลหิตไปเสียแล้ว

ฮู่มมมมมม!

สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่กำลังฟาดแขนที่มีแต่กระดูกของมันลงไปยังแม่น้ำ

[เจ้าต้องการอะไร?]

มังกรกระดูกที่เอาแต่คำถามที่ไม่มีใครตอบ จับเหยื่อมาเคี้ยวอย่างสนุกสนาน

ก๊าซซซซซ!

เหล่ามอนสเตอร์ได้แต่ถูกฉีกกระชากร่างไม่ต่างอะไรกับถุงใส่เลือด เลือดของมันย้อมสีแม่น้ำฮานไปเรื่อยๆ

ก่อนที่จะมีใครทันรู้ตัวรอบๆวูชินก็มีแต่ซากศพจำนวนมหาศาลซะแล้ว

และทันใดนั้นเอง

อีกาอมตะที่ลอยตัวอยู่บนฟ้าก็พุ่งลงมายังพื้นด้วยความเร็วสูง

ฮู่มมมมมม!

มังกรกระดูกกระโดดไปปะทะกับอีกาอมตะกลางอากาศ ทั้งคู่ต่างปะทะกันจนแยกกระเด็นออกมา ไอร์บริทส่งพายุขนคมมีดออกไปหวังทำลายกระดูกของชิงชิง แต่ทว่าชิงชิงไม่ได้หวาดกลัวอะไรกับเรื่องแค่นี้

ชิ้งงงง!

ทันใดนั้นเองแส้ก็ยืดยาวออกมาพันรอบคอของไอร์บริทที่เผลอเปิดช่องโหว่

"ฉันจับได้แล้ว... เอ๋?”

วูชินที่กำลังพูดออกมาด้วยรอยยิ้มถึงกับต้องชะงัก

เมื่อไอร์บริทใช้แรงที่มหาศาลกว่าลากวูชินที่จับแส้อยู่ ขึ้นไปบนฟ้าด้วยความเร็วสูง

"ฮึ่ม ชิ ..”

ถึงแม้แส้ของเขาจะคมมาก แต่มันก็ยังคมไม่พอที่จะเฉือนผิวหนังของอีกาอมตะนี่ได้

เมื่อวูชินยังจับแส้อยู่ เขาก็ถูกลากขึ้นไปบนฟ้าตามไอร์บริทไปเรื่อยๆด้วยความเร็วสูง

วูชินไม่อยากถูกลากไปไหนแบบนี้เขาจึงยกเลิกการอัญเชิญอาวุธของเขา เมื่อยกเลิกตัวเขาก็หยุดลอยขึ้นไปทันที

ก่อนที่เขาจะตกลงมายืนอยู่บนกิ่งของต้นหนามยักษ์

พั่บๆ!

[ข้าคงต้องยอมรับว่าประทับใจกับวิธีต่อสู้ของเจ้ามาก]

ไอร์บริทพูดออกมาหลังจากที่มันเริ่มร่อนลงมาจากท้องฟ้า วูชินเองก็พยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้อย่างเต็มที่

ดูก็รู้ว่าไอบ้านี่ต้องการรอให้เขาหมดพลัง

วูชินสามารถคาดเดาแผนของมันได้ หลังจากที่มีดันเจี้ยนถูกจัดตั้งขึ้นอย่างกระทันหันรอบๆ...มันจัดตั้งเพื่อเป็นประตูในการส่งมอนสเตอร์ออกมาเล่นงานเขา

บัลลังก์สูงสุดที่ 70

มันมีรหัสจากดาวเคราะห์ถึง 70 รหัส แล้วคะแนนมากมายมหาศาลขนาดไหนที่มันมีอยู่

แล้วจำนวนกองทัพมากเท่าไรล่ะที่มันสามารถใช้คะแนนซื้อออกมาได้?

"งั้นแกจะบอกว่าแกทำอะไรฉันไม่ได้ใช่เปล่า?"

ในเมื่อมันต้องอาศัยการรอให้วูชินเหนื่อยหรือหมดพลังเวทย์ แสดงว่ามันรับรู้แล้วว่าความสามารถในการต่อสู้ของวูชินเหนือกว่า

วูชินมองลงไปด้านล่างจากต้นหนามยักษ์

กองทัพแห่งความตายของเขากระจายไปทั่วสนามรบซากศพจำนวนมหาศาลของมอนสเตอร์กระจายไปอยู่ทุกที่

ตอนนี้ซากศพของมอนสเตอร์มันมากจนถมแม่น้ำฮานจนเอ่อล้น ตอนนี้เหล่ามอนสเตอร์จากในเมืองไม่จำเป็นต้องอาศัยอะไรในการข้ามแม่น้ำพวกมันสามารถเหยียบย่ำซากศพที่สุมกองอยู่ราวกับสะพาน

วูชินแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย

“ยกเลิกการอัญเชิญ”

วู้มมมมม

กองทัพโครงกระดูก, อัศวินแห่งความตาย, พ่อมดอมตะ และก็ มังกรกระดูก ล้วนหายไป

ตอนนี้บนเกาะเล็กๆเหลือวูชินอยู่ตัวคนเดียว

"ฮ่าฮ่า เนโครแมนเซอร์พลังเวทย์หมดแล้ว!"

“ฆ่าไอสารเลวนั่น!”

เหล่ามอนสเตอร์ ... ผู้ลี้ภัยมิติ ล้วนรีบเร่งวิ่งมาหาวูชินราวกับเห็นเขาเป็นรางวัล ตอนนี้ทุกตัวต่างรีบเร่งสุดชีวิตราวกับพวกมันกำลังแข่งขันวิ่งอย่างไรอย่างนั้น

เมื่อพวกมันทั้งหมดมาถึงเกาะ บางตัวก็พยายามที่จะปีนต้นหนามยักษ์ขึ้นมา มอนสเตอร์ที่ขี้เกียจปีนก็พยายามขว้างปาหอกหรือยิงธนูขึ้นมา...ตอนนี้บนเกาะมีมอนสเตอร์เกือบแสนตัว

"พวกแกคิดว่าพลังเวทย์ฉันหมดเหรอ?"

วูชินยกมือทั้งสองข้างขึ้นก่อนที่จะตวัดมันลงพื้น

ด้วยจำซากศพมากมายมหาศาล มอนสเตอร์ที่ตายมีจำนวนเท่าไร? แล้วมีดวงวิญญาณจำนวนกี่ดวง?

แล้วะให้พลังเวทย์ของเขาลดน้อยลงได้ยังไง?

"ระเบิดซากศพ"

ตูมมมมมมมมมมมมม!

ซากศพทั้งหมดระเบิดขึ้นโดยพร้อมเพรียง การระเบิดครั้งนี้ก่อให้เกิดวงจรระเบิดต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ ด้วยแรงระเบิดที่มากมายมหาศาลในพริบตามอนสเตอร์ทุกตัวล้วนตกตาย และในเสี้ยวพริบตามันก็เกิดระเบิดขึ้นอีกครั้ง ทำให้พลังทำลายซ้อนทับไปเรื่อยๆ เมื่อถึงจุดที่ไม่อาจสัมผัสกลิ่นอายของสิ่งมีชีวิตใดๆ วูชินก็เลิกส่งพลังเวทย์ไประเบิดศพ...ทำให้ยังเหลือศพที่ยังไม่ถูกทำลายอีกจำนวนมากกองเท่าภูเขา...สภาพตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับนรก

และผลพวงของแรงระเบิดครั้งนี้ทำให้เกาะทั้งเกาะสลายหายไป

กึงงงงงงงง!

ต้นหนามยักษ์สั่นสะท้าน ด้านล่างของมันถูกทำลายยับเยิน ลำต้นรีบงอกรากออกมาก่อนที่จะแทงทะลุผิวน้ำหยั่งลึกลงไปในดิน

หลุมที่เกิดจากแรงระเบิด เริ่มมีสายน้ำสีโลหิตหลังไหลเข้ามาท่วมจนทั่วบริเวณ

และตอนนี้ในสายตาของวูชินเขาสมารถมองเห็นดวงวิญญาณเกือบแสนดวงล่องลอยอยู่ ...

วู้มมมมมมมม

ทุกดวงวิญญาณถูกดูดมารวมยังเกราะอก การป้องกันแห่งแทรซ ราวกับหลุมดำ และเมื่อเขาดูดวิญญาณทั้งหมด เขาก็ใช้ดวงวิญญาณจำนวนร้อยกว่าดวงในการเติมพลังเวทย์จนเต็มเปี่ยม...

และนอกจากนี้ด้วยจำนวนซากศพมหาศาลที่เขาจงใจเหลือเอาไว้ เขาก็ใช้มันเพื่อเปลี่ยนให้กลายเป็นกองทัพโครงกระดูก ...กองทัพแห่งความตายถูกเรียกออกมาอีกครั้ง ...

“มา”

[โกกกกกก!]

เขาอัญเชิญกองทัพอัศวินแห่งความตายของเขาอีกครั้ง และกองทัพอัศวินแห่งความตายก็เรียกกองทัพโครงกระดูกของพวกมันอีกครั้งทันที...ตอนนี้กองทัพแห่งความตายมีจำนวนมากกว่าเดิม 2 เท่า

วูชินเงยหน้ามองอีกาอมตะที่กำลังมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่าก่อนที่จะหันไปมองชิงชิง

"เอาล่ะ ชิงชิง เลิกเล่นกันได้แล้ว "

[เจ้าต้องการอะไร?]

"แล้ว เจ้าต้องการอะไร?"

มังกรที่แก่จนสมองเสื่อมนี่มักจะถามคำนี้ออกมา แต่ตอนนี้มันกลับเงียบไปเมื่อวูชินกล่าวถามคำถามนี้กลับไป อีกทั้งตอนนี้วูชินยังฉีกยิ้มออกมา

เมื่อมันเห็นรอยยิ้มที่ดูพิกลกับบรรยากาศที่คุ้นเคย

หลังจากนั้นชิงชิงก็จมอยู่กับความเงียบ นี่เป็นความปรารถนาของมันที่มีมานานไม่ต่ำกว่า 2-3 พันปีที่แล้ว และมักจะถูกเติมเต็มโดย คนตรงหน้า...

[มอบปีกกับร่างที่สมบูรณ์ให้ข้า]

มังกรที่ไม่สามารถบินและสู้ด้วยพลังทั้งหมด ไม่ถือว่าเป็นมังกรที่แท้จริง

"ฉันก็ชอบที่จะ??

รีวิวผู้อ่าน