px

เรื่อง : The Strongest System จบแล้ว!!!
บทที่ 75 : ข้าจะทำให้เจ้าร้องครางง!!


บทที่ 75 : ข้าจะทำให้เจ้าร้องครางง!!

 

หลังจากเวลาผ่านไปสักพักใหญ่ๆ หลินฟ่านที่หายสติแตกได้ย้อนกลับมาดูที่ห้องประมูลและมันก็รู้สึกตื่นตะลึงกับภาพตรงหน้าอย่างมาก ‘เกิดอะไรขึ้นกันแน่?’

ก่อนหน้านี้นั้นเขาเห็นมีคนเข้าร่วมประมูลมากมายหลายต่อหลายคน และคนออกไปก็มีไม่มากเท่าเท่าไร แต่ทำไมเมื่อเขากลับมาเขาถึงไม่พบใครเลย มันเหลือแต่ความว่างเปล่า เหล่าสาวกจากนิกายต่างๆอันตรธานหายไปหมด

แล้วพวกสาวกนิกายเหล่านั้นไปไหนคนมันไม่ใช่น้อยๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่? ทำไมตอนนี้มันดูเป็นปกติทุกอย่าง สถานที่มันเรียบร้อยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ตอนนี้มีคำถามผุดขึ้นมาในใจหลินฟ่านมากมาย

‘ข้าต้องรีบแล้ว ต้องกลับไปให้เร็วที่สุด’

‘ต้องมีอะไรเกิดขึ้นในเมืองนี้แน่ จักรพรรดิหยางมันทำอะไรอยู่กันแน่ มันมีแผนชั่วอะไรกัน’

คนนับพันอยู่ๆก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย นอกจากจักรพรรดิหยางที่แข็งแกร่งขนาดนั้น ในเมืองนี้จะมีใครทำได้อีก?

หลินฟ่านเปิดใช้เร้นกายทันที เขาไม่ได้กลับไปสำนักหรือไปหาใคร เขาคิดแต่เพียงว่าต้องรีบกลับไปยังนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์เพื่อรายงานเรื่องราวและเหตุการณ์นี้ก่อน อีกทั้งยังมีเรื่องเหล่าศิษย์จากนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์ที่หายสาบสูญไปในเมืองราชวงศ์หยางเกริกไกรอีกด้วย เรื่องนี้หลินฟ่านคิดว่าน่าจะเป็นฝีมือของจักรพรรดิหยางอย่างแน่นอน

ดูท่าเรื่องราวครั้งนี้จะเป็นแผนการใหญ่อะไรสักอย่าง และที่สำคัญน่าจะมีการเตรียมการมานานแล้ว

ตอนนี้เข้าอยู่ในระดับก่อเกิดขั้นที่ 6  แต่มีระดับแค่นี้หากอยู่ต่อหน้าจักรพรรดิหยางเขาก็ไม่ต่างอะไรไปจากมปลาก นี่ถ้าระดับของเขาใกล้เคียงหรือเท่าเทียมกับจักรพรรดิหยางแล้วล่ะก็เขาจะเล่นงานมันให้หนัก ตอนนี้เขาปรารถนาอยากมีระดับบ่มเพาะให้เท่าเทียมหรือมากกว่ามัน เพื่อที่จะอัดมันให้ยับ

นี่เป็นครั้งแรกที่หลินฟ่านมีความกระหายในพลังขนาดนี้

เมื่อหลินฟ่านเดินมาถึงประตูเมืองเขาเห็นว่ามีทหารเฝ้าประตูและมีการตรวจตราที่เข้มงวดมากเป็นพิเศษ การตรวจคนเข้าออกจากเมืองตอนนี้ทำกันอย่างละเอียดและดูเคร่งครัดมาก แต่โชคดีที่หลินฟ่านใช้เร้นกายอยู่เขาจึงสามารถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองไปอย่างง่ายดาย

หลังจากออกนอกเมืองไปแล้วหลินฟ่านหันกลับมามองเมืองหยางราชวงศ์เกริกไกรด้วยสายตาอาลัย  "ลูกศิษย์ของข้า รอข้าก่อนข้าต้องกลับมาแน่ๆ"

ตอนนี้หลินฟ่านมีแผนการหลักๆ 2 อย่างในชีวิต 1.คือกลับไปรายงานสถานการณ์และแจ้งข่าวแผนการชั่วร้ายของจักรพรรดิหยางที่นิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์ให้เร็วที่สุด 2.คือเมื่อหลังจากเรื่องราวจบลงและไม่มีเหตุการณ์อะไรวุ่นวายแล้วหลินฟ่านจะกลับไปดูแลเหล่าศิษย์ของมันต่อ

เนื่องจากตอนนี้นิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์กำลังตกอยู่ในอันตรายหลินฟ่านจึงรีบร้อนกลับไปอย่างรวดเร็ว เข้ากลัวว่าหากช้ากว่านี้และเกิดอะไรร้ายแรงขึ้นมาจะไม่เหลือนิกายให้เขากลับซะก่อน แต่เขาก็ได้เตรียมทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้แล้วหลินฟ่านก็หวังว่าเหล่าศิษย์จะตั้งใจฝึกฝนอดทนขยันขันแข็ง หากโชคชะตานำพาสักวันต้องได้พบกันใหม่

สามวันต่อมา

หลินฟ่านใช้ เคลื่อนร่างเงาเลือน ตลอดเวลาการเดินทางจนทำให้ เคลื่อนร่างเงาลวง พัฒนากลายเป็น ​​"เงาภูติมายา"

"ฮู่มมมม ..."

หลินฟ่านที่กำลังวิ่งๆอยู่เมื่อได้ยินเสียงคำรามมันถึงกับสะดุ้งตกใจ

สัตว์อสูร!!

และมันเป็นเสียงคำรามของสัตว์อสูรที่น่าจะมีระดับสูงมาก

หลังจากที่ลังเลเล็กน้อยสุดท้ายหลินฟ่านก็ตัดสินใจเดินไปตามเสียง เสียงคำรามนี้มันทำให้ใจเขาสั่นสะท้าน เขาไม่รู้ว่าสัตว์อสูรที่คำรามจะเป็นตัวอะไร แต่เขามันใจว่ามันต้องแข็งแกร่งมากๆ

เมื่อหลินฟ่านเข้ามากใกล้มากพอ มันก็เห็นสัตว์อสูรนั่น แล้วก็ถึงกับตื่นตะลึกจนหยุดหายใจไปชั่วครู่

เขาเดี่ยวขนาดมหึมาลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงทมิฬ ร่างกายใหญ่โตมหึมาผิวหนังวาววับดูแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า ... ที่แท้มันกลับเป็นถึงแรดเพลิงทมิฬมรณะ

หลินฟ่านเคยเห็นมันมาก่อนในตำราหมื่นสัตว์อสูรในนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์ มันนับว่าเป็นสัตว์อสูรที่ดุร้ายและทรงพลังอย่างมาก

แรดเพลิงทมิฬมรณะปกติแล้วจะไม่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มพวกมันมักจะเดินทางและท่องเที่ยวไปตามลำพัง แต่ทว่าตอนนี้หลินฟ่านกลับเจอพวกมันถึง 2 ตัวอย่างไม่คาดฝัน นอกจากนี้จากการที่หลินฟ่านสังเกตดูเหมือน แรดเพลิงทมิฬมรณะทั้งสองตัวนี้น่าจะเป็นเพื่อนกันด้วยซ้ำ ซึ่งมันแปลกประหลาดอย่างมาก อีกทั้งดูเหมือนมันทั้งสองตัวกำลังพูดคุยกันอยู่ เพราะทั้งคู่กลับผลัดกันคำรามตอบโต้ไปมา

เมื่อหลินฟ่านตรวจสอบระดับของแรดเพลิงทมิฬมรณะทั้งสองมันถึงกับหน้าซีดไปนิดหนึ่ง เมื่อพบว่าแรดเพลิงทมิฬมรณะทั้งสองนี้กลับมีระดับถึง ระดับศักดิ์สิทธิ์ ขั้นที่ 2

หลินฟ่านเริม่ลังเลใจ ถ้าหากเข้าฆ่าแรดเพลิงทมิฬมรณะนะทั้งสองนี่ได้ รับรองว่าว่าเขาต้องได้ EXP มหาศาลอย่างแน่นอน เพราะในบรรดาสัตว์อสูรในป่าหมื่นอสูรแห่งนี้ แรดเพลิงทมิฬมรณะนับเป็นชนชั้นปกครองของป่า พวกมันไม่ต่างอะไรกับ บอสประจำแผนที่ในเกมส์ แต่หลินฟ่านก็ไม่ได้คิดที่จะสู้กับพวกมันทั้งสองตัวซึ่งๆหน้า เพราะว่าพวกมันแข็งแกร่งเกินไป เขาคงไม่มีทางชนะ

เพียงแค่ตอนนี้เขาเสนอหน้าออกไป ต้องโดนแรดเพลิงทมิฬอัดยับหน้าไหม้กลับมาแน่นอน

เพราะเปลวเพลิงทมิฬที่เผาไหม้ร้อนแรงอยู่บนเขาอันใหญ่โต หรือที่เรียกว่า ‘นอ’ นั้นไม่ใช่ของเล่น พวกมันเป็นเปลวเพลิงทมิฬที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและเป็นอาวุธร้ายกาจที่พวกมันมีติดตัวมา นับว่าเป็นของขวัญจากพระเจ้าที่ทำให้พวกมันสามารถเป็นใหญ่ได้อย่างแท้จริง ถึงแม้จะมีผู้ฝึกตนระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 2 ปะทะกับเปลวเพลิงทมิฬนี้ พวกมันก็จะถูกเผาไหม้เป็นเถ้าถ่านในเวลาเพียงเสี้ยวพริบตา

หลินฟ่านไม่สามารถทำอะไรแรดเพลิงทมิฬมรณะ ทั้งสองตัวนี้ได้ เขาทำได้แค่จับดูพวกมันเท่านั้น ตอนนี้หลินฟ่านคิดว่า ถึงอยู่ไปก็คงไม่อาจทำอะไรได้ เลยคิดว่าสมควรกลับไปนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์ก่อนดีกวา เพราะระยะทางที่เหลือนั้น เพียงเดินทางด้วยเงาภูติมายาอีกไม่เกิน 2 วันก็ถึงแล้ว

แต่ในขณะที่หลินฟ่านกำลังจะเคลื่อนกายจากไป เสียงคำรามดังก้องพลันกระหึ่มขึ้นมาตอบโต้กันจนทำให้เขาชะงัก

หลินฟ่านตระหนักว่าตอนนี้แรดเพลิงทมิฬมรณะมันต้องกำลังสนทนาพาทีและมีเรื่องอะไรขัดใจกันอยู่แน่นอน

แล้วตอนนี้ก็เป็นเวลาเที่ยงแล้วด้วย เขาจึงคิดว่าตอนนี้พวกมันกำลังสนทนากันถึงเรื่องสำคัญของสิ่งมีชีวิตบนโลกแน่ๆ

แรด A "นี่มันเที่ยงแล้วนะเฟ้ย ได้เวลาหาไรกินแล้วนะ ทำไมเอ็งไม่ไปหาของกินมาซะทีฟะ!"

แรด B "แม้งบ่นอยู่ได้ แล้วทำไมเอ็งไม่ไปเองฟะ ใช้ข้าอีกและ?"

แรด A "อะไร เอ็งหือหรอ ข้าใช้ให้ไปทำไมเอ็งไม่ไป ... ข้องใจงั้ย เก๋าเหรอ เอ็งเก๋าหรอ ?"

.....

แน่นอนว่านี่เป็นจิตนาการของหลินฟ่านเอง เขาก็ไม่รู้ว่ามันถูกหรือเปล่าแต่ดูจากท่าทางแล้วเขามั่นใจว่าไม่ผิดแน่

และในขณะที่แรดเพลิงทมิฬหนึ่งตัวเดินจากไป หลินฟ่านก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมาได้ เขาคิดว่าวิธีนี้น่าจะได้ผล

หลินฟ่านใช้วิชาเร้นกายก่อนที่จะใช้  "เงาภูติมายา" ค่อยๆพุ่งตัวไปใกล้แรดเพลิงทมิฬมรณะที่กำลังนอนพักผ่อนอยู่บนพื้น แต่ทันใดนั้นเองแรดทมิฬเพลิงมรณะกลับลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและตั้งท่าเตรียมพร้อมโจมตี มันหันซ้ายหันขวาอยู่พักนึงเมื่อดวงตากลมโตของมันไม่พบศัตรูมันจึงลดท่าทีลงแล้วล้มตัวลงกลับไปนอนต่อ

หลินฟ่านที่หยุดชะงักด้วยความกังวลพลันถอนหายใจออกมา อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิดสัญชาติญาณสัตว์ป่านั้นแม่นยำกว่ามนุษย์มากนัก พลังงานของเขาถูกซ่อนไว้อย่างสมบูรณ์แบบไม่เล็ดรอดออกมาสักนิด แต่เขายังถูกตรวจพบได้ นับว่าสัญชาติญาณสัตว์ป่านี่สูงล้ำกว่ามนุษย์จนเทียบไม่ติดจริงๆ

เมื่อหลินฟ่านย่องเข้ามาใกล้แรดเพลิงทมิฬมรณะ เขาชักอิฐแดง 95 ในตำนานออกมาก่อนที่จะเคาะกะโหลกของมันไป 1 ที แล้วเขาก็ไม่ผิดหวัง แรดเพลิงทมิฬมรณะพลันสิ้นสติไปในทันที หลินฟ่านมองภาพนี้แล้วก็ยิ้มกริ่มออกมา เขารีบหยิบกระบี่เหมันต์รัตติกาล ที่เป็นอาวุธระดับทมิฬขั้นกลางที่ได้จากหนี่หมันเทียนขึ้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้มัน แต่เขาก็ไม่คิดว่ามันจะทำอะไรได้มากนัก

นั่นเพราะผิวหนังของแรดเพลิงทมิฬมรณะนั้นแข็งแกร่งมาก เขาไม่คิดว่าอาวุธระดับทมิฬจะทำอะไรได้ แต่ยังไงเขาก็ต้องลองดูก่อน

แต่ทว่าในขณะที่กำลังจะโจมตีนั้นเอง หลินฟ่านพลันคิดถึงบทความที่บอกไว้ในตำราหมื่นสัตว์อสูร บทความนั้นกล่าวไว้ว่าแรดทมิฬตัวเมียนั้นหายากและมีจำนวนน้อยกว่าตัวผู้อย่างมาก นี่ทำให้แรดทมิฬตัวผู้เมื่อพบตัวเมียมันจะคลั่งและมีความต้องการในการดำรงเผ่าพันธุ์สูงถึงที่สุด พวกมันจะทำทุกวิถีทางเพื่อกำราบตัวเมียแล้วกดตัวเมียลงกับพื้น ก่อนที่จะใช้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถสร้างสิ่งมีชีวิต ทิ่มแทงทะลวงเพื่อทำให้ตัวเมียร้องครางออกมาให้ได้

ถ้าเขาคิดจะฆ่าแรดเพลิงทมิฬตัวนี้ เขาอาจจะทำได้แต่ถ้าอีกตัวกลับมาพอดี แล้วบังเอิญเห็นเข้ามันอาจจะเป็นศึกที่ทวีความอันตรายและลำบากขึ้นมา และเสี่ยงต่อชีวิตเขาอย่างมาก

ความลำบากและเสี่ยงโดยใช่เหตุ ไม่ใช่แนวทางดำรงชีวิตของหลินฟ่าน

หลินฟ่านกำหมัดขึ้นมา บางทีเขาควรเดิมพันอะไรบางอย่างกับบทความนั้นสักหน่อย ดวงตาของเขาเรืองวูบขึ้นมาก่อนที่เขาจะส่งมือออกไปจู่โจมอย่างรวดเร็วดั่งมังกรเหินทะยานพุ่งไปยัง ตัวเดียวอันเดียว ของแรดเพลิงทมิฬมรณะ พร้อมทั้งใช้วิชาที่ฝืนลิขิตสวรรค์อย่างแท้จริงในการสลับหยินหยาง

"พลิกสวรรค์ผันแปรพิภพ"

สำหรับหลินฟ่านนั้นคิดว่า "พลิกสวรรค์ผันแปรพิภพ" สามารถสลับหยินหยางของทุกสิ่งบนโลก ดังนั้นแรดเพลิงทมิฬมรณะนี่ก็คงไม่อาจต้านทานผลลัพธ์ของมันได้อย่างแน่นอน

'ติ๊ง!!... ขอแสดงความยินดี "พลิกสวรรค์ผันแปรพิภพ"  EXP +30,000'

หลังจากที่จู่โจมสำเร็จแล้วหลินฟ่านไม่คิดใช้ พลิกสวรรค์ผันแปรพิภพ ซ้ำเพื่อเก็บค่า EXP ต่อแต่อย่างใด เขารีบหาที่หลบซ่อนตัวทันที...

และลางสังหรณ์ของหลินฟ่านก็ไม่ผิดสักนิด เพียงเวลาแค่ไม่กี่อึดใจ แรดเพลิงทมิฬมรณะอีกตัวก็เดินกลับมาพร้อมคาบสัตว์อสูรที่สิ้นลมไว้ในปาก

หลินฟ่านที่หลบซ่อนตัวถึงกับเบิกตากว้าง เมื่อเห็นภาพนี้ นี่แสดงว่าจินตนาการของมันก่อนหน้านี้เป็นจริงอย่างไม่ต้องสงสัย มันเถียงกันเรื่องจะให้ใครไปหาอาหารจริงๆด้วย!!

แรดเพลิงทมิฬมรณะที่เดินคาบอาหารกลับมาอย่างช้าๆ แต่เมื่อมันเห็นสหายแรดของมันที่นอนอยู่บนพื้นอย่างชัดๆมันพลันเปลี่ยนเป็นตกตะลึง มันอ้าปากค้างจนสัตว์อสูรที่คาบมาเพื่อเป็นอาหารตกลงบนพื้น ดวงตาสีครามน้ำทะเลของมันพลันลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงแห่งความปรารถนาจนตาของมันแดงก่ำ ตัวมันสั่นสะท้านราวกับได้พบสิ่งที่สำคัญที่สุดในโลก

แรดเพลิงทมิฬมรณะที่โดนหลินฟ่านเคาะกะโหลกไปค่อยๆลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะส่ายหัวด้วยความสับสน  มันสงสัยอย่างมากว่า เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นอยู่ดีๆมันก็สิ้นสติไป?  แต่เมื่อเห็นสหายแรดที่พึ่งกลับมาและวางอาหารไว้บนพื้นมันก็นึกว่าโดนสหายแรดของมันแกล้งแน่ๆ มันจึงโมโหอย่างมาก...

แต่ทันใดนั้นเองมันก็ตระหนักถึงท่าทางที่แปลกไปของสหาย สหายของมันกำลังหลั่งน้ำตาอีกทั้งยังตัวสั่นระริก ที่สำคัญ อาวุธของสหายกำลังตั้งตระหง่านชูชันเข้มแข็งอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน สายตาของสหายก็เต็มไปด้วยความปรารถนาที่น่าสะพรึงกลัว...

"ฮู่มมมมมมมมมมม!!! ... " แรดเพลิงทมิฬที่ไปหาอาหารตอนนี้มันคำรามออกมาด้วยความบ้าคลั่ง มันพุ่งเข้ามาอย่างลืมตาย

แรดเพลิงทมิฬที่โดนหลินฟ่านเปลี่ยนเพศไปแล้วมันยังสงสัยและสับสนอย่างมากเมื่ออยู่ๆ ก็โดนสหายพุ่งมาก่อนที่จะขึ้นขี่ด้านหลังของมัน เมื่อโดนทำอะไรแบบนี้มันพลันคำรามออกมาด้วยโทสะ เพื่อนมันเป็นอะไรไปแล้ว เพื่อนมันคิดจะทะลวงตูดมันแก้หงี่หรืออย่างไร?

หลินฟ่านที่หลบซ่อนตัวอยู่นั้นกำลังมองภาพตรงหน้าอย่างมีความสุข เมื่อแรดเพลิงทมิฬทั้งสองตัวเริ่มขู่คำรามใส่กัน หลินฟ่านรีบคิดอย่างลิงโลดอยู่ในใจ 'เอาดิ จัดเลย จัดกันเลยพวก 555+'

และในขณะที่แรดเพลิงทมิฬสองตัวกำลังยื้อยุดกันไปพร้อมทั้งคำรามออกมานั้น หลินฟ่านก็จินตนาการคำพูดของพวกมันไปด้วย

"โอ้แม่สาวน้อย! อย่าได้ดิ้นรนขัดขืน ข้าจะทำให้เจ้าร้องคราง ข้าจะให้เจ้าคลอดลูกให้ข้า!!"

"อุบาทว์ คลอดลูกนรกเถอะ เจ้าพล่ามบัดซบอันใด? พวกเราเป็นเพียงสหายตัวผู้!!"

"ข้าจะทำให้เจ้าร่ำร้องงงงงงง!!"

"ข้าจะทำให้เจ้าร้องครางงงงง!!"

......

รัตติกาลเริ่มกลืนกินท้องนภา ปฐพีคลาคลุ้งไปด้วยฝุ่นดินทั้งสั่นไหวสะเทือนเลือนลั่นเป็นจังหวะชีวิตของโลก เรื่องราวดั่งตำนานบทหนึ่ง จากสหายผันแปรเปลี่ยนเป็นคู่ชีวิต เริ่มต้นขับขานก้องกังวานสะท้านทั้งพงไพร

 

รีวิวผู้อ่าน