วันต่อมา เวลาหนึ่งทุ่ม เฉินฟานมุ่งหน้าไปที่ไนท์คลับโคโค่หลังจากกินอาหารเย็น
มหาวิทยาลัยเมืองเป็นพื้นที่ชานเมืองที่ล้อมรอบด้วยวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยหลายแห่ง
ที่นั่นมีมหาวิทยาลัยซูโจว มหาวิทยาลัยครูเมืองซูโจว วิทยาลัยวิศวกรรมซูโจว วิทยาลัยเมืองซูโจว และโรงเรียนวิทยาศาสตร์สุขภาพเมืองซูโจว อันที่จริงแล้วโรงเรียนมัธยมไอวีลีกนั้นอยู่ในเขตอำนาจของมหาวิทยาลัยเมือง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณขอบเขตของมหาวิทยาลัยเมือง และส่วนไนท์คลับโคโค่ตั้งอยู่ตรงกลาง
‘ไนท์คลับโคโค่ไม่ได้เล็กอย่างที่ฉันคิดเอาไว้ในก่อนหน้านี้เลย มันน่าจะเป็นไนท์คลับที่ใหญ่เป็นอันดับสามในระยะไม่กี่ช่วงตึก นี่เป็นเวลาเพียงแค่หนึ่งทุ่มนิดๆ แต่ไนท์คลับกลับแออัดไปด้วยผู้คนซะแล้ว’ เฉินฟานคิดกับตัวเอง
เมื่อเขาเดินเข้าไปในไนท์คลับ เขาก็พบว่าพี่สาวหยิงบอกความจริงกับเขา ไม่มีเบสที่ทำให้หูหนวก และไม่มีสาวน้อยที่นุ่งน้อยห่มน้อยในไนท์คลับ
นี่เป็นไนท์คลับสำหรับพักผ่อน และพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ ไม่ใช่เพื่อมาหาผู้หญิงเช่นเดียวกับที่พี่สาวหยิงบอกเฉินฟาน ลูกค้าจำนวนมากเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย
เฉินฟานพยักหน้าเห็นด้วย และจากนั้นเขาก็หยุดพนักงานเสิร์ฟที่เดินผ่านเขา “ขอโทษที ฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องของพี่สาวหยิง เธอบอกให้ฉันมาที่นี่ และถามหาเธอ”
เขาบอกหญิงสาวอย่างที่เฉินหยิงบอกให้เขาพูด พนักงานเสิร์ฟเป็นสาวสวยในวัยยี่สิบต้นๆ เฉินฟานคาดว่าเธอเป็นนักเรียนจากวิทยาลัย และมาทำงานพาร์ทไทม์ที่ไนท์คลับ เธอตอบด้วยความประหลาดใจที่ฉายผ่านบนใบหน้าของเธอ “นายเป็นลูกพี่ลูกน้องของพี่สาวหยิงงั้นเหรอ? อืม... ชุดนักเรียนมัธยมปลาย… นายยังเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยม?”
“ทุกคนเรียกฉันว่าซีฉี แต่นายสามารถเรียกฉันว่าพี่สาวซีฉีก็ได้ ฉันจะพานายไปพบลูกพี่ลูกน้องของนายเอง”
“ซีฉี เกิดอะไรชึ้น?” ชายหนุ่มที่มีใบหน้าที่ซีดเซียวมองมาทางผู้หญิงคนนั้น และถามอย่างไม่พอใจ
“อ๊ะ? บอสหยาง!” ซีฉีตกใจมากเมื่อเห็นชายหนุ่ม เธอจึงรีบตอบกลับ “นี่คือลูกพี่ลูกน้องของพี่สาวหยิง เขามาที่นี่เพื่อพบเธอ”
“พาเขาไปหาเธอ อย่าขี้เกียจให้มากนัก! มีลูกค้าอีกเยอะกำลังรออยู่” บอสหยางตอบกลับไปด้วยความรำคาญ
“ค่ะ” ซีฉีก้มหัวลง และตอบ
หลังจากที่บอสหยางจากไป เธอก็ถ่มน้ำลายออกมา และพูดกับเฉินฟานอย่างซุกซน “บอสหยางเป็นรองผู้จัดการไนท์คลับของเรา เราได้ยินมาว่าเขารู้จักคนสำคัญภายในเมือง และเขาเป็นเจ้าของหุ้นส่วนที่สำคัญของไนท์คลับ อย่าปล่อยให้เขาทำให้นายหวาดกลัว เขาแค่ชอบเห่าใส่คนอื่นก็เท่านั้น”
เฉินฟานยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร เขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะต้องเป็นคนง่ายๆจนทำให้บอสของเธอต้องปวดหัวอย่างแน่นอน
เมื่อเฉินฟานมาถึงที่ออฟฟิศผู้จัดการทั่วไปบนชั้นสอง เฉินหยิงก็เปิดเผยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเธอ จากนั้นเธอก็ขอให้ซีฉีพาเฉินฟานลงไปข้างล่าง และแนะนำเขาให้กับทุกคน
ต่อมาเฉินฟานก็รู้ว่าเขาจะต้องไปเป็นฟรุ๊ตบอย และงานของเขาก็ง่ายเป็นอย่างมาก ถือจานผลไม้เข้าไปหาเมื่อลูกค้าสั่งอาหาร
“มีสามคนในไนท์คลับของเราที่นายไม่ควรเข้าไปมีปัญหาด้วย คนแรกคือพี่สาวหยิง และอีกคนคือบอสหยาง” ซีฉีบอกเฉินฟาน “มีข่าวลือว่าบอสตงคอยสนับสนุนบอสหยาง เขามีอิทธิพลมากที่นี่ และแม้แต่พี่สาวหยิงก็ต้องระวังคำพูดเมื่อบอสตงอยู่ใกล้ๆ”
“คนสุดท้ายคือ ‘เรสซิเดนเกิลร์’ ของไนท์คลับเรา ‘พี่สาวติงติง’ เพื่อให้เธอมาทำงานให้เรา พี่สาวหยิงแทบจะขอร้องอ้อนวอนเธอ เธอได้อันดับที่ 20 ในการประกวดของปีที่แล้วจากเขตเจียงหนาน เธอดึงดูดลูกค้าจำนวนมาก และนั่นก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับธุรกิจ แต่พี่สาวติงติงนั้นค่อนข้างอารมณ์เสียง่าย และชอบโทษเราเพราะความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ นายต้องระวังเอาไว้เมื่ออยู่ใกล้กับเธอ”
เฉินฟานพยักหน้า
ธุรกิจของไนท์คลับถูกกำหนดโดยตารางเวลาของนักศึกษา ดังนั้นผู้คนจึงเริ่มเต็มไนท์คลับในเวลาประมาณหนึ่งทุ่ม นั่นคือตอนที่เฉินฟานเริ่มยุ่ง
ก็เหมือนกับที่พี่สาวซีฉีเตือนเขา บอสหยางนั้นหยาบคายกับลูกน้องรวมไปถึงเฉินฟาน เฉินฟานถูกดุด่าหลายต่อหลายครั้งสำหรับการทำงานล่าช้าเล็กน้อยในวันแรกของเขา เฉินฟานยังค้นพบว่าบอสหยางนั้นชอบรังควานผู้หญิงที่ทำงาน เขาชอบฉกฉวยหรือลูบคล้าผู้หญิงทุกครั้งที่เขาต้องการ
‘ทำไมพี่สาวหยิงถึงปล่อยให้คนแบบนี้ทำงานในไนท์คลับของเธอกัน?’ เฉินฟานขมวดคิ้ว แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาก็แทบจะไม่รู้จักเฉินหยิงเลย
ในไม่กี่วันต่อมาเฉินฟานก็ไปโรงเรียนในตอนกลางวัน และทำงานที่ไนท์คลับในตอนเย็น เขาใช้เวลาเพียงไม่นานก่อนที่เขาจะเริ่มรวบรวมกลุ่มเพื่อนใหม่รอบตัวเขา
พนักงานส่วนใหญ่ในไนท์คลับเป็นนักศึกษาที่อาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัยเมือง พวกเขาทั้งหมดมาจากครอบครัวที่ยากจนแถบชานเมือง ด้วยแรงกดดันด้านการเงิน พวกเขาจึงมาที่ไนท์คลับเพื่อทำงาน เฉินฟานต้องการใช้เวลากับเพื่อนๆที่ไนท์คลับมากกว่าเพื่อนร่วมชั้นที่นิสัยเสีย อย่างน้อยก็ไม่มีใครดูถูกเขาในขณะที่เขาอยู่กับเพื่อนใหม่ของเขา
เนื่องจากเฉินฟานเป็นพนักงานที่อายุน้อยที่สุดในไนท์คลับ และเขาก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของพี่สาวหยิงด้วยเช่นกัน ดังนั้นพนักงานคนอื่นๆจึงดูแลเขาเหมือนกับพี่น้องของตัวเอง แต่บอสหยางไม่ชอบแบบนั้น
“เร็วกว่านี้อีกเสี่ยวเฉิน! นายไม่เห็นงั้นเหรอว่าลูกค้าที่โต๊ะเจ็ดกำลังหงุดหงิดอยู่?” เมื่อเห็นเฉินฟาน และพนักงานเสิร์ฟกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน บอสหยางก็ขมวดคิ้วแล้วก็ตะเพิดขึ้นมา
“โอเค” เฉินฟานตอบกลับ
ที่ไนท์คลับแห่งนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบอสหยางนั้นเป็นคนที่น่ารังเกียจ และน่ารำคาญมากที่สุด
พนักงานเสิร์ฟหญิงมองเฉินฟานด้วยความปลอบโยน เฉินฟานลุกขึ้นอย่างไม่เต็มใจ และเดินไปที่โต๊ะที่เจ็ดพร้อมกับเบียร์ดำไพน์
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงประหลาดใจดังออกมา “เฉินฟาน?”
เฉินฟานหันไปรอบๆ และเห็นกลุ่มชายหนุ่ม และหญิงสาวนั่งอยู่ในบูธ หนึ่งในนั้นคือเจียงซูหลันที่เขาไม่ได้พบมานาน
“ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่?” เจียงซูหลันจ้องมองไปที่เฉินฟานขณะที่เธอลุกขึ้นจากที่นั่งของเธอ และเดินมาหาเขา
“หลันหลัน เขาเป็นใครกัน? เพื่อนของเธองั้นเหรอ?” ชายสวมแว่นตาสีเงินถามขึ้นมา เขาดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าคนอื่นๆ และน้ำเสียงของเขาฟังดูอบอุ่น และมีเสน่ห์
มีประกายแสงแวววับในสายตาของเจียงซูหลันขณะที่เธอจ้องมองไปที่เฉินฟาน เธอตอบ “เขาเป็นลูกชายของเพื่อนรักของแม่ และเราเรียนที่โรงเรียนมัธยมเดียวกัน”
ชายคนนั้นพยักหน้า และพูด “ฉันชื่อหลี่อี้เฉิน เนื่องจากนายเป็นเพื่อนกับหลันหลัน งั้นนายก็มาร่วมปาร์ตี้กับเราสิ”
“ไม่เป็นไร” เฉินฟานปฏิเสธ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา
เขาจำชายคนนี้ได้อย่างรวดเร็ว
เขาคือหลี่อี้เฉินซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเฉินฟาน เขามาจากตระกูลที่มีชื่อเสียง และเป็นประธานสภานักเรียน เขาเคยเป็น และจะเป็นแฟนในอนาคตของเจียงซูหลันที่มหาวิทยาลัย
หากเฉินฟานจำไม่ผิด หลี่อี้เฉินยังเป็นเพื่อนของเฉียนจุนเว่ยด้วยเช่นกัน
สำหรับเฉินฟานแล้ว ภาพของเจียงซูหลันที่อยู่กับหลี่อี้เฉินก็เป็นเหมือนเกลือที่ราดลงบนแผลเก่า
“ฉันกำลังทำงานอยู่ ขอให้พวกเธอสนุกนะ” เฉินฟานพยักหน้าให้เจียงซูหลันเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หันหลังกลับ และเริ่มเดินลงบันได
“เฮ้ รอเดี๋ยวสิ!”
เจียงซูหลันหยุด และลังเลอยู่ชั่วครู่หนึ่ง แต่ในที่สุดเธอก็เดินไปหาเฉินฟาน
“พี่อี้เฉิน ดูเหมือนระหว่างสองคนนี้จะมีอะไรมากกว่าที่เราเห็น” ชายหนุ่มที่ดูแข็งแรงยืนอยู่ข้างหลี่อี้เฉินพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
ชื่อของเขาคือโม่อี้ และเขาเป็นผู้นำของกลุ่มผลประโยชน์ด้านกีฬาที่สภานักเรียน เช่นเดียวกับคนอื่นๆส่วนใหญ่ที่นั่งอยู่ในบูธ โม่อี้เป็นหัวหน้านักเรียน พวกเขามาที่นี่เพื่องานปาร์ตี้กลุ่มของพวกเขา ในตอนแรกเจียงซูหลันไม่ต้องการมา แต่เธอไม่สามารถต่อต้านคำขอของหัวหน้านักเรียนที่เป็นเพื่อนของเธอได้ อย่างไรก็ตามเธอไม่เคยคิดเลยว่าจะได้พบกับเฉินฟานที่นี่
“เขาเป็นแค่พนักงานไนท์คลับ ไม่มีทางที่หลันหลันจะตกหลุมรักเขาได้หรอก” หญิงสาวสวยที่มีเมคอัพหน้าเต๊อะ และนั่งติดกับโม่อี้พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มดูถูกเหยียดหยาม
“ทำไมเธอถึงรู้จักคนแบบนี้? เป็นไปได้ไหมที่พวกเขาพบกันที่ไนท์คลับ?”
หญิงสาวคนเดิมพูดขึ้นในขณะที่เธอมองไปยังหลี่อี้เฉิน
เธอเป็นหัวหน้ากลุ่มศิลปะ และชื่อของเธอคือ ลู่วเซียวเซียว เธอชอบหลี่อี้เฉิน และถือว่าเจียงซูหลันเป็นคู่แข่งขันที่สำคัญที่สุดของเธอ เธอจะไม่พลาดโอกาสในการทำลายชื่อเสียงของคู่แข่งอย่างแน่นอน
ใบหน้าของหลี่อี้เฉินยังคงสงบ แต่มีความสงสัย และอิจฉาริบหรี่อยู่ในสายตาของเขา
เจียงซูหลันเดินตามเฉินฟานไปที่ด้านล่างของบันได และคว้าแขนของเขา “ทำไมนายถึงมาทำงานที่ไนท์คลับ? แม่ของฉันรู้เรื่องนี้รึเปล่า? แล้วเรื่องโรงเรียนของนายล่ะ?”
เฉินฟานมองเธออย่างกึ่งยิ้ม “เธอก็รู้เกรดของฉันดีหนิ ต่อให้ฉันจะพยายามมากแค่ไหน แต่เธอคิดว่าฉันสามารถเข้ามหาวิทยาลัยชั้นหนึ่งได้งั้นเหรอ?”
เจียงซูหลันพูดไม่ออก
เฉินฟานบอกกับเธอ และพ่อของเธอว่าผลการเรียนของเขาติด 500 อันดับแรกของเมืองซี่ชุ่ย นั่นแปลว่าเขาอยู่ด้านล่างสุดของการจัดอันดับในโรงเรียนมัธยมไอวีลีก แม้ว่าเฉินฟานจะตั้งใจเรียนเป็นเวลา 24 ชั่วโมงถึง 7 วัน แต่อย่างมากเขาก็เข้าได้แค่วิทยาลัยชั้นสอง
“อีกอย่าง ฉันอยู่ที่นี่แค่สองชั่วโมงต่อคืน ถ้าฉันไม่สามารถเข้ามหาวิทยาลัยที่ดีได้ ฉันก็ต้องเตรียมพร้อมเพื่อหาเงินด้วยตัวเอง” เฉินฟานพูด
ในขณะที่เฉินฟานพูดกับเธอ เจียงซูหลันก็ได้ยินเพื่อนของเธอเรียกชื่อเธอ
เฉินฟานดึงมือของเธอออกไปแล้วพูด “เพื่อนของเธอกำลังมองหาเธออยู่ ฉันต้องไปทำงานต่อแล้ว”
เฉินฟานหันหลังกลับ และเดินจากไป เหลือทิ้งไว้เพียงเจียงซูหลันที่ยืนสับสน และพูดอะไรไม่ออก เธอไม่แน่ใจว่าต้องจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรดี
ในที่สุดเธอก็ได้ยินเสียงเพื่อนของเธอดึงสติกลับคืนมา เมื่อเธอมองกลับไป เธอก็เห็นหลี่อี้เฉินยืนอยู่ที่ขั้นบันไดมองมาที่เธอ เธอหันหลังกลับ และรีบขึ้นไปชั้นบน
ก่อนที่เธอจะมาถึงชั้นสอง เธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไปในตัวเธอราวกับว่าจิตวิญญาณบางส่วนของเธอถูกพรากไป
เฉินฟาน ชายหนุ่มที่สามารถปราบชายกำยำได้ด้วยการชกเพียงครั้งเดียว แต่กลับต้องมาทำงานที่ไนท์คลับ ความจริงได้สอนให้เธอได้เรียนรู้บทเรียนที่ดีในวันนี้
เมื่อเจียงซูหลันเดินมาถึงชั้นสอง เธอเงยหน้าขึ้นมองทุกคน และพบว่าไม่มีใครยิ้มให้กับเธอเลยแม้แต่คนเดียว แม้แต่ใบหน้าของหลี่อี้เฉินก็เต็มไปด้วยความเย็นชา และไม่พอใจ ดังนั้นเธอจึงยิ้มออกมา และพูด “เอาล่ะ ลืมเขาซะ และปาร์ตี้กันเถอะ!”
“ใช่แล้ว ทำไมเราต้องปล่อยให้ใครก็ไม่รู้มาหยุดความสนุกของเราด้วย?” โม่อี้ตบโต๊ะแล้วพูด “มาเลย เรามาฉลองกันในนามของพี่อี้เฉิน! ไม่มีใครอื่นนอกจากพี่อี้เฉินที่มอบเงินสนับสนุนให้กับสภานักเรียนของเราด้วยจำนวนเงินหนึ่งแสนหยวน!”
“เยี่ยมมาก ขอบคุณมากอี้เฉิน!” เจียงซูหลันคว้าแก้ว และเทไวน์ลงไปในคอของเธอ อย่างไรก็ตามถึงแม้ไวน์ร้อนจะแผดเผาอยู่ในท้องของเธอ แต่เธอก็ยังคงถอนหายใจลึกๆอยู่ภายในใจ
‘บางที เราอาจอยู่ในโลกที่แตกต่างกันอย่างแท้จริง’
----------------------------------------------------------------------------
ฝากกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะค๊าบ Rebirth Of The Urban Immortal Cultivator ขอบคุณครับ