ตอนที่ 21 ปีนขึ้นมา
ซ่งเจิงถอนหายใจออกมาทันทีที่เห็นว่าสุนัขกลายพันธุ์เดินจากไป ทุกคนต่างทยอยกันปีนขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ เมื่อขึ้นมาข้างบนทุกคนก็มองไปยังรอบๆตัว ตรงที่ไกลๆคือร่างของเหล่าหยาง รวมถึงร่างของคนที่โดนสุนัขกลายพันธุ์ทำร้ายจนบาดเจ็บเต็มไปหมด
บรรยากาศเศร้าสลดปกคลุมไปทั่วแคมป์ ทุกคนต่างพากันรู้สึกเศร้าเสียใจ ซอมบี้ตัวหนึ่งทำให้พวกเขาทุกคนต้องย้ายที่อยู่ อีกทั้งยังได้ไปยั่วโมโหสุนัขกลายพันธุ์ระดับสองและโดนมันตามมาอีก
ความหวังในการอยู่รอดนั้นพึ่งจะรู้สึกถึงมันได้ไม่นาน แต่ตอนนี้กลับถูกความจริงอันโหดร้ายดับฝันลงไปอีก
เสี่ยวฮวางทุบกำปั้นลงกับพื้นแล้วตะโกนออกมาว่า "เจ้าสุนัขกลายพันธุ์นั้นจะต้องตาย !" เสี่ยวฮวางน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด เหล่าคนที่ถูกสุนัขกลายพันธุ์ทำร้ายนั้นเริ่มมีสีหน้าไม่สู้ดี
"ฉันไม่อยากตาย ฉันไม่อยากตาย...ฉันไม่อยากตาย !" เสี่ยวหยวนที่ติดเชื้อนั้นเริ่มกรีดร้องออกมา เขาวิ่งไปที่ประตูค่าย "ปัง !" เสี่ยวหยวนที่กำลังจะวิ่งไปที่ยังประตูด้วยความหวังนั้น...ก็เกิดอาการหน้าอกฉีกขาดขึ้นกะทันหัน ร่างของเสี่ยวหยวนนั้นเซไปมา ในที่สุดก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวจนล้มลงไปในที่สุด คนที่ยืนอยู่ข้างหลังของเขาคือเฉินเฟิงที่ในมือถือปืนอยู่
"ไม่นะ !" ซ่งเจิงมองไปยังร่างที่ล้มลงของเสี่ยวหยวน เขาอดไม่ได้ที่จะหลับตาลงด้วยความสลดใจ ทันใดนั้นเองซ่งเจิงก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เขาปีนขึ้นไปอยู่ข้างๆร่างของเสี่ยวหยวน แล้วหยิบเอาแพนเค้กออกมา ก่อนจะฉีกมันเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำมันใส่เข้าไปในปากของเสี่ยวหยวน
"กลืนลงไป กลืนลงไปเร็วเข้า !" ซ่งเจิงร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง แววตาของเสี่ยวหยวนนั้นเลื่อนลอย เขาพึมพำอะไรบางอย่างออกมา "...ฉัน...เหนื่อยเหลือเกิน....พ่อแม่...ลูกมาแล้ว...ลูกเหนื่อยเหลือเกิน..."
สุดท้ายแล้วแพนเค้กทั้งหมดก็ร่วงลงมาจากปากของเสี่ยวหยวน ซ่งเจิงนั่งคุกเข่าอยู่ข้างร่างกายของเสี่ยวหยวนอย่างสงบ ร่างของเสี่ยวหยวนค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาเริ่มมีเส้นเลือดสีดำขึ้นมาจากใต้ผิวหนังให้เห็นอย่างชัดเจน
ตอนนั้นเองเขาก็เห็นกระทะเหล็กปรากฏมาอยู่ตรงหน้าของเขาและทุบไปยังหัวของเสี่ยวหยวน ซ่งเจิงมองกระทะเหล็กใบนั้น และสายตาที่มองไปยังกระทะใบนั้นเต็มไปด้วยความหมดอาลัยตายอยาก มือทั้งสองข้างก็ตกไปอยู่ข้างลำตัวอย่างอ่อนแรง
"เสี่ยวเจิง นี่ไม่ใช่ความผิดของนาย...มันเป็นเพราะโลกใบนี้ นี่จึงไม่ใช่ความผิดของนาย !"
"หัวหน้า แบบนี้ถูกแล้วเหรอ? แบบนี้ถูกแล้วเหรอครับ ?..." น้ำตาของซ่งเจิงไหลออกมาเงียบๆ เขาเป็นคนโง่ที่คิดว่าตัวเองนั้นชินกับวันสิ้นโลกแบบนี้แล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้ว....เขาหลอกตัวเองมาตลอด...เมื่อเห็นคนที่เคยต่อสู้มาด้วยกัน เคยกินผักดองกระป๋องด้วยกัน คนที่เคยคุยด้วยกัน...ตอนนี้ได้ตายไปแล้ว เขาจะปวดใจก็ไม่แปลก....
"พรึ่บ ! " เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นรอบใบหน้าของผู้ที่ติดเชื้อ ซ่งเจิงเงยหน้ามองไปยังเฉินเฟิง
แววตาของเฉินเฟิงนั้นแดงก่ำ มือซ้ายของเขานั้นสั่นเล็กน้อย ส่วนมือขวาก็ถือกระทะเหล็กอยู่ในมือ เขามองมายังดวงตาของซ่งเจิงที่เต็มไปด้วยน้ำตา ซ่งเจิงรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างติดที่ลำคอ สุดท้ายเขาก็กลืนมันลงไป เฉินเฟิงนั่งลงยองๆกับพื้น แล้วเอื้อมมือไปตบบ่าซ่งเจิง
"......พวกเราเป็นลูกผู้ชาย ยังต้องปกป้องคนที่อยู่ข้างหลังเราอีก ลูกผู้ชายน่ะ เขาไม่ร้องไห้กันหรอกนะ...ไปกับฉันเถอะ พวกเราจะต้องพัฒนาทุกคนให้เป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่กัน ! เมื่อนั้นพวกเราก็ไปจัดการกับมันถึงถิ่นกันไปเลย !"
ซ่งเจิงพูดออกมาด้วยเสียงที่สั่นว่า "แต่...แต่ว่า...เมื่อวานเสี่ยวหยวนยังมาหยิบบุหรี่ที่ผมอยู่เลย" ทันทีที่เขาพูดจบ "ฮือ !" เขาก็ร้องไห้ออกมาทันที
เฉินเฟิงมองไปยังซ่งเจิงที่ร้องไห้ราวกับเด็ก เขาวางกระทะเหล็กลงแล้วเข้าไปกอดซ่งเจิง เขากระชับอ้อมกอดแน่น ราวกับว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่จะได้สัมผัสถึงความเป็นมนุษย์......
"ไม่ต้องร้อง โตขนาดนี้แล้ว เขาไม่ร้องไห้กันแล้ว ทุกคนกำลังมองนายอยู่นะ..."เฉินเฟิงเช็ดน้ำตาให้ซ่งเจิง "ขอเพียงพวกเราแข็งแกร่งขึ้น พวกเราก็จะสามารถหาอาหารได้มากขึ้น ! เพียงพวกเราแข็งแกร่งขึ้น เจ้าสุนัขกลายพันธุ์ตัวนั้นจะต้องตายอย่างแน่นอน ! ถ้าหากว่าพวกเราแข็งแกร่งล่ะก็ คนที่อยู่ด้านหลังก็จะปลอดภัย !"
ซ่งเจิงกลั้นน้ำตาไว้ พยักหน้าขึ้นลง "...ลูกผู้ชาย ต้องไม่ร้องไห้ !"
"ปัง !" พี่ชายกุ้ยหยิบกระทะเหล็กขึ้นมาฟาดไปยังศพนั้นอีกครั้ง ก่อนจะดึงทั้งสองคนให้ลุกขึ้นมา ซ่งเจิงมองไปยังใบหน้าอันไร้สีสันของ 'เสี่ยวหยวน' มือทั้งสองข้างของเขาก็กำหมัดแน่น
ซ่งเจิงพูดลอดไรฟันออกมา "หัวหน้า แพนเค้กพวกนี้สามารถแก้เชื้อไวรัสได้ รีบเอาไปให้คนที่กำลังจะติดเชื้อกินเถอะครับ"
เฉินเฟิงกับพี่ชายกุ้ยแสดงท่าทางดีใจออกมาทันที พี่ชายกุ้ยรีบเข้าไปจับบ่าทั้งสองข้างของซ่งเจิงแล้วพูดว่า "ไอ้น้องชาย ! นายนี่เป็นตัวนำโชคจริงๆ !" เฉินเฟิงเดินเข้าไปหยิบแพนเค้กทั้งหมดจากมือของซ่งเจิง "คนที่ติดเชื้อ รีบมาหาฉันเร็วเข้า ! สิ่งนี้สามารถใช้เป็นยาถอนพิษได้ !"
ทุกคนเมื่อได้ยินสิ่งที่เฉินเฟิงพูด แต่ก็ไม่มีใครกล้าเดินเข้ามาเอาแพนเค้กที่มือของเขาเลย เมื่อเฉินเฟิงมองไปยังคนเหล่านั้นที่มีทำท่าทางหวาดกลัว ก่อนจะตะโกนขึ้นมาว่า "ไม่อยากตายก็รีบมาเอาไป ! ยังจะยืนมองอะไรกันอยู่อีก ! ใครไม่ไหวแล้วก็รีบมารับเอาไป !"
คนที่ถูกทำร้ายทุกคนต่างพุ่งตัวเข้ามาหยิบแพนเค้กในมือของเฉินเฟิงอย่างรวดเร็ว แล้วรีบเคี้ยวๆและกลืนลงคออย่างรวดเร็ว ผ่านไปไม่นาน คนเหล่านั้นก็ตะโกนออกมาอย่างดีใจว่า "ไม่ร้อน ! ไม่ร้อน ! ไม่ร้อนแล้ว ! ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่รู้สึกร้อนแล้ว !" พวกเขาต่างพากันน้ำตาไหลด้วยความดีใจพร้อมกับคุกเข่าลงกับพื้น น้ำตาแห่งลูกผู้ชายไหลออกมาไม่ขาดสาย
บรรยากาศเศร้าโศกหายไปจากแคมป์แห่งนี้ ทุกพื้นที่มีเสียงพูดคุยดังเต็มไปหมด เมื่อเห็นว่าสมาชิกแต่ล่ะคนเข้าสวมกอดกันด้วยความดีใจอยู่นั้น—ความหวังของพวกเขานั้นก็กลับมาอีกครั้งทันที !
ทันใดนั้น สมาชิกคนหนึ่งก็พุ่งเข้ามาอยู่ตรงหน้าของซ่งเจิง เฉินเฟิงกับพี่ชายกุ้ยก็ดึงอาวุธออกมาทันที แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือชายคนนั้นคุกเข่าลงตรงหน้าของซ่งเจิงในระยะห่างสามเมตร แล้วชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้ว
"ฉันเกาไคกังที่ได้มีชีวิตใหม่นี้ ก็เพราะว่าน้องซ่งได้ช่วยชีวิตเอาไว้ หลังจากนี้ไป หากว่าน้องซ่งไม่รังเกียจ ไม่ว่าน้องซ่งจะให้ฉันไปบุกน้ำลุยไฟที่ไหน เกาไคกังคนนี้จะไม่กังขาในความต้องการเลย !"
เมื่อเห็นแบบนั้นซ่งเจิงก็รีบพยุงเกาไคกังขึ้นมาทันที เขาอยากจะพูดบางอย่างกับเกาไคกัง แต่เหมือนมีความรู้สึกบางอย่างมากดทับที่หน้าอก ทำให้เขาไม่สามารถพูดมันออกมาได้
เหล่าคนที่โดนทำร้ายนั้นเมื่อกลับมาเป็นปกติ พวกเขาต่างก็พากันมาคุกเข่าที่ข้างหน้าซ่งเจิง พร้อมกับชูสามนิ้วด้วยเช่นกัน
"ต่อจากนี้ไป ไม่ว่าจะให้ไปบุกน้ำลุยไฟที่ไหน ขอเพียงน้องซ่งเอ่ยขอเท่านั้นพวกเราก็พร้อมจะทำตาม !"
ซ่งเจิงมองไปยังคนเหล่านั้น ที่เมื่อครู่กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เพราะว่าได้ชีวิตของตัวเองกลับมาอีกครั้ง เมื่อเห็นแบบนั้นซ่งเจิงก็ใช้มือหยิบมีดขึ้นมาแล้วชูมีดนั้นขึ้นไปปาดที่มือซ้ายของตัวเองแล้วพูดขึ้นว่า !
"ร่วมเป็นร่วมตาย !"
ทุกคนชูมือซ้ายพร้อมกับนำมีดขึ้นมาปาดมือตัวเองด้วยเช่นกัน
"ร่วมเป็นร่วมตาย !"
เลือดที่ไหลออกมาจากความตั้งใจนั้นค่อยๆหยดลงมาที่ใบหน้าของซ่งเจิง ผสมกับน้ำตา แล้วไหลลงผ่านปากของตัวเอง
ที่แท้...รสชาติของเลือดนั้น...หวานเหลือเกิน
....
หลี่หวานหรูมองแผลที่มือของซ่งเจิงด้วยความปวดใจ น้ำตาไหลออกมาจากตาของเธอไม่หยุด ซ่งเจิงทำได้เพียงหัวเราะออกมาเท่านั้น "ฉันยังไม่ร้องไห้เลย เธอจะร้องไห้ทำไมกัน"
หลี่หวานหรูจับมือซ้ายของซ่งเจิงมาทาบที่อกของตัวเอง ดวงตาแดงก่ำของเธอมองไปยังซ่งเจิง เห็นแบบนั้นซ่งเจิงก็พยายามที่จะดึงมือซ้ายออกมาอย่างเคอะเขิน แต่ว่ากลับถูกหลี่หวานหรูจับเอาไว้
ซ่งเจิงหันหน้าไปทางอื่น "เธอ...จะทำอะไรน่ะ..."
หลี่หวานหรูดึงซ่งเจิงให้มานั่งที่เตียง "ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะเป็นผู้หญิงของพี่ !" ซ่งเจิงเป็นฝ่ายบุกไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง แต่เขากลับพบว่าคนอย่างเขาที่เคยดุร้ายตอนนี้กลายเป็นเพียงกระต่ายตัวหนึ่งเท่านั้นเอง--คนดุร้ายคนนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอยสะแล้ว.....
หลี่หวานหรูใช้แรงที่มีจูบไปที่ซ่งเจิง น้ำตาของเธอค่อยๆไหลลงมา.....
สมองของซ่งเจิงนั้นขาวโพลนไปหมด [...นี่เราจะถูกล่วงละเมิดหรือนี่....]
ห้องทั้งห้องอบอวนไปด้วยกลิ่นน้ำหอม....
ลมพายุฝนได้สงบลงไปแล้ว ซ่งเจิงมองไปยังหลี่หวานหรูที่กอดตัวขาแน่น เขาเอื้อมมือไปสัมผัสหลังของหลี่หวานหรูอย่างถะนุถนอม เมื่อรับรู้ถึงสัมผัสที่หลังของตัวเองใบหน้าของเธอก็ค่อยๆแดงขึ้นมา ซ่งเจิงหัวเราะออกมาเบาๆ "ที่รัก..อยากจะเพิ่มอีกสักรอบไหม"
หลี่หวานหรูที่หน้าแดงอยู่นั้นไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับไป {ตาย ตายแน่ๆ ขายหน้าจริงๆ....}
เมื่อเขามองไปยังหลี่หวานหรูที่ไม่ตอบอะไรกลับมา ซ่งเจิงก็หัวเราะออกมา แล้วจับไปที่ใบหน้าของหลี่หวานหรู แล้วจูบลงไปเบาๆ ปล่อยให้การกระทำนำพาไปทันที
หลังจากจูบอันยาวนานนั้นจบลง ซ่งเจิงก็มองไปยังแววตาอันพร่ามัวของหวานหรู เขาลูบหน้าของเธอแล้วพูดว่า "หวานหรู ฉันจะไปหาหัวหน้า อยู่ที่นี่ดีๆล่ะ รอฟังประกาศจากพวกเราด้วยนะ"
หลี่หวานหรูที่มีใบหน้าแดงก่ำหลับตาลงและพยักหน้าเบาๆ นานแค่ไหนก็จะรอ ยังไม่ทันที่ซ่งเจิงจะสวมชุดทหารเรียบร้อยเลย ก็เกิดเสียงรูดซิปดังขึ้น เป็นอย่างที่คิด ซ่งเจิงนั้นจัดเสื้อผ้าพลางเปิดประตูออกไป
หลี่หวานหรูรู้สึกละอายใจและโมโห เธอหยิบหมอนขึ้นมาแล้วปาไปที่ซ่งเจิง เมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหว เขาก็ขยับหลบหมอนใบนั้นทันที แล้วเอื้อมมือไปคว้ามันเอาไว้ เขามองไปที่หมอนอย่างมึนงง ก่อนจะหันกลับมามองหลี่หวานหรู แล้วรู้สึกสับสน
เขาเดินไปที่เตียง แล้วมองไปยังหวานหรูที่เอาผ้าห่มดึงขึ้นมาปิดหน้าปิดตาของตัวเอง ซ่งเจิงส่ายหัวไปมา พร้อมกับวางหมอนลง ค่อยๆดึงผ้าห่ม แล้วก้มลงไปจูบที่หน้าผากของหวานหรู "เด็กดี...ฉันไปหาหัวหน้าก่อนนะ รอฟังประกาศจากพวกเราล่ะกัน"
หลี่หวานหรูพยักหน้าอย่างเหนียมอาย
ซ่งเจิงมองไปยังใบหน้าที่เขินอายของหลี่หวานหรู แล้วมองเลื่อนไปยังลำคอ ก่อนจะอดไม่ได้ที่จะจูบลงไป เขาแอบลิ้มรสชาติต้องห้าม เป็นเวลานานกว่าสติของเขาจะกลับมา
"อะแฮ่ม !" เสียงกระแอมทำให้ทั้งสองคนดึงสติกลับมา ซ่งเจิงกุลีกุจอดึงผ้าห่มขึ้นมาบังหลี่หวานหรูเอาไว้ ราวกับเด็กน้อยที่ซ่อนของรักของตัวเองอยู่
หลี่หวานหรูก็เกิดอาการตกใจ แล้วดึงผ้าห่มมาบังตัวเองไว้ทันที.....
ซ่งเจิงรู้สึกอารมณ์เสียก่อนจะหมุนไปมองคนที่มาขัดจังหวะของพวกเขา
"อ่า...แหะๆ หัวหน้าเองหรือ เอ่อ...ผม...."
เฉินเฟิงหัวเราะออกมา "ยังเป็นวัยรุ่นอยู่นี่น่า รีบไปได้แล้ว !"
ซ่งเจิงหัวเราะแห้งออกมา แล้วรีบแต่งตัวออกจากประตูไปทันที
ดูจากข้างนอกนั้น แสงอาทิตย์เริ่มโผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้าแล้ว