ตอนที่ 22 การโจมตี
ซ่งเจิงเดินตามเฉินเฟิงไป เขาเดินก้มหน้าพลางคิดแผนรับมือในหัว เฉินเฟิงหันไปมองซ่งเจิง แล้วยกยิ้มที่มุมปากขึ้นมา ก่อนจะแอบหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ "เฮ้อ.." เฉินเฟิงถอนหายใจยาวออกมา
เวลาผ่านไปไม่นาน เฉินเฟิงก็พาซ่งเจิงเข้ามาในห้องพักขนาดใหญ่ ข้างในห้องนั้นว่างเปล่า มีเพียงกระดานบอร์ดและม้านั่งที่มีจำนวนเยอะเท่านั้น จากกระดานที่แขวนที่ผนังสามารถรู้ได้ว่าที่ทุกคนมารวมตัวกันนั้นเพราะอะไร—สุนัขกลายพันธุ์ ภาพวาดนั้นเหมือนกับสุนัขตัวนั้นหมดทุกอย่าง
เมื่อทุกคนเห็นเฉินเฟิงกับซ่งเจิงเข้ามาแล้ว จากห้องที่กำลังเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยก็สงบลงทันที เฉินเฟิงทิ้งบุหรี่ที่อยู่ในมือ แล้วใช้เท้าดับก้นบุหรี่อย่างแรง และมองไปรอบๆ ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดออกมาว่า "ทุกคน..."
"ไอหยา !" ซ่งเจิงที่เดินตามหลังเฉินเฟิงมานั้น เมื่อจู่ๆเฉินเฟิงหยุดเดินกะทันหัน หัวของเขาก็ชนเข้ากับหลังของเฉินเฟิง ทำให้คำพูดของเฉินเฟิงนั้นถูกขัดจังหวะ เฉินเฟิงรีบหันกลับไปมองทันที เขาจับเจ้าตัวของซ่งเจิงมาอยู่ข้างหน้า ก่อนจะถีบก้นของซ่งเจิงเบาๆหนึ่งที เมื่อทุกคนที่เห็นภาพนี้ต่างก็หัวเราะกันออกมา
ซ่งเจิงก็หัวเราะออกมาเช่นกัน เขาเดินไปยังที่นั่งที่ว่างอยู่แล้วก็นั่งลง เฉินเฟิงมองไปยังท่าทางเงอะงะของซ่งเจิง แล้วกรอกตาไปมา
เฉินเฟิงปรบมือเรียกสติของคนทั้งห้องให้กลับมาสนใจเขา "เหตุที่ทำให้ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่ทุกคนคงทราบดีอยู่แล้ว ตอนนี้พวกเรากำลังตกเป็นเป้าของสุนัขกลายพันธุ์ขั้นสองและซอมบี้ตัวหนึ่ง แม้ว่าพวกเราจะทำให้เจ้าสุนัขกลายพันธุ์นั้นมันไปจากที่นี่ได้ แต่ว่า ยากที่จะรับประกันได้ว่ามันจะไม่กลับมาอีก ตอนนี้ พวกเราจะมีประชุมถึงแผนการรับมือกัน"
เมื่อได้ยินอย่างนั้นผู้คนต่างก็พากันกระซิบถึงเรื่องนี้ แต่ไม่มีใครพูดออกมาตรงๆ พี่ชายกุ้ยและลิงผอมมองไปยังท่าทางของคนเหล่านั้น แล้วขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างสงสัย
"หัวหน้า ! ผมอยากจะพูดอะไรสักหน่อย!" ซ่งเจิงยืนขึ้น แววตาของเขาก็ส่องประกายขึ้นมา
เฉินเฟิงเลิกคิ้วขึ้น "ว่ามา"
"พวกเราที่อยู่ด้านนอกต่างเป็นเพียงคนธรรมดา งั้นก็ให้พวกเราทุกคนกวาดล้างซอมบี้ธรรมดาอย่างเดียว ส่วน...คนที่เปลี่ยนเป็นซอมบี้กับสุนัขกลายพันธุ์ตัวนั้น ควรจะให้เหล่ามนุษย์สายพันธุ์ใหม่เป็นคนจัดการ"
เมื่อได้ยินคำพูดของซ่งเจิง ทุกคนก็มีแววตาที่เปล่งประกายขึ้นมาทันที
เฉินเฟิงพยักหน้า "ที่นายพูดก็ถูก ฉันได้จุดพลุสัญญาณแล้ว ถ้าหากว่ามีอะไรผิดพลาดล่ะก็ กลุ่มคนสายพันธุ์ใหม่จะต้องมาถึงที่นี่ภายใน 48 ชั่วโมงอย่างแน่นอน"
ซ่งเจิงรู้สึกสับสน "ในเมื่อเรามีมนุษย์สายพันธุ์ใหม่อยู่แล้ว พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องย้ายไปไหนแล้วใช่ไหม แล้วพวกเรามาประชุมกันเรื่องอะไรครับ ? "
เฉินเฟิงหัวเราะหึด้วยเสียงเย็นชา "ตอนนี้หน้าที่สำคัญที่สุดคือการป้องกันแคมป์ให้ดี และเพราะแบบนี้ ซ่งเจิง พี่ชายกุ้ยและเจ้าลิงผอม พวกนายทั้งสามคนออกมานี่"
ที่ด้านนอก เฉินเฟิงเดินไปเปิดหน้าต่างตามบริเวณทางเดิน เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆและตั้งสติ แล้วหันมาเผชิญหน้ากับทั้งสามคน ซ่งเจิงนั้นมองไปยังเฉินเฟิงด้วยความแปลกใจ ไม่รู้ว่าเฉินเฟิงนั้นคิดอะไรอยู่
"ก่อนที่กลุ่มคนสายพันธุ์ใหม่จะมาถึง อาหารของเราคงจะมีเพียงพอ จนกว่าจะถึงเวลาที่มนุษย์สายพันธุ์ใหม่มาถึง แต่ว่าแนวการป้องกันของเราตอนนี้ถูกทำลายแล้ว มีเพียงทางเดียวคือต้องเผชิญหน้ากับสุนัขกลายพันธุ์ระดับสองตัวนั้น..."
ซ่งเจิงเอ่ยขึ้นมาว่า "หัวหน้า ไม่ใช่เพียงตัวเดียวนะครับ..." ซ่งเจิงคอตกลงทันที
สุนัขกลายพันธุ์ระดับสูงสามารถที่จะชักนำลูกน้องหรือระดับต่ำให้มาร่วมต่อสู้ได้ เหมือนกับการสร้างกองทัพก็ไม่ปาน......
ไม่มีใครพบสุนัขกลายพันธุ์แบบนี้มานานแล้ว ทำให้ทุกคนลืมเรื่องที่ธรรมดาที่สุดไปได้
{ถ้าหากว่า...สุนัขกลายพันธุ์ระดับสองพาพวกของตัวเองเข้ามาทำลายแคมป์ด้วยล่ะก็...แบบนั้นมันก็แย่น่ะสิ}
ซ่งเจิงสัมผัสได้ถึงความเย็นของเหงื่อ "หัวหน้า..หรือว่า....
เฉินเฟิงใช้มือสัมผัสหน้าต่าง เขามองไปยังรอยร้าวที่หน้าต่างที่ตอนนี้ได้รับการปกปิดเอาไปแล้ว "ฉันกังวลว่าหากหัวหน้าสัตว์พวกนั้นพาเหล่าสุนัขกลายพันธุ์เข้ามาโจมตีที่แคมป์ของเราล่ะก็...."
พี่ชายกุ้ยและลิงผอมต่างหันมามองหน้ากัน ลิงผอมพูดออกมาว่า "พวกเราควรจะหนีไปทางท่อระบายน้ำนะ อย่างน้อยๆเหล่าสุนัขกลายพันธุ์พวกนั้นก็ตามพวกเราไม่ได้"
เฉินเฟิงพูดขัดขึ้นมาทันที "ไม่ได้ หลังจากที่ลงไปแล้วพวกเราก็ไม่ได้ปลอดภัยนักหรอก ไม่มีทางที่พวกเราจะดูแลคนทั้งหมดได้ และยังทำให้ถูกโจมตีได้ง่าย เดินไปทางนั้นก็เหมือนกับพากันเดินไปตาย"
พี่ชายกุ้ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด "การที่พวกเราหาทางอื่นก็ไม่ได้หมายความว่า...."
เฉินเฟิงรีบพูดขึ้นทันที "ถ้าหากว่าเป็นคนที่กลายร่างเป็นซอมบี้อาจจะใช้วิธีนี้ได้ผล แต่ว่าพวกเราดันไปยั่วโมโหสุนัขกลายพันธุ์ที่สามารถดมกลิ่นของนายได้ไปจนถึงกลิ่นของบรรพบุรุษนายได้เลยนะ"
ซ่งเจิงพูดออกมาด้วยความไม่สบายใจทันที "แบบนี้ไม่ได้ แบบนั้นก็ไม่ได้ พวกเราจะทำอย่างไรกันดีล่ะ !"
ในแววตาของเฉินเฟิงนั้นสามารถบ่งบอกออกมาเป็นคำพูดได้ว่า {เขายังเด็กเกินไปจริงๆด้วย} "เราจะบุกเข้าไปหาสุนัขตัวนั้นกัน !"
ทั้งสามคนต่างอ้าปากค้างหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่เฉินเฟิงพูด แค่เอาตัวรอดยังจะทำไม่ได้ แต่นี่ให้บุกเข้าไปจัดการสุนัขกลายพันธุ์ระดับสองนั้นแทน นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ !
เฉินเฟิงพูดเสริมว่า "สุนัขกลายพันธุ์ที่พึ่งได้รับการวิวัฒนาการจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาพอสมควรในการปรับพลังและร่างกาย และจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการรวบรวมพลังมากทีเดียว แต่ว่าช่วงเวลาสั้นๆแบบนี้มันเป็นทางสุดท้ายและเป็นโอกาสของเรา"
ดวงตาของลิงผอมเปล่งประกายออกมา "หัวหน้า นายกำลังคิดที่จะ..." จากนั้นเขาก็ทำท่าปาดคอตัวเอง
เฉินเฟิงยกยิ้มที่มุมปาก แววตาของเขาส่องสว่างราวกับเปลวไฟ
"เหตุผลง่ายๆที่ฉันเรียกพวกนายสามคนออกมาก็คือ สุนัขกลายพันธุ์ระดับสองนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนธรรมดา ซ่งเจิงที่ตอนนี้เป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ขั้นที่หนึ่งแล้ว ส่วนพี่ชายกุ้ยและลิงผอมนั้นก็ได้รับน้ำยาวิวัฒนาการเข้าไปแล้วจำนวนหนึ่ง มันก็จะสามารถช่วยกันจัดการเรื่องพวกนี้ได้"
พี่ชายกุ้ยเอ่ยขึ้นมาว่า "หัวหน้า หัวหน้าจะให้พวกเราทำอะไรพูดออกมาตรงๆเถอะ ผมน่ะเป็นคนโง่ ขอแค่หัวหน้าพูดตรงๆก็พอแล้ว เกรงว่าต่อให้หัวหน้าสาธยายไปผมก็ไม่เข้าใจ"
เฉินเฟิงและซ่งเจิงนั้นพูดออกมาอย่างพร้อมเพียงกันว่า ".....พวกเราจะไปฆ่าสุนัขกลายพันธุ์ตัวนั้น !"
....
"หน้าที่ในครั้งนี้ ไม่เหมาะที่จะใช้คนหลายคน นี่คือแผนที่ พวกนายสามคนจะเป็นคนรับผิดชอบหลักในการวางแผนครั้งนี้ หากว่ามีโอกาสล่ะก็....ฆ่าเจ้าอสูรนั่นซะ !"
ซ่งเจิงมองไปยังกระทะเหล็กที่อยู่ในมือ เขากำมันเอาไว้แน่น จากนั้นเฉินเฟิงผู้ซ่อนเสื้อเกราะอยู่ภายใต้เสื้อผ้าของตัวเองนั้นก็มองไปยังพี่ชายกุ้ยและลิงผอมที่พยักหน้า มืออันอ่อนนุ่มของคนคนหนึ่งก็ได้เอื้อมเข้ามาจับมือของซ่งเจิงเอาไว้แน่น เมื่อพี่ชายกุ้ยและลิงผอมที่อยู่ด้านนอกเห็นเข้าพวกเขาก็ออกไปก่อนจะปิดประตูให้เบาๆ
หลี่หวานหรูอดกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวจนพูดเบาๆว่า "ระวังตัวด้วยนะ...."
ซ่งเจิงวางกระทะของตัวเองลง แล้วเลื่อนมือมาจับมืออันผอมเรียวทั้งสองข้างไว้ "ไม่เป็นไรนะ แค่ออกไปสำรวจบรรยากาศข้างนอกเท่านั้นเอง ไม่ได้มีเรื่องอะไรหรอก"
เมื่อได้ยินแบบนั้นน้ำตาของหลี่หวานหรูก็หยดลงบนหลังมือของซ่งเจิงหยดแล้วหยดเล่าทันที
ซ่งเจิงหมุนตัวกลับมา ก่อนจะจูบหลี่หวานหรูอย่างลึกซึ้ง {เพียงเท่านี้ขอแค่มีภรรยาคนนี้ อย่างอื่นก็ไม่จำเป็นอีกแล้ว}
บรรยากาศอันอบอุ่นตลบอบอวลไปทั่วบริเวณเป็นเวลานาน ในที่สุดซ่งเจิงก็จำเป็นที่จะต้องปล่อยหลี่หวานหรูและพูดกับเธอเบาๆว่า "รอฉันแข็งแกร่งกว่านี้ก่อนนะ ฉันจะไม่ทำให้เธอและปู่ของเธออดตายอย่างแน่นอน " หลี่หวานหรูสวมกอดซ่งเจิงแน่นไม่ยอมปล่อย จนทำให้ซ่งเจิงนั้นใช้แรงแกะข้อมือของหลี่หวานหรูออก ก่อนจะหยิบกระทะเหล็กขึ้นมาแล้วเดินออกไป
หลังจากที่ซ่งเจิงออกไป หลี่หวานหรูก็ทรุดตัวลงไปกับพื้น ทุกคนต่างกำลังวุ่นวายกับการป้องกันการโจมตีของซอมบี้ที่แคมป์แต่ก็มีเพียงซ่งเจิง พี่ชายกุ้ยและลิงผอมสามคนเท่านั้นที่จะออกไปจากแคมป์แห่งนี้ ในใจของหลี่หวานหรูนั้นรู้ดีว่าการที่ซ่งเจิงออกไปในครั้งนี้นั้นเป็นการเสี่ยงชีวิตมากทีเดียว...
หลี่หวานหรูก้มหน้าลงบนฝ่ามือของตัวเองทั้งสองข้าง ภาวนาขอให้ชายอันเป็นที่รักกลับมาอย่างปลอดภัย....
เจ้าลิงผอมมองไปยังซ่งเจิงที่ออกมาในสภาพไร้วิญญาณ เขาหยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งกล่อง แล้วจุดบุหรี่ให้ซ่งเจิงหนึ่งมวน "มา น้องซ่ง ดูดสักหน่อยจะได้สบายใจขึ้น"
ซ่งเจิงหยิบบุหรี่มวนนั้นขึ้นมา แล้วทำท่าดูดบุหรี่ตามที่เขาได้เรียนมาจากห้วหน้า เขาสูดลมเข้าลึก แล้วเขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นยาสูบทั่วจมูกตัวเอง ก่อนที่ซ่งเจิงจะส่งคืนบุหรี่ให้เจ้าลิงผอมกลับไปเขาก็ไอออกมาทันที "แค่กแค่ก ... แค่กแค่ก..."
ลิงผอมและพี่ชายกุ้ยหัวเราะออกมาเมื่อเห็นท่าทีของซ่งเจิง พวกเขาหัวเราะจนไม่สามารถยืนอยู่ได้ ในโลกที่วุ่นวายแห่งนี้ มีคนที่สูบบุหรี่นั้นเยอะแยะมากมาย แต่คนที่สูบไม่เป็นเลยแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเคยเห็นคนแบบนี้
ซ่งเจิงก็หัวเราะจนน้ำตาไหลออกมา เขาลองดูดบุหรี่อีกครั้ง คราวนี้เขาปล่อยให้รสชาติของยาสูบนั้นลอยเข้าปอดอย่างช้าๆ ซ่งเจิงไม่รู้ว่าตัวเองนั้นหัวเราะอะไร แต่ว่า...มนุษย์แบบเราที่อาศัยอยู่บนโลกอันวุ่นวายแบบนี้ ควรจะยิ้มและหัวเราะให้บ่อยขึ้นไม่ใช่เหรอ ?
เสียงร้องครางต่ำของบางสิ่งกำลังเข้ามาหาทั้งสามคนอย่างช้า ๆ ที่มุมมืดแห่งหนึ่งนั้น ได้มีดวงตาสีแดงกระหายเลือดปรากฏขึ้นมาคู่หนึ่ง
ซ่งเจิงหยิบกระทะเหล็กขึ้นมา พี่ชายกุ้ยนั้นก็หยิบมีดสปาต้าขึ้นมาเช่นกัน ส่วนเจ้าลิงผอมนั้นดึงดาบยาวอันเงาวับขึ้นมา ทั้งสามคนที่เมื่อครู่หัวเราะกันอย่างบ้าคลั่งนั้นพุ่งเข้าไปหาซอมบี้ที่เดินเซไปมาตัวนั้นทันที
บทเริ่มต้นของเรื่องนี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่บทแรกของมันก็พาเข้าสู่เนื้อหาหลักของเรื่องไปเลยในทันที !