px

เรื่อง : The Strongest System จบแล้ว!!!
บทที่ 85 : ระเบิดพลังครั้งสุดท้าย...ใช้งาน ฉายา


บทที่ 85 : ระเบิดพลังครั้งสุดท้าย...ใช้งาน ฉายา

 

ตอนนี้ความโกรธแค้นและเกลียดชังของหลินฟ่านนั้นได้ทะลุขีดจำกัดของเขาไปแล้ว หากเขาเลือกได้ เขาจะฆ่าล้างทุกคนที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ให้สิ้นซากไม่เหลือแม้แต่คนเดียว แต่น่าเสียดายที่ระดับบ่มเพาะของเขานั้นยังอ่อนด้อยเกินไปเขาไม่สามารถทำตามใจที่เขาคิดเอาไว้ได้

‘อ่อนแอ เรามันอ่อนแอเกินไป’

หลินฟ่านพบว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงนั้นตัวเองอ่อนแอถึงขนาดไหน

นิกายปีศาจศักดิสิทธิ์นั้นดำรงอยู่มานับพันๆปี ความแข็งแกร่งนั้นนับว่าเหนือล้ำนิกายอื่นอย่างมาก แต่ไม่ว่านิกายปีศาจจะแข็งแกร่งขนาดไหน เมื่อเจอการรวมพลังกันของทั้ง 9 นิกายสุดท้ายก็ต้องแพ้พ่ายไปอยู่ดี เมื่อนิกายทั้ง 9 รวมพลังพวกมันก็เหมือนกับฝูงหมาป่าที่รุ่มฉีกกระชากนิกายปีศาจออกเป็นชิ้นๆราวกระดาษเปียกน้ำ

ส่วนอาคมที่มีไว้ปกป้องนิกายนั้น น่าแปลกที่มันไม่ทำงาน หากอาคมทำงานนิกายปีศาจอาจจะไม่พ่ายแพ้อย่างน่าอนาถเช่นนี้ นี่หมายความว่าต้องมีหนอนบ่อนไส้ คอยทำลายอาคมจากภายใน หลินฟ่านรู้ได้ทันทีว่าเรื่องนี้ต้องเป็นเพราะมีฝ่ายศัตรูที่มาสอดแนมและคอยดำเนินการลบล้างอาคมป้องกันอย่างแน่นอน

คนที่มู่เฉินหยูเรียกว่า ราชินีสวรรค์  ...

คาดไม่ถึงจริงๆว่าหญิงสาวที่หลินฟ่านเจอที่โรงอาหารครั้งแรกกลับเป็นถึงราชินีสวรรค์ แต่น่าเสียดายที่เขานั้นไม่ได้สนใจนางมากพอ หากเขาสนใจนางและสังเกตระดับบ่มเพาะของนางเขาคงจับพิรุธนางได้ไปแล้ว แต่นี่เขาไม่ได้สนใจนางมากพอจึงไม่ได้สังเกตถึงเรื่องนี้

"นี่มันวิถีลับ ราชันย์มังกรสะท้านของเจ้าไม่ใช่รึไร ... แต่เหตุใดมันถึงดูทรงพลังเยี่ยงนั้นล่ะ?" ประมุขนิกายทั้ง 9 ต่างหันไปมองจักรพรรดิหยาง ดูเหมือนว่าประมุขทุกคนต่างอยากรู้ว่า เพราะเหตุใดศิษย์นอกสายตาคนนั้นถึงมีวิถีลับระดับสูงแบบนี้ของจักรพรรดิหยางได้

ตอนนี้จักรพรรดิหยางเองก็โมโหอย่างมาก เขาเริ่มตระหนักได้และมั่นใจว่าหลินฟ่านต้องเป็นคนที่ลอบทำร้ายเขาและราชินีอย่างแสนสาหัสเมื่อวันก่อนนั้นแน่ๆ

หลินฟ่านหัวเราะออกมาอย่างไร้อารมณ์ สีผิวของเขาเริ่มเปลี่ยนจากขาวซีดกลายเป็นสีแดงก่ำก่อนที่เลือดจะเริ่มซึมออกมา ดูราวกับว่าตัวเขากำลังจะปกคลุมไปด้วยหมอกโลหิตในอีกไม่นาน

หลังจากที่ถูกลอบทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสโดยราชินีสวรรค์ ประมุขนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์ ก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีก ตอนนี้มันจึงได้แต่แหงนหน้ามองดูศิษย์นิกายปีศาจคนสุดท้ายของมัน ถึงแม้มันจะมีประสบการณ์มามากมาย แต่ทว่ามันก็ไม่รู้อยู่ดีว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้นกับศิษย์ของมัน เพราะนี่มันเกินความเข้าใจของเขาไปไกล วิถีลับไม่ควรมีผลลัพธ์แบบนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ตอนนี้ระดับพลังของหลินฟ่านกำลังพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ จนทะลุระดับศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว อีกทั้งยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

"วันวันนี้ข้าจะตายเพื่อนิกาย... ข้าไม่เสียใจสักนิด" ใบหน้าของหลินฟ่านนั้นดูทุกข์ทรมานอย่างมาก แต่แววตาของมันนั้นมีแต่ความเด็ดเดี่ยวไม่มีความเสียใจหรือเสียดายแฝงอยู่สักนิด

"เปรี๊ยะ!..."

เสียงปริแตกดังขึ้นเบาๆ  ตอนนี้แขนที่เคยเล็กและขาวซีดของหลินฟ่านเริ่มปริแตกออกมา กล้ามเนื้อมัดใหญ่สีแดงก่ำเริ่มขยายพองโตจนผิวหนักเขาฉีกขาด เส้นเอ็นและเส้นเลือดของมันนั้นขยายใหญ่ขึ้นและน่ากลัวอย่างมาก แต่หากดูไปกลับคล้ายว่ากำลังมีมังกรพันรอบแขนของมันอยู่ ทั้งร่างหลินฟ่านเต็มไปด้วยมัดกล้ามสีแดง

ตอนนี้ร่างของหลินฟ่านดูน่าหวาดกลัวราวกับปีศาจจากนรก

'ติ๊ง!! ใช้งานแก่นแท้โลหิตแรดเพลิงทมิฬมรณะ ตัวผู้ใช้เข้าสู่สถานะ นักรบคลั่ง ... ได้รับความสามารถพิเศษ ปลุกพลังเปลวเพลิงทมิฬมรณะ และเพลิงทมิฬนรกอเวจี'

ตอนนี้สติหลินฟ่านเริ่มหลุดลอย ความเคียดแค้นและความเกลียดชังเริ่มกัดกินจิตใจของเขาจนแทบไม่อาจควบคุมสติเอาไว้ได้

"ยัง ไม่ พอ! ... " หลินฟ่านตะโกนออกมาดังกังวานด้วยพลังทั้งหมดของเขา คลื่นลมและอากาศแผ่กระจายออกมารอบๆกายของมันอีกทั้งเปลวเพลิงทมิฬยังลุกโหมกระหน่ำสะกดทุกสายตาให้ตกตะลึง ตอนนี้ร่างกายของมันนั้นขยายใหญ่ขึ้นมาอย่างมากจากกล้ามเนื้อที่ปูดโปนอีกทั้งด้วยรัศมีมังกรทองที่ยังคงเหลือไว้บนร่างมันจางผสานกับเปลวเพลิงทมิฬมรณะ และเปลวเพลิงทมิฬนรกอเวจีทำให้มันแลดูน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก

"ใช้งานแก่นแท้โลหิตแรดเพลิงทมิฬมรณะ อันสุดท้าย!"

"ติ๊ง!! ใช้งานแก่นแท้โลหิตแรดเพลิงทมิฬมรณะซ้ำเป็นครั้งที่สอง อันตราย!! ผลค้างเคียงที่ระบบไม่อาจประเมินผลลัพธ์ได้กำลังเกิดขึ้น!! อันตราย !!"

หลินฟ่านฆ่าแรดเพลิงทมิฬมรณะและได้รับแก่นโลหิตนี้มา แต่เขาไม่ได้คิดจะใช้มันก่อนหน้านี้สักครั้ง เพราะระบบถึงกับบอกว่ามีผลข้างเคียงที่ไม่รู้จัก นั่นทำให้เขาหวาดกลัวอย่างมาก เพราะเขาไม่เคยกินอะไรแล้วเจอผลข้างเคียงมาก่อน ถึงจะเป็นโอสถระดับสวรรค์ก็เถอะ

แต่ตอนนี้หลินฟ่านไม่คิดอะไรแล้ว มีอะไรมันใช้หมด

'ตายห่ากันให้หมดนี่ล่ะไอพวกระยำ'

"บัดซบนั่นมันแก่นโลหิตของแรดเพลิงทมิฬมรณะ! สิ่งนั้นมิสามารถกินเข้าไปได้ มันบ้าไปแล้วหรือไร?" ประมุขนิกายทั้ง 9 เมื่อเห็นภาพนี้พวกมันพลันตกตะลึงและหวาดผวาอย่างมาก แก่นโลหิตของมอนสเตอร์นั้นเป็นอะไรที่หาได้ยากอย่างยิ่งเป็นเวลาหลาย 100 ปีแล้วที่ไม่ได้ปรากฏขึ้น...แต่หลินฟ่านนั้นเพราะมีระบบสิ่งของจึงตกลงมาดั่งไอเทมในเกมส์

อีกทั้งคนอื่นถึงแม้จะฆ่าพวกมันได้ก็มิใช่ว่าจะได้แก่นโลหิตที่สมบูรณ์แบบมาเช่นนี้ อย่างไรก็ตามสิ่งนี้มันเปรียบเสมือนยาพิษร้ายแรงของผู้ฝึกตน แม้กระทั่งประมุขจากนิกายใหญ่ทั้งหลายยั้งไม่กล้าใช้มัน เพราะมันมีสาระสำคัญและพันธุกรรมอสูรและสำนึกสืบทอด ของสัตว์อสูรอยู่ในนั้น

ถึงแม้ว่ามันจะสามารถเพิ่มพลังให้ผู้ใช้ได้ราวกับจะไร้ขีดจำกัดได้อยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่ผู้ที่ใช้จะเต็มไปด้วยความโหดร้ายความกระหายและความบ้าคลั่งที่ราวกับอสูรกายไร้จิตใจ มันจะเต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาทและความคิดเชิงลบไร้ขีดจำกัดราวกับว่ามันเกิดมาเพื่อทำลายล้างเท่านั้น

อีกทั้งมันอาจจะกลืนกินแก่นโลหิตมนุษย์และเปลี่ยนถ่ายเลือดของมนุษย์ให้กลับกลายเป็นอสูรกาย

ในอดีตผู้ฝึกตนคนหนึ่งอับจนหนทางจนใช้แก่นโลหิตเช่นนี้ ถึงแม้ว่าพลังของมันจะทะยานเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล แต่สุดท้ายมันก็ไม่สามารถทนต่อพลังที่มหาศาลและร้ายแรงระดับนั้นได้ในที่สุดร่างกายของมันก็ระเบิดจนตกตายลงไป...และนั่นเป็นแค่แก่นโลหิตของสัตว์อสูรระดับมนุษย์เท่านั้น

แต่ตอนนี้ชายคนนี้กลับกินแก่นหิตของแรดเพลิงทมิฬมรณะที่เป็นหนึ่งในสัตว์อสูรระดับสูงที่นับว่าเป็นชนชั้นปกครองของป่าหมื่นอสูร ที่หาได้ยากยิ่งนัก มันเป็นสัตว์ร้ายที่มีระดับถึงขั้นระดับศักดิ์สิทธิ์ ไม่น่าจะมีมนุษย์ผู้ใดบนโลกทนผลลัพธ์หลังกลืนกินแก่นโลหิตของมันได้อย่างแน่นอน

ตอนนี้ทางด้านหลินฟ่านนั้นร่างกายพลันเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวมันเริ่มขยายตัวออกมา กล้ามเนื้อของมันพองปูดออกมาราวกับอสูรกายจากขุมนรก พลังงานที่แท้จริงมหาศาลเริ่มทะลักล้นออกมาจากร่างกายของมัน ปฐพีเริ่มสั่นสะเทือนนภาเริ่มเลือนลั่น บรรยากาศสั่นไหว พร้อมกลิ่นอายแห่งความตายแผ่ซ่านกระจายออกมา

ราชินีสวรรค์จับจ้องไปยังหลินฟ่านที่กำลังกลายร่างเป็นอสูรกายด้วยความสนใจ "มันสามารถทนผลลัพธ์ของแก่นโลหิตแรดเพลิงทมิฬมรณะได้เช่นนั้นหรือ เหตุใดร่างกายมันจึงยังมิระเบิด ... หรือนี่เป็นผลลัพธ์ของโอสถระดับเซียนกัน?"

"มันมีความลับอันใดกันแน่ ตอนนั้นมันทนผลลัพธ์ของโอสถระดับเซียนได้ด้วยตัวเอง หรือโอสถเซียนนั่นทำให้เกิดผลเช่นนี้กันแน่" ราชินีสวรรค์ตกอยู่ในความสับสน

ตอนนั้นนางได้แอบนำโอสถระดับเซียนไปให้หลินฟ่าน พร้อมทั้งระบุวิธีใช้งานโอสถเม็ดนั้นอย่างละเอียด แต่หลินฟ่านนั้นหาได้คิดอ่านวิธีใช้ไม่ มันเลือกที่จะกินโอสถเซียนเม็ดนั้นโดยตรงเพราะระบบบอกได้ EXP ถึง 4,000,000 มันก็ไม่รีรอรีบยัดเข้าปากทันที ตอนนั้นราชินีสวรรค์ได้แต่สงสารในความโง่เขลาของมัน และคิดว่ามันต้องร่างกายระเบิดตายแน่นอน...แต่มันกลับไม่เป็นอะไร

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์คล้ายๆกันพลันมาเกิดขึ้นอีกครั้งในตอนนี้

'เป็นไปได้อย่างไร... เรื่องเช่นนี้มันไม่น่าจะเป็นไปได้'

ประมุขนิกายทั้ง 9 ได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึงผสมกับความหวาดกลัว แต่ถึงพวกมันจะตกตะลึงและหวาดกลัว ทว่าความกลัวนั้นไม่ได้เกิดจากความกลัวในระดับพลังของหลินฟ่าน มันหวาดกลัวในสิ่งที่ไม่รู้จัก ...ในแง่ระดับพลังเพียงเท่านี้พวกมันยังสามารถสังหารหลินฟ่านได้อย่างง่ายดาย

ระดับสู่สวรรค์อมตะแล้วปกติจะไม่สามารถเทียบเคียงผู้ที่ใช้งานแก่นโลหิตของสัตว์อสูรได้ แต่หลินฟ่านที่ใช้แก่นโลหิตของสัตว์อสูรกลับไม่ได้มีพลังเหนือล้ำดั่งในบันทึกโบราณ

ระดับสู่สวรรค์อมตะขั้นที่ 1

หลังจากการอาศัยวิถีลับ ราชันย์มังกรสะท้าน และกินแก่นโลหิตแรดเพลิงทมิฬมรณะเข้าไป 2 หยด ตอนนี้ระดับบ่มเพาะของหลินฟ่านพุ่งขึ้นมาถึงระดับสู่สวรรค์อมตะขั้นที่ 1

"ฮ่า ฮ่า ... ประมุขนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่เอ๋ย จงดูสิลูกศิษย์ของเจ้ากลายเป็นตัวบัดซบครึ่งคนครึ่งสัตว์อสูรเสียแล้ว ... อย่างไรเสียมันก็ต้องตาย เจ้าอยากดูภาพสนุกๆแบบไหนกันเล่า อยากให้มันตกตายไปด้วยตัวของมันเองอย่างช้าๆ หรือให้พวกเราปลิดชีพสังหารให้มันตกตายอย่างทรมาน อ่อรึอยากให้พวกเราสังหารมันให้ตกตายด้วยความรวดเร็วดีเป็นการสงเคราะห์มันกันล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า"

"ระดับสู่สวรรค์อมตะขั้นที่ 1 ดี ดี ... แต่หาได้เพียงพอไม่ ... " ราชันชุดคลุมลมดำระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ถึงแม้หลินฟ่านจะแลกด้วยชีวิต แต่ระดับพลังแค่นี้ยังคงเป็นมดสำหรับพวกมัน

อาศัยแค่ระดับบ่มเพาะสู่สวรรค์อมตะขั้นที่ 1 นั้นพวกมันแค่สะบัดมือก็ตกตายแล้ว

แต่พลังของหลินฟ่านนั้นกลับเป็นที่น่าสะพรึงกลัวและครั่นคร้ามต่อเหล่าศิษย์จากนิกายทั้ง 9 อย่างมาก ความแข็งแกร่งและเปลวเพลิงทมิฬที่อยู่รอบกายมันไม่ใช่อะไรที่พวกมันสามารถต่อกรได้แม้แต่น้อย มันนับว่าอันตรายอย่างยิ่ง แต่พวกมันก็หาได้หวาดกลัวไม่ เพราะตอนนี้ประมุขนิกายทั้ง 9 ต่างอยู่ที่นี่คอยปกป้องพวกมัน...

ตอนนี้แขนทั้งข้างของหลินฟ่านแปรเปลี่ยนกลับกลายไม่เหมือนสภาพแขนของมนุษย์แม้แต่นิดเดียว มันดูคล้ายกับแขนของปีศาจอสูรกายขนาดใหญ่ มือของมันกลับกลายเป็นกรงเล็บแหลมคม ท่อนแขนมีเกล็ดสีดำทมิฬปกคลุมแขนไปทั่ว อีกทั้งยังมีเปลวเพลิงทมิฬปกคลุมไปด้วยแลดูน่าพรั่นพรึงนัก

"ไม่พอ ยังไม่พอ ... ข้าต้องการพลังมากกว่านี้อีก" หลินฟ่านกู่ร้องออกมาเสียงดังอีกครั้ง มันดูเกรี้ยวกราดอย่างมากและเตรียมที่จะแลกทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อพลังอำนาจ ยามที่มันเงยหน้าขึ้นมาดวงตาของมันคล้ายอสูรกายจากนรก ผู้ใดที่สบตากับหลินฟ่านต้องนี้พวกมันคงนึกว่าสบตากับยมทูตเพราะดวงตาของหลินฟ่านนั้นดำมืดราวกับอนธการ

"ชะตาข้าคงจบสิ้นแล้ววันนี้ เหล่าศิษย์ที่น่าสงสารของข้า ข้าขอโทษเป็นเพราะข้าประมาท พวกเจ้าถึงต้องตกตายอย่างน่าเศร้าเช่นนี้...อีกทั้งเจ้า..ยังต้องทรมานถึงเพียงนี้" ประมุขนิกายปีศาจสักดิ์สิทธิ์ที่เห็นท่าทางหลินฟ่านแปรเปลี่ยนไปและดูเหมือนจะทุกข์ทรมานออกมามันได้แต่หลั่งน้ำตาเป็นสายเลือด มันทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงแค่เฝ้ามองศิษย์คนสุดท้ายของมันสละชีวิตเท่านั้น

แม้ว่าศิษย์คนสุดท้ายนี้จะมีพลังที่แข็งแกร่งอย่างมากแต่นั่นมันสำหรับพวกศิษย์ด้วยกัน ประมุขนิกายทั้ง 9 ยังอยู่ที่นี่ มันคงไม่สามารถทำอะไรได้

หลินฟ่านรู้สึกถึงพลังในร่างกายที่หยุดเพิ่มพูนขึ้น ตอนนี้ระดับพลังของมันเริ่มคงที่แล้ว มันพลันกล่าวเบาๆในใจ ทันทีพร้อมแสยะยิ้มออกมา

"เปิดใช้งานฉายา"

"ติ้ง!! ยืนยันการใช้งานฉายา ‘ไม่ลองไม่รู้ สู้ต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น’ ระดับพลังทั้งหมดเพิ่มขึ้นสองเท่าตัว ผลของไอเทม ใช้งานมีผลลัพธ์เพิ่มขึ้น 2 เท่า ... เป็นระยะเวลา 30 นาที " 

ในขณะที่ประมุขนิกายทั้ง 9 คิดจะปลิดปลงชีวิตที่ไร้ค่าของหลินฟ่าน ทันใดนั้นท้องฟ้าพลันมืดมิดลงกะทันหัน เมฆดำทมิฬเริ่มปกคลุมท้องฟ้า สายฟ้าเริ่มแลบ ออกมาอย่างน่าสะพรึงกลัว

เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! ครืนนนน!!

ราวกับอวสานของโลกกำลังจะมาถึง เกิดแผ่นดินไหวพร้อมทั้งสภาพอากาศเริ่มวิกฤตเลวร้ายลงในทันใด แสงอัสดงถูกกลืนไปด้วยหมู่เมฆทมิฬ ราวกับรัตติกาลนิรันดร์กำลังจะครอบงำโลก

 

รอบกายของหลินฟ่านเริ่มบังเกิดพายุสายฟ้าล้อมรอบตัว พายุหมุนขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นล้อมรอบร่างกายมัน เส้นสายอัสนีผ่าสะท้านไปทั่วนับพันๆเส้น ราวกับมันเป็นพายุสายฟ้าจากสวรรค์ที่จะมาลงทัณฑ์เหล่ามนุษย์ต้อยต่ำ เหล่าศิษย์จากทั้ง 9 นิกายมองไปยังภาพตรงหน้าด้วยความสะพรึงกลัว ทั่วสรรพางค์กายของพวกมันต่างสั่นสะท้าน

เกิดอาเพศอันใดกันขึ้น?

ตอนนี้ประมุขทั้ง 9 เริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว

ตอนนี้พวกมันพลันสัมผัสได้ถึงอันตรายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

 

 

 

 

เผื่อมีคนลืม

ปล. ฉายา ไม่ลองไม่รู้ มันได้มาตอนที่นึกพิเรนท์ใช้ลิงขโมยลูกท้อขยำไข่ตัวเอง

ปล2. โอสถระดับเซียน นั้น ที่มันเจออยู่ในห้อง ที่มันคิดว่าเป็นของขวัญจากสวรรค์ +exp 4m

รีวิวผู้อ่าน