ตอนที่ 31 เจอผีดิบ
จู่ๆผมก็เห็นผีดิบโผล่ออกมา วินาทีนั้นผมจึงนิ่งอึ้งทันที
สำหรับผีดิบ ในสายงานของพวกเรา มีเรื่องเล่าเยอะมาก ขนาดที่พูดได้ว่าเป็นเรื่องที่ฟังจนคุ้นหูกันเลยละ
แต่ว่า ผมยังไม่เคยเห็นจริงๆเลยสักครั้ง
ตอนนี้เมื่อได้เห็นแล้ว ผมกลับรู้สึกหวาดผวา เหมือนกับความกลัวนั้นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัว
ขนเริ่มลุกขึ้นมาเป็นชั้นๆ ตามมาด้วยความหนาวสั่น ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี
ผีดิบตนนั้น กำลังใช้จมูกดมกลิ่น พร้อมหันไปรอบๆอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับการปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบตัว
ส่วนดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธที่ไม่สิ้นสุดนั้น ก็เป็นเพียงของตกแต่ง เพราะมันไม่สามารถใช้ได้จริง
ทันใดนั้น เหมือนจมูกของผีดิบจะได้กลิ่นลมหายใจของผม หลังจากมั่นใจกับตำแหน่งของผม มันก็ก้มหัวลงเล็กน้อย
ใช้ดวงตาขาวโพน มองมาที่ผม
แม้จะพูดว่าดวงตาเป็นแค่ของตกแต่ง แต่วินาทีนั้นที่ดวงตาคู่นั้นหันมาจ้อง ผมกลับรู้สึกหนาวเย็นไปทั้งตัว
ผมจึงถอยหลังตามสัญชาตญาณ แต่วินาทีนั้นกลับพบว่า ด้านหลังเป็นผนัง ผมจึงไม่สามารถขยับไปไหนได้อีก
ผมหายใจถี่ๆด้วยความเครียด กลืนน้ำลายหลายครั้ง ฟันเริ่มสั่นโดยที่ไม่รู้ตัว และสติเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
แต่ผีดิบตนนั้น กลับเขย่งเท้าขึ้น ทันใดนั้น “บึก” เสียงก้าวเท้ามาข้างหน้าก็ดังขึ้น
ตอนนี้ ตัวผมอยู่ห่างจากมันเพียง 2 เมตรเท่านั้น
ขณะที่กำลังพิงติดกับผนัง ผมรู้สึกว่าใจของตัวเองกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว
เพราะผมไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนในชีวิต การที่จู่ๆก็ต้องมาเผชิญหน้ากับมัน จึงทำให้ผมรู้สึกรับไม่ไหวจริงๆ
แต่ในตอนนั้นเอง เฟิงเฉ่วหานที่อยู่ห่างออกไป กลับตะโกนใส่ผีดิบว่า “อยู่นี่! มองมาทางนี้ซิ!”
เสียงนี้ทำลายความเงียบในห้องโถงทันที และเมื่อเสียงนี้ดังขึ้น
ผีดิบที่เคยจ้องผมนั้น ก็หมุนตัวทันที มันมองไปที่เฟิงเฉ่วหาน
วินาทีนั้นผีดิบได้เผยสีหน้าที่สยดสยองออกมา อ้าปากที่เต็มไปด้วยเลือด จากนั้นก็คำรามใส่เฟิงเฉ่วหานทันที “แฮ่!”
เสียงที่ทุ้มต่ำ ราวกับเสียงสัตว์ป่าก็ไม่ปาน
และหลังจากที่คำรามเสร็จ ผีดิบตนนั้นก็ยกมือสองข้างขึ้นและเขย่งเท้าไปที่เฟิงเฉ่วหานทันที
เฟิงเฉ่วหานเผยสีหน้าเคร่งเครียด ถือดาบไม้เอาไว้ และมองไปที่ผีดิบและพูดกับผมว่า “ติงฝาน รีบจับอาวุธ”
ผมที่กำลังกลัวจนสุดขีด เมื่อได้ยินคำพูดแบบนี้ สติของผมก็กลับมาอีกครั้ง
สีหน้าเศร้าหมอง พร้อมตะโกนว่า “อืออือ” จากนั้นก็รีบลุกขึ้น และหาอาวุธที่อยู่ใกล้ตัวทันที
ช่วงเวลานั้น แม้ว่าความรู้สึกเครียด กลัว และอารมณ์อื่นๆจะผสมปนเปอยู่ด้วยกัน แต่ผมไม่ได้กลัวจนเสียสติ ผมยังพอมีความคิดอยู่บ้าง
ศพได้เปลี่ยนเป็นผีดิบไปแล้ว ดังนั้นตอนนี้จะพูดอะไรก็ไม่ได้ประโยชน์แล้ว
สิ่งเดียวที่พอทำได้ ก็คือคิดหาวิธีให้มันกลับลงไปนอนในโลงอีกครั้ง
ผมรีบพุ่งตัวไปหากระเป๋าที่กระจัดกระจายอยู่ข้างๆ ผมจับดาบเหรียญ และยันต์อีกสองสามแผ่นขึ้นมา
ตอนนั้น ผีดิบได้เขย่งเท้าไปถึงด้านหน้าของเฟิงเฉ่วหานเรียบร้อยแล้ว เฟิงเฉ่วหานเป็นคนมีฝีมือ
เมื่อก่อนคงได้เผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่เลวร้ายแบบนี้ ดังนั้นเมื่อเห็นผีดิบเข้ามา เขาก็โยนข้าวออกไปหนึ่งกำมือ
การโยนข้าวใส่ศพ สามารถลดพลังวิญญาณจากศพได้
เมื่อสิ่งนี้สัมผัสโดนผีดิบ เสียง “ซ่าซ่า” ก็ปรากฎขึ้น พร้อมกันนั้นยังมีควันสีดำๆลอยออกมา ดูเหมือนกับหัวแร้งที่สัมผัสโดนผิวของหนังคน
และข้าวที่โยนออกไป จากความเร็วที่มองเห็น มันกลายเป็นสีดำ ราวกับก้อนถ่าน
นี่เป็นเพราะการติดพิษจากศพ ดังนั้นมันจึงเปลี่ยนสี
ผีดิบทุกข์ทรมาน กรีดร้องโหยหวนออกมา แต่มันไม่ได้ร้ายแรงมากนัก ทำได้เพียงชะลอการเคลื่อนไหวได้ครู่เดียวเท่านั้น
และการโจมตีครั้งนี้ ยังทำให้ผีดิบเริ่มโกรธ
ปากของมันคำรามออกมาอย่างต่อเนื่อง มันแยกเขี้ยวที่แหลมคม และเขย่งเข้าไปหาเฟิงเฉ่วหานทันที
เฟิงเฉ่วหานเองก็ไม่พูดอะไร หยิบดาบไม้ขึ้นมาและฟันออกไปอย่างมั่วๆ
หลังจากศพเปลี่ยนไป ร่างกายของเจ้านี้ก็เปลี่ยนไปแข็งกระด้างยิ่งกว่าเดิม
เมื่อดาบไม้สัมผัสโดนตัวมัน ก็ดูเหมือนกับคนปกติที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แขนทั้งสองข้างของผีดิบ ตรงเข้าไปจับตัวเฟิงเฉ่วหานอย่างต่อเนื่อง
แต่ความเร็วและการเคลื่อนไหวตัวที่ไม่ช้าจนเกินไป ทำให้เฟิงเฉ่วหานที่ท่องเที่ยวไปทั่วนั้น สามารถรับมือได้อย่างง่ายได้
ตอนนี้ผมเองก็ได้ถือดาบเหรียญไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นผีดิบกำลังไล่ล่าเฟิงเฉ่วหาน
ผมก็กัดฟัน และพุ่งเข้าไปทันที “ฉันมาช่วยนายแล้ว!”
ขณะที่พูด ผมก็แทงดาบเหรียญไปข้างหน้า
หลังจากนั้นก็มีเสียงดัง “บึก” ดาบเหรียญแทงเข้าตรงกลางของหลังผีดิบ แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันแข็งกว่าปกติ
ส่วนผีดิบนั้นกลับระเบิดแรงโมโหออกมา มันกรีดร้องออกมาทันที
จากนั้นก็หมุนตัว และใช้แขนทั้งสองข้างกวาดแกว่งไปมา
ผมตกใจ จึงรีบหลบทันที
กรงเล็บที่แหลมคม เฉียดปลายจมูกของผมไป อีกแค่นิดเดียวก็เกือบทำให้ผมบาดเจ็บแล้ว
“ติงฝาน พวกเราสองคนอ่อนเกินไป ถ้าคิดจะเป็นคู่ต่อสู้กับผีดิบ ต้องทำลายประตูชีวิตของมัน!” เฟิงเฉ่วหานรีบพูด
แต่ผมมันไร้เดียงสา ไม่รู้ว่าประตูชีวิตของผีดิบอยู่ที่ไหน
ผมรีบถอยหลังอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ถามว่า “แล้วไอ้ประตูชีวิตนั้นอยู่ที่ไหน ฉันไม่รู้จัก!”
“ที่ปากและตูด แค่สามารถปล่อยพลังจากผีดิบตนนี้ได้ มันก็ทำอะไรไม่ได้มากแล้ว!” ขณะที่พูด เฟิงเฉ่วหานก็ลงมืออีกครั้ง
และผีดิบก็ถูกเฟิงเฉ่วหานทำให้โกรธอีกครั้ง มันก็เขย่งเท้ากลับไปทางเฟิงเฉ่วหานอีกครั้ง
ขณะที่ผมมองผีดิบ ก็เผยสีหน้าที่เขินอายออกมานิดหน่อย
ถ้าที่เฟิงเฉ่วหานพูดถูก พลังทั้งหมดที่ผีดิบมี ก็ต้องรวมกันอยู่ภายในร่างของพวกมัน
แค่ปลดปล่อยพลังนี้ออกมา เจ้าผีดิบตนนั้นก็จะอยู่ต่อได้อีกไม่นานแล้ว
แต่เจ้าประตูชีวิตนี้ ช่างลงมือยากลำบากเอาการอยู่นะ เพราะมันคือปาก และตูด
ผมรู้สึกว่า คำพูดนี้ค่อนข้างน่าเชื่อ และตูดก็เป็นส่วนที่ลงมือได้ง่ายที่สุด
เพราะด้านหลังของเจ้านี้ก็ไม่มีตางอกออกมา การแทงตูดเจ้านี้ คงไม่ใช่เรื่องยากอะไร และเจ้านี้ยังเป็นผู้หญิงด้วย
แต่เมื่อเห็นการต่อสู้ที่แสนยากลำบากของเฟิงเฉ่วหาน ผมจึงไม่สนอะไรอีก
จับดาบเหรียญให้มั่น จากนั้นก็พุ่งเข้าไปแทงอีกครั้ง
เล็งไปที่ตูดของผีดิบ จากนั้นก็แทงเข้าไปทันที
แต่ก็ไม่รู้ว่าผีดิบตนนี้มีลางสังหรณ์อะไรรึเปล่า ขณะที่ผมเข้าไปแทงมัน จู่ๆในพริบตานั้น มันกลับกระโดดหลบไปข้างๆ ผมจึงแทงเข้ากับอากาศ
แต่นี่ยังไม่จบ แขนของผีดิบ ยังแกว่งไปมา จนโดนที่ไหล่ของผม
วินาทีนั้น ผมรู้สึกว่ามันแรงเยอะมาก จนทำให้รู้สึกเหมือนถูกรถชน
ผมอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา ตอนนั้นร่างของผมยังกระเด็นออกไปตามแรงที่ชน
แต่ผีดิบตนนั้นกลับรีบกระโดดเข้ามาหาผม เธอเร็วมาก ในปากยังพ่นเสียง “กากากา” อย่างต่อเนื่อง
“ติงฝานระวัง” เฟิงเฉ่วหานตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
เสียงพึ่งจางหาย ผีดิบก็พุ่งเข้ามาทันที
เธอก็เขย่งเท้าเข้ามา เอนตัวลงเล็กน้อย อ้าปากกว้าง และตรงเข้ามากัดที่คอของผม
ตอนนั้นผมรู้สึกเจ็บแขนมาก แต่เมื่อเห็นผีดิบพุ่งเข้ามา ผมจึงรีบยกมือขึ้นป้องกันทันที
ผมจับกามและคอของผีดิบเอาไว้ แต่เจ้านี้แรงเยอะมาก บวกกับเมื่อกี้ไหล่ขวาของผมบาดเจ็บ และต้องตอบสนองอย่างรีบร้อน จึงทำให้ผมเหลือแรงไม่มากนัก
ในตอนนี้ ผมจึงไม่สามารถหยุดผีดิบได้นานนัก
ร่างของมันกดตัวลงเรื่อยๆ แรงที่ตามมาก็เยอะมากเช่นกัน
ปากที่ชุ่มเลือด ตรงเข้ามาที่หลอดเลือดใหญ่ของผม
ขณะที่ผมมองเขี้ยวที่ขยับใกล้เข้ามา ผมก็สัมผัสได้ถึงความเย็นที่พ่นออกมาจากปากของมัน ตอนนี้ตัวผมนั้นตกใจจนชาไปครึ่งตัวแล้ว
ไม่เพียงเท่านั้นผมยังกลัวจนหัวใจเต้นผิดปกติ จบกันชีวิต ผมคิดว่าวินาทีต่อไปตัวเองต้องโดนผีดิบกัดตายแน่……