ตอนที่ 36 ตื่นขึ้นเถิดพี่น้องทั้งหลาย (ตอน 2)
“พักผ่อนกันพอรึยัง?” ซ่งเจิงหมุนตัวหันไปถามลิงผอมกับพี่ชายกุ้ยที่กำลังพักผ่อนอยู่
“พอแล้วล่ะ ! ได้กินข้าวผัดไข่ของนายไป ตอนนี้ร่างกายรู้สึกแข็งแรงขึ้นมาเลย !” ลิงผอมลูบปากตัวเองแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสดใส
“ข้าวผัดไข่นี้กลิ่นหอมมาก ! นี่เป็นข้าวผัดไข่ที่อร่อยที่สุดเท่าที่ฉันเคยกินมาเลย” พี่ชายกุ้ยพูดพลางเลียจานข้าวไปพลาง
“รอมีวัตถุดิบก่อนเถอะ ฉันจะทำอาหารด้วยตัวเอง แล้วจะให้พวกนายลองทาน ‘ข้าวผัดทองคำ’ อันมีชื่อเสียงของฉัน” ซ่งเจิงลูบกระทะเหล็กที่อยู่ด้านหลังของเขา
ทั้งสี่คนก็ได้ออกเดินทางอีกครั้ง ครั้งนี้ซ่งเจิงแนะนำให้ทั้งสี่คนแยกกันเดิน ลิงผอมและพี่ชายกุ้ยพยักหน้าโดยที่ไม่ได้คิดอะไรมากมาย ซ่งเจิงกับฉู่อี้มองหน้ากัน แล้วฉู่อี้ก็พยักหน้าให้
ทั้งสี่คนต่างแยกออกไปคนละทิศทาง ฉู่อี้เป็นคนที่พลังแข็งแกร่งที่สุด เขาจัดการซอมบี้ระดับต่ำที่อยู่รอบๆก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นก็รีบเข้าไปอยู่ข้างๆซ่งเจิง
“นายจะทำให้สุนัขกลายพันธุ์สองตัวนั้นจัดการสองคนนั้นยังไง ?” หลังจากที่ซ่งเจิงถามออกไป เขาก็ยกกระทะเหล็กขึ้นมาฟาดเข้าไปที่หัวของซอมบี้ระดับต่ำ
“จำตอนที่พวกเรากินข้าวเสร็จได้ไหม ฉันได้นำจานพวกนั้นไปให้สุนัขกลายพันธุ์แล้ว บนจากนั้นมีน้ำลายของพวกเขาอยู่ สุนัขกลายพันธุ์พวกนั้นจมูกดีมาก พวกมันจะต้องแยกย้ายกันไปหาสองคนนั้นอย่างแน่นอน”
“รีบกำจัดพวกมันให้หมดก่อนเถอะ ฉันกลัวว่าพวกเขาจะเกิดอันตราย !” ซ่งเจิงพูดกับฉู่อี้ที่อยู่ข้างๆ
“ข้าวผัดไข่หนึ่งส่วน !” ฉู่อี้ยื่นมือออกมา หลังจากนั้นทั้งร่างของเขาก็มีไฟลุกขึ้นท่วมตัว แล้วพุ่งไปกำจัดซอมบี้ที่พุ่งเข้ามาข้างหน้า ร่างกายของซอมบี้ที่อยู่รอบๆตัวของเขาได้รับการติดไฟไปด้วย ทำให้ร่างกายของมันถูกเผาไหม้ไปอย่างรวดเร็ว
“ว้าว !” ซ่งเจิงร้องออกมาอย่างตะลึงในความสามารถของฉู่อี้ทันที แต่หลังจากที่เห็นศพของซอมบี้ที่ไหม้จนเกรียมนอนอยู่บนพื้น เขาก็เอ่ยปากด่าขึ้นมาทันที “นายรู้ไหมว่านี่มันเปลืองขนาดไหน !”
ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังจัดการกับซอมบี้อยู่นั้น ลิงผอมและพี่ชายกุ้ยก็กำลังเผชิญหน้าอยู่กับสุนัขกลายพันธุ์
ลิงผอมเปลี่ยนมีดสปาต้าที่อยู่ในมือให้กลายเป็นมีดกริช วิธีนี้เป็นวิธีที่ฉู่อี้แนะนำ แม้ว่ามีดสปาต้าจะมีขนาดใหญ่ แต่ว่าเมื่อเทียบกับร่างกายอันอ่อนแอของเขาแล้ว มันไม่ค่อยจะเหมาะสมเท่าไหร่
หลังจากเปลี่ยนเป็นมีดกริช ลิงผอมรู้สึกว่าผลลัพธ์ในการฆ่าซอมบี้ของเขานั้นเพิ่มขึ้น แม้ว่ามีดกริชนั้นจะไม่ได้แข็งแรงเท่ามีดสปาต้า แต่ความคมของมันนั้นค่อนข้างสูงเลยทีเดียว เขาปามีดกริชที่อยู่ในมือขวาออกไป หัวของซอมบี้ที่อยู่รอบๆของเขาก็ถูกตัดหัวขาดไปในทันที ลิงผอมย่อตัวลงเพื่อหลบการโจมตีของซอมบี้ที่แอบเข้ามาทางด้านหลัง เขาหมุนตัวไปทางซ้าย แล้วจัดการกับซอมบี้ตัวที่อยู่ด้านซ้ายจนเลือดของมันกระเด็นไปทั่ว
ราวกับว่าตอนนี้เขาได้กลายเป็นเทพแห่งความตายไปเสียแล้ว เขาผ่านฝูงซอมบี้ออกมาได้อย่างรวดเร็ว ที่ที่เขาเดินผ่านนั้นเต็มไปด้วยเลือดนองที่พื้น รวมถึงจำนวนหัวของซอมบี้ที่ตกลงพื้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนอาวุธของพี่ชายกุ้ยนั้นคือมีดสปาต้า เขาถือมันในมือทั้งสองข้าง พื้นที่รอบๆตัวของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยหัวของซอมบี้ที่ถูกฆ่าจำนวนมาก หลายวันมานี้เขาได้ต่อสู้อย่างหนัก ทำให้เขาได้ฝึกทักษะการใช้มีดสปาต้าเพิ่มขึ้นมามาก และการเคลื่อนไหวของเขาก็ดูพริ้วไหวมากขึ้น
ทุกครั้งที่เขาฟันลงไปที่ซอมบี้ หัวของซอมบี้จะแยกออกจากร่างแล้วร่วงลงพื้นในทันที การควบคุมมีดและพลังของมันนั้นมาถึงจุดที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าความเร็วของเขาจะช้า แต่ก็เสถียรอย่างมาก และไม่ต้องใช้การเคลื่อนไหวมากเลย เพียงแค่รอให้เหล่าซอมบี้พุ่งเข้ามาเท่านั้น เมื่อเกิดช่องโหว่ให้โจมตี มีดสปาต้านั้นก็จะปลิดชีวิตมันทันที
เมื่อซ่งเจิงและฉู่อี้จัดการเหล่าซอมบี้ที่อยู่รอบๆเสร็จแล้ว ซ่งเจิงก็รีบไปยังตำแหน่งของลิงผอมทันที ส่วนฉู่อี้นั้นก็ไปยังตำแหน่งที่พี่ชายกุ้ยอยู่
ซ่งเจิงหลบอยู่ที่หลังก้อนหินด้วยความตื่นเต้น เขามองไปยังลิงผอมที่เหมือนกับเทพแห่งความตาย กำลังต่อสู้อยู่ในกลุ่มของซอมบี้อย่างไม่หยุดหย่อน ไม่ว่าเขาจะเดินไปที่ไหน จะมีหัวของซอมบี้ร่วงลงกับพื้นที่นั่น ซ่งเจิงกำหมัดแน่น เขาไม่เคยคิดเลยว่า พี่น้องของเขาจะกระหายเลือดขนาดนี้ พวกเขาโตขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งแล้ว ส่วนเขานั้น หากไม่มีพลังของหนวดพลังจิตล่ะก็ ฝีมือของเขาคงไม่สามารถเทียบกับลิงผอมได้
ความเร็วของลิงผอมค่อยๆลดลง ซอมบี้ที่อยู่รอบๆ ก็เหลือไม่เยอะแล้ว หลังจากที่เขาจัดการกับซอมบี้เสร็จ ลิงผอมก็นั่งลงพักผ่อนโดยพิงหลังกับก้อนหินแล้วถอนหายใจออกมา หลังจากนั้นเขาก็หยิบข้าวผัดไข่จำนวนหนึ่งออกมา แล้วกินมัน
ซ่งเจิงที่แอบอยู่ด้านหลังแทบจะอดไม่ไหวเกือบจะพูดเตือนลิงผอมออกไป เพราะว่าตอนที่ลิงผอมกำลังกินข้าวผัดไข่อยู่นั้น สุนัขกลายพันธุ์ตัวหนึ่งก็ค่อยๆเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ อีกนิดเดียวก็จะมาถึงด้านหลังของลิงผอมแล้ว
ในตอนที่ซ่งเจิงพยายามยับยั้งชั่งใจไม่เดินออกไปโจมตีสุนัขกลายพันธุ์ตัวนั้น ลิงผอมก็รับรู้ได้ถึงอันตรายจากด้านหลัง เขารีบกลิ้งไปยังด้านข้างทันที ข้าวผัดไข่ที่อยู่ในมือนั้นได้หกลงเต็มพื้น
ลิงผอมลุกขึ้นมาแล้วมองสิ่งนั้น ก็เห็นสุนัขกลายพันธุ์ระดับหนึ่งตัวหนึ่ง ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
แต่ว่าความเร็วของสุนัขกลายพันธุ์ มันสามารถกระโดดเข้าไปหาลิงผอมที่หนีไปได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เกือบโดนมันจับได้
“ให้ตายเถอะ !” ลิงผอมสบถคำด่าออกมา พลางลูบตัวเพื่อหยิบมีดกริชขึ้นมาสองอัน เขาค่อยๆก้าวถอยหลัง ทั้งใบหน้าและหัวของเขาเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ
ซ่งเจิงมองไปยังลิงผอมด้วยความตื่นตระหนก เขาหยิบกระทะเหล็กที่อยู่ด้านหลังขึ้นมาอยู่ในมือ ถ้าหากว่าลิงผอมต้องอยู่ในอันตรายจนถึงชีวิตล่ะก็ เขาจะพุ่งตัวออกไปช่วยทันทีอย่างแน่นอน
“แม่ง ! ไม่ยอมหยุดใช่ไหม !” ลิงผอมหมุนตัวอีกครั้ง เพื่อหลบหนีคมเขี้ยวขนาดใหญ่ภายในปากที่เต็มไปด้วยเลือดของสุนัขกลายพันธุ์ที่พุ่งเข้ามา หลังจากนั้นก็สบถด่าออกมาอีกครั้ง
ลิงผอมรู้ดีว่า ในตอนนี้เขาจะต้องพึ่งพาตัวเอง แววตาของเขาค่อยๆเย็นชาขึ้น สายตาจับจ้องไปยังร่างกายขนาดใหญ่ของสุนัขกลายพันธุ์อย่างไม่วางตา
เขาจำได้ว่าฉู่อี้เคยพูดไว้ตอนที่เขาจัดการสุนัขกลายพันธุ์ระดับสองตัวนั้นว่า ร่างกายของสุนัขกลายพันธุ์นั้นค่อนข้างอ่อนแอ เพียงแค่สามารถโจมตีเข้าไปยังลำตัวของมันได้ เขาก็จะชนะอย่างแน่นอน !
เมื่อซ่งเจิงเห็นแววตาอันมุ่งมั่นของลิงผอมแล้ว เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก และชื่นชมในความกล้าหาญของลิงผอมด้วยเช่นเดียวกัน
ร่างกายของลิงผอมนั้นถือว่าผอมที่สุดในบรรดาคนทั้งสี่ ทุกครั้งที่ร่วมกันต่อสู้ เขามักจะคอยสนับสนุนอยู่ข้างหลังเสมอ แต่วันนี้เขาอาจจะทำให้ซ่งเจิงมองเขาใหม่ให้ได้
{เราเป็นห่วงเพียงแค่ว่าพวกเขาจะเกิดอันตราย แต่ในช่วงเวลาสั้นๆที่พวกเขาถูกทอดทิ้งจะทำให้พวกเขาโตขึ้น!} ในใจของซ่งเจิงเกิดความรู้สึกละอายใจขึ้นมานิดหน่อย ถ้าหากว่าไม่ได้เป็นเพราะเขา ลิงผอมและพี่ชายกุ้ยก็คงพัฒนาขึ้นเร็วกว่านี้ และพลังของพวกเขาอาจจะตื่นขึ้นมาเร็วกว่านี้อย่างแน่นอน
ลมหายใจของลิงผอมเบาลงเรื่อยๆ การเคลื่อนไหวร่างกายของเขาก็ค่อยๆช้าลงเช่นกัน ราวกับว่ามีดกริชที่อยู่ในมือรวมเข้ากับร่างกายของเขา จนราวกับว่าเขากลายเป็นงูตัวหนึ่งที่เคลื่อนไหวอย่างเงียบสงบ เพื่อรอการโจมตีที่รุนแรง
สุนัขกลายพันธุ์วิ่งเข้ามาอีกครั้ง คราวนี้ลิงผอมมีการเคลื่อนไหวแล้ว ก่อนหน้านี้ที่กำลังจะโดนโจมตี เขาย่อตัวลงครึ่งหนึ่ง เท้าทั้งสองข้างเหยียบพื้นอย่างมั่นคง หมุนร่างกายหนึ่งรอบ ในขณะที่เขาเลี่ยงการโจมตีของสุนัขกลายพันธุ์นั้น เขาก็เคลื่อนตัวเข้าไปอยู่ใต้ร่างของสุนัขกลายพันธุ์ หลังจากนั้นก็แทงมีดกริชเข้าไปยังท้องของสุนัขกลายพันธุ์ อย่างโหดเหี้ยม
“โฮก !” สุนัขกลายพันธุ์กรีดร้องออกมา แล้วร่างของมันก็ค่อยๆล้มลงไปกับพื้น มันนอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น ลิงผอมมองไปที่ร่างของมันด้วยความชอบใจ พลางถือมีดกริชวิ่งเข้าไปดูศพของสุนัขกลายพันธุ์
“ปัง !” เกิดเสียงบางอย่างดังขึ้นมา สุนัขกลายพันธุ์ตัวนั้นค่อยๆลุกขึ้น มันใช้อุ้งเท้าตะปบเข้าที่ลิงผอมจนร่างของเขาลอยกระเด็นออกไป ที่ท้องของมันนั้น มีรอยแผลลากยาวตั้งแต่หน้าอกมาจนถึงต้นขาสองแผล แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีอาการบาดเจ็บเลยสักนิด
“ลิงผอม !” ซ่งเจิงพุ่งตัวออกมาจากหินเพื่อมาหาลิงผอมที่ถูกตะปบจนลอยขึ้นฟ้าทันที แต่ว่าความเร็วของสุนัขกลายพันธุ์นั้นเร็วกว่ามาก มันเข้าไปใช้อุ้งเท้าวางบนร่างของลิงผอมที่ตกลงมาอยู่ที่พื้น มันอ้าปากที่เต็มไปด้วยเลือดของมัน แล้วกัดไปยังร่างของลิงผอมที่นอนอยู่ที่พื้น
“ทำไมฉันถึงยังมีชีวิตอยู่กันนะ? ทำไมคนที่ฆ่าพ่อแม่ของตัวเองตายถึงยังมีชีวิตอยู่มาถึงตอนนี้กันนะ ?” คำพูดที่ลิงผอมพูดขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธแค้น
“นั่นก็เพราะว่าฉันอยู่เพื่อกำจัดสัตว์น่ารังเกียจอย่างพวกแกยังไงล่ะ !” ทันใดนั้นร่างของลิงผอมที่นอนอยู่กับพื้น ก็มาปรากฏตัวลอยอยู่บนหัวของสุนัขกลายพันธุ์ หลังจากนั้นเขาก็ใช้มีดกริชคู่หนึ่งที่เป็นทรงโค้งอย่างสวยงาม แทงเข้าไปยังหัวของสุนัขกลายพันธุ์ตัวนั้นอย่างไม่ออมมือ