ตอนที่ 48 สู้กับผีร้าย
คิดไม่ถึงจริงๆขนาดเจ้านี้กำลังบาดเจ็บอยู่ ก็ยังร้ายกาจได้ถึงขนาดนี้
ผมตกตะลึงในใจ แต่ไม่ว่าจะร้ายกาจขนาดไหน วันนี้ก็ต้องกำจัดเจ้านี้ให้ได้
ส่วนทางด้านอาจารย์และนักพรตตู๋ พวกเขายังไม่สามารถกำจัดพวกมันได้เช่นกัน
สำหรับการต่อสู้ของผีสามตนกับตาแก่สามคน บางครั้งพวกเขาก็ดูดุเดือนจนผิดปกติ บาทีผมก็แยกแยะไม่ออกว่าฝั่งไหนจะเป็นฝ่ายชนะกันแน่
ผีผูกคอตายสามตนต่อสู้กับตาแก่สามคนอย่างไม่กลัวตาย พวกมันคำราม “โฮกโฮก” ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงให้เห็นความดุร้ายและความแข็งแกร่ง
ทันใดนั้นเอง จู่ๆผีชั่วตนนั้นก็คำรามออกมาหนึ่งครั้ง และอ้าปากที่เต็มไปด้วยเลือดขึ้น จากนั้นก็พุ่งเข้ามาหาผมทันที
ในปากของมันยังคำราม “กากา” เพื่อข่มขวัญศัตรู
แต่ตอนนี้ผมกำลังหัวร้อน จึงไม่หวาดกลัวมันเลยสักนิด
ผมจับดาบเหรียญในมือให้แน่น จากนั้นก็พุ่งไปฟันมันอย่างแรง
แต่ใครจะไปรู้ว่าร่างกายของผีชั่วนั้นก็เปลี่ยนไป จู่ๆร่างของมัน ก็หายวับไปกับตา
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผมก็แสดงสีหน้าตกใจออกมา
ผมหันไปมองรอบๆ เพื่อหาว่าผีชั่วหายไปไหน
แต่ไม่รอให้ผมเห็นการเคลื่อนไหวของผีชั่ว จู่ๆทางด้านซ้ายของผมก็มีเสียงคำรามของผีชั่ว “ไปตายซะไอ้เด็กน้อย!”
หลังจากพูดจบ กรงเล็บของผีชั่วก็พุ่งเข้ามาหาลำคอของผม
ตอนนี้กรงเล็บของมันได้แหลมคมยิ่งกว่าเดิม ราวกับดาบดีๆเล่มหนึ่ง
ถ้าผมถูกกรงเล็บของเจ้านี้เข้า ถึงจะไม่ตาย หลอดเลือดของผมก็ต้องฉีกขาดแน่
ใจผมตื่นกลัว จึงรีบหลบทันที
แต่ตอนนี้มันไม่มีทางหลบได้แล้ว เพราะระยะใกล้เกินไป จึงทำได้เพียงมองกรงเล็บที่แหลมคมพุ่งเข้ามาที่คอของผม
เพียงเสี้ยววินาที ใจผมก็รู้สึกหดเกร็ง ความรู้สึกหวาดกลัวเหมือนความตายกำลังจะมาถึงก็เกิดขึ้น
แต่ ในช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้ เฟิงเฉ่วหานที่อยู่ข้างๆกลับระเบิดเสียงออกมา “ไสหัวไป!”
ขณะที่พูด กระจกสีเงินก็ลอยเข้ามา “ปัก” มันกระแทกโดนหน้าผีชั่วเต็มๆ
ทันใดนั้นเสียง “โอ๊ย...” ก็ดังขึ้น ควันดำโพยพุ่งออกมาทันที วินาทีนั้นผีชั่วกรีดร้องโหยหวน เห็นได้ชัดว่ามันกำลังเจ็บปวดจากพลังหยางของกระจกแปดทิศ
แต่นี่ยังไม่จบ เฟิงเฉ่วหานรีบคว้าโอกาส เขากระโดดขึ้น ตรงเข้าไปถีบทันที
“ปัก” เท้าของเขาโดนเข้ากับไหล่ของผีร้ายอย่างจัง
ผีชั่วตนนั้นถูกเฟิงเฉ่วหานถีบไปหนึ่งครั้ง ร่างกายจึงเซไปข้างๆ เมื่อร่างกายสูญเสียจุดศูนย์ถ่วง กรงเล็บนั้นจึงเฉียดใบหน้าของผมไป
อีกนิดเดียวมันก็เกือบจะทำร้ายผมได้แล้ว ผมจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดผวา
ถึงจะยังหวาดกลัว แต่ก็ไม่ได้ยืนอยู่นิ่งๆ ผมไม่ปล่อยให้ชีวิตและความตายอยู่บนเส้นด้าย
รีบจับดาบในมือแน่น จากนั้นก็แทงเข้าไปที่หลังของผีชั่ว
เพราะตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่พอเหมาะพอเจาะ ดังนั้นผมจึงไม่ลังเลที่จะรีบขยับตัวทันที
เมื่อรวมกับการโจมตีสายฟ้าแลบ หรือเรียกได้ว่าการลงมือขั้นสุดยอด ผมจึงมั่นใจว่ามันอาจสำเร็จได้ถึง 90 %
ถ้าผีชั่วตนนี้ถูกดาบเหรียญในมือของผมแทงทะลุเสื้อกล้าม ถึงมันจะไม่ตายก็บาดเจ็บสาหัสอยู่ดี
เมื่อเห็นว่าดาบเหรียญเริ่มเข้าใกล้เสื้อกล้ามของผีชั่วมากขึ้นเรื่อยๆ ผมก็ยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่
แม้แต่ เห็นภาพที่เจ้านี้โดนผมแทงตายคามือ
แต่สิ่งที่ใครก็คิดไม่ถึงคือ วินาทีที่ผมกำลังจะได้แทงผีชั่วตนนี้
ผีร้ายหนึ่งตนที่กำลังสู้กับนักพรตตู๋และคนอื่นๆ กลับหายตัวไปและปรากฎตัวขึ้นที่ระหว่างกลางของผมและผีชั่ว
ผลลัพธ์เมื่อดาบแทงเข้าไป กลับไม่โดนตัวผีชั่ว แต่เป็นผีร้ายตนนั้นที่เข้ามาขวาง
ผีร้ายตนนั้นจะสามารถรับพลังหยางจากดาบเหรียญได้ยังไง วินาทีนั้นมันกรีดร้องโหยหวนออกมาทันที ควันดำโพยพุ่งเยอะมาก และสีหน้าเปลี่ยนเป็นเจ็บปวดทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ขณะที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ผีชั่วตนนั้นก็ได้โอกาสพักหายใจ
เมื่อร่างกายกลับมาสงบอีกครั้ง มันดึงกระจกแปดทิศที่หน้าออก และไม่ปลายตามองผมเลยสักนิด มันหันมามองผีผูกคอที่ถูกแทง แล้วเงยหน้าขึ้นมองจ้องผมอย่างเอาเป็นเอาตาย “สมควรตาย อีกนิดเดียวก็เกือบทำให้แกได้สมใจแล้วซินะ!”
หลังจากพูด มันก็คิดจะเข้ามาโจมตีผมอีกครั้ง
การต่อสู้กับผีชั่วประเภทนี้ ห้ามลังเลแม้แต่วินาทีเดียว ไม่อย่างนั้นชีวิตของคุณอาจจบลงอย่างง่ายดาย
ผมจับดาบเหรียญแน่น รีบดึงออกจากร่างผีร้ายทันที
ส่วนผีร้ายที่ถูกแทง ก็กรีดร้องออกมาอีกครั้ง “บึก” ร่างของมันล้มลงไปกับพื้น จากนั้นก็เริ่มสั่นเทา เห็นได้ชัดว่ามันกำลังจะตาย
ผมไม่สนใจ ยกดาบเหรียญขึ้นและเข้าไปแทงผีชั่วอีกครั้ง
แต่จู่ๆระหว่างนั้น นักพรตตู๋ก็พุ่งเข้ามา “ไอ้ปีศาจ คืนนี้จะเป็นวันตายของแก!”
ขณะที่พูด เขาก็พุ่งเข้าไปหาผีชั่ว
ในเวลาเดียวกัน เฟิงเฉ่วหานก็พุ่งเข้าไปเช่นกัน
แน่นอนว่าผมเองก็ไม่อยากถูกทิ้งท้าย จึงพุ่งตัวเข้าไปเช่นกัน
จากนั้นฉากการต่อสู้สามรุมหนึ่งก็เกิดขึ้น แถมหนึ่งในนั้นยังเป็นนักพรตตู๋ที่มีพลังสูงที่สุดในหมู่ของพวกเราด้วย
เมื่อนักพรตตู๋ออกโรง สถานการณ์ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ทุกๆครั้งที่เขาฟันออกไป มักเพิ่มคาถาลงไป และมันยังดูทรงพลังมากอีกด้วย
เจ้าผีชั่วตนนี้กำลังบาดเจ็บอยู่ ดังนั้นการต่อสู้กับผมและเฟิงเฉ่วหานจึงทำให้มันยังพอรับมือได้
แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับนักพรตตู๋ ผม และเฟิงเฉ่วหานที่คอยช่วยกันต่อสู้แล้ว ย่อมเป็นธรรมดาที่มันจะไม่สามารถต้านทานได้
นี่เป็นเพียงการต่อสู้แบบตัวต่อตัว มันก็ถูกโจมตีจนต้องถอยร่นไปทางด้านหลังอย่างต่อเนื่อง
ผ่านไปไม่ถึง 30 กระบวนท่า เจ้านี้ก็ถูกพวกเราบีบให้จนมุม
เมื่อเห็นว่าตนเองไม่สามารถถอยไปไหนได้อีก และกำลังถูกนักพรตตู๋ยกดาบขึ้นฟัน วินาทีชีวิตนั้น
จู่ๆแมวดำที่เคยอยู่ในฉาก ก็เข้ามาร้อง “เมี๊ยว” ที่ทางด้านหลัง จากนั้นมันก็กระโดดขึ้นมาบนหัวของนักพรตตู๋
มันกางกรงเล็บออก ข่วนและกัดหัวของนักพรตตู๋ทันที
นอกจากนี้ปากของมันยังร้องออกมาอย่างต่อเนื่อง ระเบิดพลังเสียงแห่งความโกรธ “เมี๊ยวเมี๊ยวเมี๊ยว”
ผมและเฟิงเฉ่วหานที่ยืนอยู่ข้างซ้ายและขวา เมื่อจู่ๆก็เห็นแมวดำปรากฎตัว พวกเราก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
จู่ๆก็ภาพแมวข่วนก็ปรากฎขึ้น ถึงมันจะไม่อันตรายถึงชีวิต
แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง นักพรตตู๋ก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ดาบสังหารอยู่ดี
นักพรตตู๋ใช้มือตีตามสัญชาตญาณ เขาคิดจะไล่แมวดำออกไป
“ไอ้สัตว์เดรัจฉานสมควรตาย ออกไป ไสหัวออกไป……”
สุดท้ายการทำแบบนี้ของเขา กลับทำให้ร่างกายแกว่งไปมา ดาบที่ยกขึ้นมาก็สั่นเช่นกัน
ผีชั่วตนนั้นรู้ทันที ขณะที่นักพรตตู๋กำลังวุ่นวาย มันก็ใช้โอกาสนี้พุ่งไปด้านหน้าอย่างแรง
มันเข้ามาระหว่างช่องว่างของดาบ จากนั้นก็พุ่งออกไป
แต่วินาทีที่เข้าใกล้นักพรตตู๋ มันยังพลิกมือกลับมาและทำร้ายนักพรตตู๋อีกครั้ง
“แควก” เสียงชุดฉีกขาดดังขึ้น บาดแผลและคราบเลือดสามรอยปรากฎขึ้นที่เอวของนักพรตตู๋ทันที
นักพรตตู๋เจ็บปวด เขารีบถอยไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว ไม่อย่างนั้นเขาอาจถูกข่วนอย่างแรงอีกครั้ง
แต่ผีชั่วตนนั้นไม่ตั้งใจจะฆ่านักพรตตู๋ ขณะที่นักพรตตู๋ถอยหลัง มันก็รีบหมุนตัว และพุ่งออกไปจากตัววัดทันที
ประตูใหญ่ที่เคยปิดไว้ “ปัง” กลับถูกเปิดออกอีกครั้ง
ไอ้ผีชั่วตนนั้นไม่ลังเลเลยสักนิด มันรีบพุ่งออกไปจากที่นี่ทันที
ส่วนแมวดำที่ข่วนนักพรตตู๋ วินาทีนั้นมันก็กระโดดไปที่ด้านข้างของนักพรตตู๋ สี่ขาของมันกระแทกกับพื้นอย่างแรง จากนั้นก็รีบวิ่งไปที่ประตู และสุดท้ายก็กลายเป็นเงา ตามเจ้าผีชั่วนั้นไปข้างนอกทันที
ยังไม่จบเพียงเท่านี้ หลังจากที่ผีชั่วและแมวดำจากไป ผีร้ายที่สู้กับอาจารย์และเหล่าฉินอย่างดุเดือด ก็หันไปรอบๆ และวิ่งหนีไปเช่นกัน
ผีตนหนึ่งออกไปทางหน้าต่าง เนื่องจากเหล่าฉินไม่สามารถหยุดมันไว้ได้
แต่ขณะที่ผีอีกตนกำลังหมุนตัว กลับถูกอาจารย์ใช้เชือกดำรัดคอเอาไว้ และใช้ดาบแทงเข้าที่ร่างของมันทันที
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็วมาก หลังจากที่แมวดำกระโดดขึ้นมาบนหัวของนักพรตตู๋ ทำให้ช่วงเวลาที่ผีชั่วกำลังลำบากอีกครั้ง สุดท้ายก็สามารถทำลายวงล้อม และหนีออกไปจากวัดได้ เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพียงวินาทีกว่าๆเท่านั้น หรือเรียกได้ว่าเป็นเรื่องเพียงชั่วพริบตานั่นเอง
นี่จึงทำให้ผมและเฟิงเฉ่วหาน ไม่สามารถไปปิดกั้นประตูไว้ได้ทัน จนทำให้อีกฝ่ายหนีไปได้
นักพรตตู๋ลูบหนังศีรษะ และบาดแผลที่เอวของตัวเอง จากนั้นก็ด่าออกมาอย่างรุนแรง“สมควรตาย จะให้มันหนีไปอีกไม่ได้!”
เสียงจบลง อาจารย์ที่มีดาบในมืออยู่แล้ว ไม่มองวิญญาณของผีร้ายที่กำลังแตกสลายเลยสักนิด “บ้าเอ้ย ตามมันไป!”
หลังจากพูดจบ อาจารย์ก็พุ่งตัวออกไปเป็นคนแรก
การปล่อยให้ศัตรูหนีไปได้ปัญหาที่ตามมาจะมีเข้ามาอย่างไม่สิ้นสุด ทุกคนรู้ดีถึงวงจรนี้ดี จึงไม่รอช้า
รีบจับอาวุธไว้ในมือให้แน่น และรีบตามออกไปทันที……