สามวันต่อมา
ข่าวการพ่ายแพ้ของ โอนิกูโม่ พลเรือตรีของศูนย์บัญชาการใหญ่ ที่นำกองเรือรบห้าลำไล่ล่าโจรสลัดมืออสูรรอส แต่กลับพลาดท่าพ่ายแพ้เสียเอง อีกทั้งยังสูญเสียเรือรบประจัญบานไปถึงสี่ลำ นับว่าเป็นข่าวใหญ่ที่แพร่กระจายไปทั่วทั้งท้องทะเล
ในวันนี้ เวสต์บลู ทั้งหมดกำลังเดือดพล่าน
“ นี่…ข่าวปลอมใช่ไหม?!”
“ ล้อเล่นกันรึไง แม้กระทั่งพลเรือตรีประจำศูนย์บัญชาการใหญ่ที่ถูกส่งมาถึงกับ...…”
ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนเมื่อเห็นข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ทำให้ใบหน้าของพวกเขาทั้งหมดแสดงความหวาดกลัวและมีการแสดงออกที่เหลือเชื่อ
ไม่มีใครคิดเลยว่าพลเรือตรีที่ถูกส่งมาจากศูนย์บัญชาการใหญ่มารีนย์ฟอร์ด จะไม่สามารถจัดการกับ มืออสูรรอส ได้ ไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นเพียงกลุ่มโจรสลัดของ เวสต์บลู ซึ่งไม่ใช่กลุ่มโจรสลัดที่ทรงพลังใน แกรนด์ไลน์!
เมื่อข่าวแพร่ออกไปไม่เพียงแต่ในเวสต์บลู แต่ยังรวมถึงกองกำลังโจรสลัดบางส่วนในแกรนด์ไลน์ก็ได้รับข่าวด้วยเช่นกัน
แกรนด์ไลน์ A อาณาเขตทางทะเล
บนเรือโจรสลัดขุมทรัพย์ทั้งแปด ชายชราอ้วนสวมเสื้อสีเขียวเคราสีเทาและหัวล้านเลี่ยนมองดูหนังสือพิมพ์ในมือของเขา
เขาเป็นผู้นำรุ่นที่สิบสองของกองทัพทะเลฮัปโป ผู้นำ ชินเจียว
“ความตายเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ไม่มีอะไรจะพูดเมื่อเขาตายในท้องทะเล แต่มันก็ยกโทษไม่ได้กับไอ้คนที่มันฆ่าว่าที่รุ่นต่อไปของกองทัพทะเลฮัปโป "
เขาขย๋ำหนังสือพิมพ์ในมือของเขาทิ้ง ดวงตาก็เผยแววแห่งความโกรธ “ รอฉันก่อนเถอะไอ้เด็กเวร ฉันจะไปลากคอแกไม่ช้าก็เร็ว!”
บนอาณาเขตทะเลอื่น
โจรสลัดที่มีค่าหัว 90 ล้านเบรี นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในมือของเขาแล้วพึมพำ“ พลเรือตรีของศูนย์บัญชาการใหญ่อย่างงั้นเหรอ เวสต์บลู ถึงกับมีโจรสลัด..…”
ในบาร์แห่งหนึ่ง โจรสลัดตาเดียวที่อ่านหนังสือพิมพ์ขณะดื่มก็เอ่ยขึ้นเบาๆ: "พลเรือตรีโอนิกูโม่ ของศูนย์บัญชาการใหญ่ ที่ก่อนหน้านี้เคยไล่ล่า โลโซ ไม่คิดเลยว่ามันจะตายในเวสต์บลู"
“ ดูเหมือนว่าไอ้หมอนั่นจะมาที่แกรนด์ไลน์ ไม่ช้าก็เร็ว”
"ใครจะรู้? แต่แกรนด์ไลน์ไม่ใช่เวสต์บลูมันไม่ใช่เรื่องดีที่จะมาแกรนด์ไลน์ แต่มันก็น่าสนใจมาดูกันสิว่ามันจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็น “ผู้ท้าชิง” ได้รึไม่”
การต่อสู้ระหว่างโจรสลัดส่วนใหญ่เพื่อแย่งชิงวันพีชสมบัติลับแห่งท้องทะเล และก้าวไปยังจุดสูงสุดของโจรสลัด “ราชาโจรสลัด”ซึ่งมีได้แค่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
………………………
สองวันก่อนที่เรือลำใหม่จะเสร็จสมบูรณ์
ในห้องโดยสารของเรือลำเก่า รอส ยืนอยู่ตรงกลางของถุงทรายที่แกว่งไปมาหกถุง ดวงตาของเขาก็ปิดสนิดและนิ้วทั้งห้าก็กำหมัดเอาไว้แน่น
ในการเผชิญหน้ากับ โอนิกูโม่ แม้ว่าเขาจะตระหนักและใช้ ฮาคิสังเกตุ ได้ แต่มันก็ยังไม่มั่นคง มันถือได้ว่าเป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น มันสามารถแสดงได้ก็ต่อเมื่อสภาวะคงที่และเข้าสู่สถานะพิเศษ
แม้ว่ามันจะถูกปลุกขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ฮาคิ ไม่สามารถควบคุมมันได้โดยไม่ฝึกฝน และฮาคิสังเกตุก็เป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้และมันเป็นสิ่งจำเป็นในการต่อสู้ เพราะฉะนั้นมันจะต้องฝึกฝนเป็นอย่างหนัก
แม้ว่าคุณจะสามารถปลุกมันได้ในระหว่างการต่อสู้ แต่คุณยังต้องทำความคุ้นเคย และหมั่นฝึกฝนให้เกิดความชำนาญพยายามขัดเกลาให้มันแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก
ตูม! ตูม! ตูม!
เมื่อเวลาผ่านไป รอส ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งเพียงจุดเดียวอีกต่อไป เขาเริ่มเคลื่อนไหวทีละเล็กทีละน้อย หมัดของเขากระแทกกับถุงทรายที่พุ่งเข้ามาอย่างแม่นยำ พร้อมกับหลบฉากหลบหลีกอยู่ตลอดเวลา
“ ในการต่อสู้กับ โอนิกูโม่ ฉันได้เปรียบในด้านความเร็ว แม้ว่า โอนิกูโม่ จะเชี่ยวชาญ ฮาคิสังเกตุ ก็ตามแต่ฉันสามารถใช้ความคล่องตัว ความเร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีส่วนใหญ่ได้”
รอส หลบหลีกถุงทรายพร้อมกับระลึกถึงการต่อสู้ในครั้งก่อน
ตอนนี้ความเร็วของเขาดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน
เนื่องจากแต้มความชำนาญ 40 แต้มที่ได้รับหลังจากสังหารโอนิกูโม่ เขานำไปเพิ่มให้กับความคล่องตัว ตอนนี้แต้มความชำนาญของความคล่องตัวได้มาถึง 100 แต้ม ดังนั้นความคล่องตัวของเขาจึงอยู่ในระดับสูง
ในแง่ของความเร็ว และความเร็วในการตอบสนองของเขาเกือบจะมากกว่าระดับก่อนหน้านี้ถึงสองเท่า ถ้าตอนนี้เขาได้ต่อสู้กับ โอนิกูโม่ อีกครั้ง แม้ว่าเขาจะไม่ใช้ ฮาคิสังเกตุ เขาก็สามารถต่อสู้กับมันได้จนถึงวินาทีสุดท้าย
เพราะ
การเพิ่มแต้มให้กับความคล่องตัว ไม่เพียงแต่เพิ่มความเร็วและความเร็วในการตอบสนองเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการรับรู้ที่ละเอียดอ่อนยิ่งขึ้น ซึ่งมันได้ช่วยลดความยากลำบากในการฝึกฝน ฮาคิสังเกตุ ของ รอส ได้เป็นอย่างมาก
ด้วยความรู้สึกและการรับรู้ที่แข็งแกร่งขึ้น รอส สามารถเข้าถึงการมีอยู่ของ ฮาคิสังเกตุ และพยายามควบคุมมันในระหว่างการฝึกฝน
สิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่การเข้าสู่สภาวะในขณะที่เขาไม่ได้สติหรือเจอวิกฤตในการต่อสู้ เขาต้องการใช้ฮาคิสังเกตุได้ดั่งใจตามที่เขาต้องการ
ตูม! ตูม!
มีถุงทรายสิบสองถุงแขวนอยู่ในห้อง ระหว่างเดินเขาก็จับมันแกว่งมันไปมา ขนาดและทิศทางการแกว่งของกระสอบทรายแต่ละชุดนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ด้วยการรับรู้ของ ฮาคิสังเกตุ รอส สามารถหลบหลีกถุงทรายทุกถุงที่แกว่งเข้ามาอย่างแม่นยำ และกำปั้นของเขากระแทกกับถุงทรายที่พุ่งมาอย่างแม่นยำทุกครั้งเช่นกัน
มันค่อนข้างยากที่จะควบคุมฮาคิแบบนี้ให้ได้ตามที่ใจต้องการ
รอส ยังคงหลบหลีกและกระแทกหมัดของเขาอย่างต่อเนื่อง อดทนต่อความเหนื่อยล้าทางจิตวิญญาณ จนกระทั่งเขาไม่สามารถมองเห็นถุงทรายที่พุ่งเข้ามาได้แล้ว เขาจึงหยุด
ฮาคิสังเกตุ ไม่ได้ใช้ความแข็งแกร่งของร่างกาย แต่มันใช้จิตวิญญาณมากมาย แม้แต่ รอส เองยังสามารถใช้ได้ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
แต่.
ในช่วงสามวันนี้มานี้ จากการสังเกตุของเขา ฮาคิสังเกตุ ในระบบมันมีทิศทางที่จะสามารถเข้าใจ ฮาคิ ได้อย่างเต็มที่ และส่วนที่เหลือคือการฝึกฝนอย่างจริงจังของตัวเขาเอง
เมื่อ รอส เดินออกจากห้องฝึกซ้อมก็กลับไปที่ห้องของเขาและวางแผนที่จะพักสักครู่ แต่ทันใดนั้น โรบิน ก็เดินมาหาเขา
เธอมากับหนังสือพิมพ์
“ กัปตันรอส ดูนี่สิ! คุณดังใหญ่แล้วในตอนนี้”
รอส หยิบหนังสือพิมพ์จากมือของเธอแล้วมองไปที่หัวข้อข่าวซึ่งมันเกี่ยวข้องกับตัวเขา มันมีข้อหาและค่าหัวล่าสุดของเขา
“ รัฐบาลโลกยังไร้สาระเหมือนเดิม”
เขาส่ายหน้าและหยิบโปสเตอร์แผ่นใหม่ที่สอดมากับหนังสือพิมพ์ เมื่อมองค่าหัวที่โปสเตอร์ รอส ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า:
“ 92 ล้านเบรี ในที่สุดก็ไม่ได้เป็นกัปตันที่มีค่าหัวน้อยกว่าลูกเรือล่ะนะ”
ค่าหัวของ โรบิน สูงถึง 79 ล้านเบรี ซึ่งสูงกว่าค่าหัวของ รอส ก่อนหน้านี้ แต่ว่าในตอนนี้ค่าหัวของเขามันกลับแซงหน้า โรบิน ไปแล้ว
โรบิน พูดเบา ๆ ด้วยรอยยิ้ม“เงินค่าหัวของกัปตัน คงจะสูงขึ้นอีกไม่ช้าก็เร็ว”
ด้วยเงินค่าหัว 92 ล้านเบรี นี้ยังก่อให้เกิดคลื่นแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงต่อ นักล่าค่าหัว ของเวสต์บลู
เมื่อรวมกันกับ เทพวิบัติ นิโค โรบิน และมืออสูรรอส มันก็มากถึง 171 ล้านเบรี เงินรางวัลอันยิ่งใหญ่นี้ได้ยั่วน้ำลายนักล่าโจรสลัดที่น่ากลัวจำนวนนับไม่ถ้วน!
แต่.
แม้ว่าดวงตาจะเต็มไปด้วยความโลภ แต่ก็ไม่มีใครกล้าพอที่จะกระตุ้น มืออสูรรอส
แม่แต่ พลเรือตรีของศูนย์บัญชาการใหญ่ที่นำเรือรบประจัญบานถึงห้าลำกระทำการไล่ล่า ยังถูก มืออสูรรอส ทำลาย ภาพลักษณ์ของ รอส ในตอนนี้มันเต็มไปด้วยความสยองขวัญ ทำให้ผู้คนหายใจแทบไม่ออกราวกับภูเขาลูกใหญ่ที่กดทับลงมา