px

เรื่อง : War Sovereign Soaring The Heavens
บทที่ 218 : ข่มขู่องค์ราชา!


บทที่ 218 : ข่มขู่องค์ราชา!

 

 

เมื่อเผชิญหน้ากับการเย้ยหยันของกู้โหย่วถิง ต้วนหลิงเทียนไม่ได้สนใจอะไร เขาขี้เกียจไปใส่ใจอะไรกับมันจึงเลือกเมินมันไปเสียเฉยๆ

ไม่นานหลังจากนั้น ภายใต้ความต้องการของต้วนหลิงเทียน องค์ราชาก็ให้คนไปนำวัตถุดิบตามรายการที่ต้วนหลิงเทียนบอกกล่าว แน่นอนว่าย่อมเป็นวัตถุดิบส่วนหนึ่ง สำหรับหลอมปรุงโอสถกวาดจิตพิสุทธิ์! ...หลังจากนั้นต้วนหลิงเทียนก็หยิบเตาหลอมโอสถและเริ่มทำการหลอมปรุงโอสถด้วยความเชี่ยวชาญ ช่ำชองต่อหน้าต่อตา จนทุกคนในโถงพระโรงนอกจากนี่เหวี่ยกับนี่เฝินต้องเบิกตากว้าง!

ทว่าต้วนหลิงเทียนไม่ได้จดส่วนสำคัญลงไป เพื่อป้องกันไม่ให้คนจัดเตรียมวัตถุดิบขององค์ราชาคัดลอกสูตร เขาย่อมระวังเช่นนี้เพื่อรักษาสูตรโอสถเอาไว้ไม่ให้แพร่งพรายออกไป ...และแน่นอนยามนี้เขาเองก็ไม่คิดจะปรุงโอสถกวาดจิตพิสุทธิ์ระดับ 9 ที่สมบูรณ์แบบเพื่อรักษาอาการขององค์ราชาในทันที

ตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว จักรพรรดิหรือราชา รวมถึงพวกมีอำนาจสูงสุดทั้งหลายมักจะ  ‘ไร้น้ำใจ และ ไม่เชื่อถือผู้ใด!’

คำพูดนี้ก็ไม่ได้ไม่จริงสักทีเดียว

หากเขาหลอมกลั่นโอสถกวาดจิตพิสุทธิ์ระดับ 9 แบบสมบูรณ์และส่งมอบให้แก่องค์ราชา  นั่นย่อมสามารถขจัดและถอดถอนพิษที่อยู่ในร่างองค์ราชาได้อย่างง่ายดาย!  แต่ด้วยวิธีนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตัวองค์ราชาจะได้กลับมาถือข้อได้เปรียบระหว่างพวกเขาอีกครั้ง!

และเมื่อเป็นเช่นนั้น ถึงแม้องค์ราชาจะอนุญาตให้เขาก่อตั้งกองกำลังองครักษ์เสื้อแพร  แต่สุดท้ายมิแคล้วคงต้องถูกองค์ราชาจับตาดูอย่างใกล้ชิด  ไม่ได้เป็นอิสระอะไรดั่งที่เขาหวัง

ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะรักษาข้อได้เปรียบระหว่างตัวเขาและองค์ราชาเอาไว้!  ทำให้องค์ราชาจำเป็นต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากเขา!  ด้วยวิธีนี้เขาจะได้เป็นผู้บัญชาการกองกำลังองครักษ์เสื้อแพรได้อย่างเต็มที่ และมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการกระทำทุกอย่าง

และถึงตอนนั้น องค์ราชายังจะเป็นผู้หนุนหลังเขาอีกด้วย!

ถึงแม้ว่าโอสถกวาดจิตพิสุทธิ์ระดับ 9 ที่ไม่สมบูรณ์จะไม่อาจถอนพิษได้จนหมด แต่ก็ยังสามารถขจัดพิษได้บางส่วนเป็นระยะเวลาหนึ่ง ...แน่นอนสำหรับคนที่สิ้นหวังแล้วมันมีค่ามหาศาล!!

"นี่มันโอสถเลิศล้ำอันใดกันแน่  เพียงกินลงไปครู่เดียวข้ากลับสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ายามนี้พิษร้ายที่ยากจัดการในอวัยวะภายในของข้าถูกขจัดได้อย่างรวดเร็ว! สวรรค์!" หลังจากที่องค์ราชากลืนโอสถกวาดจิตพิสุทธิ์ระดับ 9 ที่ไม่สมบูรณ์ลงไป ประกายตาของเขาเรืองวูบออกมา ใบหน้าฉายชัดถึงความตกตะลึงและประหลาดใจอย่างมาก ทั้ง ใบหน้าตื่นเต้นดีใจนี้ ทำให้เขาราวกับย้อนวัยมานับ 10 ปี

"ฝ่าบาท ท่านจำเป็นต้องกินโอสถถอนพิษนี้อย่างต่อเนื่องอีกสักระยะหนึ่ง เพื่อขจัดพิษร้ายในร่างจนหมดสิ้น ...หากท่านหยุดใช้โอสถนี้ หรือเว้นช่วงห่างมากเกินไปเป็นระยะหนึ่งแล้วล่ะก็  มันอาจจะทำให้พิษร้ายในร่างของท่านกำเริบออกมาอีกครั้ง และแม้กระทั่งมันอาจจะเกิดความต้านทานฤทธิ์โอสถได้ขึ้นมา จนกลายเป็นพิษที่ร้ายแรงขึ้นและหากเป็นเช่นนั้น คงกลับกลายเป็นหายนะแล้ว   ...เพราะเหตุนี้ ข้าจะมาหลอมปรุงโอสถถอนพิษนี้ เพื่อมอบให้ท่านตามระยะเวลาที่กำหนด” ต้วนหลิงเทียน ยิ้มบางๆให้แก่องค์ราชา ประกายตาของเขาวูบวาบราวกับมีเปลวเพลิงลุกโชนอยู่ แต่คงมีเพียงตัวเขาเองเท่านั้นที่รู้ว่ายามนี้เขาคิดอ่านอะไร

"ต้วนหลิงเทียน เช่นนี้...แล้วเหตุใดเจ้าถึงไม่ปรุงโอสถให้ข้าทั้งหมดเลยเล่า เรื่องราวมันจักได้ง่ายดายขึ้น?" องค์ราชาจับจ้องมายังต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาร้อนแรง

ในฐานะที่เป็นถึงองค์ราชาแห่งอาณาจักรนภาล่อง  เขาย่อมล่วงรู้และเห็นชัดถึงความคิดและความต้องการของต้วนหลิงเทียนได้เป็นอย่างดี  ...ไม่เคยมีใครคิดจะข่มขู่เขาเช่นนี้มาก่อน! ซ้ำยังเป็นเด็กหนุ่มเท่านั้น สวรรค์!  แต่ยามนี้จะให้เขาทำกระไรได้ หากเขายังอยากมีชีวิตต่อไป ก็คงไม่มีทางเลือกอะไร ...

"อ่าฝ่าบาท...โอสถนี้พวกท่านอาจแลดูว่าข้าหลอมกลั่นได้ง่ายดาย... แต่อันที่จริงโอสถนี้ไม่ได้ปรุงได้ง่ายดายขนาดนั้น นับว่าตัวข้าต้องสิ้นเปลืองพลังวิญญาณและจิตสมาธิไปไม่น้อย ในระยะ 1 เดือนข้าสามารถหลอมปรุงโอสถนี่ได้เพียงแค่เม็ดเดียวเท่านั้น  อีกทั้งข้ายังไม่มีความมั่นใจว่าหากเร่งรีบหลอมปรุงติดต่อกันมันจะสำเร็จ  หากพลาดขึ้นมาไปทำให้พิษร้ายแข็งแกร่งขึ้น คงหนักหนาแล้ว" แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนย่อมมีวิธีกล่าวบ่ายเบี่ยง ซ้ำยังบ่ายเบี่ยงได้อย่างไม่มีใครคิดกล้าคัดค้าน!

สิ่งของใดๆก็ตามมันจะมีมูลค่าสูงขึ้น เมื่อมันมีจำนวนน้อยและหายาก  นี่เป็นสิ่งที่เขาเข้าใจได้ตามธรรมชาติ!

กู้โหย่วถิงมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาเย้ยหยันก่อนจะกล่าวออกมา  "ต้วนหลิงเทียน ในเมื่อมันเป็นเพราะเหตุนี้ เจ้าก็แค่จดสูตรโอสถถอนพิษนี้มา ... ภายในวังหลวงแห่งนี้นับว่ามีผู้หลอมโอสถอยู่ไม่น้อย และคงหลอมปรุงโอสถนี้ให้ฝ่าบาทได้ทันที "

“อัครมหาเสนาบดีกู้  ข้าคงต้องบอกว่าขอแสดงความเสียใจด้วย แต่สูตรโอสถนี้ข้าไม่คิดเปิดเผยให้ผู้ใดล่วงรู้” ต้วนหลิงเทียนเหลือบมองกู้โหย่วถิงด้วยหางตา ท่วงท่าเขาเต็มไปด้วยสงบไม่แยแส

ต่อหน้ากู้โหย่วถิงนี่เขาไม่คิดจะไว้หน้าอะไรมัน!

"ไม่แม้กระทั่งองค์ราชาของเจ้างั้นรึ?" มุมปากของกู้โหย่วถิงยกขึ้นเล็กน้อย ฉายชัดออกมาถึงความเย้ยหยัน และจงใจใช้องค์ราชามาบีบบังคับต้วนหลิงเทียน

"อัครมหาเสนาบดี จะดีกว่าหากเจ้าไม่บีบบังคับข้า หากข้าถูกบีบบังคับมากจนหวาดกลัวขึ้นมา แล้วลืมสูตรโอสถไปจะทำอย่างไร คราวนี้แม้แต่ข้าคงไม่อาจจะหลอมปรุงมันออกมาได้แล้ว   ถึงตอนนั้นหากองค์ราชามีอาการพิษร้ายกำเริบ และไร้โอสถถอนพิษเพื่อรักษาอาการแล้วล่ะก็  ...เกิดเรื่องเลวร้ายอะไรขึ้นมา คงต้องให้เจ้ารับผิดชอบทั้งหมดแล้วล่ะ! " ม่านตาของต้วนหลิงเทียนหดแคบลง ก่อนที่จะยิ้มออกมาบางๆ

"เจ้า!" สีหน้าของกู้โหย่วถิงมืดมนลงในทันใด

ตอนนี้เองที่พระยาเรืองฤทธิ์นี่เหวี่ยก้าวออกมาและมองไปยังองค์ราชา "ฝ่าบาท จากความรู้ที่ข้าน้อยมี ... สูตรโอสถนั้นเรียกได้ว่ามีความสำคัญกับผู้หลอมโอสถอย่างยิ่งยวด  และโอสถของต้วนหลิงเทียนที่สามารถกำจัดพิษร้ายของฝ่าบาทได้นี่ย่อม มีความเป็นเอกลักษณ์และพิเศษอย่างมาก!  ข้ายังรู้มาอีกว่าสำหรับผู้หลอมโอสถแล้ว สูตรโอสถนั้นมีความสำคัญมากกว่าชีวิตของพวกเขาเสียอีก "

"สิ่งที่ท่านพระยากล่าวล้วนเป็นความจริง  ฝ่าบาทเองก็คงเข้าใจและยอมรับได้" จ่านฉงลุกขึ้นยืนก่อนที่จะกล่าววาจาช่วยเหลือต้วนหลิงเทียนเช่นกัน

"อะไรกัน? นี่พวกเจ้าทั้งหมดคิดว่า ข้าจะบีบบังคับเอาสูตรโอสถจากเด็กคนหนึ่งหรือไร? ฮ่าๆ" องค์ราชาเพียงยิ้มแย้มอย่างไม่สนใจ ก่อนที่จะมองไปยังต้วนหลิงเทียน "ต้วนหลิงเทียน คำขอของเจ้านั้นข้าจะสั่งการณ์ลงไปภายในวันนี้ และข้าจะร่างราชโองการจัดตั้งกองกำลังองครักษ์เสื้อแพร พร้อมทั้งติดประกาศให้ทาบทั่วเมืองหลวง... และตัวเจ้าก็จะได้เป็นผู้บัญชาการกองกำลังนี้สมใจ  สำหรับสมาชิกในกองกำลังของเจ้า ข้าจะให้พระยาเรืองฤทธิ์นี่เหวี่ยเป็นผู้จัดหาให้  นี่เหวี่ยเรื่องนี้เจ้าคิดเห็นเช่นไร?” เมื่อองค์ราชากล่าวจบก็หันไปมองทางนี่เหวี่ย

"ข้าน้อยยินดีขอรับ ฝ่าบาท" นี่เหวี่ยรับคำ

"ขอบคุณ ราชา" ต้วนหลิงเทียนเพียงพยักหน้าให้องค์ราชาพร้อมรอยยิ้ม

ส่วนทางด้านอัครมหาเสนาบดีกู้โหย่วถิงมีสีหน้าไม่ค่อยดีสักเท่าไร

องครักษ์เสื้อแพร!

เป็นรองเพียงองค์ราชาและรับคำสั่งองค์ราชาเพียงผู้เดียวเท่านั้น!

ผู้บัญชาการและควบคุมกองกำลังองครักษ์เสื้อแพรได้แก่ต้วนหลิงเทียน  เขาสามารถกระทำการทุกอย่างได้ก่อนตามที่เขาเห็นสมควร และสามารถรายงานเรื่องราวทั้งหมดต่อองค์ราชาได้ในภายหลัง  มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการจัดการผู้กระทำผิด!

ไม่นานราชโองการก็ถูกประกาศและเผยแพร่ออกไปทั่วทั้งเมืองหลวง

องครักษ์เสื้อแพร!

ชื่อนี้เป็นอะไรที่ผู้คนไม่คุ้นหูมาก่อน แต่วันนี้มันเป็นอะไรที่ทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง!

มีกองกำลังเช่นนี้ในอาณาจักรนภาล่องตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

"แม้ข้าจะรู้ว่าต้วนหลิงเทียนสมควรได้รับรางวัลอันยิ่งใหญ่จากองค์ราชา! แต่ข้าไม่คิดเลยว่าเขาจะได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้จากองค์ราชา!! ... เมื่อกองกำลังองครักษ์เสื้อแพรจัดตั้งเสร็จสิ้น ต้วนหลิงเทียนที่เป็นผู้บัญชาการ ก็มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไม่ต้องก้มหัวให้ผู้ใด ไม่ต่างอันใดไปจากอัครมหาเสนาบดี! "

"มันยิ่งใหญ่เกินไป! กองกำลังองครักษ์เสื้อแพรจัดตั้งเสร็จเมื่อไหร่ ข้าว่าครานี้คงได้ชมดูอันใดดีๆในเมืองหลวงเป็นแน่"

"สวรรค์ ต้วนหลิงเทียนคนนี้ ยังมีอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น! แต่ยามนี้กล่าวได้ว่าเขายืนอยู่บนจุดสูงสุดของอาณาจักรนภาล่องแล้วอย่างแท้จริง!!"

...

ทุกทั่วหัวระแหงของอาณาจักรนภาล่องล้วนกล่าวสนทนาถึงเรื่องราวทำนองนี้

ภายในห้องโถงของจวนเจ้าพระยา

"เทียนน้อย เจ้านี่ช่างกล้าหาญยิ่งนัก! กระทั่งองค์ราชาแห่งอาณาจักรนภาล่อง เจ้ายังกล้าขมขู่เช่นนี้ เฮ่อเจ้าตัวแสบ!" พระยาเรืองฤทธิ์ได้แต่ยิ้มกล่าวออกมาพร้อมส่ายหัว เขายังอดถอนหายใจไม่ได้ เมื่อคิดถึงฉากที่ต้วนหลิงเทียนกล่าววาจาข่มขู่องค์ราชา

“นี่เรียกว่า ลูกวัวไม่กลัวเสือโดยแท้จริง!” นี่เหวี่ยกล่าวออกมาพร้อมหัวเราะ

"แม้แต่ข้าเองยังอดตกใจไม่ได้" นี่เฝินมองไปยังต้วนหลิงเทียนก่อนที่จะหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น

ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางๆ "อันที่จริงสิ่งที่ข้ากำลังทำอยู่ยามนี้ ก็ไม่ต่างอันใดจากการหลบอยู่หลังเสือนั่นแหล่ะท่านลุง อ่อ จริงสิท่านลุงนี่ สำหรับคนที่จะมาเข้าหน่วยองค์รักษ์เสื้อแพรของข้า  นอกจากจางเฉวียนและจ้าวกังแล้วข้ายังต้องการอีก 9 คน ...แต่พวกเขาต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงนะขอรับ"

"ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของเจ้า มันเป็นอย่างไรเล่า?" นี่เหวี่ยเหลือบไปมองต้วนหลิงเทียน และรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ต้วนหลิงเทียน คิดใช้คนจำนวนหยิบมือเท่านี้

"8 คนต้องมีระดับบ่มเพาะเหนือล้ำไปกว่าจางเฉวียนและเจ้ากังหรือเทียบเท่าพวกเขาเป็นอย่างน้อย ... ส่วนคนสุดท้ายนี่ข้าต้องการผู้ฝึกยุทธ์ระดับครึ่งก้าวธรรมชาติ!" ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมา

ครึ่งก้าวธรรมชาติ?

นี่เหวียและนี่เฝินชะงักไปเล็กน้อย

นี่เหวี่ยเย้ยหยันออกมา "เจ้าตัวแสบ จำนวน 8 คนที่มีระดับบ่มเพาะเทียบเท่าหรือเหนือกว่าจางเฉวียนจ้าวกังก็ทำให้ข้าปวดใจแทบตายแล้วข ... แต่มายามนี้เจ้ากลับเรียกร้องผู้ฝึกยุทธ์ระดับครึ่งก้าวธรรมชาติจากข้า  นี่เจ้าคิดว่าผู้ฝึกยุทธ์ครึ่งก้าวธรรมชาติมันหาได้ง่ายดายราวเดินหาซื้อกะหล่ำปลีในตลาดหรือไร"

"ลุงนี่ หากท่านสามารถหาคนได้ตามความต้องการของข้า 9 คน ข้ารับรองว่าจะมอบโอกาสดีงามสุดประเสริฐ ให้แก่ท่าน และรับรองท่านต้องยินดีอย่างยิ่ง" ต้วนหลิงเทียนเพียงจ้องนี่เหวี่ยด้วยประกายตาลี้ลับอย่างมีเลศนัย

"โอกาสอันประเสริฐ อะไรของเจ้ากัน?" นี่เหวี่ยมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยท่าทางสงสัยใคร่รู้

แม้กระทั่งนี่เฝินที่ยืนอยู่ด้านข้าง ยามนี้ก็สนใจไม่น้อย

ต้วนหลิงเทียนเผยรอยยิ้มออกมาก่อนที่จะกล่าววาจา  "ลุงนี่ ท่านเคยได้ยินเรื่องราวของ สุราวานรหรือไม่?"

"สุราวานร? อะไร? เจ้าได้มันมาเช่นนั้นรึเจ้าตัวแสบ?" แววตาของนี่เหวี่ยฉายความประหลาดใจออกมาไม่น้อย

ลมหายใจของนี่เฝินเริ่มไม่สงบราบเรียบอีกต่อไป สุราวานรถือเป็นสมบัติล้ำค่าต่อผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้อย่างมาก เนื่องจากมันสามารถยกระดับบ่มเพาะได้! แน่นอนตัวมันย่อมต้องการ!

"ในเมื่อท่านลุงนี่รู้จักสุราวานร เช่นนั้น ลุงนี่เคยได้ยินเรื่องราวของ สุราวานรจักรพรรดิหรือไม่เล่า?" ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกมาพร้อมยักคิ้ว

"สุราวานรจักรพรรดิ เช่นนั้นหรือ ..." นี่เหวี่ยส่ายหัว สำหรับเรื่องนี้นี่เหวี่ยไม่เคยได้ยินมาก่อน

"สุราวานรจักรพรรดินี้ กล่าวได้ว่ามีคุณสมบัติไม่ต่างอะไรกับ โอสถสู่ธรรมชาติ ซ้ำยังเหนือกว่า... " ต้วนหลิงเทียนจับจ้องไปยังนี่เหวี่ยด้วยสายตาลึกซึ้ง ก่อนที่จะกล่าวอธิบายออกมาช้าๆ   "ข้าคิดว่าท่านลุงนี่ เองก็คงสนใจเรื่องนี้ไม่น้อยใช่หรือไม่?"

เหนือชั้นกว่าโอสถสู่ธรรมชาติ?

นี่เหวี่ยและนี่เฝินล้วนอื้ออึง

นี่เหวี่ยเป็นคนแรกที่เรียกสติคืนมาได้ ม่านตาของเขาหดแคบลง แม้กระทั่งลมหายใจของเขาเองก็เริ่มปั่นป่วนเร่งรีบขึ้นมา หน้าอกของเขากระเพื่อมขึ้นลง หัวใจส่งเสียงดังตุบตับ ... จะ...เจ้ากล่าวจริงหรือ?"

ต้วนหลิงเทียนไม่ได้กล่าวตอบออกมาโดยตรง "ระดับบ่มเพาะในปัจจุบันของท่านลุงนี่ นั้นกล่าวได้ว่าห่างจากระดับแรกสัมผัสธรรมชาติเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น หากท่านลุงได้รับสุราวานรจักรพรรดิไปแล้วละก็ ท่านสมควรตัดผ่านไปยังระดับแรกสัมผัสธรรมชาติภายในระยะเวลาเพียงแค่ครึ่งปี และเผชิญหน้ากับทัณฑ์สายฟ้า 6 หายนะ 9 ภัยพิบัติ! "

"เด็กน้อย ...เจ้ารู้กระทั่งเรื้องของทัณฑ์สายฟ้า 6-9 เลยเช่นนั้นรึ" ทันใดนั้นเองปรากฏร่างชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามา

แน่นอนว่าเขาคือเจ้าพระยาเรืองฤทธิ์ เจ้าของจวนเจ้าพระยาหลังนี้

"ท่านปู่นี่" ต้วนหลิงเทียนตกตะลึงไม่น้อย เพราะเขาไม่อาจจับสัมผัสการมาถึงของชายชราได้แม้แต่น้อย อดไม่ได้ที่ต้วนหลิงเทียนจะลอบถอนหายใจออกมาในใจของเขา ...ตามที่คาดเอาไว้ไม่มีผิด ผู้ฝึกยุทธ์ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติ ถึงแม้ว่าจะไม่อาจใช้พลังงานต้นกำเนิดได้ แต่ความสำเร็จและความสามารถของเขายังไม่ได้อยู่ในระดับธรรมดา

"ท่านพ่อ!"

"ท่านปู่"

นี่เหวี่ยและนี่เฝินทำความเคารพชายชรา

"เทียนน้อย ปู่ผู้นี้จะส่งผู้ฝึกยุทธ์ระดับครึ่งก้าวธรรมชาติไปให้เจ้า 2 คน แต่เจ้าสามารถมอบสุราวานรจักรพรรดินั่นให้ปู่สัก 2 หยดจะได้หรือไม่" ชายชรามองไปยังต้วนหลิงเทียน พร้อมประกายตาที่เรืองวูบออกมาถึงความคาดหวัง

ผู้ฝึกยุทธ์ระดับครึ่งก้าวธรรมชาติ 2 คน?

ต้วนหลิงเทียนตกตะลึงไม่น้อย

ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของจวนเจ้าพระยานี้ จะมากเกินกว่าที่เขาคาดเอาไว้เสียแล้ว

ต้วนหลิงเทียนได้สติ ก่อนที่จะยิ้มแหยๆออกมา "ท่านปู่เกรงว่าข้าคงทำให้ท่านต้องผิดหวังแล้ว...ข้าไม่ได้มีสุราวานรจักรพรรมากมายถึงเพียงนั้น"

ชายชราเองก็ลืมนึกถึงข้อนี้ไป เขาจึงหัวเราะร่าออกมา  "เช่นนั้นเพียงส่งมอบให้ลุงนี่ของเจ้าสักหยดก็แล้วกัน แล้วปู่ผู้นี้ยังจะสงผู้ฝึกยุทธ์ครึ่งก้าวธรรมชาติไปคุ้มครองเจ้าเช่นเดิม ... ว่าแต่กระทั่งข้ายังนึกไม่ถึงจริงๆ วาเจ้าจักได้พานพบสุราวานรจักรพรรดิในตำนาน และกระทั่งได้รับมันมาเช่นนี้ "

เห็นได้ชัดว่าชายชราเจ้าพระยารู้จักสุราวานรจักรพรรดิ

"ขอบคุณมากขอรับท่านปู่!" ต้วนหลิงเทียนหัวเราะออกมาพร้อมกล่าวคำ  "ท่านปู่นี่ ที่จริงข้าเองก็มีข่าวดีมาบอกกับท่านเช่นกัน ... ในอีกไม่กี่วันหลังจากนี้ ข้าสมควรยกระดับเปลวเพลิงหลอมโอสถระดับ 9 ให้พัฒนาไปเป็นเปลวเพลิงหลอมโอสถระดับ 8 ได้สำเร็จ!  และคราวนี้ข้าจะสามารถหลอมปรุงโอสถกวาดจิตพิสุทธิ์ระดับ 8 ให้แก่ท่านได้ในทันที  เมื่อท่านใช้โอสถกวาดจิตพิสุทธิ์ระดับ 8 พิษในร่างของท่านสมควรถูกขจัดไปอย่างสิ้นเชิงภายในระยะเวลาแค่ 3 เดือน ตอนนั้นระดับบ่มเพาะของท่านสมควรฟื้นฟูแล้ว"

ประกายตาของชายชราเรืองวูบขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ของต้วนหลิงเทียน

แม้กระทั่งนี่เหวี่ยและนี่เฝินเอง ก็แสดงออกถึงความประหลาดใจอย่างถึงที่สุด...

"ท่านลุงนี่ นี่เป็นวัตถุดิบที่ข้าต้องใช้เพื่อหลอมโอสถกวาดจิตพิสุทธิ์ระดับ 8 ขอรับ" ต้วนหลิงเทียนสะบัดมือเล็กน้อย ก่อนที่กระดาษจดรายการวัตถุดิบที่ต้องใช้ในการหลอมโอสถกวาดจิตพิสุทธิ์จะปรากฏออกมา เขายื่นส่งมันไปให้นี่เหวี่ย...และแน่นอนว่ามีวัตถุดิบ 2 ชุด!

อีกชุดนั้น เขาเตรียมไว้หลอมโอสถกวาดจิตพิสุทธิ์ เพื่อมอบให้แก่ฉงเฉวียน!

หลังจาก 3 เดือน ไม่เพียงยาพิษในร่างของชายชราจะถูกขจัดออกจนหมดสิ้นเท่านั้น ระดับบ่มเพาะของชายชราสมควรฟื้นฟูกลับมาอยู่ในระดับแรกสัมผัสธรรมชาติ ทางด้าวฉงเฉวียนเองก็เช่นกัน เมื่อปรสิตกลืนกำเนิดถูกขจัดออกไปอีกส่วน ระดับบ่มเพาะของเขาก็ต้องฟื้นฟูกลับมาอีก ส่วน!

“เอาล่ะ ข้าจะไปจัดการเรื่องวัตถุดิบ รวมถึงเรื่องคัดเลือกสมาชิกกองกำลังองครักษ์เสื้อแพรของเจ้าด้วยเช่นกัน” นี่เหวี่ยพยักหน้ารับพร้อมรีบหยิบกระดาษจดรายการวัตถุดิบมา หว่างคิ้วของเขาเผยให้เห็นถึงความตื่นเต้นอย่างมาก

"ท่านลุงนี่ นี่คือสุราวานรจักรพรรดิ" ต้วนหลิงเทียนหยิบขวดโอสถเล็กๆ ขวดหนึ่งออกมา ก่อนจะยื่นส่งให้นี่เหวี่ย

นี่เหวี่ยเปิดขวดโอสถออกมา และทันใดนั้นเองกลิ่นหอมฉุนของสุราวานรจักรพรรดิก็โชยคลุ้งออกมาสะกดทุกคนเอาไว้ให้จมอยู่ในภวังค์ ...

 

รีวิวผู้อ่าน