ตอนที่ 13 กด
ซ่งลุ่ยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรถึงจะดี ใช้ดุลยพินิจพิจารณาข้อดีและข้อเสียของสถานการณ์นี้อยู่นาน ยังคงให้ภารกิจดำเนินต่อไป ถึงอย่างไรก็ตามเขาก็ชอบพอกับหลินหลินอยู่แล้ว และเขาเองก็เป็นคนโสดคนหนึ่ง ถึงการที่จะต้องดูแลเธอตลอดชีวิตนั้นจะเป็นเรื่องใหญ่ อีกอย่างด้วยสถานะตอนนี้ของเขาจะยังไม่คู่ควรหลินเหรอ?
ในทางกลับกันหลินหลินเมื่อได้ยินซ่งลุ่ยพูดออกมาเช่นนั้นเธอก็รู้สึกโล่งใจ แต่ในใจกลับมีความรู้สึกที่ไม่ชอบมาพากล เธอมองตาซ่งลุ่ยที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม แต่ก็พบว่าหลังจากที่ซ่งลุ่ยพูดจบแล้วไม่ได้พูดอะไรต่อและยังคงมึนงงอยู่ เธอจึงเอ่ยปากถามไปอีกครั้ง
“ซ่งลุ่ย นายมาหาฉันไม่ใช่ว่ามีเรื่องจะมาถามอะไรเหรอ?”
หลังจากซ่งลุ่ยรับภารกิจมาแล้วก็พบว่าหลินหลินเรียกเขาอยู่ อีกทั้งยังใช้แววตาที่แปลกประหลาดมองมาที่ตนเองอีก ในใจก็รู้สึกว่ามีความหวังและดีใจ เดิมทีเธอก็สนใจเขาอยู่แล้ว นี่มันโชคดีสุดๆไปเลย!
ในเวลาเดียวกันนั้นซ่งลุ่ยก็คิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาต้องการที่จะถามหลินหลิน ดังนั้นเขาจึงถามหลินหลินว่า
"ใช่ มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมสงสัย ทำไมเธอถึงคุ้นเคยกับงานซุปเปอร์ไวเซอร์ขนาดนั้นหล่ะ? จัดการปัญหาได้อย่างเด็ดขาดโดยไม่ลังเล ยิ่งไปกว่านั้นด้วยประสบการณ์กับสิ่งที่เห็นเธอแสดงออกมาก็ไม่ได้แย่เลย เธอจะต้องทนอึดอัดใจอยู่ที่นี่ไปทำไม?”
หลินหลินได้ยินซ่งลุ่ยถามแบบนี้ สีหน้าของเธอก็ดูตกตะลึงออกมา แววตาปรากฏความลุกลี้ลุกลนออกมาแวบหนึ่งแต่ว่ามันเร็วมากจนแทบจะไม่ทันได้สังเกตเห็น เธอจึงแกล้งทำเป็นว่าผ่อนคลายสบายๆแล้วตอบซ่งลุ่ย
“นายถามแบบนี้ เหมือนกับหัวหน้าฉันคนก่อน เป็นเพราะว่าฉันคุ้นเคยกับการทำงานที่นี้ และถ้าหากต้องย้ายไปทำงานที่อื่นฉันก็คงจะปรับตัวได้ยากและไม่คุ้นชิน ฮ่าฮ่า” หลังจากพูดจบเธอก็หัวเราะออกมาสองสามครั้ง
ซ่งลุ่ยรู้สึกว่ามีสิ่งผิดปกติเล็กน้อย ถึงแม้ว่าสิ่งที่พูดออกมามันจะฟังดูสมเหตุสมผล แต่ถึงอย่างไรก็ตามเขาก็ยังไงก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้องอยู่ดี แต่ในเมื่อคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก เขาก็ไม่คิดต่อแล้ว ซ่งลุ่ยส่ายหัวและสะบัดความคิดของเขาออกไป ช่วงนี้เขารู้สึกว่าตนเองได้ใช้ความคิดมากเกินไปแล้วสิ
หลินหลินเมื่อเห็นพฤติกรรมท่าทางของซ่งลุ่ย เธอก็ส่งเสียงหัวเราะออกมา ครั้งนี้เธอเอ่ยปากถามด้วยรอยยิ้มของเธอจริงๆ
“ซ่งลุ่ย ยังมีเรื่องอื่นอีกไหม? ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันจะขอตัวไปนอนก่อน มันดึกแล้ว”
ในเวลานี้ซ่งลุ่ยยังไม่อยากที่จะเดินออกไป เขาเพิ่งจะได้รับภารกิจใหม่มา ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรก็จะให้เขาไปแล้ว จะเป็นไปได้อย่างไรกัน! ในเวลานี้สมองของซ่งลุ่ยก็รีบขบคิดอย่างเร่งร้อน พยายามคิดถึงวิธีที่จะยืดเวลาในตอนนี้ออกไป ตราบใดก็ตามที่เขายังอยู่ที่นี่ก็จะยังมีโอกาสที่จะจับเธอกด!
ซ่งลุ่ยกรอกตาไปมา เอ่อ! มีสิ! ฉันยังไม่คุ้นเคยกับการทำงานเป็นผู้ช่วยของฉัน! เขาถามเธอถึงแม่ว่าเธอจะรู้หรือไม่รู้ เขาก็ถามเธอไปแล้วเพราะสิ่งสำคัญคือการยืดเวลาออกไป!
เมื่อมีวิธีแล้ว ก็เริ่มจัดการเรียบเรียงคำพูด เมื่อคิดคำพูดดีแล้วก็เอ่ยปากถามเธอ
“นั่นสิ หลินหลิน ฉันมีปัญหาสองสามอย่าง เธอช่วยให้คำชี้แนะฉันหน่อยได้ไหม”
“ได้สิ พูดมาเลย ถ้าหากฉันสามารถช่วยได้ ฉันเต็มใจที่จะช่วยนาย!”
"มันน่าอายนิดหน่อยที่จะพูดออกมา ตอนนี้ฉันนั้นได้เป็นผู้ช่วยแล้ว เธอก็รู้นี่ว่าตำแหน่งผู้ช่วยของฉันได้มาอย่างไร ฉันไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน ดังนั้นฉันจึงไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับงานของผู้ช่วยเพราะแบบนี้เอง ฉันเห็นว่าเธอทำงานเป็นซุปเปอร์ไวเซอร์เมื่อตอนบ่ายได้อย่างดีเยี่ยม เลยจะมาขอเรียนรู้ประสบการณ์การทำงานของเธอ” พูดจบเขาก็มองไปทางหลินหลินด้วยความเขินอายที่จะต้องพูด
เมื่อหลินหลินได้ยิน เธอก็ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยแล้วพูดว่า
“ที่แท้ก็เรื่องนี้เอง นายมีอะไรที่ไม่สามารถจัดการได้ก็มาถามฉัน ถ้าหากฉันรู้ฉันจะช่วยนายอย่างแน่นอน!”
หลังจากซ่งลุ่ยได้ยินแบบนั้นในใจของเขาก็ปิติยินดีออกมา จนใบหน้าปรากฏความดีใจอย่างเห็นได้ชัด! เพราะว่าสามารถอยู่ที่นี่ต่อไปได้ เพียงแค่ได้อยู่ที่นี่ต่อเขาก็จะยังมีโอกาส ต่อจากนั้น เขาก็หยิบเอาสมุดที่เขาจดบันทึกปัญหาของงานวันนี้ออกมาแล้วยื่นให้หลินหลิน
หลินหลินมองดูสมุดเล่มนั้นเมื่ออ่านเนื้อหาข้างในแล้วพูดกับซ่งลุ่ยว่า
“นายมีความตั้งใจดีมาก ยังเตรียมสมุดนี่มาอีก ยังดีที่ปัญหาที่นายจดมาไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เอาหล่ะ นายนั่งก่อนสิฉันจะสอนนายเอง”
เมื่อซ่งลุ่ยได้ยินก็รีบกระโดดเข้าไปหาเธอโดยเร็วอย่างไม่มีความลังเล หลินหลินที่ไม่ได้ป้องกันใดๆ ก็ตกใจกับการกระโดดเข้ามาของซ่งลุ่ย เธอจึงมองซ่งลุ่ยด้วยสายตาที่ตืนตระหนกแล้วนั่งลงไปที่ที่นั่งถัดไป ซ่งลุ่ยพยักหน้าและโค้งคำนับให้เธอ ก่อนจะนั่งลงไปอย่างเรียบๆร้อยๆ
หลังจากนั้น ก็เริ่มพูดคุย พูดไป พูดมา พูดวนๆเวียนๆ พูดจนซ่งลุ่ยสัปหงก แต่มันยังดีที่เขายังคงตอบออกมาได้บ้างนิดหน่อยว่า “อ่อ อืม ใช่ ถูกต้อง ”แต่ว่าภายหลังเริ่มไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบแล้ว เขาหลับไปโดยไม่พูดไม่จาอะไร อีกทั้งยังซ่งลุ่ยก็ใช้มือข้างหนึ่งเท้าคางแล้วหลับไปทั้งแบบนั้นอีกด้วย
ประสบการณ์เมื่อตอนเป็นเด็กเขารู้ดี ว่าการใช้มือข้างเดียวเท้าคางแล้วหลับนั้นมันไม่มั่นคง พอถึงเวลาสัปหงกลงไปจนหน้าคว่ำ แต่ก็ยังกลับมาเป็นปกติได้อย่างน่าประหลาดและคนก็ไม่ตื่นด้วย หลังจากนั้นก็วนแบบนี้ไปครั้งแล้วครั้งเล่า และก็เป็นอาจารย์ที่ทำให้ตื่น!
ตอนนี้ซ่งลุ่ยกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นต่อหน้าหลินหลิน ดูเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น แล้วหลินหลินหล้ะ เธอพูดมาเป็นเวลานาน เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมาก็คิดว่าซ่งลุ่ยหลับไปแล้ว เตรียมจะหันหน้าไปดู ตอนที่เธอหันหน้าไปดู ปากของเธอก็ปะทะเข้ากับปากของซ่งลุ่ยที่อยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น ทั้งสองคนก็เลยจูบกัน! จะบอกว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่บังเอิญก็ตาม แต่ปากของทั้งสองคนก็ประกบกันในชั่วพริบตาเดียวและซ่งลุ่ยก็ค่อยๆลืมตาขึ้น!
ในเวลานี้หลินหลินต้องการที่จะดิ้นรนเพื่อผลักซ่งลุ่ยออกไป แต่ซ่งลุ่ยก็ไม่ยอมอย่างแน่นอน! ทั้งคืนที่เขารอมาก็คือโอกาสอย่าตอนนี้เนี่ยแหละ ซ่งลุ่ยจึงใช้มือทั้งสองข้างกอดหลินหลิน และประกบริมฝีปากเข้าหาหลินหลิน ค่อยๆสอดลิ้นเข้าไป ในตอนแรกหลินหลินยังคงเม้มปากหลบหลีกจนซ่งลุ่ยควานหาไม่ได้ แต่ว่าหลังจากที่ลิ้นของซ่งลุ่ยรุกล้ำเข้าไปในปากของหลินหลินได้ ก็ไม่มีที่ไหนให้เธอหลบหลีกได้อีก!
ซ่งลุ่ยงจูบหลินหลิน พลางใช้มือของเขาไปด้วย ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าตรงหน้าอกมีของเป็นก้อนแข็งๆขึ้นมา และดูเหมือนไม่สบายตัวมาก เมื่อสัมผัสอย่างละเอียดแล้วก็พบว่ากลับเป็นของที่อยู่บนร่างกายของหลินหลินนั่นเอง เขาจึงใช้มือล้วงเข้าไปและเริ่มลงมือคลำหาอย่างอบอุ่นและนิ่มนวล เมื่อล้วงออกมาก็พบว่าเป็นหยกกลมๆที่ทั้งลื่นและเกลี้ยงเกลา เมื่อมองดูก็รู้ว่าไม่ใช่ของทั่วๆไป แต่ว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาดูของอะไรแบบนี้ เขาจึงวางหยกนั่นเอาไว้ข้างๆ แล้วจัดการ “ภารกิจ”ของเขาต่อไป
ตั้งแต่เริ่มต้นจูบหลินหลินก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกกระทำ เพราะว่าเธอถูกการกระทำของซ่งลุ่ยควบคุม ตอนแรกก็ไม่ระวังปากประกบปากโดยบังเอิญ แต่คิดไม่ถึงว่าจะพัฒนามาจนถึงขั้นนี้ มองดูการกระทำของซ่งลุ่ยที่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเหมือนเดิม แต่คิดแล้วซ่งลุ่ยก็ได้ช่วยเหลือเธอ หลินหลินมองแล้วมองอีกพิจารณาไปที่เค้าโครงหน้าที่ชัดเจนของซ่งลุ่ย เฮ้อ งั้นก็แล้วแต่เขาละกัน เมื่อคิดได้เธอจึงยินยอมพร้อมใจไม่ขัดขืนเขาอีกแล้ว
ซ่งลุ่ยที่รู้สึกว่าหลินหลินไม่ต่อต้านขัดขืนแล้ว ทันใดนั้นในใจก็เกิดความรู้สึกผิดขึ้นมา รู้สึกว่าตัวเองทำเกินไปแล้ว แต่ว่าเขาก็ไม่มีทางเลือก ในเมื่อง้างธนูแล้วก็ต้องยิงออกไป ไม่ทำก็ไม่ได้! หลังจากนั้นจะใช้ทั้งชีวิตนี้ดูแลชดใช้ให้เธอ เขาถอนหายใจอย่างเงียบๆ และทำภารกิจของตัวเองต่อไป
หนึ่งคืนที่อิ่มเอิบไปด้วยความรัก
วันรุ่งขึ้นในตอนเช้า เมื่อซ่งลุ่ยตื่นขึ้นมาแต่เช้า โดยปกติแล้วผู้ชายตื่นขึ้นมาด้วยกำลังวังชาที่เต็มเปี่ยมและรู้สึกกระฉับกระเฉงซึ่งซ่งลุ่ยก็เป็นเช่นนั้น เขาเอื้อมมือไปหยิบหยกที่อยู่ข้างตัวของหลินหลินมาดู เมื่อวานนี้เขามองผ่านๆมันไปแค่แวบเดียว ยังไม่ได้ดูอย่างละเอียด วันนี้เมื่อดูอย่างละเอียดเข้าไปใกล้แล้วก็พบว่าหยกนี้เป็นของดีมีค่ามาก ในใจก็อดไม่ได้ที่จะจมดิ่งอยู่ในความคิด