ตอนที่ 17 นุ่มนวลและหอมหวาน
หลังจากซ่งลุ่ยออกจากห้องทำงานของจางชูหยา ในใจของเขาก็คิดไม่หยุดว่าจะรับมือกับเรื่องพวกนี้ยังไง! ในการทำงานแบบนี้ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่ได้มีประสบการณ์เลยแม้แต่น้อย เขาเป็นเพียงไอ้โง่คนนึงที่มีศัตรูเป็นคนที่มีอิทธิพลและอำนาจ คิดได้ถึงตรงนี้ในใจหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะตำหนิออกมา ตำหนิตัวเองว่าทำไมในตอนแรกถึงพูดแบบนั้นออกไป!
ในช่วงเวลาที่ซ่งลุ่ยวางแผนและพึ่งพาใครไม่ได้ ภาพของฮงเหมยก็ปรากฏแวบเข้ามาในหัวของเขาทันที ใช่แล้ว! เขาสามารถไปถามฮงเหมยได้! ฮงเหมยต้องรู้อย่างแน่นอน แต่ตอนนี้มันใช่เวลาที่สมควรหรือไม่ที่จะไปหาไหม?
เมื่อซ่งลุ่ยคิดได้ถึงตรงนี้ก็ดูเวลา และรู้สึกว่ายังไม่เหมาะสมที่จะไปหาเธอ มันยังไม่สายเกินไป ควรจะจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อน ดังนั้นเขาจึงจัดการกับตัวเองสักหน่อย ล้างผม เปลี่ยนเสื้อผ้าและอื่นๆ เมื่อเขามองดูตัวเองในกระจกก็คิดไปถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้น จะเกิดอะไรขึ้น ไม่แน่อีกสักพักเขาอาจจะต้องใช้แผนชายงาม ก็อดกลั้นความละอายใจไว้ไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าเขาต้องเปลืองตัวเป็นอย่างมาก ในการทำงานหาเลี้ยงชีพตัวเองแบบนี้ ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนี้เลย จริงๆ!
หลังจากพูดในใจจบแล้ว ก็ดันประตูออกไป ทันใดนั้นเอง เมื่อมองดูเวลาอย่างไม่ตั้งก็พบว่านี่เป็นเวลาเที่ยงแล้ว เขาเสียเวลาก่อนหน้านี้มาเยอะเลยทีเดียว ฮงเหมยก็คงจะไปแล้ว! ช่างเถอะ ไม่ไปแล้วก็ได้ถ้าอย่างงั้นแล้วตนเองควรจะไปไหน ในเวลานี้ซ่งลุ่ยก็คิดถึงหลินหลินขึ้นมาทันใดว่าเขาควรไปหาเธอและหาอะไรกินด้วยกัน อย่างไรก็ตามเมื่อคืนนี้เธอกับเขาก็ได้มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งต่อกันแล้ว แล้ววันนี้จะมาเมินเฉยแบบกะทันหัน มันก็คงจะดูเลวร้ายไปหน่อย!
เมื่อตัดสินใจแล้ว ก็เดินไปที่แผนกต้อนรับเพื่อไปหาหลินหลิน เดินไปได้ไม่นานก็ถึงแผนกต้อนรับแต่ก็มองหาหลินหลินไม่พบ ในใจก็คิดไตร่ตรองอย่างเงียบๆ หลินหลินไม่ได้มาทำงานเหรอ? แล้วเธอไปไหน? ผ่านไปไม่นานก็ตบมือลงไปที่ต้นขาของตัวเองอย่างรวดเร็วและบ่นกับตัวเองออกมา ถ้านี่เป็นครั้งแรกของเธอ ตอนนี้เธอคงต้องนอนซมอยู่บนเตียงอย่างแน่นอน จะมาทำงานได้เร็วขนาดนั้นอย่างไรกัน!
ณ จุดนี้ ซ่งลุ่ยก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เขาไปที่โรงอาหารเพื่อซื้ออาหารและไปที่ห้องของหลินหลิน เดินไปได้ไม่นานก็ถึงหน้าห้องพักของหลินหลิน
ซ่งลุ่ยหยุดอยู่ที่ด้านหน้าห้องพักของหลินหลินและจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนที่จะเคาะประตูเบา ๆ เขารออยู่ครู่หนึ่งก็ยังไม่มีเสียงตอบรับกลับมา ในใจของซ่งลุ่ยก็เงียบขรึม ตอนนี้เธอต้องนอนอยู่บนเตียงแน่ๆ ตั้งแต่เช้าจนเที่ยงแล้วทำไมยังนอนไม่ยอมลุกขึ้นมาอีก เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้เขาก็ผลักประตูเข้าไป
และเป็นอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้จริงๆ หลังจากซ่งลุ่ยเข้าห้องมาก็เห็นหลินหลินยังคงนอนอยู่บนเตียง เขาค่อยๆเดินไปที่โต๊ะอย่างช้าๆแล้วเอาของในมือวางเบาๆไปที่โต๊ะ หลังจากนั้นก็เดินเงียบๆไปข้างๆหลินหลินและนั่งลงข้างๆเธอ จับมือเธอขึ้นมาอย่างเงียบๆเพ่งมองพินิจพิจารณาหลินหลินอย่างละเอียด
ในความเป็นจริง ตอนที่ซ่งลุ่ยเปิดประตูเข้ามา หลินหลินก็ตื่นแล้ว เธอหรี่ตามองการกระทำของซ่งลุ่ยอย่างเงียบๆ ความจริงแล้วเมื่อหลินหลินเห็นซ่งลุ่ยถือของเข้ามาในตอนนั้น ในใจของเธอก็อบอุ่นและยอมรับซ่งลุ่ยมาไว้ในใจแล้ว
แต่เมื่อซ่งลุ่ยมานั่งข้างๆตัวเธอ หัวใจของเธอกระตุกขึ้นอีกครั้ง เธอกลัวว่าเขาจะทำเหตุการณ์แบบนั้นอีก แต่ซ่งลุ่ยเพียงแค่ดึงมือของหลินหลินขึ้นมาสังเกตอย่างเงียบ ๆ ทำให้หลินหลินรู้สึกถึงความอบอุ่นและยอมรับในตัวของซ่งลุ่ยมากขึ้น!
ซ่งลุยที่นั่งข้างๆหลินหลินสังเกตใบหน้าของเธออย่างละเอียด ทันใดนั้นก็พบว่าคิ้วของเธอขยับเบาๆ จึงจับได้ว่าหลินหลินนั้นแกล้งหลับทันที! ในใจก็รู้สึกขบขันขึ้นมา เขาฟุบไปที่ข้างหูของหลินหลินแล้วพูดอย่างอ่อนโยน
“หลินหลิน ตื่นขึ้นมาได้แล้ว ถ้าไม่ตื่น ฉันจะไปแล้วนะ ฮ่าฮ่าฮ่า ” หลินหลินก็ยังคงไม่ขยับเหมือนเดิม ดวงตาของเธอยังคงหลับตาสนิทและไม่ขยับ
เมื่อซ่งลุ่ยเห็นท่าทางแบบนี้ เขาก็ยื่นมือออกไปอย่างช้า ๆ และลูบคลำอย่างช้าๆที่ด้านหลังของหลินหลิน เขายังคงลูบไปถึงไหล่ของหลินหลิน การกระทำนี้ของซ่งลุ่ยทำให้ลมหายใจของหลินหลินแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆ
ซ่งลุ่ยเองก็รู้สึกเหมือนกัน แต่เขาก็ยังไม่หยุดการกระทำของเขา มือบนไหล่ของหลินหลินค่อยๆเลื่อนตำแหน่งลงมา ในเวลานี้หลินหลินลืมตาของเธออย่างรวดเร็ว ยื่นมือออกไปเพื่อจะขัดขวางแต่ในเวลานี้ก็ไม่ทันการเสียแล้ว
มือของซ่งลุ่ยที่เลื่อนต่ำลงมาแตะไปที่หน้าอกขอหลินหลินและสัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่ม! สัมผัสที่น่าตื่นตาตื่นใจในมือของเขาดีดเด้งกลับเหมือนสปริง มือแค่ข้างเดียวไม่สามารถโอบอุ้มหน้าอกนั่นไว้ได้ทั้งหมด! ซ่งลุ่ยบีบมันอย่างไม่รู้ตัวจนหลินหลินร้องครางออกมาขัดจังหวะ
ซ่งลุ่ยดึงมือของเขาออกมาเหมือนไฟฟ้าช็อต แต่มือข้างหนึ่งยังคงจับอยู่ที่หน้าอกที่เพิ่งขยำไว้ จะปล่อยก็ไม่ได้ ไม่ปล่อยก็ไม่ได้ เขาคิดไม่ถึงว่าสัมผัสมันจะเป็นแบบนี้ ไม่คิดว่ามันจะใหญ่และนุ่มจริงๆ เมื่อวานคืนเขาไม่ได้สัมผัสความรู้สึกแบบนี้เหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันนี้โชคดีจริงๆ!
หลินลินกอดหน้าอกด้วยมือของเธอแล้วมองซ่งลุ่ยด้วยท่าทางโกรธ ดวงตาทั้งคู่ฉายแววความโกรธมากออกมา เม้มปากเป็นเส้นตรง เมื่อซ่งลุ่ยเห็นท่าทางของหลินหลินแล้ว ก็แตะไปที่หัวแก้เก้อและหัวเราะเจื่อนๆ หลินหลินที่เห็นท่าทางของซ่งลุ่ยก็คิดได้ว่าเขาเพิ่งจะทำเรื่องอย่างว่าไปก็ไม่ควรไปโกรธอะไรเขามากนัก เธอก็หัวเราะหึออกมา แล้วพูดกับซ่งลุ่ยว่า
“นายนี่โง่จริงๆรีบเอาข้าวมาให้ฉันสิ ฉันหิวแล้ว!”
“เอ่อ เอ่อ เอ่อ ได้ๆๆๆ”
ซ่งลุ่ยรีบเดินไปที่โต๊ะอาหารแล้วหยิบอาหารที่เตรียมไว้ส่งให้หลินหลิน มือเขาสัมผัสได้ถึงความเย็นของอาหาร เขาย่นคิ้วแล้วพูดกับหลินหลินว่า
“หลินหลิน เธอมีเครื่องครัวที่ทำอาหารได้ไหม?”
หลินหลินอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “มีสิ เกิดอะไรขึ้น!”
“พอดีอาหารที่ฉันพึ่งซื้อมา ตอนนี้มันเย็นไปนิด ฉันจะไปอุ่นให้มันร้อนสักหน่อย”
“ที่แท้ก็เรื่องนี้เอง นายดู มันอยู่ตรงนั้น ในกล่องที่อยู่ในตู้ชั้นล่างสุด ในนั้นมีกระทะและอุปกรณ์อย่างอื่นอยู่ นายดูเอาก็แล้วกันว่าจะใช้อะไรก็เอาออกมา”
ซ่งลุ่ยมองไปทางนั้น เขาเดินเข้าไปและเปิดตู้หยิบกล่องออกมาเปิด ภายในมีหม้อ กระทะ น้ำมันเกลือ ซอสและอุปกรณ์ทำอาหารหลายอย่าง ซ่งลุ่ยดูอย่างระมัดระวัง มีฝุ่นเกาะอยู่ด้านบนดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ใช้งานมาเป็นเวลานาน
หลินหลินมองดูซ่งลุ่ยที่กำลังเพ่งมองพินิจพิจารณาเครื่องครัวเหล่านั้น ใบหน้าก็อดที่จะแดงระเรื่อไม่ได้แล้วพูดกับซ่งลุ่ยว่า
“ตอนแรกที่ฉันเริ่มทำอาหารเอง ฉันทำคนเดียว แล้วฉันก็เหงาเกินกว่าที่จะกินคนเดียว งานก็ยุ่งนิดหน่อย ไม่มีเวลาทำก็เลยไม่ทำ ดังนั้นของพวกนั้นก็วางทิ้งไว้ไม่ได้นำมาใช้เลย แล้วฉันก็เลยออกไปกินข้าวข้างนอกแทน”
ซ่งลุ่ยได้ยินหลินหลินพูดอย่างนี้ ทันใดนั้นก็มีแรงกระตุ้นในใจที่อยากจะดูแลผู้หญิงคนนี้ จากนั้นเขาก็พูดว่า
“เธอทำแบบนี้ไม่ได้นะ ร่างกายต้องการใช้พลังงานเป็นต้นทุน อาหารข้างนอกนนั่นไม่ค่อยสะอาด! ทำเองยังสบายใจกว่า เอาแบบนี้ละกัน ต่อไปนี้ให้ฉันมาทำข้าวให้เธอเองเถอะ!”
หลินหลินที่ได้ยินว่าซ่งลุ่ยพูดอย่างนั้น หัวใจของเธอก็มีความสุขมาก เธอพูดกับซ่งลุ่ยว่า
“ดีเลย ดีเลย! ถ้างั้นต่อไปนี้ฉันจะได้ลิ้มรสฝีมือพ่อครัวซ่งแล้ว!”
ซ่งลุ่ยที่ได้ฟังก็หัวเราะออกมาและไม่ตอบอะไรกลับไป เขาหยิบเครื่องครัวในกล่องออกมาทำความสะอาดมันอย่างจริงจังและเทอาหารที่เขาซื้อมาเพื่ออุ่นใหม่ กระบวนการทั้งหมดนี้แลดูเป็นธรรมชาติและมีชำนาญมากทำให้ซ่งลุ่ยดูเหมือนเป็นพ่อครัวมือโปรไปเลย