มันเริ่มมีหิมะตกมากขึ้นเรื่อย ๆ หิมะตกหนักอย่างที่หยานซุ่ยกล่าว
เขานำผู้คนที่เขาชักชวนให้มาที่นี่ และคิดถึงวิธีการที่จะช่วยเหลือพวกเขา แต่ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่ที่นี้ รู้สึกหนาว อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเลยที่หายไป และพวกเขารู้ว่ามีอะไรประหลาดเกิดขึ้นที่นั่น
ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังประตู หยานซุ่ยโผล่หัวออกและได้แต่ขดตัวให้แน่นในเสื้อโค้ทหนังสัตว์ของเขาอีกครั้ง มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการเป็นนักรบ ไม่ค่อยมีหิมะตกในเผ่าของพวกเขา ดังนั้นเขาจึงไม่เหมาะกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นที่นี่
เขาบ่นเกี่ยวกับสภาพอากาศเลวร้ายที่นี่ หยานซุ่ยหวังว่าฉาวซวนจะเอาชนะได้ในไม่ช้า มันจะง่ายเหมือนกับการฆ่าผู้คนของชนเผ่าหว่านฉี
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ หยานซุ่ยได้ขยับเสื้อหนังสัตว์ของเขาอย่างกระชับแน่นและมองไปที่การเผชิญหน้าอย่างไม่น่าเชื่อของพวกเขา
ไม่ ทำไมข้าถึงรู้สึก ... บางสิ่งบางอย่างออกมา?
ทุกคนให้ความสนใจกับฉาวซวน ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตเห็นท่าทางที่แปลกประหลาดของ หยานซุ่ย
ในขณะนี้ ชายคนหนึ่งยืนอยู่หน้าฉาวซวนดูโกรธแค้น เขาไม่ต้องการต่อสู้กับฉาวซวนโดยตรงหรือยอมแพ้ เขามาที่นี่พร้อมกับคนของเขาที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง เขาจะเสียหน้าถ้าเขาไม่มีน้ำยาและวิ่งหนีไป แล้วศักดิ์ศรีของเขาในชนเผ่าจะได้รับความเสียหาย
ฉาวซวนไม่กลัวเขาและน่าจะเป็นนักรบระดับกลาง ถึงแม้ว่าเขาจะยังเด็กอยู่ก็ตาม นี่คือ "เผ่าเขาเพลิง" จริงๆ หรือที่เป็นชนเผ่าเล็ก ๆ ?
ยอมแพ้แล้วจากไป?
ไม่ ไม่สามารถถอย!
"ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง นำหยกของข้าคืนมา! " ชายคนนั้นเกือบจะพูดทีละคำ จากนั้นก็เริ่มโกรธขึ้นมา
ฉาวซวนไม่สนใจการคุกคามของเขา หลังจากที่ชายคนนั้นจบคำพูดของเขาแล้ว เขาพูดว่า "ข้าจะให้โอกาสกับเจ้าอีกครั้ง ไปซะ!"
คราวนี้ ทั้งผู้นำของนักเดินทางและฉาวซวนเผยลวดลายสัญลักษณ์บนใบหน้าของพวกเขา
พลังของชายสองคนปรากฎขึ้น เฮ่อเอ๋อร์และคนที่เขานำมาซึ่งยืนอยู่ห่าง ๆ เพียงเล็กน้อยและคนอื่น ๆ รู้สึกกดดันมาก
"เฮ่อเอ๋อร์ ข้าคิดว่าเราไม่สามารถต่อสู้ได้" ชายที่อยู่ข้างๆ เฮ่อเอ๋อร์กล่าว
"ชายคนนั้นเป็นนักรบ!"
"เจี่ยวอู่รู้ที่โง่เง่ารู้จักนักรบได้อย่างไร?" ถามคนที่โต้เถียงกับเจี่ยวอู่ แม้ว่าพวกเขามักจะทะเลาะกัน แต่เขาก็ยังมาช่วยเจี่ยวอู่และเหยียนจื่อเมื่อพวกเขามีปัญหา
"เจ้าลืมไปแล้วเหรอ?" ชายคนหนึ่งกระซิบ
ลวดลายสัญลักษณ์ที่ปรากฏขึ้นก่อนของเจี่ยวอู่และเหยียนจื่อ บางคนกล่าวว่าพวกเขาอาจจะกลายเป็นนักรบที่แท้จริง แต่ส่วนใหญ่ไม่คิดอย่างนั้น แต่ตอนนี้ พวกเขาทั้งหมดเชื่อว่าพวกเขาจะกลายเป็นนักรบจริงๆ
แต่ผู้คนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็หันไปหาฉาวซวนและนักเดินทาง
ฉาวซวนวางแผนที่จะต่อสู้กับพวกเขาทั้งหมดเพียงคนเดียว ถ้าเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้ครั้งนี้ได้ เขาไม่สามารถปล่อยให้สมาชิกชนเผ่าเขาเพลิงเสียชีวิตได้ ฉาวซวนไม่ได้คิดจะตายเพื่อปกป้องพวกเขา เขาจะปกป้องพวกเขาตามความประสงค์ของหมอผี ในเวลาเดียวกัน เขาสามารถปล่อยให้คนอื่นๆ รู้ถึงความแข็งแกร่งของนักรบเผ่าเขาเพลิง
ฉาวซวนไม่ใช่คนหยิ่งยโส หลังจากที่เขาได้พบกับบางคนในภาคกลาง เขามั่นใจว่าเขาสามารถเอาชนะคนเหล่านั้นได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันเป็นการยากที่จะเอาชนะคนที่เข้มแข็งของชนเผ่ามั่งพร้อมกับเครื่องประดับหยกแบบสามในสี่ส่วน แต่เขามั่นใจว่าเขาสามารถเอาชนะนักรบระดับกลางและต่ำกว่าได้ เมื่อเขาเห็นนักเดินทางที่มาที่นี่ เขาไม่ได้หนีเพราะในหมู่พวกเขามีเพียงสองคนเท่านั้นที่เป็นนักรบระดับกลางและส่วนที่เหลือเป็นนักรบระดับล่าง
นักเดินทางไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับจุดแข็งของฉาวซวน แต่เขาก็สามารถรู้เรื่องเหล่านี้ได้เมื่อใช้พลังสัญลักษณ์เล็กน้อย เมื่อพวกเขามาถึงที่นี่ พวกเขาแสดงพลังของพวกเขาเพื่อปลูกฝังความกลัวในกรณีที่คนอื่นๆไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นนักรบ
แต่ ทั้งฉาวซวนและชายที่อยู่ข้างหน้าเขารู้อย่างชัดเจนว่าในขณะนี้ใน หมู่ผู้ที่เฝ้าอยู่ในเผ่า เรือยาว นักรบระดับสูงบางคนควรตระหนักถึงสถานการณ์ที่นี่ ถ้าพวกเขาเริ่มที่จะต่อสู้ นักรบระดับสูงจะมาหยุดพวกเขา พวกเขาไม่อนุญาตให้มีการสู้รบระหว่างนักรบระดับกลางที่เขตแดนของเผ่า
เมื่อวันนี้ หยานซุ่ยบอกกับเขาเกี่ยวกับสภาพอากาศเลวร้าย ดังนั้นฉาวซวนจึงไม่อยากถูกขับออกจากชนเผ่าในวันนี้
เนื่องจากเขาไม่สามารถต่อสู้กับพวกเขาได้โดยตรง เขาจึงต้องยอมให้ตัวเองมีท่าทางที่คุกคามและแข็งแกร่งขึ้น
บรรยากาศก็ตึงเครียด และพลังของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ฝูงชนในบริเวณโดยรอบสามารถรู้สึกถึงพลังของพวกเขาได้
เผชิญหน้ากับฉาวซวน นักเดินทางได้พบว่าเขาไม่อ่อนแออย่างที่คิด เขาคิดว่าฉาวซวนเป็นนักรบจากชนเผ่าเล็ก ๆ แต่ไม่เคยคาดหวังว่าเขาจะเป็นนักรบระดับกลาง! ข้อเท็จจริงนี้เป็นเหมือนภูเขาที่หนักหน่วง และภูเขาก็ยังคงสูงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ถ้ามันยังใหญ่โตขึ้น เขาอาจจะล่มสลายลง
ลงมือเมื่อเขาไม่ได้สังเกตเห็น? ไม่ ตอนนี้เขาถูกรบกวนมากขึ้นเรื่อย ๆ และไม่มีความมั่นใจที่จะเอาชนะชายหนุ่มคนนี้
ขณะที่นักเดินทางกำลังคิดหาวิธีจัดการกับฉาวซวน เขาก็รู้สึกกลัวมาก เขาเกือบสั่นสะท้านและไม่สามารถบอกได้ว่าทำไม
นักเดินทางที่ใกล้ชิดกับเขาก็รู้สึกกลัว เหยียนจื่อและอีกสามคนที่ยืนอยู่ข้างหลังฉาวซวนก็รู้สึกว่าบางอย่างผิดปกติ
คนที่ยืนอยู่ห่างจากพวกเขาไม่สามารถรู้สึกถึงพลังของพวกเขา และสงสัยว่าทำไมทั้งสองมองกันไปมาเป็นเวลานาน พวกเขายังคงรอการต่อสู้ระหว่างนักรบ
เฉพาะนักรบที่ยืนอยู่ด้านหน้าของฉาวซวนรู้ว่าสายตาของเจ้าเด็กเหลือขอตรงหน้าเขาได้กลายเป็นพล่าเบลอ เขาไม่ได้มองจ้องไปและดูเหมือนว่าเขาอยู่ในความงุนงง
นี่ควรเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการโจมตีเขา แต่นักเดินทางมีสัญชาตญาณว่าถ้าเขาขยับตัวในขณะนั้น ไม่ใช่เจ้าเด็กเหลือขอนี้ แต่เขาจะตาย เขามักจะเดินทางไปกับกลุ่มเดินทางและเขายังเชื่อในสัญชาตญาณของเขา ถ้าพวกเขายังคงทำเช่นนี้ เขาก็จะเสียหน้า เมื่อเขาขยับไปแล้ว สิ่งที่เขาสูญเสียไปจะไม่เป็นแค่หน้าของเขาเท่านั้น
ในขณะนี้ ฉาวซวนกำลังสงสัยว่าทำไมสัญลักษณ์ในใจของเขาจึงมีปฎิกิริยามากขึ้นเมื่อใช้พลังสัญลักษณ์ มันมีปฎิกิริยามากเกินไป เปลือกไข่สลัวเลือนลางที่ปกคลุมสัญลักษณ์สว่างขึ้น ในขณะนี้ สัญลักษณ์เริ่มมีมีปฎิกิริยามากขึ้น มันเริ่มขยายใหญ่ขึ้นและเปลวไฟพันรอบสองเขาแตรเคลื่อนไหวอย่างลุกโชนโหมกระหน่ำ
ในขณะนี้ฉาวซวนรู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างอยู่ด้านหลังเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มองไปที่นักเดินทางที่อยู่ข้างหน้าเขา เขามองกลับไปและเห็นผู้หลงไหลทั้งสี่คนของชนเผ่าของเขายืนอยู่ข้างหลังเขา
ผู้ที่สนใจฉาวซวนที่อยู่ใกล้เคียงเห็นการเคลื่อนไหวของฉาวซวนและพวกเขาก็มองย้อนกลับไป พวกเขาทั้งหมดตกใจและอยู่ในความงุนงง
ลวดลายสัญลักษณ์ปรากฏบนใบหน้าของเหยียนจื่อและอีกสามคน และไม่ได้ดูเลินลางอีกต่อไป แต่เห็นได้ชัดเจนเหมือนเป็นนักรบที่แท้จริง
ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังฉาวซวน, หยานซุ่ยรีบดึงประตูออก นอกจากนี้ เขายังเปิดเผยลวดลายสัญลักษณ์บนใบหน้าของเขาตอนนี้ แต่เขาใช้เพียงพลังจเท่านั้นเพื่อหาคำตอบ
ในสายตาของหยานซุ่ย ฉาวซวนถูกหุ้มด้วยเปลวไฟ ซึ่งมองไม่เห็นจากคนอื่นๆ ยกเว้นเขาเพราะเขาจะเป็นหมอผีคนต่อไป
เมื่อนักเดินทางเห็นฉาวซวน พวกเขาตกใจ ราวกับเห็นมังกรออกมาจากไข่นกกระทา
เมื่อหยานซุ่ยเห็นฉาวซวน เขาก็ตกใจ แต่ราวกับว่าเขาเห็นเทพผู้พิทักษ์ออกมาจากไข่นกกระทา เขาคิดว่ามันไม่น่าเชื่อ แต่มันก็เกิดขึ้น ทุกอย่างที่เขาเห็นคือความจริง
ฉาวซวนกล่าวว่าเขาไม่ใช่หมอผี แต่ทำไมเขาถึงมีพลังจากเปลวไฟ ?!
นอกจากนี้ หยางซุ่ยไม่ได้ตั้งใจที่จะใช้พลังสัญลักษณ์แต่พลังแห่งการสืบทอดเฉพาะตนของหมอผีทันใดนั้นก็ทำงาน จากนั้นพลังสัญลักษณ์ก็เริ่มทำงาน
หยานซุ่ยงุนงงมากและสงสัยว่า "ฉาวซวนคือใครในท้ายที่สุด?"
เผ่าเขาเพลิง เป็นชนเผ่าแบบใดในโลกใบนี้?
เป็นครั้งแรกที่หยานซุ่ยเริ่มสงสัยเกี่ยวกับชนเผ่านี้ที่หายไปเป็นเวลาหลายพันปี ในเวลาเดียวกัน เขากำลังรอคอยการปรากฏตัวของชนเผ่านี้ในภาคกลาง ถ้าเกิดขึ้นอีกครั้ง ภาคกลางจะต้องเกิดเรื่องวุ่นวายอย่างมาก
หยานซุ่ยตกใจมาก ในขณะที่นักเดินทางมีความต้องการที่จะถอย
นัรบ สี่นักรบ!
ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้หลงทาง? ถ้าพวกเขารู้ว่าพวกเขาเป็นนักรบทั้งหมด พวกเขาจะไม่มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา ความขัดแย้งของพวกเขาจะนำไปสู่การต่อสู้ระหว่างสองชนเผ่า เผ่าของพวกเขาไม่ใหญ่ ดังนั้นพวกเขาไม่ต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการต่อสู้ และ...
นักเดินทางเพียงไม่กี่คนมองไปที่ฉาวซวน ชายหนุ่มคนนี้ทรงพลัง ดังนั้นชนเผ่าเขาเพลิงจึงไม่อาจอ่อนแอ ใช่ไหม?
เหยียนจื่อและคนอื่น ๆ กำลังอยู่ในอาการตื่นเต้น
พวกเขามีความรู้สึกเช่นเดียวกับที่พวกเขาได้รับในวันนั้นเมื่อลวดลายสัญลักษณ์ปรากฏตัวขึ้น พวกเขารู้สึกมีพลัง พวกเขาต้องการสิ่งนี้มาเป็นเวลานาน แต่ครั้งนี้ ความรู้สึกของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้น พวกเขามองไปที่คนอื่น ๆ และเห็นลวดลายสัญลักษณ์บนใบหน้าของพวกเขา พวกเขาตื่นเต้นมาก
สื่งที่เป็นปัญหาก็คือ พวกเขาสามารถเผชิญกับมันตรงหน้า มากกว่าที่จะต้องหลบหนี แม้ว่าพวกเขามีความกล้าหาญ พวกเขาขาดความแข็งแกร่ง ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ช่องว่างระหว่างพวกเขา
ผู้ที่เข้าใจสถานการณ์ได้ดีสามารถอยู่รอดได้ ทุกคนหวังว่าสักวันหนึ่ง พวกเขาสามารถหาทางแก้แค้นกับผู้ก่อกวน แต่พวกเขาไม่สามารถทำได้เพราะพวกเขาไม่มีพลังพอ
แต่ตอนนี้มันแตกต่างกัน! แม้ว่าจะเป็นสถานการณ์ชั่วคราว แต่พวกเขามีความมั่นใจมากพอสมควร
หน้าเหลี่ยมของเจี่ยวอู่แสดงความมั่นใจและพร้อมที่จะต่อสู้กันซึ่งๆ หน้า เขามองไปที่นักเดินทางหลายคนที่ด้านหลัง เขาไม่สามารถเอาชนะคนที่ทรงพลัง แต่เขาวางแผนที่จะเอาชนะคนที่อ่อนแอ
ตรงกันข้ามกับเจี่ยวอู่และคนอื่น ๆ ที่พร้อมจะต่อสู้ คนที่นำโดยเฮ่อเอ๋อร์ได้เปลี่ยนสีหน้าของพวกเขา ในที่สุด พวกเขาก็ได้รับความกล้าหาญที่มาที่นี่เพื่อต่อสู้ แต่มันกลับกลายเป็นว่าพวกเขาจะไม่มีโอกาสได้ต่อสู้
พวกเขาอิจฉาเจี่ยวอู่และคนอื่น ๆ จริงๆ