px

เรื่อง : เว่ยชีชี ทะลุมิติมาป่วน
ตอนที่ 10 บุปผาบานแฉ่ง


หลิวจ่งเทียนจ้องเว่ยชีชีตาเขียวปัดเขาออกคำสั่งท่านรองหลิวที่พร้อมรอรับคำสั่งอยู่ด้านหลังในทันที “บอกเขาสิว่า บทลงโทษของการหาเรื่องวิวาทกันในค่ายเป็นเช่นไร ?

 

ผู้มีตำแหน่งรองผู้บัญชาการไม่รั้งรอปล่อยโอกาสงามครานี้หลุดไป เขาตรงเข้ามาหย่อนเข่าลงข้างหนึ่งตรงหน้าเว่ยชีชีด้วยท่าทีลำพอง

 

“สร้างเรื่องทะเลาะวิวาทในค่ายรบ อย่างเบาถูกโบย 20 ไม้ ทัณฑ์หนักประหารชีวิตได้ทันที !”

 

“ลงทัณฑ์โบย 20 ไม้ !” หลิวจ่งเทียนประกาศกร้าวเสียงแข็งก่อนจะส่งชีชีให้รองผู้บัญชาการหลิวพร้อมหันหลังไปจากที่นั้น

 

ชีชีกำลังคิดว่าเมื่อครู่ ตนฟังสิ่งใดผิดไปหรือเปล่า ? โบย 20 ไม้ ? จะต่างอันใดกับนอนรอความตาย ? นี่มันกฏบ้าบออันใดกัน ? เทพเซียนบนสวรรค์โปรดบันดาลสายฟ้าฟาดใส่ให้หน่อยจะได้ไหมบางทีอาจเป็นหนทางให้เธอสามารถคืนสู่โลกอนาคตได้ !

 

ชีชีถูกลากตัวไปยังลานลงทันฑ์ หลายคนมารออยู่ก่อนหน้าเพื่อร่วมเป็นสักขีพยานสะใจกับการลงทัณฑ์สมาชิกใหม่ใบหน้าอัปลักษณ์ เพียงได้เห็นไม้โบย ชีชีก็แทบลมใส่ หากไอ้นั่นตีกระแทกใส่ก้นเธอ มีหวังก้นคงแบะราวดอกไม้บานเป็นแน่…..

 

รองผู้บัญชาการหลิวเข้ามาพูดใส่หน้าผู้เตรียมรับการลงทัณฑ์ “อย่าได้คิดว่าท่านอ๋องให้เจ้ารั้งอยู่ข้างพระวรกายแล้วเจ้าจะทำตัวหยิ่งผยองยโสได้ เป็นอย่างไรเล่า ? ยามนี้เจ้าก็ต้องรับโทษทัณฑ์เช่นกัน ! กฎการศึกนั้นเข้มงวด

ทั้งท่านอ๋องยิ่งไม่ทรงโปรดความขัดแย้งกันเองในกองทัพ !

 

“เจ้าบ้า ! หากเจ้ากล้าตีก้นข้า ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าได้มีชีวิตอย่างสงบสุขเป็นแน่ !”

 

“ยังจะทำปากดีอีกรึ ! โบย !”

 

ทันทีที่สิ้นคำสั่งของรองผู้บัญชาการ ทหารสองนายก็ตรงเข้ามาพร้อมไม้โบยอย่างหนา ทหารทั้งสองนั้นก็คือผู้ที่ถูกชีชีอัดจนแทบฟันโยก เช่นนั้นจงอย่างได้หวังว่าทั้งคู่จะเบามือ

 

“เดี๋ยว !” เธอยกมือขึ้นปิดบั้นท้ายงอนงามพลางหันไปกัดฟันถามรองผู้บัญชาการหลิว “นี่จะเอาจริงรึ ?”

 

“พูดจาไร้สาระ ! บัญชาการทหารสูงส่งดั่งภูผา ! โบย !”

*บัญชาการทหารสูงส่งดั่งภูผา หมายถึง คำสั่งทัพต้องยึดถือหนักแน่น ต้องกระทำตามอย่างเคร่งครัดต้องให้ความสำคัญ

 

เพียงครู่ บั้นท้ายของชีชีก็บานแฉ่งเป็นดอกไม้บาน

 

หลังได้รับทัณฑ์โบย 20 ไม้ไปแล้ว เหล่าทหารทั้งหลายยังคอยตามป้วนเปี้ยนหัวเราะเยาะใส่ ทั้งยังมีน้ำลายถ่มตามสำทับมาให้ได้รับรู้อีกเป็นระยะ นับแต่เยาวว์วัย ไม่เคยมีผู้ใดกล้าตีเธอ เพียงเธอเท่านั้นที่สามารถไล่ตีผู้อื่นได้

 

“หลีกไป !” เธอคำรามลั่น “ข้าฟื้นตัวเมื่อไรจะมากลับมาคิดบัญชีพวกเจ้าแน่ ข้าจะอัดพวกเจ้าทุกคนให้ฟันร่วงหมดปากเลย คอยดู !”

 

แต่ละคนต่างหันมามองหน้ากันเลิ่กลั่กด้วยเกรงว่าเมื่อไรที่เจ้าวายร้ายตัวน้อยรักษาแผลจนหายสนิท มันจะกลับมาตามล้างแค้นพวกเขาทุกคนชนิดซัดเกลี้ยงไม่เว้นตัวคน เพียงเท่านั้นทุกคนต่างชิ่งหนีไปคนละทิศละทางอย่างเร็วรี่

 

ชีชียังคงนอนพังพาบอยู่กับพื้นอีกครู่ใหญ่ เธอจะทำใจยอมรับความไม่เป็นธรรมเช่นนี้ได้เยี่ยงไร ? ทั้งอับอาย ทั้งรู้สึกอยุติธรรมจนแทบอยากตาย หญิงสาวลุกขึ้นวิ่งหนีออกไปทั้งน้ำหูน้ำตาไหลนอง ทว่าที่สุดก็ไม่เหลือทางเลือกอื่นใดนอกจากบังคับแขนขาให้กลับคืนมาสู่กระโจมที่พักของหลิวจ่งเทียน เธออยากรู้นักว่าเจ้าอ๋องจอมงั่งผู้นั้นถือสิทธิใดมาลงโทษผู้อื่นอย่างมักง่ายเช่นนี้ ? เรื่องนี้ใช่ความผิดของเธอแต่ผู้เดียวที่ไหน ! ทหารพวกนั้นก็มีส่วนผิดด้วยเช่นกัน หากคนผู้หนึ่งต้องถูกลงทัณฑ์ย่อมต้องถูกลงทัณฑ์ด้วยกันสิ้นทุกคน

 

หลิวจ่งเทียนเห็นเว่ยชีชีกลับมายังกระโจม ทั้งยังเห็นหน้าบอกบุญไม่รับที่แสดงออกมาพร้อมสีหน้าเดียจฉันท์ก็รู้แล้วว่าหนุ่มน้อยข้างกายเขาผู้นี้ยังมิรู้ความผิดตน ท่านอ๋องหนุ่มวางหนังสือลงก่อนจะเอ่ยคำกับอีกฝ่าย “หากเจ้ายังกล้าสร้างเรื่องวุ่นวายอีก คราหน้า เตรียมรับทัณฑ์โบย 40 ไม้ได้เลย !”

 

“แล้วเหตุใดท่านไม่ลงโทษพวกเขาด้วยเล่า ? พวกเขาต่างหากที่รุมรังแกข้า !”

 

“ยังจะกล้าเถียง ! เปิ่นหวางเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดกับตา หาได้เป็นดั่งที่เจ้ากล่าวไม่ !”

 

“หากข้าเห็นหน้าพวกมันอีกครา ข้าจะอัดพวกมันให้แหลกคามือไปเลย ดูสิมันจะยังมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมได้อีกไหม !”

 

“หากคราหน้ายังเป็นเช่นนี้อีก เปิ่นหวางจะสั่งประหารเจ้าทันที !”

 

“เฮอะ ! อย่างไรท่านก็เป็นผู้บัญชาการทัพอยู่แล้วนี่ ตัวท่านก็คือกฏหมาย ! จะกล่าวอย่างไรก็ย่อมได้อยู่แล้ว !” ชีชีเดินกลับไปหามุมสงบของตนก่อนจะล้มตัวลงเอาอกพาดพื้นด้วยยังมิกล้าหย่อนก้นลงนั่ง ปากของเธอยังคอยบ่นอุบอิบพึมพำไปเรื่อยจนฟังไม่ได้ศัพท์

 

***จบตอน บุปผาบานแฉ่ง***

 

รีวิวผู้อ่าน