px

เรื่อง : เว่ยชีชี ทะลุมิติมาป่วน
ตอนที่ 27 วู้ ! หวิดแล้วไหมเล่า !


แม้หลิวจ่งเทียนจะไม่ค่อยเข้าใจในถ้อยคำหลายครั้งที่หลุดออกมาจากหนุ่มน้อย ทว่าเขาตระหนักดีถึงความประหลาดพิสดารของเจ้าหนุ่มผู้นี้ เช่นนั้นท่านอ๋องหนุ่มจึงหลีกจากไปด้วยความรู้สึกกังขาภายในใจดังเช่นที่ผ่านมา

นับแต่เว่ยชีชีประดิษฐ์สบู่ขึ้นใช้ เธอก็เป็นที่รักใคร่ของบรรดาเหล่าทหารทั้งหลายในค่าย เมื่อได้อาบน้ำชำระกาย สวมใส่เสื้อผ้าสะอาดสดชื่นย่อมช่วยให้รู้สึกสบายตัวอย่างไม่อาจหาถ้อยคำใดมาบรรยายได้

ชีชียังเก็บรวบรวมดอกไม้สดมาบดใส่เข้าไปในก้อนสบู่ ทั้งยังป่าวประกาศโพนทะนาไปทั่วว่าสบู่ของเธอนั้นแสนจะช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย อารมณ์ดี และแน่นอน เงื่อนไขการตอบแทนย่อมต้องมีอย่างมิต้องกล่าวถึง ไม่เพียงสำรับรสเลิศเท่านั้น เธอยังอยากได้คนมาช่วยรองมือรองเท้าสร้างความสบายรอบกาย เมื่อยามนี้ นายทหารจำนวนมากต่างกลับกลายมาเป็นทหารรับใช้ที่ห้อมล้อมอยู่รอบกาย ชีวิตของเธอจึงถูกเนรมิตรให้เป็นดั่งท่านอ๋องตัวน้อยในค่ายทหารอันเกรียงไกร ชีวิตยามนี้สุขสันต์แสนสบายเสียยิ่งกว่าท่านอ๋องตัวจริงด้วยซ้ำกระมัง

หลิวจ่งเทียนยังคงอยู่ในกระโจมหลังใหญ่ ในมือของเขาคือก้อนสบู่ที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งอย่างมีเอกลักษณ์ ยามนี้เขากำลังตกอยู่ภายใต้ห้วงภวังค์แห่งความคิดอย่างหลงลืมตัว เว่ยชีชีผู้นี้อัศจรรย์ยิ่งนัก ทั้งยังแฝงความน่ารักแสนร้ายกาจอยู่ในตัว ท่านอ๋องหนุ่มวางก้อนสบู่เดินออกไปนอกกระโจม มิทันรู้ตัวเลยว่าตนเดินมาถึงแม่น้ำสายน้อยที่อยู่ข้างค่ายตั้งแต่เมื่อไร ที่เห็นไกล ๆ อยู่นั้นคือเว่ยชีชีผู้กำลังเล่นอยู่กับนายทหาร 6-7 นายอย่างร่าเริงสนุกสนาน กระทั่งท่านรองหลิวก็อยู่ร่วมสนุกกับทุกคนด้วย ถังไม้อันหนึ่งวางไว้บนพื้น ด้านบนคือแท่งเหล็กบาง

“รองหลิว เร็วสิ ผลักแรง ๆ เลย เร็ว ๆ !” เสียงชีชีร้องเชียร์ปรบมือลั่น

รองผู้บัญชาการหลิวออกแรงตวัดแขนเต็มที่ ท่อน้ำที่ถูกต่อไว้ให้สูงยาวถูกปัดกระเด็น น้ำกระเซ็นไปทั่ว พวกทหารที่ถูกน้ำกระฉอกใส่ต่างพากันวิ่งไล่สาดน้ำใส่ชีชีหัวโจกตัวดีกันจ้าละหวัน

ฝ่ายชีชีก็กระโดดกระเด้งวิ่งหนีตาเหลือกตาพองมาหาหลิวจ่งเทียนในทันที น้ำที่ถูกราดรดทำให้เสื้อผ้าเปียกปอนส่งผลให้เสื้อผ้าติดแนบเนื้อ เผยเรือนร่างที่ยั่วยวนสายตาอย่างที่สุด หญิงสาววิ่งหนีออกมาอย่างปราดเปรียวราวนกนางแอ่นลิ่วลม ทว่าหลิวจ่งเทียนกลับเสมือนกำลังยืนมองสาวน้อยตกน้ำผู้วิ่งหนีหน้าตาตื่นเข้ามา

เขารีบคว้าตัวเธอไว้แน่น สายตาทั้งคู่กวาดมองลงที่เนินอกในทันที ส่วนชีชีก็เฉียบไวยิ่งนัก เธอรีบก้มตัวลงนั่งคุกเข่า ในหัวมีเพียงภาพศีรษะที่ถูกกุดขาดกระเด็นโลหิตสาดกระเซ็น

เธอไม่รีรอรีบทำทีกุมท้องท่าทางเจ็บปวดโอดครวญใหญ่โต “โอ๊ย ! ปวดท้องจัง ปวดจริง ๆ เลย !” จากนั้นร่างบางอันเปียกปอนก็วิ่งหนีหลุบหายไปจากคลองสายตาของท่านอ๋องหนุ่มอย่างไม่เหลือร่องรอยใด

เกือบไปแล้วไหมเล่า ! เว่ยชีชีได้เพียงก่นด่าตนเองในใจ ไยสวรรค์ชอบเล่นตลกกับเธอนัก เมื่อไรจะกลับไปโลกปัจจุบันได้เสียที หากหลิวจ่งเทียนรู้ว่าเธอคืออิสตรี คงได้โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง กระบี่ในมือเห็นจะได้ตวัด ‘ฉัวะ’ ใส่หัวเธอเลือดกระฉูดเป็นแน่

หญิงสาวรีบยกมือขึ้นจับสำรวจความมีอยู่ของศีรษะ เมื่อนึกถึงคุณปู่ คุณพ่อ รถพอร์ชคันหรู กับทั้งอินเตอร์เนตความเร็วสูง เตียงนอนหลังใหญ่แสนสบาย กับอ่างอาบน้ำสุดอลังการ ความรู้สึกที่ถูกเทิดทูนไว้สูงส่งเหนือผู้ใดก็ยิ่งอยากจะร่ำให้

“ระเบิดปราการตระเตรียมไปถึงไหนแล้ว ? สองสามวันมานี้ข้าเห็นเจ้าชะล่าใจเสียเหลือเกิน !” จู่ ๆ เสียงของท่านอ๋องสามก็ดังลั่นสั่นประสาทขึ้นมา


ชีชีหันขวับกลับไปทันที “วันพรุ่งทุกอย่างจะเรียบร้อย พวกเราจะซัดเจ้าพวกซุยงหนูให้ลอยละลิ่วไปถึงชั้นฟ้าเลยทีเดียว !

มิรู้ด้วยเหตุใด หลิวจ่งเทียนจึงรู้สึกว่าน้ำเสียงของชีชีช่างหวานใสน่าพึงพอใจยิ่งนัก ทั้งเรือนผมสีดำสนิท ทั้งลำคอ ท่อนแขน ปลายนิ้วตลอดทั่วร่างของเจ้าหนุ่มน้อย ไยจึงทำให้จิตใจผู้คนหวั่นไหวด้วยความหลงใหลได้เช่นนี้ ? อย่าบอกนะว่าในใจลึก ๆ ของเขาได้เปิดใจยอมรับหนุ่มน้อยชีชีในฐานะสตรีผู้หนึ่งไปเสียแล้ว ?

หลิวจ่งเทียนแบกความรู้สึกหนักอึ้งอัดแน่นไปด้วยข้อกังขามากมายกลับกระโจมอย่างไม่อาจข่มตาหลับลงได้ ครั้นเมื่อหันไปเห็นชีชีนอนหลับสบายอยู่ข้างกาย เสียงเรียกร้องภายในใจก็ยิ่งบีบรัดให้เขาอยากรู้ยิ่งนักว่าแท้จริงผู้ที่อยู่เบื้องหน้าเขานี้คือบุรุษ หรือสตรีกันแน่

เช้าวันถัดมา เว่ยชีชีเข้าไปจัดเตรียมถังระเบิดน้ำมันด้วยตนเองอย่างระมัดระวังพลางหันไปมองทะเลทรายที่กว้างไกลสุดสายตาพร้อมรอยยิ้มเยาะ หากเจ้าพวกซุยงหนูกล้าบุกมาเมื่อไร เธอจะป่นพวกมันให้เป็นผงเลยทีเดียว

และเป็นดังที่คาด เมื่อระเบิดปราการสามารถจัดการเป่าพวกซุยงหนูให้พินาศเป็นจำนวนมหาศาล หนึ่งในสามส่วนของทัพซุยงหนูที่บุกเข้ามาในครานี้ย่อยยับภายใต้แรงระเบิดน้ำมันปลา ควันหนาทึบขนาดยักษ์พวยพุ่งสูงขึ้นกลางทะเลทรายอย่างเห็นได้ชัดจากที่ไกล ผืนฟ้าสว่างไสวด้วยแสงไฟ ทะเลเพลิงแผ่กระจายกินพื้นที่กว้างไกลหลายลี้ ทั่วอาณาบริเวณร้อนระอุขึ้นอย่างรวดเร็ว

ระเบิดจากน้ำมันปลาเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่แตกต่างจากปืนใหญ่ของอาณาจักรฮั่นอันยิ่งใหญ่ในสมัยนั้น เพราะเมื่อร่างคนผู้นั้นถูกระเบิดแล้ว น้ำมันปลาจะแตกกระเซ็น และยังคงแผดเผาร่างเหยื่อต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เช่นนั้นเมื่อน้ำมันปลากระเด็นไปต้องกายทหารซุยงหนู แม้พวกเขาจะไม่ถูกระเบิดอัดใส่ก็ตามที การจะเหลือรอดชีวิตจากน้ำมันปลาที่กระจัดกระจายไปทั่วนับว่ายากยิ่ง

ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า หลังการกระหน่ำระเบิดตลอดแผงอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ติดตามมาก็คือความเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างหาที่สุดมิได้ ทัพซุยงหนูแทบต้องสูญเสียพลทัพชั้นหัวกะทิไปเกือบทั้งหมด พวกที่ยังหลงเหลือนั้น เพียงได้รับรายงานความน่าหวาดกลัวของทัพฮั่นต่างก็พากันแตกฮือหนี หากพวกเขายังฝืนบุกทะลวงเข้ามาอีกคงได้พินาศสิ้นไม่มีเหลือ

หลิวจ่งเทียนผู้ยืนบัญชาการอยู่ในค่ายรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ตลอดทั่วทั้งเรือนกายสะท้านไปถึงจิตวิญญาณ เขาทอดสายตาไปไกลยังกลุ่มควันหนาที่พวยพุ่งสูงด้วยแทบไม่อยากเชื่อสายตา ทั้งตื่นเต้นสุขใจ ทั้งห่วงวิตกกังวลถึงเว่ยชีชีในเวลาเดียวกัน มิอาจล่วงรู้ได้เลยว่าเจ้าหนุ่มน้อยข้างกายจะหนีออกมาได้ทันท่วงทีหรือไม่ แรงระเบิดจะทำให้เด็กคนนั้นได้รับบาดเจ็บใดหรือไม่ ?

ขณะกำลังว้าวุ่นใจอยู่นั้น เว่ยชีชีก็นำหน่วยทหารราว 12 นายวิ่งกลับมายังฐานที่มั่น เขม่าควันสีดำบนดวงหน้าบ่งบอกเรื่องราวทุกอย่างได้ชัดเจน ที่สุดเจ้าหนุ่มตัวป่วนก็หนีออกมาไม่ทันอีกจนได้

“ให้ตายเถอะ ! หวิดไปแล้วไหมเล่า ! ไอ้เจ้าระเบิดบ้านั่นเกือบเอาชีวิตข้าไปด้วยเสียแล้ว !” เว่ยชีชีโวยวายกระฟัดกระเฟียด

เสียงเชียร์ดังสนั่นกึกก้องไปทั่วทั้งค่าย ทหารทุกนายต่างรู้สึกว่าศึกครานี้น่าตื่นเต้นสะใจนัก เว่ยชีชีผู้นี้ประดุจเทพสงคราม มิอาจดูเบาร่างน้อย ๆ กับใบหน้าแสนอัปลักษณ์ที่เห็นจากภายนอกได้อย่างแท้จริง เมื่อถึงครางัดกลยุทธต่าง ๆ ออกใช้ เจ้าหนุ่มผู้นี้กินขาดกว่าผู้ใดทั้งหมด !

“ในวันนี้ สามเหล่าทัพล่าถอย พวกมันพาตัวเองมาลงตะแกรงย่างโดยแท้ !” ครานี้ผลงานของชีชียอดเยี่ยมสมบูรณ์ไร้ที่ติ จึงทำให้หลิวจ่งเทียนสุขสมใจยิ่งนัก

เหล่าทหารทั้งหลายต่างเบิกบานยินดี ศัตรูล่าถอยโดยไม่ต้องสูญเสียทหารแม้เพียงสักนาย นับเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างที่สุด !

ยามนี้ทั้งควันทั้งเขม่าต่างอัดแน่นอยู่ในปากของเว่ยชีชี เธอพยายามกระดึ๊บตัวกลับกระโจมใหญ่ และสั่งให้ทหารรับใช้ตระเตรียมน้ำอาบชำระกาย ครั้นเมื่อได้แช่ตัวจุ่มลงน้ำจึงค่อยรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง ขณะที่บรรดาทหารทั้งหลายกำลังตื่นเต้นยินดีอยู่นั้น ชีชีก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า สวมเสื้อยืดกางเกงยีน ชุดของเธอแสนสบายตัวที่สุดแล้ว ยิ่งหากนำไปเปรียบกับชุดศึกใหญ่เทอะทะหนาเตอะที่แทบจะทำเอวเคล็ดนั่นแล้วก็ยิ่งต่างกันราวฟ้ากับเหว

เมื่อชีชีเดินออกมานอกกระโจมจึงเห็นภาพอันงดงามตระการตาทางด้านนอก มิรู้เลยว่ากองไฟถูกก่อขึ้นตั้งแต่เมื่อไร รอบกองไฟเรียงรายไปด้วยโต๊ะตั้งเป็นแนว สุราชั้นเลิศ อาหารชั้นยอดถูกจัดขึ้นโต๊ะวางเป็นระเบียบ


***จบตอน วู้ ! หวิดแล้วไหมเล่า !***

รีวิวผู้อ่าน