px

เรื่อง : วันสิ้นโลก
ตอนที่ 11 สงครามเลือด  ทางตัน 


ตอนที่ 11 สงครามเลือด  ทางตัน 

 

โฮก

ฮวางซางเตรียมการป้องกันด้วยพลังจิตวิญญาณทั้งหมด  ขณะที่กำลังพิจารณาว่าจะรับมือกับสัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนี้ยังไงอยู่นั้น ดูเหมือนสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้หมดความอดทนลง จึงได้ส่งเสียงคำรามอันแหบแห้งออกมา หลังจากนั้นแขนขาทั้งสี่ก็ได้ขยับขึ้นก่อนกระโดดพุ่งพรวดเข้ามาทางฮวางซางอีกครั้ง

เวลาที่สั้นขนาดนี้ทำให้ ฮวางซางคิดหาวิธีการรับมือกับสัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนี้ไม่ออก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงกวัดแกว่งเหล็กงัดที่อยู่ในมือนั้นขึ้นมา ทุบไปบนสัตว์ประหลาดสีเลือดที่กำลังพุ่งตัวเข้ามานั้นอย่างโหดเหี้ยม

ปัง

แต่มันก็เป็นไปตามที่ฮวางซางกังวลจริง ๆ เหล็กงัดที่มีรอยแตกบิ่นในมือแท่งนี้ไม่สามารถต้านทานกรงเล็บอันแหลมคมของสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้

ก่อนตามมาด้วยเสียงของโลหะที่กระทบกันอย่างรุนแรงดังขึ้น โลหะที่หลอมจนเป็นเหล็กกล้ายากที่จะแตกหักได้แท่งนี้ก็ได้ถูกเล็บอันแหลมคมของสัตว์ประหลาดตัวนี้สับจนแตกละเอียดอย่างไม่คาดคิด เหลือเพียงส่วนที่สั้นลงในมือของฮวางซางเท่านั้น

และในเวลาเดียวกัน พลังการโจมตีขั้นรุนแรงที่เข้ามานั้นก็ทำให้แขนทั้งสองข้างของฮวางซางรู้สึกได้ถึงความชาไม่น้อยจนสูญเสียการทรงตัว ร่างทั้งร่างจึงได้ลอยละลิ้วไปด้านหลัง

ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนี้

แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ สัตว์ประหลาดที่มีทักษะการไล่ล่าที่ชำนาญเกินกำลังตัวนี้ไม่ปล่อยให้ฮวางซางได้หยุดพักหายใจแต่อย่างใด ดังนั้นยังไม่ทันที่ฮวางซางจะร่วงหล่นลงไปบนพื้น  สัตว์ประหลาดสีเลือดที่ยังไม่ได้ร่วงหล่นลงไปเหมือนกันตัวนี้ก็ได้อ้าปากใหญ่ๆนั้นของตัวเอง ก่อนจะแลบลิ้นยาวๆสีเลือดที่ทั้งแหลมทั้งคมนั้นออกมาราวกับสายฟ้าแลบ ความเร็วอันน่าตกใจนั้นได้พุ่งตรงมายังหัวของฮวางซางโดยตรงทันที

 “เหี้ย

เมื่อเห็นลิ้นยาวๆสีเลือดได้พุ่งตรงเข้ามานั้น เหงื่อตามไรผมของฮวางซางก็ได้ผุดขึ้นมา เพราะเขารู้ว่าคนขี่รถมอเตอร์ไซค์ก่อนหน้านั้นก็ได้ถูกลิ้นยาวๆสีเลือดอันนี้เจาะทะลุหัวกะโหลกไปอย่างง่ายดายเช่นกัน ถึงแม่ว้าคุณสมบัติในร่างกายของเขานั้นจะแข็งแกร่งมากกว่าคนทั่วไปก็ตาม  แต่ถ้าถูกลิ้นยาวๆสีเลือดเบื้องหน้านี้เจาะทะลุหัวไปละก็ เขาก็คงตายได้เหมือนกัน

ในช่วงเวลาที่ชี้เป็นชี้ตายนี้ ศักยภาพของฮวางก็ได้ถูกกระตุ้นขึ้นมา หัวและร่างกายของเขาที่ลอยเคว้งอยู่ในอากาศ ก็ค่อยๆหันเหเปลี่ยนทิศทางเล็กน้อย ถึงแม้ว่าการหันเหเปลี่ยนทิศทางนี้จะไม่ได้เปลี่ยนไปมาก และก็หลบหลีกการโจมตีของลิ้นยาวๆสีเลือดนั้นไม่ได้ก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ทำให้หัวของเขาหลบหลีกอาการบาดเจ็บได้  ก่อนที่มันจะโจมตีไปที่ไหล่ซ้ายของเขาแทน

ผลั้ะ

ในชั่วพริบตาเดียว เสียงของการฉีกขาดอย่างรุนแรงก็ดังขึ้น ลิ้นยาวๆอันนั้นได้แทงเข้าไปบนไหล่ซ้ายของเขาอย่างแรง เลือดจำนวนมากได้พุ่งออกมาทันใด อีกทั้งฮวางซางยังถูกพลังที่ครอบงำอยู่บนลิ้นยาวๆนั้นพุ่งเข้าใส่จนลอยละลิ่วไปด้านหลังอีกครั้งอีกด้วย  สุดท้ายก็ล้มลงไปนอนอยู่ข้างมอเตอร์ไซค์ของหนุ่มผมม่วงคนนั้นอย่างแรง

โฮก

และในเวลาเดียวกัน เมื่อเห็นฮวางซางหลบหลีกการโจมตีของตัวเองได้ ดูเหมือนสัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนั้นก็ถูกกระตุ้นอารมณ์โกรธขึ้นมาเช่นกัน มันส่งเสียงคำรามออกมา พร้อมกับหดลิ้นนั้นกลับไป ก่อนจะพยายามลากฮวางซางให้มาตรงหน้าของตัวเองเหมือนกับคนขี่ก่อนหน้านั้น หลังจากนั้นก็ทำการเข่นฆ่า และกลืนเป็นอาหาร

 “อ่า!!!!

ปลายแหลมของลิ้นยาวๆของสัตว์ประหลาดตัวนั้น ได้ลากตัวเขาเข้ามาอย่างรวดเร็ว ความเจ็บปวดที่ยากจะบรรยายออกมาได้นั้นที่แผ่ขยายออกมาจากหัวไหล่ข้างซ้ายของฮวางซาง ก่อนจะส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างน่าเวทนา

แต่ทว่าความเจ็บปวดนี้ ฮวางซางรู้ว่าไม่สามารถปล่อยให้สัตว์ประหลาดตัวนี้ลากเขาไปได้อย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเขาก็ต้องเจอกับจุดจบเช่นกัน

ดังนั้นในขณะที่มันกำลังส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความโกรธอยู่นั้น ฮวางซางก็กวัดแกว่งเหล็กงัดที่ยังเหลือเพียงครึ่งหนึ่งในมือของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง แล้วสับไปบนลิ้นยาวๆที่เสียบทะลุอยู่บนไหล่ซ้ายของเขาอย่างโหดเหี้ยม

ผละ

ติ้ง

พูดได้ว่าฮวางซางออกแรงทั้งหมดที่มีอย่างสุดกำลัง ภายใต้พละกำลังที่น่ากลัวของเขา ปลายอันแหลมคมของเหล็กงัดที่ดูราวกับตะปูปลายแหลมแท่งนั้น ก็ได้เสียบทะลุลิ้นยาวของสัตว์ประหลาดตัวนั้นอย่างรุนแรง ด้วยพลังที่เหลืออยู่อย่างต่อเนื่อง จนมันตอกทะลุลงไปในดินอย่างโหดเหี้ยม

โฮก

ถึงแม้ว่าลิ้นยาวนั้นจะเป็นอาวุธของสัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนั้นก็ตาม แต่ก็หนึ่งในส่วนที่อ่อนไหวง่ายที่สุดของมันเช่นกัน เมื่อลิ้นนั้นถูกฮวางฮวางตอกทะลุ มันก็ได้ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะพยายามพุ่งเข้ามาหมายจะฆ่า”อาหาร”ของตัวเองที่บังอาจทำให้มันได้รับบาดเจ็บคนนี้

แต่ฮวางซางจะไปนั่งรอความตายอีกทำไม?

 “ไปตายซะเสียงคำรามที่เต็มไปด้วยความโกรธของสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้ขยายออกมา ในขณะที่มันกำลังพยายามกระโดดพุ่งพรวดเข้าใส่ฮวางซาง เขากลับมีการตอบสนองได้ไวกว่า

เมื่อเขาได้ยินเสียงคำรามที่ดังขึ้นมาอย่างฉับพลัน มือขวาก็ได้ปล่อยเหล็กงัดครึ่งหนึ่งที่ตอกลิ้นยาวของสัตว์ประหลาดนั้นไว้ ก่อนจะหันไปจับมอเตอร์ไซค์ที่ล้มอยู่ข้างกายคันนั้นขึ้นมา ก่อนจะโยนออกไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง

น้ำหนักมอเตอร์ไซค์คันนี้ก็น่าจะอย่างน้อย 100 กว่ากิโลเห็นจะได้  ถ้าเป็นฮวางซางเมื่อก่อนแม้แต่สองแขนก็ยังยกมันขึ้นมาไม่ได้เลย การใช้มือข้างเดียวยกมันขึ้นมาแล้วโยนออกไปยิ่งไม่ต้องพูดถึง

แต่หลังจากที่ฆ่าซอมบี้ไปมากกว่า 20 ตัวแล้ว พละกำลังของฮวางซางกลับมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเป็น 3 เท่า  บวกกับอยู่ในช่วงเวลาของการชี้เป็นชี้ตายที่สามารถระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อด้วย มอเตอร์ไซค์ของหนุ่มผมม่วงคันนั้นจึงได้ถูกเขาโยนออกไป ราวกับหินที่ถูกเขวี้ยงออกไปอย่างไรอย่างนั้น ก่อนจะทุบไปบนลิ้นยาวที่ถูกตอกติดไว้อย่างรุนแรง ดังนั้นจึงส่งผลต่อร่างกายของสัตว์ประหลาดตัวนั้นที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่

หวือ

มอเตอร์ไซค์น้ำหนักราว 100กว่ากิโลได้ก่อเกิดพลังการโจมตีที่รุนแรงและน่ากลัวภายใต้พละกำลังอันยิ่งใหญ่ของฮวางซางที่ผลักดันออกไป ดังนั้นถึงแม้ว่าสัตว์ประหลาดตัวนั้นจะมีปฏิกิริยาตอบกลับได้เร็วมาก โดยการใช้เล็บอันแหลมคมนี้กวัดแกว่งมอเตอร์ไซค์คันนี้จนแตกเป็นเสี่ยงๆก็ตาม แต่พลังการโจมตีที่รุนแรงนั้นกลับทำให้มันสูญเสียการทรงตัว จนกระทั้งลิ้นยาวที่ถูกเหล็กตอกทะลุนั้นก็ไม่สามารถแบกรับการดึงที่รุนแรงแบบนี้ได้ เสียงแตกหักอันรุนแรงที่ดังกรอบราวกับคันธนูที่หักก็ดังขึ้น

หลังจากนั้น  เลือดสดๆจำนวนมากจากลิ้นที่ขาดสะบั้นที่ได้พ่นทะลักออกมาจากปากของสัตว์ประหลาดตัวนี้ เลือดสดๆที่มากมายเช่นนี้ ได้พ่นสาดกระเซ็นไปทั่วทุกทิศทุกทางราวกับก๊อกน้ำที่ถูกเปิด อีกทั้งสัตว์ประหลาดตัวนี้ก็ยังส่งเสียงร้องคำรามด้วยความเจ็บปวดออกมาอีกครั้งด้วย

เห็นได้ชัดว่า ลิ้นที่ขาดสะบั้นของมันได้สร้างบาดแผลที่ยิ่งใหญ่ให้กับเขาแต่ปัญหาก็คือ ถึงแม้ว่าบาดแผลชนิดนนี้จะรุนแรงหนักหนาก็ตาม กลับไม่ได้คร่าชีวิตมันแต่อย่างใด

สัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนี้ยังคงเข้าต่อสู้อย่างกล้าหาญ ไหล่ซ้ายที่ถูกเสียบจนทะลุอย่างง่ายดายนั้น สร้างบาดแผลที่ลึกมากพอสมควร ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ฮวางซางเองก็ไร้อาวุธในมืออีกด้วย

ดังนั้นในชั่วพริบตาเดียว สัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนั้นก็ได้ส่งเสียงคำรามออกมาอีกครั้ง พร้อมที่จะพุ่งเข้ามาฆ่าฮวางซางแต่การเผชิญหน้าสถานการณ์ที่ใกล้ความตายเช่นนี้ อย่างเดียวที่ฮวางซางทำได้คือการดึงเหล็กงัดนั้นขึ้นมา ถือไว้ในมือ พร้อมกับกัดฟันกรอดจ้องเขม็งไปที่สัตว์ประหลาดนั้น

“มาสิ

ความตายที่ใกล้เข้ามานี้ กลับไม่ทำให้ฮวางซางรู้สึกหวาดกลัวเลยสักนิด มีแต่เพียงความมุ่งมั่นในการต่อสู้ที่ลุกขึ้นมาอย่างโชกโชนและความโกรธอย่างรุนแรงเท่านั้น

ถ้าต้องการชีวิตของเขา  งั้นก็เตรียมพร้อมกับการถูกกัดฝังไปบนเลือดเนื้อให้ดี

โฮก

แต่ทว่า ภายใต้วิกฤตการณ์ที่อันตรายเช่นนี้ เสียงที่น่าหดหู่ใจและหนักแน่น  ดูเหมือนจะถูกครอบคลุมไปด้วยกลิ่นอายแห่งการสังหารที่ไม่มีที่สิ้นสุดและเสียงคำรามอันโหดร้ายที่ดังแผ่ขยายออกมาจากโรงพยาบาลแห่งแรกที่อยู่ไกล ๆ  อย่างฉับพลัน พร้อมกับเสียงของปืนและระเบิดที่ดังขึ้นมาติดต่อกันราวกับลูกโซ่

ดูเหมือนว่ากองกำลังของตำรวจที่ตั้งมั่นอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้กำลังต่อสู้กับบางสิ่งบางอย่างที่น่ากลัวอยู่

โฮก

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตกใจกลัวท่าทางที่ไม่รักชีวิตของฮวางซาง หรือเป็นเพราะกังวลเรื่องกองกำลังที่อยู่ไกลๆและเสียงคำรามที่ดังแผ่ขยายออกมากันแน่ กล้ามเนื้อที่เดิมทีปูดแน่นขึ้นมานี้ ได้ผ่อนการโจมตีลงต่อสัตว์ประหลาดที่ตั้งใจจะพุ่งตรงเข้ามาฆ่าได้ทุกเมื่ออย่างคาดไม่ถึง ก่อนจะส่งเสียงคำรามออกมา แล้วกระโดดพุ่งพรวดไปข้างหน้า ตรงไปยังคนที่ล้มจากมอเตอร์ไซค์คนนั้น หลังจากนั้นก็หักต้นขาข้างหนึ่งและกระดูกซี่โครงอีกหลายซี่บนร่างกายของหนุ่มผมม่วงที่ไร้หนทางการเคลื่อนไหวนั้นทันที

 “ไม่...ไม่...”

ในขณะที่มองไปยังสัตว์ประหลาดที่หยุดโจมตีฮวางซาง แล้วล้มตัวลงมานอนด้านข้างตัวเอง เดิมทีเขาหวังจะให้ฮวางซางจัดการสัตว์ประหลาดตัวนั้นจนตายไปพร้อมกัน เพื่อให้ชีวิตเล็ก ๆ ของหนุ่มผมม่วงได้อยู่ต่อไปก็อดที่จะหวาดกลัวขึ้นมาไม่ได้

หลังจากนั้น  เขาก็มองไปทางฮวางซางราวกับกำลังพยายามคว้าฟางข้าวช่วยชีวิตเส้นสุดท้ายอย่างไรอย่างนั้น ก่อนพูดอ้อนวอนขึ้นว่า

”พี่ชาย...ช่วยฉันด้วย  ขอร้องละ

พละกำลังและพลังการต่อสู้ของฮวางซางที่ได้แสดงออกมานั้นทำให้เขาได้รับรู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นความหวังเดียวในตอนนี้ที่จะสามารถช่วยชีวิตของตัวเองได้ แต่เขากลับลืมไปว่า เมื่อไม่นานมานี้เขาเพิ่งจะพยายามฆ่าฮวางซางไป

“เฮือก...”

ฮวางซางไม่ใช่นักปราชญ์ผู้บรรลุ สำหรับเด็กหนุ่มที่คิดจะฆ่าตัวเองคนนี้  เขาไม่ลงมือจัดการเองก็ดีเท่าไหร่แล้ว แล้วทำไมจึงต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงเพื่อช่วยชีวิตเขาด้วยละ

ดังนั้นเมื่อต้องเผชิญกับการร้องขอความช่วยเหลือจากหนุ่มผมม่วงคนนี้ ฮวางซางจึงทำได้เพียงยิ้มอย่างเยือกเย็น โดยไม่เคลื่อนไหวแต่อย่างใด สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ร่างของสัตว์ประหลาดตัวนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ประหลาดตัวนั้นหลอกล่อ แล้ววกกลับมาซุ่มโจมตีตัวเองได้

แต่ในเวลานี้ สัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนั้นก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และสิ่งที่เป็นไปตามที่ ฮวางซางคาดเดาไว้นั้นก็คือ มันกลับไม่ได้รีบร้อนฆ่าหนุ่มผมม่วงนั้นแต่อย่างใด  อีกทั้งยังกวัดแกว่งเล็บอันแหลมคมนั้นอย่างเบาๆ  แล้วกรีดไปบนเสื้อตัวนอกของหนุ่มผมม่วงคนนั้น

หลังจากนั้น โทรศัพท์ที่มีรอยถลอกไม่น้อยเครื่องหนึ่งกับกระเป๋าเงินตุงๆใบหนึ่งได้ร่วงหล่นออกมาจากกระเป๋าเสื้อนอกตามรอยกรีดนั้น

โฮก

ในขณะที่มองไปทางกระเป๋าเงินและโทรศัพท์ที่ร่วงหล่นลงไปบนพื้นนั้น สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็ตกอยู่ในอาการนิ่งเงียบไป ราวกับกำลังรำลึกถึงอะไรบางอย่าง  แต่ชั่วพริบตาเดียว มันกลับคำรามออกมาด้วยความโกรธถึงขีดสุด  สุดท้ายก็กวัดแกว่งเล็บอันแหลมคมนั้นขึ้นมา แล้วฉีกกระเป๋าเงินและโทรศัพท์จนแตกกระจาย

หลังจากที่ฉีกกระเป๋าเงินและพังโทรศัพท์แล้ว ปากใหญ่ๆของสัตว์ประหลาดตัวนั้นก็อ้าออก แล้วกัดไปที่ตัวของหนุ่มผมม่วงนั้นทันที สุดท้ายก็คาบหนุ่มผมม่วงคนนั้นที่ร้องโหยหวนออกมาอย่างน่าเวทนาราวกับสุนัขล่าเนื้อกระโดดพุ่งไปด้านหน้า แล้วพุ่งเข้าไปในม่านหมอกอย่างรวดเร็วไม่นาน เสียงกรีดร้องนั้นก็ยิ่งไกลห่างออกไป จนหายลับไป

“เฮ้อ

เมื่อเสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนานั้นหายลับไปแล้ว ฮวางซางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมา หลังจากความผ่อนคลายของเขา ความอ่อนเพลียก็ได้ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ  จนกระทั่งแผ่ขยายเข้าไปในหัวสมองของเขาจนเกิดอาการมึนงงไป

การต่อสู้ครั้งนี้มันช่างยากลำบากเกินไปจริง ๆ  พูดได้ว่าโอกาสรอดตายนั้นมีน้อยมาก  ถึงแม้ว่าบัดนี้เขาจะรักษาชีวิตได้ แต่มันก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น ในเวลาเดียวกันเลือดจำนวนมากก็ได้ไหลออกมา ถ้าไม่ใช่เพราะสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงกว่าคนทั่วไปของเขาละก็ ตอนนี้เขาก็คงจะประคับประคองชีวิตไว้ไม่ได้แล้ว

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น เขาก็รู้สึกเหนื่อยและหมดแรงมาก  จนอยากจะนอนหลับสักตื่น แต่เขารู้ว่าตอนนี้เขาไม่สามารถนอนหลับได้  เพราะถ้านอนหลับไป  เกรงวว่าอาจจะไม่ตื่นฟื้นขึ้นมาอีก

เพราะตอนนี้ไม่เพียงแต่ซอมบี้ที่สามารถปรากฏตัวขึ้นมาได้ทุกเมื่อแล้ว  ยิ่งไปกว่านั้นลิ้นที่ขาดเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของสัตว์ประหลาดตัวนั้นก็ยังคาอยู่ที่ไหล่ของเขาอยู่ด้วย เมื่อเขาหันไปมองด้านข้าง กลับพบว่าไหล่ซ้ายของเขานั้นได้กลายเป็นสีม่วงดำไปทั่วทั้งไหล่แล้ว จนกระทั่งไหล่ซ้ายนั้นค่อยๆเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น เลือดและหนองที่ส่งกลิ่นเหม็นคาวจางๆ ก็เริ่มไหลออกมาจากบาดแผลนั้น ส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวนไปทั่วทั้งร่าง

เห็นได้ชัดว่า ลิ้นของสัตว์ประหลาดตัวนั้นเป็นพาหะเชื้อไวรัสซอมบี้ อีกทั้งดูเหมือนไวรัสซอมบี้เหล่านี้จะรุนแรงกว่าไวรัสอื่นมากอีกด้วย ขนาดวิชาหลอมรวมเป็นหนึ่งของเขาก็ยังไม่สามารถสะกดความรุนแรงนั้นต่อไปได้

ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป อีกมไม่นาน เขาก็คงจะติดเชื้อย่างแน่นอน  เมื่อคิดได้ ฮวางซางก็รู้สึกนิ่งงันขึ้นมาในใจการกำจัดไวรัสของซอมบี้ออกไป วิธีเดียวที่สามารถทำได้ในตอนนี้คือการบำเพ็ญวิชาหลอมรวมเป็นหนึ่งให้บรรลุ แต่ปัญหาคือสภาพร่างกายตอนนี้ของเขาเกรงว่าคงจะต่อกรกับซอมบี้แค่ตัวเดียวก็ยังไม่ไหวเลย ถ้าเจอกับซอมบี้สองตัวหรือสามตัวละก็ ถึงตอนนั้นคนที่ถูกล่าฆ่าก็คงจะเป็นตัวเขาเอง

บางที ตอนนี้คงจะพึ่งได้เพียงโชคเท่านั้นแหละ  ดูสิว่าเขาจะประสบพบเจอกับซอมบี้ตัวเดียวหรือไม่แต่ทว่า ดูเหมือนว่าวันนี้ฮวางซางจะโชคไม่ดีเข้าแล้ว

 “หิว....”

ไม่ทันรอให้เขาได้พักหายใจ เสียงคำรามอันแหบแห้งเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาในม่านหมอก  ตามมาด้วยเงาอีก7-8 ตัวที่กวัดแกว่งไปมาได้เดินออกมาจากในม่านหมอก  เข้ามาใกล้ทางที่ฮวางซางยืนอยู่

ครั้งนี้ เขาได้พบกับซอมบี้ 7-8 ตัวอย่างคาดไม่ถึง

 “ทำไมมันถึงได้เยอะขนาดนี้

ในขณะที่มองไปยังซอมบี้7-8 ตัวที่ปรากฏออกมาแทบจะดักทางเขาไปทั่วทุกทิศทาง พลังที่ไกล้จะหมดลง  และหัวที่เกิดอาการมึนงงของฮวางซางก็รู้สึกผิดหวังขึ้นมาทันใด

แต่ไม่นานเขาก็ได้รู้เหตุผล

เลือดสดๆ

คนขี่มอเตอร์ไซค์หลายคนที่ถูกสัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนั้นฆ่าตาย  หลังจากได้พบเจออีกครั้งเขาก็ได้เข้าต่อสู้กับสัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนั้น พื้นที่ในบริเวณนี้นองไปด้วยเลือดสดของคนขี่มอเตอร์ไซค์เหล่านั้น  อีกทั้งกลิ่นอายของเลือดสดเหล่านี้จึงได้ดึงดูดซอมบี้ที่กระหายเลือดเหล่านี้อย่างไม่ต้องสงสัย

ครั้งนี้ ...จบเห่แน่

รีวิวผู้อ่าน

peter999
478 วันที่แล้ว

สนุก ๆ


  แสดงความคิดเห็น
god44beer
1363 วันที่แล้ว

ดี


  แสดงความคิดเห็น