px

เรื่อง : วันสิ้นโลก
ตอนที่ 16 ไทแรนท์อันน่ากลัว 


ตอนที่ 16 ไทแรนท์อันน่ากลัว 

 

“นี่คือภาพที่ถ่ายทอดสดแนวหน้าใช่ไหม?” เมื่อเห็นภาพที่ถ่ายทอดอยู่บนหน้าจอ ฮวางซางก็อึ้งงันทันที  ระบบการถ่ายทอดสดที่เกี่ยวข้องกับสงครามประเภทนี้เป็นความลับเฉพาะ ไม่รู้ว่าหลิวซินเข้าไปในระบบได้ยังไง

“อื้อ ฉันใช้รหัสของพ่อเข้าไปภายในระบบของกองทหาร” หลิวซินพยักหน้า ก่อนพูดขึ้นพร้อมกับกัดฟันกรอด

“ถึงแม้ว่าจะผิดกฎ....แต่ตอนนี้ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว

“ไม่ต้องเป็นห่วง ทหารก็มาจำนวนมากอยู่  อีกอย่างอุปกรณ์ที่ได้ติดตั้งระเบิดอย่างรถถังนั้นก็มีพร้อมแล้วด้วย  ซอมบี้เหล่านั้นต่อให้เก่งแค่ไหนก็ตายทั้งนั้น” เมื่อเห็นท่าทางที่กระวนกระวายใจของหลิวซิน ฮวางซางจึงตบไปที่ไหล่ของเขาเบาๆ ก่อนพูดปลอบใจสองประโยค

ถึงแม้ว่าสัตว์ประหลาดสีเลือดประเภท ลิกเกอร์ ที่เขาเห็นนั้นจะใหญ่มากก็ตาม แต่กองกำลังทหารเหล่านี้ก็ต้องระวังมากขึ้นด้วยเช่นกัน  ตาข่ายไฟที่ก่อสร้างขึ้นมา ไม่ได้สร้างความระคายเคืองแก่สัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนั้นแต่อย่างใด  ถึงอย่างไรก็ตามระดับความเร็วของสัตว์ประหลาดตัวนั้นก็เร็วมาก แต่การป้องกันกลับค่อนข้างตรงกันข้าม ก็คงอาจจะทำให้มันได้รับบาดเจ็บบ้าง  สิ่งที่เป็นกังวลในตอนนี้ก็คือสัตว์ประหลาดที่อยู่ในโรงพยาบาลต่างหาก

เมื่อคิดได้ดังนี้เ ฮวางซางและหลิวซินก็เงียบขึ้นมาทันใด แล้วจ้องมองไปยังภาพถ่ายทอดสดที่ปรากฏอยู่บนหน้าจออย่างไม่ละสายตา เมื่อมองจากภาพ กองกำลังทหารที่มีอาวุธครบมือเหล่านั้นได้ทำการปิดล้อมภายนอกของโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อเดินทางมาถึง เส้นทางการปิดล้อมนี้ถูกสร้างขึ้นโดยกองกำลังทหารและเสริมด้วยตำรวจ  อันดับแรกมันสามารถทำการตรวจสอบการเคลื่อนไหวของสัตว์ประหลาดตัวนั้นได้ขั้นหนึ่ง  อันดับที่สองมันสามารถหลีกเลี่ยงการปรากฏตัวของซอมบี้อีกด้วย

ไม่ผิด ภายในโรงพยาบาลตอนนี้นอกจากสัตว์ประหลาดตัวนั้นแล้วก็ยังมีซอมบี้อีกเป็นจำนวนมาก ซอมบี้เหล่านี้กลายร่างจากคนไข้ของโรงพยาบาลและตำรวจที่พลีชีพเหล่านั้น ปริมาณที่คาดการณ์ไว้ก็น่าจะเกินกว่า 300 ตัวทหารกำลังหนุนเหล่านี้แตกต่างจากทหารในเมือง C อย่างมาก  กองกำลังทหารที่มาจากเมืองหยางมีอาวุธพร้อมรบอย่างเห็นได้ชัด  พวกเขาได้วางแผนยุทธวิธีที่ผลัดเปลี่ยนมาอย่างสมบูรณ์แบบ ก่อนจะเริ่มแบ่งออกเป็นทีม ภายใต้การคุ้มกันของรถถังหุ้มเกราะหลายคันและทหารที่มีอาวุธครบบมือได้ทยอยกันกระจัดกระจายไปทุกหนแห่งของโรงพยาบาล

ถึงอย่างไรก็ตามโรงพยาบาลของเมืองแห่งนี้ก็มีพื้นที่คลอบคลุมกว่า 200 เอเคอร์ อีกทั้งสิ่งก่อสร้างภายในโรงพยาลก็มีมากมาย  บวกกับม่านหมอกที่ปกคลุมไปทุกหนทุกแห่ง  การอาละวาดของซอมบี้ รวมไปถึงไม่รู้ว่าตอนนี้สัตว์ประหลาดตัวนั้นซ่อนตัวอยู่ที่ไหน  พูดได้ว่าอันตรายไปทั่วทุกทิศทางจริงๆ ดังนั้นยังไงก็ต้องระวังจะประมาทไม่ได้อย่างเด็ดขาด  และในเวลาเดียวกัน หลิวซินก็ได้คลิ๊กไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์หลายต่อหลายครั้ง หลังจากนั้นภาพถ่ายทอดบนหน้าจอก็ได้เริ่มแบ่งแยกออก  กลายเป็นการถ่ายทอดสดทั้งหมด 16 ช่องในหน้าจอเดียว

นี่เป็นการบ่งชี้ว่า กองกำลังทหารนั้นได้แยกออกเป็น 16 กลุ่มย่อยก่อนเข้าปฏิบัติการกวาดล้างและค้นหาภายในโรงพยาบาลแห่งนี้  แต่ความสนใจในเวลานี้ของหลิวซินนั้นเพ่งไปที่กองกำลังกลุ่มย่อยที่มีพ่อของเขาเป็นผู้บังคับบัญชา ถึงจะมีเสียงดังรบกวนไปหน่อย  เขาก็ยังคงเปิดเสียงช่องถ่ายทอดสดที่มีพ่อของเขาช่องนั้น

เนื่องจากม่านหมอกในเวลานี้ได้แปรเปลี่ยนหนาแน่นมากขึ้น ระดับการมองเห็นทั่วไปจึงถูกกดให้อยู่ภายในระยะย 5 เมตรเท่านั้น    ดังนั้นสภาวะแวดล้อมในการต่อสู้ถือว่าไม่เอื้ออำนวยต่อกองกำลังทหารเหล่านี้อย่างมาก แต่ไม่ว่าสภาวะแวดล้อมจะไม่เอื้ออำนวยมากแค่ไหน และก็ไม่ว่าการเคลื่อนไหวนั้นจะอันตรายมากแค่ไหน ทหารที่มีความเชื่อมั่นและรู้จักหน้าที่ของตัวเองจึงไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย  ยังคงเข้าไปในม่านหมอกนั้นอย่างไม่ถอยหลังแต่อย่างใด

ไม่นาน  กลุ่มย่อยกลุ่มหนึ่งก็พบกับซอมบี้  เสียงปืนได้ดังขึ้นมาทันใด  สิ่งที่โชคดีนั้น เนื่องจากกลุ่มย่อยกลุ่มหนึ่งมีรถหุ้มเกราะป้องกันอยู่  อีกทั้งในทุกการค้นหายังมีรถถังหนึ่งคันทำหน้าที่เป็นกองหน้าด้วย  ดังนั้นซอมบี้ที่ไม่มีสติปัญญาเหล่านั้นจึงถูกดึงดูดโดยรถถังและรถหุ้มเกราะขนาดใหญ่ที่เคลื่อนไหวมีเสียงดังเหล่านั้น จากนั้นก็เข้ามาขวางห่ากระสุนที่ยิงออกไปดังสายน้ำด้วยเนื้อที่บอบบางของตัวเอง

นี่มันไม่ใช่ความจริง

ในภาพนั้น ซอมบี้ที่พยายามจะขัดขวางรถถังและรถหุ้มเกราะค่อยๆทยอยถูกชนและบดละเอียด เบาที่สุดก็โดนหักแขนหักขา หนักที่สุดคือกลายเป็นเนื้อบด แต่ในเวลาเดียวกัน ทหารที่ผ่านการฝึกฝนเหล่านี้ก็ใช้โอกาสที่ซอมบี้ถูกดึงดูดโดยรถถังและรถหุ้มเกราะขนาดใหญ่ที่เคลื่อนไหวเหล่านั้น ทำการจุดไฟและโจมตีใส่ซอมบี้เหล่านั้น

พลานุภาพของอาวุธที่ทหารใช้นี้แข็งแกร่งมาก  ต่อให้ซอมบี้เหล่านั้นจะเหลือเพียงแต่หัวก็ตาม ภายใต้การยิงกราดและการจ่อยิงนี้ทำให้พวกมันค่อยๆทยอยล้มลงไปกับพื้น  มีบางตัวที่ถูกระเบิดหัวจนแตกกระจาย บางตัวถูกยิงจนร่างกายฉีกขาดไม่เหลือชิ้นดี ถึงแม้จะไม่ตายแต่ก็ไม่มีกำลังในการต่อสู้กลับมาได้

ในเมื่อเป็นเช่นนี้  กองกำลังทหารที่ผ่านการฝึกฝนมาเหล่านี้ก็ยังคงใช้ปืนยิงซอมบี้ที่กำลังจะเคลื่อนไหวให้ล้มลงไป ไม่ให้พวกเขามีโอกาสลุกขึ้นมาได้ หลังจากที่กลุ่มย่อยทั้ง 16 กลุ่มที่มีการป้องกันโดยรถถังและรถหุ้มเกราะก็ได้กวาดล้างเขตพื้นที่ภายนอกของโรงพยาบาลแล้ว ก็ทำการแบ่งกลุ่มกันอีกครั้งและเริ่มเข้าไปภายในห้องฉุกเฉิน  ตึกผู้ป่วยนอก และตึกผู้ป่วยใ

แล้วก็ยังมีกองทหารบางส่วนที่อยู่ภายใต้การป้องกันโดยรถถังและรถหุ้มเกราะก็ได้ทำการกวาดล้างพื้นที่อื่น ๆทั้งหมด ดูเหมือนจะราบรื่นเป็นอย่างดี

แต่ในชั่วพริบตานั้นเอง สีหน้าของฮวางซางและหลิวซินก็ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้น เพราะพวกเขารู้ว่า ยิ่งกองกำลังทหารเข้าไปในโรงพยาบาลลึกเท่าไหร่  ก็ยิ่งมีโอกาสได้เจอกับสัตว์ประหลาดตัวนั้นมากขึ้นเท่านั้น

ในที่สุด เรื่องที่มันควรจะเกิดก็เกิดขึ้นจริง ๆ

ตึงตึงตึงตึงตึง

ทันใดนั้น เสียงปืนที่กระชั้นชิดราวกับลูกโซ่ก็ดังขึ้นมาจากภายในโรงพยาบาล  เสียงปืนแบบนี้ยังคงรุนแรงและดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งเสียงปืนที่ยิงติดต่อกันแบบนั้นมันแตกต่างจากการยิงซอมบี้ทั่วไปที่เจอก่อนหน้านั้น ดูเหมือนว่าจะมีคนเจอกับสิ่งที่อันตรายบางอย่างเข้าซะแล้ว

“กองกำลังทีมนั้น

หลังจากที่วิชาหลอมรวมเป็นหนึ่งได้บรรลุแล้ว ความสามารถในการตอบสนองของฮวางซางแทบจะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน  เมื่อเป็นเช่นนี้  ในขณะที่เสียงปืนดังขึ้นนั้นเกือบพอๆกับที่เขาหาภาพถ่ายทอดสดที่เกี่ยวข้องนั้นเจอในวินาทีแรกเลยทีเดียว

แต่การถ่ายทอดสดในตอนนี้กลับถูกตัดอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนคนที่ถูกติดตั้งกล้องจะเสียการทรงตัว และหมุนอย่างรวดเร็ว จึงทำให้มองไม่เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้นนี่มันเกิอะไรขึ้น?

หวือ

ยังไม่ทันที่ฮวางซางจะรู้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น  หน้าจอมอนิเตอร์หลัก หน้าต่างของชั้นสามในตึกผู้ป่วยในก็ได้แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ หลังจากนั้นเงาของร่างที่มีขนาดใหญ่ตัวหนึ่งก็ได้กระโดดลงมาบนรถหุ้มเกราะคันหนึ่งอย่างแรง  แล้วกดรถหุ้มเกราะคันนั้นไว้ และในเวลาเดียวกัน  เพราะอุปกรณ์ตรวจสอบที่ติดตั้งอยู่บนรถหุ้มเกราะ  เพื่อไว้ใช้ตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียง จึงทำให้ฮวางซางและหลิวซินก็ได้เห็นลักษณะของเงาตัวใหญ่อย่างชัดเจนในที่สุด

นี่คือสัตว์ประหลาดที่มีความสูงประมาณ 3 เมตร และมีร่างกายทีใหญ่โตตัวหนึ่ง

ร่างกายของสัตว์ประหลาดตัวนี้ซีดเหมือนซอมบี้  แต่บนร่างกายนั้นกลับไม่มีร่องรอยเน่าเปื่อยแต่อย่างใด  แต่กลับมีมัดกล้ามที่แข็งแรงมากขึ้นมาแทน   นอกเหนือจากนี้  ตำแหน่งบนหน้าอกของสัตว์ประหลาดตัวนี้ก็ยังเผยให้เห็นหัวใจขนาดใหญ่ดวงหนึ่งอย่างไม่คาดคิด หลอดเลือดแดงที่เชื่อมโยงกับหัวใจดวงนี้  พร้อมกับหัวใจที่ยังเคลื่อนไหวอยู่  เลือดจากเส้นเลือดหลักได้ไหลเวียนอย่างรวดเร็ว  ราวกับมอเตอร์ที่ทรงพลังเครื่องหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น

เพียงแต่ว่าหัวใจดวงนี้เกรงว่าจะไม่ใช่จุดอ่อนของสัตว์ประหลาดตัวนี้ เพราะว่ากระดูกซี่โครงบนหน้าอกของสัตว์ประหลาดตัวนี้ผิดรูปไป  มันบิดเบี้ยวออกไปด้านนอก  ราวกับเป็นรั้วกั้นชั้นหนึ่งไว้ปกป้องหัวใจของมัน  มีเกราะกระดูกชั้นนี้ เกรงว่าต่อให้เป็นการโจมตีที่หนักหน่วง ก็คงสร้างบาดแผลอันน้อยนิดให้กับหัวใจดวงนี้

นอกจากหัวใจที่เผยให้เห็นออกมาภานอกแล้ว  ใบหน้าของสัตว์ประหลาดตัวนี้ก็ไม่มีผิวหนังอีกด้วย ไม่เพียงแต่เผยให้เห็นฟันที่แหลมคมเท่านั้น อีกทั้งกล้ามเนื้อบนใบหน้าก็ยังปรากฏให้เห็นเบื้องหน้าของทุกคนอีกด้วยแต่ความน่ากลัวยิ่งกว่าคือ แขนที่ทั้งใหญ่และแข็งแรงทั้งสองข้างของสัตว์ประหลาดตัวนี้ โดยเฉพาะแขนซ้าย  เส้นผ่านศูนย์กลางของมันนั้นสร้างความอัศจรรย์ใจมากถึง 30 เซนติเมตร  และมีระดับความยาวเกินกว่า 2 เมตร  ส่วนปลายนิ้วข้างขวานั้นยังมีกรงเล็บที่ทั้งใหญ่แบบโอเว่อร์อีกด้วย  อีกทั้งเล็บมือที่พัฒนาถึงขั้นสุดยอดในแต่ละนิ้วนั้น  ก็ยาวกว่ากระบี่หลายเท่า เมื่อนิ้วทั้งห้าหุบรวมกัน ก็เปรียบเสมือนกับการนำกระบี่มากองรวมกันอย่างไรอย่างนั้น  แสงสะท้อนของมีคมนั้นก็ได้ส่องกระจายไปทั่ว

เล็บมือที่แหลมคมยิ่งว่ากระบี่นั้น ในเวลานี้ได้เสียบทะลุอก ทหารที่สวมหมวกนิรภัย ที่บนหมวกนั้นมีกล้องถ่ายภาพอยู่เครื่องหนึ่ง  ฮวางซางเข้าใจในทันทีว่าทำไมภาพๆนั้นถึงได้หมุนไปอย่างนั้น เพราะว่าทหารที่ติดกล้องถ่ายภาพคนนี้ได้ร่วงลงไปอยู่บนมือของสัตว์ประหลาดตัวนนี้

“ไท....ไทแรนท์?” เมื่อเห็นความน่ากลัวที่ปรากกฎขึ้นมาในจอภาพ หลิวซินราวกับถูกฟ้าผ่า ก่อนโพล่งชื่อหนึ่งออกมาในขณะที่ตัวสั่นไปทั่งตัว  หลังจากนั้น  ดูเหมือนเขาจะกลายเป็นคนบ้าไปทันที  มือทั้งสองข้างได้ตบลงไปบนโต๊ะอย่างแรง ก่อนจะตะโกนออกมา

”ทำไมถึงเป็นไทแรนท์ละ แม่งเอ๊ย ทำไมต้องเป็นเจ้านี่

โฮก

หลิวซินที่ดูเหมือนสะเทือนใจอย่างรุนแรง  ก่อนจะตบโต๊ะและตะโกนออกมาในเวลาเดียวกัน  ยักษ์ที่ถูกเขาเรียกว่าไทแรนท์ก็ได้เคลื่อนไหวอย่างฉับพลัน

สิ่งที่ฮวางซางคาดเดาไว้คือ  ถึงแม้ว่ายักษ์ตัวนี้จะตัวใหญ่มากก็ตาม แต่การเคลื่อนไหวของมันกลับไม่ได้ช้าลงแต่อย่างใด เพียงแค่คุกเข่าทั้งสองข้างนั้นลง แล้วออกแรงถีบรถหุ้มเกราะคันนั้น  ก่อนจะพุ่งร่างทั้งร่างออกไปด้านหน้า ในที่สุดทหารกลุ่มนั้นก็ร่วงหล่นลงไปกองกับพื้น

พริบตาเดียว การสังหารนองเลือดก็ได้เริ่มต้นขึ้น

ผละผละผละ

ยังไม่ทันที่ทหารเหล่านั้นจะได้สติคืนมา มือขวาที่ยาวของสัตว์ประหลาดตัวนั้น ก็ได้ฉีกไปบนร่างกายของทหารคนนั้น  พร้อมกับใช้มือซ้ายกวาดออกไป เล็บมือที่ยาวราวกับกระบี่อันนั้นได้กวาดทหารไปได้ 3 นาย

พริบตาเดียว เสียงเข่นฆ่าฉีกขาดอันน่าหดหู่ใจก็ดังขึ้น  ทหารที่ติดอาวุธครบมือทั้งสามคนไม่มีแม้แต่เสียงกรีดร้อง  เพราะพวกเขาถูกเล็บมือที่แหลมคมนั้นฉีกร่างกายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย 4- 5ชิ้นจนร่วงหล่นลงไปบนพื้น  เลือดสดจำนวนมากได้ทะลักออกมา พริบตาเดียวร่างนั้นก็ถูกย้อมจนเป็นสีแดงไปทั่วตัว

แต่นี่มันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น

สัตว์ประหลาดที่ดูเหมือนอาวุธสังหารที่ผุดขึ้นมาจากนรกตัวนั้น  หลังจากที่ฆ่าทหารไปสามคนแล้ว มือซ้ายของมันที่จับคนๆหนึ่งไว้ ก่อนจะอ้าปาก แล้วกัดไปบนกระโหลกของทหารคนนั้นจนแตกกระจายราวกับกัดลูกพีช แล้วเริ่มขบเคี้ยวมันเลือดสดๆ  มันสมองแล้วก็เศษหัวกะโหลกได้ถูกเคี้ยวจนละเอียดไม่มีร่วงหล่นออกมาจากปากของมันสักชิ้นเดียว  มันช่างน่ากลัวและสะอิดสะเอียนเกินกว่าสิ่งใด

ตึงตึงตึงตึงตึง

ในเวลาเดียวกัน ทหารที่อยู่ในบริเวณนั้นก็ได้สติกลับมา  ก็ทยอยกันร้องตะโกนออกมาด้วยความโกรธ  หลังจากนั้นก็หยิบอาวุธ  เตรียมพร้อมที่จะระเบิดกระสุนใส่สัตว์ประหลาดตัวนั้น

ใช้เวลาเพียงไม่นาน ระบบเล็งเป้าที่ถูกติดตั้งบนรถหุ้มเกราะเหล่านั้นก็ค่อยๆเข้ามาล็อกตัวสัตว์ประหลาดนั้นไว้  หลังจากนั้นก็ ยิงพริบตาเดียว เสียงปืนที่รุนแรงและกระชั้นชิดราวกับลูกโซ่ก็ดังขึ้น พายุโลหะที่สร้างขึ้นด้วยลูกกระสุนนับไม่ถ้วนได้ก่อตัวขึ้นมา หลังจากนนั้นก็พุ่งไปที่ร่างของสัตว์ประหลาดตัวนั้น

แต่ว่า ภาพที่เกิดขึ้นต่อมา กลับสร้างความสิ้นหวังอยู่ไม่น้อย

รีวิวผู้อ่าน

god44beer
1383 วันที่แล้ว

ดี


  แสดงความคิดเห็น