px

เรื่อง : Omni genius
ตอนที่ 16   ไม่มีใครหนีพ้นผลกรรมชั่วของตนได้


ตอนที่ 16   ไม่มีใครหนีพ้นผลกรรมชั่วของตนได้

 

ผู้แปล  :  ThreeSwords

ปรับสำนวน  :  ThreeSwords

 

 

เหลาซูเฉียงรอให้คนอ้วนเฉินหายใจได้ปกติ  ก่อนที่จะนั่งยองๆ ต่อหน้าเขาและเหยียดมือของมันตบไปที่ใบหน้าฉุและมันเยิ้มของคนอ้วนเฉิน  จากนั้นมันก็พูดยิ้มๆ ว่า

 

“เจ้าของร้านเฉิน  ทำไมถึงได้ทำตัวไร้จริยธรรมขนาดนี้ล่ะ... สิ่งที่ร้องขอมาข้าก็ทำมันเสร็จแล้ว  แต่เห็นนี่ไหมล่ะ?  ที่หัวของข้ามีรอยช้ำขนาดใหญ่มากเพราะถูกตี  แกไม่คิดที่จะชดเชยด้วยค่ารักษาพยาบาลหรืออะไรสักอย่างหน่อยเหรอ?”

 

ขณะที่เหลาซูเฉียงพูด  ลูกสมุนของมันที่อยู่ข้างหลังก็ยิ้มอย่างเย็นชาและทำท่าทางกายบริหารข้อมือของพวกมัน  ราวกับว่ามีแผนที่จะใช้คนอ้วนเฉินแทนกระสอบทราย

 

พวกอันธพาลเหล่านี้ไม่ได้มีความสามารถพิเศษอื่นใดนอกเหนือจากการข่มเหงผู้ที่อ่อนแอและยอมจำนนต่อคนที่แข็งแรงกว่า  พวกมันมีทักษะเฉพาะในการระรานผู้คนโดยอาศัยจำนวนคนที่มากกว่า  ประกอบกับสภาพร่างกายที่ไม่เคยได้ออกกำลังของคนอ้วนเฉินจึงเป็นธรรมดาที่ยากจะทนต่อการทุบตีของอันธพาลทั้งสาม

 

“เหลา... เหลาเกอ  เงินนั่น... ไม่ใช่ว่าฉันได้ให้กับพี่ไปนานแล้วเหรอ?”

 

คนอ้วนเฉินมีสีหน้าที่ตึงเครียดและจับไปกระเป๋าเสื้อผ้าของเขาโดยไม่ทันได้รู้ตัว  ข้างในนั้นมีเงินที่เขาหามาได้ตลอดทั้งวันนี้  ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เงินจำนวนมากแต่ก็ไม่น้อยเช่นกัน

 

“หืม?  เจ้าของร้านเฉิน  มึงไม่เข้าใจความหมายแฝงของคำพูดกูหรือไง?”

 

เหลาซูเฉียงไม่พอใจกับสิ่งที่คนอ้วนเฉินตอบกลับมาในทันที  รอยยิ้มของมันจางหายไปและใบหน้าก็ดำทะมึน

 

“พวกกูเอาเงินของมึงมาและก็ทำตามที่มึงร้องขอ... แต่ตอนนี้กูได้รับบาดเจ็บ  เป็นธรรมดาที่ค่ารักษาพยาบาลมึงต้องเป็นคนจ่ายไม่ใช่เหรอ?”

 

“เหลาเกอ...”

 

ช่วงเวลาที่คนอ้วนเฉินได้ยินเหลาซูเฉียงเอ่ย ‘คำพูดที่มีความหมายแฝงนั่น’  ทำไมเขาจะไม่ตระหนักถึงสิ่งที่เหลาซูเฉียงต้องการกันล่ะ?  ใบหน้าเขาเลยแสดงความหวาดกลัวออกมาในทันทีและน้ำตาก็ใกล้ที่จะไหลแล้ว

 

“มึงไร้สาระมาพอแล้ว  รีบเอาเงินมาให้กู!”

 

เหลาซูเฉียงเป็นใครงั้นเหรอ?  มันคืออันธพาล!  และโกรธเกรี้ยวอยู่แล้วเพราะความเป็นจริงที่ว่ามันถูกฉินฟางทุบตีเนื่องจากทำตามคำร้องขอของคนอ้วนเฉิน  เมื่อเห็นว่าคนอ้วนเฉินไม่ได้รู้สึกขอบคุณกับ ‘ความพยายาม’ ของมันที่ไปทำร้ายฉินฟาง  มันจึงไม่พิรี้พิไรอีกต่อไปและลุกขึ้นพร้อมกับเตะคนอ้วนเฉิน  ส่วนลูกสมุนที่อยู่ข้างหลังของมันก็สปริงตัวตามไป  คนหนึ่งจับคนอ้วนเฉินให้นอนลงขณะที่อีกคนหนึ่งก็ค้นกระเป๋าตังค์ของเขา

 

“อะไรกัน?  พวกมันจะหันไปใช้ความรุนแรงตอนนี้เลยเหรอ?  คนอ้วนเฉินที่น่าสงสาร~…”

 

ฉินฟางซึ่งนั่งอยู่ในที่มืดบนถนนฝั่งตรงข้ามเห็นได้อย่างชัดเจนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนอ้วนเฉิน  ที่นี่ค่อนข้างเปลี่ยวดังนั้นจึงไม่มีใครเห็นเหตุการณ์นี้  ฉินฟางไม่ใช่คนประเภทที่แสดงความเมตตากับศัตรู  ไม่งั้นแล้วเขาคงจะไม่วางแผนที่จะลอบจัดการกับคนอ้วนเฉินก่อนที่พวกอันธพาลแสดงตัวออกมา  ดังนั้นคำอุทานของเขาจึงเป็นสิ่งที่พูดด้วยถ้อยคำเย้ยหยัน

 

“อย่า! เหลาเกอ  นี่เป็นเงินที่หามาอย่างยากลำบาก!”

 

ครั้งนี้คนอ้วนเฉินรู้สึกเกรงกลัวอย่างแท้จริง  แม้ว่าร่างกายที่อวบอ้วนของเขาจะถูกจับยึดไว้โดยพวกอันธพาล  แต่ด้วยตัวที่ใหญ่โตถ้าเขาเริ่มดิ้นรนแล้วเจ้าลูกสมุนสองคนนั่นก็ไม่สามารถทำอะไรได้  ในเวลาเดียวกันเขาก็ส่งเสียงร้องออกมาดังเกินขนาดซึ่งฟังเหมือนกับหมูที่กำลังถูกเชือด  ฉินฟางคาดว่าคนอ้วนเฉินพยายามที่ใช้เสียงของเขาดึงดูดความสนใจของคนที่เดินผ่านมาเพื่อหวังให้พวกนั้นมาช่วยเหลือ

 

น่าเสียดายที่ว่าคนที่เดินผ่านมาแท้จริงแล้วก็คือฉินฟางซึ่งมีท่าทีที่ไม่เป็นมิตรต่อคนอ้วนเฉิน  และควรที่จะภาวนาไม่ให้ฉินฟางไปร่วมกับเหลาซูเฉียงเพื่อทำการเตะต่อยเขามากกว่า  เพราะถ้าให้ฉินฟางเข้าไปช่วยคนอ้วนเฉินแล้วคงต้องรอให้หมูนั้นบินได้

 

“ไอ้สารเลว  มึงกำลังรนหาที่ตายงั้นเหรอ?!”

 

เหลาซูเฉียงก็ไม่ใช่คนที่มีความเมตตาเช่นเดียวกัน  พอเห็นคนอ้วนเฉิน ‘ไม่เชื่อฟัง’  เขาก็ไม่ยั้งมืออีกต่อไปและเล็งเป้าไปยังร่างที่กำลังดิ้นของคนอ้วนเฉินก่อนที่จะเตะโดยไร้ความปรานี  ลูกเตะในครั้งนี้รุนแรงไม่ใช่น้อยจนคนอ้วนเฉินหยุดกรีดร้องในทันที  ตัวของเขาขดเหมือนกับกุ้งขนาดใหญ่  ลำคอของเขาส่งเสียงแหบแห้งและไม่สามารถพูดอะไรที่ปะติดปะต่อได้เลย

 

ในอีกทางหนึ่งเจ้าลูกสมุนสองคนนั่นก็ฉวยความได้เปรียบในทันทีกับคนอ้วนเฉินที่นอนขดตัวเป็นกุ้งเพื่อรุกล้ำเข้าไปในกระเป๋าที่คนอ้วนเฉินปกป้องไว้อย่างแข็งขันเมื่อสักครู่นี้  พวกมันหยิบมาเพียงแค่กระเป๋าเงินที่ใส่แบงค์ไว้และไม่ได้แตะต้องกระเป๋าคาดเอวที่เอาไว้เก็บเงินทอนซึ่งมีจำนวนเล็กน้อย

 

“แมร่ง  มีเพียงแค่พันหยวน...”

 

เมื่อเหลาซูเฉียงหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ออกมาและทำการนับ  มันพบว่าในนั้นมีเงินอยู่เพียงหนึ่งพันหยวนกับอีกเล็กน้อย  ใบหน้าที่ผอมจนเหมือนหนูเหยเกในทันทีและสายตาของมันก็กลายเป็นดุร้าย

 

“ไอ้อ้วนระยำ  อย่ามาเล่นแกล้งตายกับกู  มึงซ่อนเงินไว้ใช่ไหม?!”

 

เหลาซูเฉียงเตะคนอ้วนเฉินที่ขดตัวเป็นลูกบอลและเอามือกุมท้องไว้  ใบหน้าของมันดำทะมึนมาก

 

“เหลาเกอ  มีเงินเพียงแค่นี้จริงๆ  ร้านของฉันในตอนนี้แย่มาก  ไม่งั้นแล้วทำไมฉันจะขอร้องให้พี่ช่วยล่ะ…”

 

คนอ้วนเฉินที่เอามือจับท้องไว้นั้น  ใบหน้าอันอวบอ้วนของเขาเวลานี้ซีดราวกับกระดาษ  ประกอบกับความเป็นจริงที่ว่าตอนนี้อากาศร้อน  เหงื่อเม็ดโตราวกับถั่วก็กลิ้งไถลลงมาจากใบหน้าของเขาอย่างต่อเนื่อง  เขาทำได้เพียงเอียงตัวกอดขาเหลาซูเฉียงไว้และร้องขอความเมตตา

 

“อย่ามาพล่ามกับกู!  ถ้ามึงไม่ให้เงินกูมาหนึ่งหมื่นหยวนวันนี้แล้ว  เรื่องนี้จะไม่จบลงแค่แผลบอบช้ำเบาๆ แน่”

 

ถามหาเหตุผลกับเหลาซูเฉียงงั้นเหรอ?

 

สมองของคนอ้วนเฉินจะต้องทำงานผิดปกติแน่ๆ

 

เหลาซูเฉียงดังกระฉ่อนในเรื่องของความโหดเหี้ยมและสามารถทำเรื่องที่เลวร้ายได้ทุกประเภท  ย้อนกลับไปเมื่อพ่อของมันติเตียนว่าเป็นคนที่ล้มเหลว  เหลาซูเฉียงก็ทุบตีพ่อของตัวเองจนเกือบจะเสียชีวิต

 

ถ้าเหลาซูเฉียงกล้าแม้กระทั่งทำร้ายพ่อของมันอย่างสาหัสแล้วนับประสาอะไรกับคนนอกอย่างคนอ้วนเฉินล่ะ?  แม้ว่ามันจะเตะคนอ้วนเฉินไปไม่กี่ทีเมื่อครู่นี้แต่ก็ซัดไปเต็มแรงโดยไม่มียั้งเท้าไว้เลย

 

“ฉันไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้นจริงๆ...”

 

คนอ้วนเฉินมีสีหน้าที่ตึงเครียด  เขาเกือบที่จะร้องไห้เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่เงินมากขนาดนั้นจริงๆ

 

ฉินฟางก็คิดว่าเงินหนึ่งพันกว่าหยวนนี้เป็นทั้งหมดที่คนอ้วนเฉินมีจริงๆ  อย่างน้อยตอนที่กำลังสะกดรอยตามคนอ้วนเฉิน  ก็ไม่เห็นว่าเขาถอนเงินออกมาจากตู้เอทีเอ็มและมุ่งหน้าตรงกลับไปที่บ้านแทน  ก่อนที่เขาจะถูกขวางกั้นโดยเหลาซูเฉียงและพวก

 

“ไม่มีเงินงั้นเหรอ?  ซ้อมมัน!”

 

เหลาซูเฉียงหัวเราะอย่างเย็นชาและแสดงท่าทีไม่ต้องการพูดจาอีกต่อไป  จากนั้นก็เริ่มทำการซ้อมคนอ้วนเฉิน  และเป็นธรรมดาที่ลูกสมุนทั้งสองของมันจะร่วมเข้าทำการทุบตีคนอ้วนเฉินอย่างไม่หยุดหย่อนด้วยเช่นกัน

 

“ไม่มีใครหนีพ้นผลกรรมชั่วของตนได้”

 

ฉินฟางมองไปยังภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าด้วยท่าทีเฉยเมย  คนอ้วนเฉินต้องการที่จะโค่นล้มฉินฟางแต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะโดนซะเอง  แถมยังถูกเหลาซูเฉียงที่เขาจ้างมารีดไถฉินฟางขู่กรรโชก  พอเห็นคนอ้วนเฉินที่ก่อเหตุวุ่นวายล้มเหลวได้รับผลกรรมทันตาเห็น  ความโกรธของเขาก็เย็นลงและอารมณ์ก็กลับมาดีขึ้นด้วย

 

“โอ๊ย โอ๊ย!”

 

เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง  แต่ในคืนที่เงียบสงบเช่นนี้ประกอบกับอยู่ห่างจากทางคนสัญจร  จึงเป็นเรื่องโชคร้ายที่ไม่มีใครจะเดินผ่านมาให้ความช่วยเหลือได้  คนอ้วนเฉินทำได้เพียงรับการทุบตีอย่างเงียบๆ

 

สำหรับความเป็นไปได้ที่จะตอบโต้กลับไปนั้น...

 

เห็นได้ชัดว่าคนอ้วนเฉินประการแรกไม่มีความกล้า  ประการที่สองเขาไม่ได้มีความห้าวหาญที่จะลงมือทำมัน  และประการที่สามซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาไม่มีความสามารถ  การโค่นอันธพาลสามคนเพียงลำพังไม่ใช่เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็สามารถทำได้  ซึ่งอย่างน้อยคนอ้วนเฉินก็รับรู้ถึงขอบเขตความสามารถของตัวเขาเองดี

 

ขณะที่คนอ้วนเฉินกำลังถูกซ้อมอยู่นั้น  เขาก็ไม่ลืมที่จะร้องขอความกรุณาจากเหลาซูเฉียง  อ้อนวอนให้ละเว้นเขาในครั้งนี้  ถ้าคุณคิดว่าคนอ้วนเฉินเป็นคนมีจิตใจเข้มแข็งแล้ว  ก็ต้องแสดงความเสียใจด้วยเพราะเขาไม่ใช่

 

แม้ว่าตัวของคนอ้วนเฉินจะได้รับความเจ็บปวดแต่เขาก็ยังไม่ได้โง่  เขารู้ดีว่าถ้าผ่านการถูกซ้อมในคืนนี้ไปได้ก็จะสามารถกลับบ้านได้อย่างมีชีวิต  ปัญหาต่างๆ หลังจากนั้นก็ง่ายที่จะแก้ไขเพราะเขาไม่จำเป็นต้องอยู่คอยให้เหลาซูเฉียงรีดไถอีกต่อไป

 

เขาคิดเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขซึ่งได้วางแผนเอาไว้แล้ว  เมื่อกลับถึงบ้านหลังจากถูกซ้อมเขาก็จะจองตั๋วเครื่องบินในทันทีและไปจากเมืองหนิงไห่ในวันรุ่งขึ้น  วิธีนี้ต่อให้เหลาซูเฉียงต้องการรีดไถเขาต่อไปมันก็จะเป็นเรื่องยาก

 

เขาเป็นเพียงแค่เจ้าของร้านแผงลอยขายอาหารเล็กๆ  แม้ว่าเมืองหนิงไห่จะเจริญรุ่งเรืองแต่ก็มีเมืองอื่นๆ ที่มีความเจริญไม่แพ้กัน  เขาไม่จำเป็นต้องผูกติดตัวเองไว้กับเมืองใดเมืองหนึ่ง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองที่เป็นอันตรายสำหรับเขา

 

ฉินฟางนั่งอยู่บนถนนฝั่งตรงข้ามและคอยสังเกตการณ์มาโดยตลอด  แม้เขาต้องการที่จะจัดการกับคนอ้วนเฉินแต่ก็ไม่คิดที่จะทำเช่นนี้  อย่างมากเขาอาจทุบหัวของคนอ้วนเฉินให้เกิดรอยช้ำใหญ่หลายๆ แผล  แต่เหตุการณ์นั้นบานปลายเกินความคาดหมายของฉินฟาง  โดยเฉพาะสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้อาจทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจไปสองสามวัน

 

 

…………………………

 

รีวิวผู้อ่าน