Chapter 58 – การแข่งขันอุปกรณ์
เพียงแค่สั้นๆ 20 นาทีหลังจากที่ซือเฟิงวางเกราะอกกลิมเมอร์ไว้ในการประมูล พวกทั้งหมด 12 ชิ้นได้ถูกขายออกไปแล้ว ความนิยมของเกราะอกกลิมเมอร์กระทั่งดีกว่าเกราะกองทหารรักษาการณ์อยู่มาก
มีผู้เล่นไม่กี่คนที่แสดงออกถึงการซื้อของพวกเขาในฟอรั่มทางการ
ก่อนหน้านี้ผู้เล่นเหล่านี้ต้องขอร้องด้วยการใช้วิธ๊การต่างๆเพื่อขอเข้าร่วมกับปาร์ตี้ แต่ตอนด้วยอุปกรณ์ที่ดูสง่างามของพวกเขา แค่ตะโกนง่ายๆ ก็จะรวบรวมคำเชิญเป็นสิบจากปาร์ตี้ชั้นสูงเพื่อให้ตัวพวกเขาได้เลือก
หลังจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของเกราะอกลิมเมอร์ ผู้เล่นที่ไม่สามารถซื้อได้สักชิ้นก็ทุบอกของพวกเขาด้วยความปวดร้าวกันทุกคน พวกเขาเกลียดตัวเองที่ไม่ได้ยืมเงินมาซื้ออุปกรณ์ชิ้นนี้ เพราะมันไม่มีขายอีกต่อไปแล้ว
ในขณะเดียวกันที่สมาคมตีขึ้นรูปในเมืองทรายสีทองที่เต็มไปด้วยผู้คน
ห้องโถงกว้างขวางทั้งหมดถูกครอบครองโดยผู้เล่น ผู้เล่นที่อยู่ที่เป็นผู้ติดต่อจากกิลด์ต่างๆ พวกเขาอยู่ที่นี่เพื่อจุดประสงค์เดียวเท่านั้นและนั้นก็คือการเชิญแฮมเมอร์เทรดิ้งเข้าร่วมกิลด์ของพวกเขา
ท่ามกลางกิลด์ที่อยู่ที่นี่ มีอยู่เยอะพอสมควรที่มีชื่อเสียงมาก แถมไม่ได้ขาดแคลนตัวแทนจากกิลด์ชั้น 3 เลยด้วย ถ้าอยู่ในช่วงเวลาปกติ ตัวแทนเหล่านี้จทำตัวภาคภูมิและหยิ่งยโส แต่พวกเขาจะใช้ท่าทีประสบสอพลอเมื่อต้องทำการค้ากับผู้เล่นไลฟ์สไตล์
ถึงไม่ว่ายังไงก็ตาม ผู้เล่นไลฟ์สไตล์เหล่านี้ก็ยังปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความเคารพอย่างมาก พวกเขาจะหลั่งน้ำตาแห่งอารมณ์ออกมา แล้วให้คำมั่นสัญญาว่าพวกเขาจะซื่อสัตย์ต่อกิลด์แล้วก็จะเซ็นสัญญาอย่างรวดเร็วเพื่อกลายเป็นส่วนหนึ่งของกิลด์ใหญ่
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มปัจจุบันของเกมได้เปลี่ยนไป กลุ่มระดับสูงของกิลด์ที่แข็งแกร่งได้เน้นย้ำพวกเขาว่า ตัวแทนจะต้องเชิญแฮมเมอร์เทรดดิ้งให้ได้อย่างแน่นอน มิฉะนั้นพวกเขาต้องเริ่มแพ็คกระเป๋าแล้วออกไป ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลที่ตัวแทนของกิลด์เหล่านี้จึงเหมือนกับเหล่าลูกหลานที่เชื่อฟัง ยืนและรอในโถงสำหรับการเรียกแฮมเมอร์เทรดดิ้ง
ภายห้องตีขึ้นรูประดับปานกลางบนชั้นสอง
“พี่แฮมเมอร์ คุณนี่น่ากลัวมาก! ฉันชื่นชมพี่มาก! ก่อนหน้ากิลด์ชั้น 3 เหล่านี้จะไม่รับพี่เข้าร่วมไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม แต่ตอนนี้พวกเขาเป็นเหมือนกับลูกหลานที่รอพี่อยู่ พวกเขาจะไม่จากไปแม้ว่าพี่จะไล่พวกเขาไปก็ตาม” นักบวชหญิงเซ็กซี่วัยยี่สิบกลางๆกอดอยู่รอบๆแขนที่กำยำของแฮมเมอร์เทรดดิ้ง หัวเราะคิกคักและพูดด้วยความยกย่องสรรเสริญ เธอใช้หน้าอกที่พองถูกับแขนของเขา
แฮมเมอร์เทรดดิ้งมีรูปลักษณ์ที่คล้ายสัตว์ป่ามาก เขามีเคราหน้าและดวงตาที่มัว และสีผิวของเขาก็คล้ายกับขี้ผึ้งสีเหลือง ตัดสินจากรูปลักษณ์ของเขา เขามองดูเหมือนกับอายุเกินกว่าสามสิบปี โดยไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าแฮมเมอร์เทรดดิ้งเป็นแค่นักเรียนมหาลัยในความจริง อายุของเขาก็แค่เกินยี่สิบมานิดหน่อยเอง
“ฮ่าฮ่าฮ่า นี่มันก็แค่เรื่องเล็ก ยังไงซะฉันก็ต้องขอบคุณไอ้โง่ที่เปิดทางให้ฉันและซ่อนชื่อของมันเอาไว้จริงๆ เขาทำให้กิลด์ใหญ่ทั้งหมดรู้ถึงความสำคัญของฉัน” แฮมเมอร์เทรดดิ้งหัวเราะอย่างเต็มที่ เขายกย่องตัวเองเงียบๆเกี่ยวกับการใช้สติปัญญาและความฉลาดที่สามารถคิดแผนเอาชื่อเสียงของนักตีขึ้นรูปที่ไม่ระบุชื่อมาใช้ให้เป็นประโยชน์ มันทำให้เขามีโชคลาภที่ดีในปัจจุบัน และกลายเป็นไอดอลของผู้เล่นทุกคน “รอจนกว่าฉันจะเข้ากิลด์ชั้นเยี่ยมและขึ้นไปสู่ระดับสูงของพวกเขาก่อนเถอะ มันถึงจะน่ากลัวจริงๆ ตอนนี้ ฉันก็แค่แสดงส่วนเล็กๆของความสามารถที่เหนือกว่าออกมา ปล่อยกิลด์ชั้น 3 พวกนั้นรอข้างนอกต่อไป ฉันสามารถใช้พวกมันยกระดับคุณค่าและชื่อเสียงของฉันได้”
“บอส พวกเราจะทำยังไงกับคำสั่งซื้อทั้งหมดที่เราได้รับ?” นักลอบสังหารถาม
แฮมเมอร์เทรดดิ้งกลอกตาของเขาไปที่นักลอบสังหาร กล่าวด้วยความดูถูกว่า “ใครจะไปสนพวกมันกัน? ฉันเสีย 2 เหรียญเงินต่ออุปกรณ์ชิ้นหนึ่ง พวกนั้นคิดว่าฉันกำลังทำการกุศล? เป้าหมายของฉันได้รับการตอบรับแล้ว ฉันก็แค่รอกิลด์ชั้นเยี่ยมมาเท่านั้น อย่าให้ต้องรำคาญกับผู้เล่นอื่น ก็แค่บอกพวกนั้นไปว่าเรายุ่งมากเกินไปและไม่มีเวลา”
ใช้ซือเฟิงเป็นหินรองเท้า แฮมเมอร์เทรดดิ้งใช้เหรียญเงินทั้งหมดที่เป็นของเพื่อนร่วมชั้นเขา แล้วเขายังใช้เครดิตเป็นจำนวนมากในการซื้อวัสดุและเหรียญเงินจำนวนมากอีกด้วย แต่เขาก็ยังตีขึ้นรูปได้แค่เกราะอกอำมหิตสิบกว่าชิ้นจากวัสดุเหล่านั้นทั้งหมด ดังนั้นการขายแต่ละชิ้นที่ราคาสูงสุด 4 เหรียญเงินก็ทำให้เกิดความสูญเสียอย่างมากสำหรับเขาแล้ว แต่ยังไงซะ การเสียสละทั้งหมดของเขามันก็คุ้มค่า ตราบเท่าที่เขาได้รับสมัครเข้าร่วมโดยกิลด์ชั้นเยี่ยม เขาก็สามารถรับวัสดุได้มากเท่าที่เขาต้องการ เงินเดือนจำนวนมากและแม้แต่ผู้เล่นหญิงเรียงเป็นแถวที่ปรารถนาความสนใจของเขา แฮมเมอร์เทรดดิ้งรู้สึกชุ่มชื่นเพียงแค่คิดถึงผลประโยชน์ทั้งหมดเหล่านี้
ทันใดนั้นเบอเซิร์กเกอร์ก็เข้ามาในห้องตีขึ้นรูปด้วยการแสดงออกที่เสียขวัญ
“เกิดอะไรขึ้น แฮดรอน? เห็นว่านายกำลังรีบร้อนแบบนี้ ระดับสูงของกิลด์ชั้นเยี่ยมมาถึงแล้วงั้นหรอ?” แฮมเมอร์เทรดดิ้งถามอย่างหยอกเหย้า
“ปัญหาใหญ่! อุปกรณ์ระดับสูงจำนวนมากปรากฏตัวขึ้นกะทันหันในบ้านประมูล ผู้เล่นทั้งหมดบนฟอรั่มทางการของเกมกำลังพูดถึงมันอยู่ตอนนี้แถมจำนวนคลิกบนโพสต์ก็เพิ่มขึ้นแบบบ้าคลั่ง โพสต์มีเกินห้าล้านคลิกไปแล้วตอนนี้ และกิลด์จำนวนมากก็เริ่มสังเกตเห็นมันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น อุปกรณ์นั้นก็ถูกขายโดยนักตีขึ้นรูปไม่ระบุชื่อเหมือนกัน ราคาของอุปกรณ์ขั้นต่ำตั้งอยู่ที่ 4 เหรียญเงิน ทุกคนเริ่มสงสัยเกี่ยวกับเอกลักษณ์ของนักตีขึ้นรูปที่เชื่อถือได้แล้ว แถมพวกนั้นยังไม่ได้ให้ความสนใจคุณอีกต่อไปด้วย หัวหน้า”
“นอกจากนี้พวกกิลด์ชั้นเยี่ยมสองสามกิลด์ทำประกาศบนฟอรัมแล้วว่าพวกเขาเต็มใจจะจ้างนักตีขึ้นรูปคนนั้นด้วยเงินเดือนที่สูงและให้เขาเป็นหัวหน้านักตีขึ้นรูปของกิลด์พวกเขาด้วย ตัวแทนของกิลด์ใหญ่ไม่กี่คนที่อยู่ข้างล่างก็เริ่มออกไปที่บ้านประมูลกันแล้วด้วย”
การแสดงออกของแฮมเมอร์เทรดดิ้งแข็งค้างเมื่อเขาได้ยินคำพูดของแฮดรอน
เขาสามารถดึงดูดความสนใจของกิลด์ชั้นเยี่ยมหลังจากประสบความยากลำบากจำนวนมากเท่านั้น
อย่างไรก็ตามตอนนี้ นักตีขึ้นรูปไม่ระบุชื่อได้ขโมยสายลมของเขา ถ้าเขาไม่ขโมยกลับ กิลด์ชั้นเยี่ยมเหล่านี้จะต้องลืมเกี่ยวกับเขาไปมากที่สุด (สายลมในที่นี่คือแบบกระแสกำลังมาทางมันแต่โดนขโมยไปซะงั้น)
“เขาบ้าไปแล้วที่ขโมยสายลมและตำแหน่งของฉันไปแบบนี้ อย่าตำหนิฉันสำหรับการไม่สุภาพ การทำอุปกรณ์ระดับสูงแบบนั้นมีต้นทุนสูงและอัตราสำเร็จต่ำ ถ้าแกขายมัน 4 เหรียญเงิน ถ้างั้นฉันจะขาย 3 เหรียญเงิน ฉันสงสัยว่ามากขนาดไหนที่แกสามารถสูญเสียได้?”
เขาได้สูญเสียไป 2 เหรียญเงินสำหรับการทำเกราะอกอำมหิตที่มีคุณสมบัติต่ำกว่า แต่ซือเฟิงจะต้องสูญเสียไป 4 ถึง 5 เหรียญเงินสำหรับการขายอุปกรณ์ระดับสูงที่ราคา 4 เหรียญเงิน บางทีอาจจะมากกว่านั้น แฮมเมอร์เทรดดิ้งเชื่อว่าเขาสามารถอยู่รอดได้นานกว่าซือเฟิง
“แต่หัวหน้า พวกเราไม่มีเหรียญเงินพอมากขนาดนั้น อย่างมากสุด เราสามารถพอจ่ายให้ตีขึ้นรูปเกราะอกอำมหิตได้อีกสิบกว่าชิ้นเอง” แฮดรอนกล่าวด้วยความกังวล
“มีอะไรต้องกลัวกัน? ฉันยังมีเงินเหลืออยู่บ้าง ถ้าในกรณีที่เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้น ฉันจะใช้เครดิตจ่ายเพิ่มอีกเพื่อซื้อวัสดุและเหรียญเงิน ฉันเชื่อว่าฉันสามารถกำจัดไอ้เวรตัวน้อยนั้นได้ สำหรับชิ้นส่วนอุปกรณ์ทุกชิ้งที่สารเลวน้อยนั้นขาย เขาจะสูญเสียเป็นอย่างน้องสองหรือสามเท่าของเรา ทำไมเราควรกลัวล่ะ?” แฮมเมอร์เทรดดิ้งถามอย่างมั่นใจ เขามั่นใจในตัวเองว่าซือเฟิงนั้นเกินไปที่พยายามจะดึงดูดความสนใจจากกิลด์ชั้นเยี่ยมโดยการทำธุรกิจที่เต็มไปด้วยความสุญเสียแบบนี้ อย่างไรก็ตาม เขาจะต้องเป็นแชมป์คนสุดท้ายแน่นอนว่า
ในชั่วโมงต่อมา เกราะอกอำมหิตเพิ่มเติมไม่กี่ชิ้นก็ปรากฏขึ้นบนประมูลของนครแม่น้ำสีขาว พวกมันขายราคาขั้นต่ำที่ 3 เหรียญเงินต่อแต่ละชิ้น
ในเวลาเดียวกัน โพสต์ใหม่ๆก็ปรากฏขึ้นบนฟอรั่มทางการของเกม
เพื่อประโยชน์ของฝูงชนจำนวนมาก ฉัน แฮมเมอร์เทรดดิ้งได้ตัดสินใจที่จะขายเกราะอกอำมหิตที่ 3 เหรียญเงินในแต่ละชิ้น ผมจะยืนหยัดต่อสู้กับนักตีขึ้นรูปผู้ใจร้ายคนนี้จนถึงที่สุด! ขอรับความสนับสนุน! ขอรับกำลังใจ!
ทันใดนั้น คลื่นของเหล่าผู้เล่นที่ตามโพสต์ก็ส่งมันให้ขึ้นสู่ด้านบนสุดของฟอรัม ทุกคนสนับสนุนการกระทำอันใจดีของแฮมเมอร์เทรดดิ้ง
ผลจากเหตุการณ์นี้ ทำให้นครแม่น้ำสีขาวทั้งหมดมีชีวิตชรวาขึ้น ทุกคนเข้าใจว่านี่คือการแข่งขันระหว่างสองนักตีขึ้นรูปที่สามารถตีขึ้นรูปอุปกรณ์ระดับสัมฤทธิ์ได้ ผู้เล่นทุกคนในนครแม่น้ำสีขาวเฝ้ามองด้วยความมุ่งหวัง คนที่จะได้รับกำไรจากการโต้เถียงนี้ในตอนจบ แน่นอนว่าจะต้องเป็นพวกเขา เหล่าผู้เล่น มันจะไม่นานก่อนที่พวกเขาจะสามารถซื้ออุปกรณ์สัมฤทธิ์ได้ในราคาที่ต่ำ
กิลด์ต่างๆก็เริ่มการเฝ้ามองอยู่ข้างสนาม ไม่ได้แสดงเจตนาใดๆของพวกเขาออกมา พวกเขาทั้งต่างก็เฝ้ารอผู้ชนะคนสุดท้าย ขณะเดียวกันก็ซื้ออุปกรณ์มั้งหมดและพัฒนาความแข็งแกร่งของกิลด์พวกเขา
อย่างไรก็ตาม ตัวของซือเฟิงไม่ได้รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเพิ่งจะเสร็จการซื้อหินและหินแข็ง เพียงแค่หลังจากเข้าสู่บ้านประมูล เขาก็ค้นพบจำนวนของผู้เล่นได้เพิ่มขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เฉพาะจากนั้นเขาจึงได้ค้นพบเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้
“แกอยากสู้?” ซือเฟิงยิ้มบางเบา “ถ้างั้นก็มา”
เขาเรียกอินเทอร์เฟซควบคุมของบ้านประมูลออกมา วางเกราะอกกลิมเมอร์ทั้งหมดของเขาลงบนกระมูล เขากำหนดว่าจะขายสิบสองชิ้นทุกๆหนึ่งชั่วโมง โดยจะขายเกราะอกกลิมเมอร์ทั้งหมด 120 ชิ้น จำนวนขนาดนี้มันแน่นอนว่าเพียงพอที่จะทำให้แฮมเมอร์เทรดดิ้งเจอกับความทุกข์ทรมาน
หลังจากนั้น ซือเฟิงก็ใช้เงินที่ได้รับมาจากการขายเกราะอกกลิมเมอร์ไปกับการซื้อหินแข็งและการ์ดเซ็ต หลังจากซื้อไอเทมเหล่านี้ทั้งหมด ซือเฟิงก็ค้นพบทันทีว่าเขายังครอบครองเหรียญทองไว้มากกว่า 1 เหรียญนิดหน่อย
บางครั้ง ซือเฟิงจะได้รับแจ้งเตือนจากระบบ มันจะระบุว่าเกราะอกกลิมเมอร์ชิ้นอื่นได้ถูกขายออกไปแล้ว และจำนวนเงินนของเหรียญเงินก็จะฝากเข้าไว้ที่กระเป๋าของเขา
ซือเฟิงรู้สึกว่ายิ่งเขาใช้เหรียญเงินมากเท่าไหร่ เขาก็มีเหรียญเงินมากขึ้นเท่านั้น และจำนวนเงินของเขาก็ไม่ได้ดูเหมือนจะลดลงเลยแม้แต่นิดเดียว...
ซือเฟิงได้พิจารณาขายเหรียญเงินบางส่วนของเขาที่ศูนย์การค้า[1] แลกเปลี่ยนมันเพื่อเป็นเงินใช้จ่ายในชีวิตจริง ซึ่งมันดีกว่าแค่การถือครองเหรียญเงินพวกนี้ไว้มาก
TL Notes:
[1] ศูนย์การค้า: มันไม่ใช่เขตการค้าในเกม แต่เป็นบางสิ่งที่เหมือนกับตลาดออนไลน์สำหรับสกุลเงินและไอเทมในเกม สถานที่ที่คุณสามารถ ขาย/ซื้อ เหรียญ/ไอเทม สำหรับเงินในชีวิตจริง(เครดิต)
จากผู้แปล
**เปลี่ยนเซ็ตการ์ดเป็นการ์ดเซ็ต
*****นครน้ำสีขาวเปลี่ยนเป็นไวท์ริเวอร์ซิตี้
เมืองทรายสีทองเปลี่ยนเป็นโกลเด้นแซนทาวน์
เมืองใบสีแดงเป็นเรดลีฟทาวน์
ราชอาณาจักรดาราจันทราเป็นสตาร์มูนส์คิงดอม
แบบนี้ดีไหมครับ ทับศัพท์ไปเลย ถ้าโอเคบอกหน่อยนะครับผมจะเปลี่ยนให้ในตอนต่อๆไป