px

เรื่อง : reincarnation of the strongest sword god
Chapter 60 - NPC?


Chapter 60 - NPC?

 

 

เมื่อมองไปที่การแสดงออกที่เสียขวัญของเมฆาม่วง ซือเฟิงก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้

 

“ไม่จำเป็น ฉันยังสามารถจ่ายเงินจำนวนนี้ได้อยู่ดี ถ้าเธอขายพวกมันให้ฉันแค่ 5 เหรียญเงินจริงๆ เธอก็จะไม่สามารถหารายได้มากนัก” ซือเฟิงโบกมือของเขา ซือเฟิงไม่ได้รีบร้อนที่จะเปลี่ยนเมฆาม่วงให้เป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้ปล่อยเธอไปเช่นกัน ถ้าซือเฟิงทำตัวมุทะลุเกินไป เขาอาจจะทำให้เธอปลูกความระแวงต่อตัวเขาขึ้นมา ดังนั้นมันจึงดีกว่าที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาลึกซึ้งขึ้นก่อนเป็นอันดับแรก

 

ไม่มีใครจินตนาการได้เลยว่า หนึ่งในท็อบสิบของนักบวชใน God’s Domain จะมีรูปลักษณ์แบบนี้

 

นักบวชพระเจ้า!

 

นั้นเป็นอาชีพระดับ 6 ของจริง หลังจากสิบปีที่ผ่านมา มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ไปถึงมาตรฐานดังกล่าวนั้นได้ แม้แต่แฟนตาซีเอ็กซ์ติงกวิเชอร์ก็เป็นแค่นักบุญจิตวิญญาณเท่านั้นซึ่งได้กลายเป็นสุดยอดของระดับ 5 ในอีกสิบปีต่อมา

 

 

อย่างไรก็ตามในฐานะของนักบวชพระเจ้าในอนาคต เมฆาม่วงเป็นผู้เล่นไลฟ์สไตล์ในช่วงเริ่มต้นของเกม มันช่างเป็นการเสียพรสวรรค์เสียจริง

 

โดยปกติใน God’s Domain เฉพาะผู้เล่นที่ไม่มีทักษะใดๆเท่านั้นที่จะได้รับเงินผ่านวิธีอื่นนอกเหนือจากการฆ่ามอนสเตอร์ อย่างไรก็ตาม อาชีพเสริมที่ได้รับความนิยมมักมีความต้องการที่สูงมาก เช่นกองทุนจำนวนมากที่ควบคู่ไปกับอัตราสำเร็จที่ต่ำมาก มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับผู้เล่นที่จะอยู่รอดในลักษณะนี้โดยไม่มีการสนับสนุนจากกิลด์

 

ในขณะเดียวกัน อาชีพเสริมเช่นพวกเชฟทำได้ง่ายกว่ามาก ค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนก็ยังต่ำมากเช่นกันและผู้เล่นคนเดียวก็สามารถสนับสนุนพวกมันได้ด้วยตัวพวกเขาเอง ถ้าพวกเขามีพรสวรรค์ที่สูงมาก และพวกเขาสามารถที่จะสร้างอาหารอันอร่อยได้ พวกเขาจะยังคงได้รับเงินเป็นจำนวนมากใน God’s Domain อย่างไรก็ตามอาหารที่อร่อยมักจะต้องการสูตรทำอาหารขั้นสูงและวัสดุ ไอเทมเหล่านี้ยากที่จะได้รับ ดังนั้นการพยายามที่จะได้รับเงินจำนวนมากมันจะไม่ง่ายเลย

 

มันเป็นเรื่องยากที่จินตนาการได้อย่างแท้จริงว่านักบวชพระเจ้าในอนาคตจะเป็นสุภาพสตรีสาวที่ซุ่มซ่ามแบบนี้

 

เขาจำได้ว่าเมฆาม่วงเป็นหนึ่งในสมาชิกของอูโรโบรอสในช่วงสามปีแรกของเธอใน God’s Domain แต่เมื่อเทพธิดาหิมะออกจากอูโรโบรอสไป เมฆาม่วงก็ออกจากกิลด์ไปเหมือนกัน ต่อจากนั้นเป็นต้นมา เธอก็เป็นแค่ผู้เล่นโซโล่ เมื่อเธอได้กลายเป็นนักบวชผู้ยิ่งใหญ่ระดับ 4 กิลด์ชั้นเยี่ยมนับไม่ถ้วนได้พยายามที่จะรับสมัครเธอเข้ามาด้วยราคาที่สูงจนน่าตกใจสุดขีด อูโรโบรอสเองก็พยายามนับครั้งไม่ถ้วนเพื่อที่เชิญเธอกลับมา แต่น่าเสียดายที่เมฆาม่วงไม่ได้ให้ความสนใจใดๆกับพวกเขาเลย

 

การกระทำของเธอทำให้กิลด์ชั้นเยี่ยมเหล่านี้ต้องโกรธอย่างมหาศาล เมื่อพวกเขาไม่สามารถได้รับเธอ ถ้างั้นพวกเขาก็จะทำลายเธอแทน ดังนั้นพวกเขาจึงส่งผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากไปลอบสังหารเมฆาม่วง แต่น่าเสียดายไม่ใช่เพียงแค่เมฆาม่วงไม่ได้ถูกทำลายเท่านั้น แต่กลับกันเธอยิ่งแข็งแกร่งขึ้น เธอสังหารหมู่เหล่าผู้เล่นที่ถูกส่งมาโดยกิลด์พวกนี้ ทำให้พวกเขาต้องพ่ายแพ้ยับเยิน ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็ได้ก้าวไปถึงอาชีพระดับ 5 กลายเป็นนักบวชอุทิศพิสุทธิ์ นี่เป็นทำให้เหล่ากิลด์ชั้นเยี่ยมต้องกลายเป็นหมดหนทางมากยิ่งขึ้น

 

ในท้ายที่สุด เมฆาม่วงก็ได้กลายเป็นนักบวชพระเจ้าระดับ 6 ในเวลาเดียวกัน เธอได้ค้นหากิลด์ชั้นเยี่ยมเหล่านั้นทั้งหมดเพื่อทำการแก้แค้น กิลด์เหล่านี้ทำได้เพียงจ่ายราคาเป็นเลือดเท่านั้นเพื่อระงับเรื่องนี้ จากนั้นเป็นต้นไป เมฆาม่วงก็ได้กลายเป็นหนึ่งในท็อบสิบของนักบวชพระเจ้าในทั่วทั้งโลก เหตุการณ์นี้มำให้กลุ่มระดับสูงของอูโรโบรอสต้องเสียใจมากที่ไม่ได้ขอให้เธออยู่ด้วยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทั้งหมด

 

อันเป็นผลมาจากเหตุการณ์นี้ ทุกคนสนุกไปกับการไร้ความสามารถของกลุ่มระดับสูงของอูโรโฐรอส แทนที่จะใช้ประโยชน์จากศักยภาพนี้ แต่พวกเขาดันใช้ลิ้นเลียรองเท้าใครก็ตามที่พวกเขาชอบใจ จนที่สุด พวกเขาก็โอกาสที่จะได้กลายเป็นสุดยอดกิลด์

 

อย่างไรก็ตาม ซือเฟิงไม่สามารถหาตราประจำกิลด์บนตัวของเมฆาม่วงในตอนนี้ได้

 

เพิ่มเติมกับการปรากฏตัวในปัจจุบันของเธอ ซือเฟิงเดาไว้ว่าเมฆาม่วงจะต้องถูกค้นพบโดยเทพธิดาหิมะในภายหลัง ซึ่งส่งผลเปลี่ยนให้เมฆาม่วงมีความรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณต่อเทพธิดาหิมะ ดังนั้นเมฆาม่วงจึงออกจากอูโรโบรอสเมื่อเทพธิดาหิมะหยุดการเล่น God’s Domain

 

ในขณะเดียวกันที่เมฆาม่วงในปัจจุบันยังไม่ได้พบกับเทพธิดาหิมะ มันก็เป็นโอกาสอันสมบูรณ์แบบสำหรับซือเฟิงในการรับสมัครเธอเข้ามา แม้ว่าเมฆาม่วงจะยังไม่ชำนาญในตอนนี้ แต่ก็เธอมีศักยภาพที่จะกลายเป็นนักบวชพระเจ้า ตราบเท่าที่เธอได้รับการฟูมฟักอย่างเหมาะสม เธอจะสามารถกลายเป็นนักบวชพระเจ้าในอนาคตได้อย่างแน่นอน

 

เมฆาม่วงไม่ได้โง่ เมื่อเธอได้ยินซือเฟิงพูดแบบนั้น เธอก็จ้องไปที่ซือเฟิงด้วยความเสียขวัญ มือทั้งคู่ของเธอจับหน้าอกที่ยังไม่ได้พัฒนาอย่างเต็มที่ขณะที่เธอถอยหลังกลับไป

 

“นายท่าน นอกเหนือจากการขายน้ำผลไม้แล้ว ฉันไม่ได้ขายอย่างอื่นอีก ถ้าคุณเสียดายมันในตอนนี้ คุณก็สามารถนำเงินของคุณกลับไป” เมฆาม่วงส่องมอบเหรียญเงินที่เธอเพิ่งได้รับมา อย่างไรก็ตามดวงตาของเธอยังคงพกพาร่องรอยความไม่เต็มใจขณะที่เธอทำ

 

ในเวลาที่เธอสิ้นหวัง ก็มีคนโผล่ออกมากะทันหัน บอกว่าเขาต้องการจะซื้อน้ำผลไม้พันถ้วย ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเต็มใจรอสามสิบชั่วโมงโดยไม่ต้องลดค่าใช้จ่ายของเธอ เธอไม่เชื่อว่าซือเฟิงจะไม่มีแรงจูงใจซ่อนเร้น แม้ว่าเธอจะถูกตีจนตายก็ตาม

 

โดยหลงลืมเมฆาม่วง แม้แต่ผู้เล่นรอบๆก็ไม่เชื่อมัน ถ้าซือเฟิงไม่มีแรงจูงใจซ่อนเร้น ทำไมเขาถึงช่วยเธอกัน? เขากระทั่งจ่าย 10 เหรียญเงินเพื่อซื้อเครื่องดื่มที่ไม่มีผู้ต้องการเหล่านี้

 

ซือเฟิงมองไปที่การแสดงออกและการกระทำที่ตื่นตัวของเมหาม่วง จากนั้นเขาก็มองไปที่หน้าอกอันราบเรียบ แล้วจู่ๆก็หัวเราะ “เธอกำลังคิดอะไรมากเกินไป ฉันไม่ได้มีความสนใจต่อพื้นที่ราบเรียบของเธอเลยจริงๆ ฉันก็แค่อยากซื้อสิ่งนี้เป็นจำนวนมากเพราะว่าฉันเพิ่งจะมีบางสิ่งบังเอิญเกิดขึ้นที่จำเป็นต้องใช้น้ำผลไม้ ถ้าเธอไม่เต็มใจจะขายพวกมันให้ฉัน มันก็ไม่เป็นไร ฉันก็แค่ไปหาคนอื่นเพื่อซื้อพวกมันเท่านั้น”

 

กล่าวเช่นนั้นแล้วซือเฟิงก็ปล่อยดริฟทิงบลัดขณะที่เขาหมุนตัวจากไป

 

อย่างไรก็ตาม ดริฟทิงบลัดไม่เต็มใจจะปล่อยซือเฟิงไป ซือเฟิงฉีกหน้าเขาต่อสาธารณะโดยการบังคับเขาให้คุกเข่าด้วยมือแค่ข้างเดียว ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อไหร่กันที่สหภาพต่อสู้จะต้องกลัวคนอื่น

 

เนื่องจากยามไม่ได้ดูเหมือนจะสนใจ มันจึงเป็นเรื่องง่ายมากที่จะกำจัดซือเฟิง

 

คิดอย่างนั้น ดริฟทิงบลัดก็ดึงอาวุธและใช้สกิลจู่โจมไปที่ซือเฟิง

 

ด้วยประสามสัมผัสทั้ง 5 ของเรา เป็นเรื่องธรรมชาติที่ซือเฟิงจะรู้ถึงการกระทำของดริฟทิงบลัด ซือเฟิงหมุนตัวไปเพื่อเชิญหน้ากับเขา ดึงดาบอเวจีออกมาและใช้สกิลปัดป้อง

 

แต๊ง! ดาบยาวของดริฟทิงบลัดได้ฟันลงไปที่ดาบของซือเฟิง แทนที่จะทำร้ายซือเฟิงแต่ดริฟทิงบลัดกลับถูกทุบกลับหลังไปสามหลา ความทนทางของดาบยาวในมือของเขาได้ลงลดทันที 2 แต้ม และเขามองไปที่ซือเฟิงด้วยความตกใจ

 

เขาไม่เข้าใจว่าคนแบบซือเฟิงมีความแข็งแกร่งที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ได้ยังไง ซึ่งซือเฟิงเป็นเหมือนกับสัตว์ป่าหุ้มหนังมนุษย์

 

ผู้เล่นรอบข้างก็ตกใจเหมือนกัน ดริฟทิงบลัดเป็นเบอเซิร์กเกอร์ ดังนั้นเขาจะต้องเพิ่มแต้มความแข็งแรงไปเยอะมากแน่นอน แถมเขายังอยู่ที่เลเวล 3 ที่คล้ายกับซือเฟิงอีกด้วย ดังนั้นช่องว่างของพวกเขามันใหญ่ขนาดไหนกัน?

 

ผู้เล่นเหล่านี้ไม่รู้ว่านี่เป็นแค่ครึ่งเดียวของความแข็งแกร่งที่แท้จริงของซือเฟิงเท่านั้น

 

หลังจากทั้งหมดที่ซือเฟิงได้รับแต้มคุณสมบัติฟรี 6 แต้มในทุกครั้งที่เลเวลของเขาเพิ่มขึ้น มันเป็น 1.5 เท่าจากของผู้เล่นปกติ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ร่างกายซือเฟิงได้รับการปกป้องโดยอุปกรณ์สัมฤทธิ์และเหล็กลี้ลับอีกด้วย แถมยังมีแม้แต่อาวุธเวทมนตร์ที่ทรงพลังอีก แม้ว่ามันจะเป็นครึ่งเดียวของแง่มุมเหล่านี้ก็ตาม ความแข็งแกร่งของซือเฟิงก็เกินกว่าผู้เล่นปกติไปไกลแล้ว

 

ถ้าความแข็งแกร่งของซือเฟิงไม่ได้ลดลงครึ่งหนึ่งแล้วล่ะก็ เพียงแค่สกิลลับพื้นฐานความแข็งและความแข็งแรงที่ถูกมอบให้โดยอาวุธเวทมนตร์ ซือเฟิงจะสามารถทำลายดาบยาวพื้นฐานได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ

 

“ไอ้เด็กเหลือขอ แกรนหาที่ตาย! มาดูกันว่าฉันจะดูแลแกยังไง!” เป็นเรื่องธรรมดาที่ดริฟทิงบลัดจะไม่เข้าใจว่าซือเฟิงนั้นไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้ของเขา เขากลับมาลุกขึ้นยืนทันที แล้วยกดาบยาวขึ้นขณะที่เขามองไปยังซือเฟิง

 

“ไอ้โง่” ซือเฟิงเก็บดาบอเวจีใส่ปลอก หมดความสนใจในตัวดริฟทิงบลัดไปโดยสิ้นเชิง

 

เห็นซือเฟิงเก็บอาวุธของเขาไป ดริฟทิงบลัดคิดว่าซือเฟิงได้หวาดกลัวและต้องการจะร้องขอความเมตตา อย่างไรก็ตามเขาจะไม่ให้อภัยซือเฟิง ดริฟทิงบลัดเพิ่มพลังในมือของเขาขึ้นอีก

 

เช่นเดียวกับที่ดริฟทิงบลัดกำลังจะฟันซือเฟิง เขาก็ถูกส่งเข้าสู่สถานะหน้ามืดทันที ก่อนที่ดริฟทิงบลัดจะหันกลับมาและสาบแช่งไอ้สารเลวที่โจมตีเขา ทันใดนั้นเขาก็ค้นพบยามหุ้มเกราะสีเงินขาว 6 คนยืนอยู่ตรงหน้าของเขา โดยไม่ต้องพูดอะไรเพิ่มเติม ยามจับดริฟทิงบลัดใส่กุญแจมือ

 

 

“คุณฝ่าฝืนกฎหมายของเมือง ดังนั้นเดินทางมากับเรา การต่อต้านใดๆจะทำให้คุณถูกฆ่าโดยไม่มีการพิจารณา” ยามสองคนจับดริฟทิงบลัดจากทั้งสองฝั่ง หมุนตัวแล้วก็ลากเขาออกไป

 

“เชี้ย แกจับคนผิดตัว! ฉันเป็นแค่พลเมืองธรรมดา! มันเป็นไอ้สารเลวนั้นที่โจมตีฉันก่อน! พวกแกควรไปจับกุมตัวเขาสิ!” ดริฟทิงบลัดชี้ไปที่ซือเฟิงอย่างต่อเนื่อง ตะโกนความอยุติธรรมออกมาจากความโกรธ  อย่างไรก็ตาม ยามไม่ได้สนใจกับเสียงตะโกนของเขาเลย แล้วก็พาเขาไปทันที

 

ทุกคนตกใจเหมือนกัน ทำไมยามถึงปรากฏตัวเฉพาะตอนนี้? ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังจับกุมคนผิดตัวอีกด้วย สถานการณ์ประเภทนี้มันคืออะไรกัน?

 

ตัวจริงของซือเฟิงอาจจะเป็น NPC ที่เป็นส่วนหนึ่งของชนชั้นสูง? มีเพียงแค่ชนชั้นสูงเท่านั้นที่มีอำนาจเช่นนี้

 

ด้านข้าง เมฆาม่วงมีการแสดงออกที่ว่างเปล่าบนใบหน้าของเธอ ไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ ทำไมยามถึงไม่จับซือเฟิงกัน? กลับกันพวกเขาไปจับกุมดริฟทิงบลัดแทน ซือเฟิงเป็น NPC ชนชั้นสูงจริงเหรอเนี่ย?

 

ดวงตาของเมฆาม่วงเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจขณะที่เธอมองซือเฟิงออกไป เธอกัดริมฝีปากสีดอกกุหลาบของเธอ มือที่บอบบางของเธอจับแน่นไปที่ชายเสื้อของเธอ

 

แน่นอนว่าเธอไม่ได้มีปฏิกิริยาแบบนี้เพราะว่าซือเฟิงเป็นคนรูปหล่อ แต่กลับกัน เธอต้องการเงินอย่างแท้จริง 10 เหรียญเงินเหล่านี้มีความสำคัญต่อเธอมากเกินไป

รีวิวผู้อ่าน