px

เรื่อง : โปรดเรียกผมว่า “วีรบุรุษรีไซเคิล”
RC:บทที่ 14 ความร่วมมือประสบผลสำเร็จ


RC:บทที่ 14 ความร่วมมือประสบผลสำเร็จ

“ความร่วมมืองั้นหรือ? ร่วมมือกันอย่างไรครับ?” หลินเฟิงรู้สึกว่าโอกาสทางธุรกิจได้มาถึงแล้ว จึงได้พูดอย่างอ่อนโยน

“ขายองุ่นของเธอให้แก่ฉัน และฉันจะนำไปขายต่ออีกที!” ชายวัยกลางคนกล่าว

“ราคาเท่าไรครับ?”

“จินละสิบหยวน!” ชายคนนั้นตอบ

“ไม่เปลี่ยนหรือครับ?”

“ไม่เปลี่ยน แต่ถ้าในอนาคตราคามันขึ้น ฉันก็จะซื้อจากเธอในราคาที่สูงขึ้น เธอสามารถวางใจได้!” ชายวัยกลางคนกล่าว

“ตกลงครับ!” หลังจากที่ใช้เวลาคิดสักพัก หลินเฟิงก็ตอบ

ในตอนนี้หลินเฟิงขายองุ่นเพียงเพื่อเป็นทางเลือกชั่วคราวที่จะสร้างชีวิตของเขา เขาไม่สามารถที่จะเสียเวลาไปกับมันได้ตลอดชีวิต ดังนั้นถ้าเขามีร้านผลไม้ที่ร่วมมือกับเขาได้เขาก็จะมีเวลาไปทำอย่างอื่นได้มากขึ้น

“ตอนนี้เธอมีกำลังผลิตองุ่นต่อวันได้สักเท่าไร?” ชายวัยกลางคนถาม

ร้านผลไม้อร่อยของเขาเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในตลาด ซึ่งขายผลไม้ทุกชนิด ถึงแม้คุณภาพจะไม่ค่อยดีนักแต่ก็มีชื่อเสียงมาก อย่างน้อยก็ในเมืองนี้ถ้าหากพูดถึงผลไม้แล้วล่ะก็ สิ่งแรกที่จะนึกถึงก็คือ ร้านผลไม้อร่อยแห่งนี้

“ตอนนี้สามารถผลิตได้วันละ 200 จิน แต่ผมรับประกันได้ว่าจะมีมากกว่านี้ในอนาคต!”

หลินเฟิงตอบอย่างมั่นใจว่าถ้าองุ่นขายดีเขาก็สามารถที่จะขยายการปลูกองุ่นออกไปได้

“สองร้อยจินงั้นหรือ? ใช่แล้ว ถึงแม้จะมีน้อย แต่ก็ลองดูไปก่อนว่าตลาดจะมีผลตอบรับอย่างไร!” ชายวัยกลางคนกล่าว

“น้อยงั้นหรือ?”

ในตอนแรกหลินเฟิงคิดว่าสองร้อยจินมันก็เป็นปริมาณที่มากแล้วแต่เมื่อเขาคิดใคร่ครวญอีกที เขาก็พบว่าร้านผลไม้อร่อยนั้นเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในตลาดและก็มีลูกค้าไม่ต่ำกว่า 80-100 คนในแต่ละวัน

ถ้าแต่ละคนซื้อเพียงคนละสองสามจิน องุ่นสองร้อยจินไม่นานก็คงขายหมด

นอกจากนี้หลินเฟิงยังพบว่าองุ่นของเขายังขาดตลาดในไม่กี่วันนี้ แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือถ้าหากว่ามันเพิ่มราคาเป็นสองเท่า ของก็ยังคงขาดตลาดอยู่ดี

“ดูเหมือนว่าฉันต้องเพิ่มพลังการผลิตในอนาคตแล้วล่ะ!” หลินเฟิงคิดในใจ ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกมีความสุขอยู่เงียบๆ ตราบใดที่เขามีสถานที่ขายเขาก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการหาเงินอีกต่อไป?”

“ถ้างั้นก็เริ่มต้นกันสิ้นเดือนนี้เลย งั้นเรามาเซ็นสัญญากันตอนนี้เลยและเอาเลขบัญชีของคุณมาให้ผม จากนั้นเธอก็สามารถที่ส่งองุ่น 200 จินให้ฉันได้ทุกวัน ตกลงไหม?” ชายวัยกลางคนกล่าว

“เอาล่ะ งั้นคุณนามสกุลอะไรครับ!” หลินเฟิงถามขึ้นทันที

“โอ้ ลืมไปเรายังไม่ได้แนะนำตัวกันเลย ช่างน่าอายเสียจริง ฮ่าฮ่า ฉันชื่อว่า เติ้งเทียนฟู่ เรียกฉันว่า เติ้งเจ๋อ! แล้วเธอล่ะ?” เติ้งเทียนฟู่กล่าว

“ผมชื่อว่า หลินเฟิง เรียกผมว่า เสี่ยวเฟิง ก็ได้ครับ!”

“โอเค เสี่ยวเฟิง!”

“...”

หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อย เติ้งเทียนฟู่ก็โอนเงินจำนวน 60,000 หยวนเข้าในบัญชีของหลินเฟิง เมื่อหลินเฟิงกลับมาถึงบ้าน เขาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

“พระเจ้า นี่มันเงินตั้ง 60,000 หยวน? อย่างกับความฝันเลย! ฮ่าฮ่า! ใจเย็น ใจเย็น ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ อย่าเต้นสิอย่าเต้น นี่มันแค่เงินเล็กน้อย!”

หลินเฟิงขณะที่เดินไปด้วย แต่ก็ไม่สามารถที่จะควบคุมความปลื้มปิติที่อยู่ภายในได้

“มันถึงเวลาที่ต้องขยายขนาดของสวนองุ่นแล้ว แต่มันจำเป็นที่ต้องมีน้ำยาขวดสีเขียวในการขยายครั้งนี้ ดูเหมือนว่าฉันต้องหาสถานที่ที่มีน้ำเสีย”

ระหว่างทางกลับบ้าน หลินเฟิงคิดขณะที่กำลังขี่มอเตอร์ไซค์อยู่บนถนน

“ตี้ด ถ้านายเจอขยะที่ไหนล่ะก็ ช่วยทำความสะอาดมันด้วยนะ!” ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากโทรศัพท์ของหลินเฟิง

“การกำจัดของเสียอย่างนั้นหรือ?” หลินเฟิงมีความสงสัยบางอย่าง!

ตั้งแต่ที่เขากลับมา กระแสน้ำวนสีดำในโทรศัพท์มือถือของเขาก็ไม่ทำงานเลยแม้แต่น้อย ในครั้งนี้มีบางอย่างเกิดขึ้นอีกครั้ง หลินเฟิงหยิบโทรศัพท์ของเขาออกมา มองดูข้างใน และทันใดนั้นเขาก็พบห้องเก็บขยะขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่ทิ้งขยะขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นโดยคนในตลาดแห่งนี้ ขยะทั้งหมดในตลาดจะถูกนำมาที่นี่และสุดท้ายก็จะถูกนำออกไปเผา

“ตี้ด ถ้านายเจอขยะที่ไหนล่ะก็ ช่วยทำความสะอาดมันด้วยนะ!” เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง

“จัดการเลย!” หลินเฟิงมองไปรอบๆ และไม่เห็นมีใคร เขาจึงกล่าวโดยไม่ลังเล

“ตี้ด ขยะพวกนี้ช่างมีมากมายที่จะสกัดเป็นสิ่งของ!” ในครั้งนี้กระแสน้ำวนในโทรศัพท์ของเขาไม่ได้ดูดขยะเข้าไปในทันที แต่ได้รับการแจ้ง

“อะไร? ขยะ มันมากเกินไปไหม? ไม่สามารถนำบางสิ่งมาได้? ต้องมีการจำแนกขยะหรือไม่?”

หลินเฟิงสงสัย แต่เขาก็หายสงสัยในเวลาต่อมา แน่นอนว่าขยะนั้นจะต้องถูกคัดแยกเสียก่อน ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้

“ตี้ด ขยะพวกนี้มันมากเกินไปที่จะสกัด คุณยังต้องการที่จะทำความสะอาดอยู่ไหม?” เสียงในโทรศัพท์ยังคงเตือนขึ้นมา

เนื่องจากฉันไม่สามารถแยกสิ่งต่างๆ ได้ ฉันต้องไปจัดการตัวเองก่อน ฉันจะกลับบ้านและค่อยคุยเรื่องนี้กัน”

วันนี้เป็นวันเก็บเกี่ยวผลผลิตครั้งใหญ่ หลินเฟิงมีความสุขมาก!

จากนั้นหลินเฟิงก็สะพายตะกร้าขึ้นหลัง ขี่มอเตอร์ไซค์คันเก่า และฮัมเพลงกลับบ้านอย่างช้าๆ

“วันนี้ช่างเป็นวันที่ดี...”

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง

“ไอ้ลูกหมา นี่แกหายไปไหนมาทั้งวัน? ฉันไม่เห็นแม้แต่เงา! นี่แกมัวแต่ทำอะไรอยู่ตั้งแต่กลับมาบ้าน? ได้หางานใหม่ทำหรือเปล่า?

เมื่อกลับถึงบ้านแม่ของหลินเฟิงก็ถามเนื่องจากกลัวว่าเขาจะไม่กลับไปทำงาน

“ผมไปขายองุ่นมาครับ อิอิ! แล้วก็ขายได้เงินมากซะด้วย ฮ่าฮ่า!” หลินเฟิงหัวเราะอย่างมีความสุข

“ไร้สาระ! แกมีองุ่นที่ไหนกันเล่า? แล้วยังจะทำเงินได้มากมายอีก!”

ในความทรงจำของแม่ มันมีเถาองุ่นอยู่เพียงต้นเดียวในบ้าน และมันก็ถูกคุ้ยเขี่ยโดยพวกไก่ โดยไม่มีใครสนใจ และบางทีมันอาจจะตายไปแล้วก็ได้

“ใครบอกว่าบ้านเราไม่มีองุ่น? เชื่อสิครับ ไปดูที่สนามหลังบ้านสิ!” หลินเฟิงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

เมื่อเห็นสีหน้าที่จริงจังของหลินเฟิงแม่ของเขาถึงกับตกตะลึง เพราะโดยปกติแล้วหลินเฟิงจะแสดงสีหน้าแบบนี้เฉพาะตอนที่เขาจริงจังจริงๆ

“เรื่องจริงงั้นหรือ? ฉันรู้แล้วล่ะ!” แม่ของหลินเฟิงกล่าว และรีบวิ่งไปที่สนามหลังบ้าน และหลินเฟิงก็เดินตามไปด้วย

“พระเจ้า ฉันไม่รู้เลยว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น สวนองุ่นใหญ่ขนาดนี้มาอยู่ในสนามหลังบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

จากนั้นไม่นาน แม่ของหลินเฟิงก็มาถึงที่สนามหลังบ้านและตะลึงที่ได้เห็นต้นองุ่นที่ปกคลุมไปทั่วทั้งสนาม

“นี่มันเป็นพันธ์ใหม่ที่ผมคิดค้นขึ้นเอง มันโตและออกผลเร็วมาก และรสชาติก็อร่อย ผมวางแผนที่จะปลูกผลไม้เพื่อดูแลครอบครัวของเราในอนาคต!”

เป็นเพราะว่าหลินเฟิงไม่รู้ว่าจะอธิบายกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับองุ่นอย่างไรในตอนนี้ เขาจึงทำได้แค่บอกว่ามันเป็นพันธ์ใหม่ที่เขาคิดค้นขึ้นเอง

แม่ของเขาก็ไม่รู้หนังสือและก็ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องพันธุกรรม ดังนั้นเธอจึงไม่สงสัยกับคำพูดของหลินเฟิง แต่เธอตกตะลึง

“แม่ไม่รู้ว่าแกปลูกตั้งแต่เมื่อไร แม่ไม่เห็นเลยตอนที่มาดูไก่เมื่อวันก่อน!” แม่ของเขาถามด้วยความสงสัย

“สักพักแล้ว บางทีแม่คงไม่ได้สนใจ เอาล่ะไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว คอยดูองุ่นพันธ์ใหม่นี้ดีกว่า!”

หลินเฟิงรีบยกประเด็นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“มันดีมากเลยที่มีองุ่นชนิดนี้ แม่ไม่เคยเห็นองุ่นที่ใหญ่ขนาดนี้ ไม่เพียงแต่ลูกดกแต่ยังลูกใหญ่อีกด้วย ขอลองชิมสักลูกได้ไหม?” แม่ของเขาถาม

“ได้สิแม่ แม่จะกินสักเท่าไรก็ได้ที่อยากกิน!” เมื่อพูดจบแม่ของเขาก็หยิบองุ่นมาหนึ่งลูกและลองชิม

“พระเจ้า องุ่นนี้มันช่างหอมเหลือเกิน...”

 

รีวิวผู้อ่าน