px

เรื่อง : โปรดเรียกผมว่า “วีรบุรุษรีไซเคิล”
RC:บทที่ 18 สู้สุดใจกับชายหัวล้าน


RC:บทที่ 18 สู้สุดใจกับชายหัวล้าน

ทันใดนั้นเอง ก็เกิดเสียงร้องลั่นจนสั่นสะเทือนไปทั้งตรอกจนทำให้คนทั้งสามตัวสั่นสะท้าน

แต่เมื่อทั้งสามเห็นว่าหลิน เฟิงมาคนเดียว พวกเขาก็โล่งใจ

“ก็แค่คนๆเดียว ไม่ต้องห่วงเลย ลูกพี่ เดี๋ยวพวกเราจะจัดการให้พี่เดี๋ยวนี้เลย” ชายผมม่วงที่อยู่ในแสงริบหรี่ เห็นเพียงแค่ร่าง ได้ทีก็โอ้อวด

“ไอ้หนุ่มน้อย แกมาเสนอหน้าอะไรที่นี่ ขอเลยนะ อย่ามาเจ๋อเรื่องคนอื่นจะดีกว่า ไม่อย่างงั้น...” แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค หลิน เฟิงก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน

 “ไม่อย่างงั้นอะไรล่ะ” ทันทีที่พูดจบ เขาก็พุ่งหมัดเข้ามาจังๆใส่ชายผมม่วงที่ยืนประจันหน้าอยู่นั้น ร่างทั้งร่างของชายคนนั้นถึงกับปลิว กระแทกกำแพงสลบไป

“เฮ้ย ได้ไงวะเนี่ย”

เมื่อฮวง เหมาเห็นว่าหลิน เฟิงสามารถต่อยชายผมม่วงให้ปลิวไปได้ในหมัดเดียวจนสลบไปแบบนั้นก็เล่นทำเอาเขากลัวไปเลย

แม้ว่าจี้ฟาจะสู้ได้ไม่เก่ง แต่การที่จะเอาชนะจี้ฟาได้โดยไม่ต้องออกแรงเลยนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างน้อยที่สุดเขาก็คิดว่ายังไงชายคนนี้ก็คงไม่สามารถล้มจี้ฟาได้ในหมัดเดียวหรอก

“ความแข็งแกร่งมากกว่าหลายเท่าตัว อย่างน้อยก็สามเท่าล่ะวะ แน่ๆ”

หลังจากหลิน เฟิงชกชายผมม่วงแล้วนั้น เขาก็ไม่ได้สนใจชายผมเหลืองอีก แต่จ้องหมัดของตนพร้อมกับกระซิบ

“ฮึ่ม อย่าคิดนะว่าแค่ย้อมผมสีม่วงแบบนั้นจะเอาชนะใครก็ได้บนโลกใบนี้น่ะ นี่ฉันยังไม่ได้เริ่มอะไรเลยนะ”

เมื่อฮวง เหมาเห็นว่าหลิน เฟิงไม่ได้สนใจตัวเขา จึงโกรธจัด ก่อนจะชกหลิน เฟิงเข้าที่อกด้วยแรงโทสะ

“เอ๊ะ”

ทั้งความเร็วและเวลาในการปล่อยหมัดของฮวง เหมานั้นทำเอาหลิน เฟิงประหลาดใจเล็กน้อย เพราะปฏิกิริยาของเขานั้นเร็วกว่าชายผมม่วงนั่นซะอีก รวมถึงพละกำลังที่มากกว่าอีกด้วย

แต่ก็เท่านั้นล่ะ สำหรับหลิน เฟิงแล้ว นี่ก็ไม่ต่างจากการเหยียบมดหรือตั๊กแตนหรอก

“จัดการให้เรียบ”

เวลาต่อมา แสงไฟก็ถูกจุดขึ้นมา เห็นแค่เพียงหมัดของชายผมเหลืองและของหลิน เฟิงที่ปะทะกันก่อนจะเกิดเสียงเหมือนกับกระดูกหัก

“อ๊าก มือฉันๆ”

จากนั้นชายผมเหลืองก็ร้องลั่น ก่อนจะกุมหมัดข้างขวาของตน พลางร้องโหยหวน

“โครม”

หลิน เฟิงถีบชายคนดังกล่าวไปติดกำแพงอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะค่อยๆร่วงลงสู่พื้น สภาพดูไม่ได้ยิ่งกว่าชายผมม่วงเสียอีก

“เอ๊ะ ใครน่ะ กล้าดียังไง”

ชายหัวล้านซึ่งเพิ่งจะปลดเข็มขัดของตนนั้นก็เริ่มจะใจเย็นลง แต่ทันใดนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงร้องลั่นมาจากข้างหลัง เขาจึงหันไปมองจึงเห็นว่าชายสองคนนั้นกำลังนอนกองอยู่บนพื้น

“แกเป็นใคร ฉันขอบอกเลยนะว่าแกควรออกไปเดี๋ยวนี้ อย่ามาจุ้นเรื่องนี้ และฉันจะทำเป็นว่าแกไม่เคยอยู่ที่นี่มาก่อน ไม่อย่างงั้น อย่ามาหาว่าฉันหยาบคายล่ะ”

ในตอนนั้นเอง ชายหัวล้านที่ถือว่าตนใหญ่และชั่วร้ายที่สุดนั้นไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะสนใจหลิน เฟิงนัก ดังนั้นเขาจึงแค่เตือนไปเพราะยังมีสิ่งที่เขาอยากจะทำอยู่

“ไม่นะ อย่าไป ช่วยฉันด้วย ช่วยด้วย” เมื่อเด็กสาวคนนั้นเห็นหลิน เฟิง ก็ไม่ต่างกับการที่ต้องคว้าฟางช่วยชีวิตเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร

“ไม่ต้องสนใจหรอกว่าฉันเป็นใคร แต่ฉันขอบอกให้นายปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปซะแล้วก็คืนของๆเธอไป ไม่อย่างงั้นล่ะก็ ทั้งหมัดของฉัน กระดูกของฉันมันคงไม่รังเกียจที่จะเข้าตะบันหน้านายแน่ๆ”

จนถึงตอนนี้ ทั้งสองคนนั้นต่างอยู่ในสภาพย่ำแย่ และหลิน เฟิงเองก็รู้สึกว่าไม่มีที่ให้เขาได้ระบายพละกำลังทั้งหมดนี้เลย ด้วยเหตุนั้นเขาจึงกระตือรือร้นที่จะหาใครมารองรับการฝึกฝนในครั้งนี้ และชายหัวล้านคนนี้นี่เองคือเป้าหมายที่ดีอย่างมากในการฝึกฝน

“งั้นหรือ นายนี่ใจดีมากขนาดกล้าแนะนำไม่ให้ฉันสนใจเรื่องพวกนี้เลยงั้นหรือ อย่ามาหยาบคายกับฉันหน่อยเลย”

เพียงแค่ได้เห็นว่าชายหัวล้านคนนั้นกำลังย่างสามขุมเข้ามาที่หลิน เฟิง กระดูกในร่างกายของหลิน เฟิงก็รู้สึกเหมือนส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด เต็มไปด้วยพลังแห่งการพุ่งปะทะ

“อืม ดูแล้วเราน่าจะเป็นเป้าหมายที่เหมาะสมกันนะ เจ้านี่หุ่นดีเป็นบ้า”

เมื่อชายหัวล้านเข้าไปใกล้กับหลิน เฟิง เขาก็เห็นว่าชายคนดังกล่าวมีเคราอยู่บนใบหน้า มีเกราะหนัง หมัดทั้งสองข้างและมีรูปสิงโตอยู่บนอก

เพราะมีร่างกายที่แข็งแรงแบบนี้นี่เอง เขาจึงแข็งแรงมาก ที่เห็นแวบแรกนั้น เขาก็รู้เลยว่าชายคนนี้คงฝึกฝนมาจากในครอบครัว แต่เขาไม่รู้ว่าความสามารถในการต่อสู้ของชายคนนี้นั้นมีแค่ไหน

“แส่นักนะ งั้นเจอนี่”

ในขณะที่หลิน เฟิงมองชายตรงหน้านี้อยู่นั้น ชายหัวล้านก็สวนหมัดตรงเข้ามาที่อกของเขา ในขณะที่หลิน เฟิงก็ออกหมัดสวนออกไปเช่นกัน

“โครม” เกิดเสียงขึ้นมาเล็กน้อย ทั้งสองถึงกับเซถอย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลิน เฟิง พวกนั้นถอยหลังไปสามก้าว ในขณะที่ชายหัวล้านถอยไปเพียงก้าวเดียวซึ่งนั่นทำเอาหลิน เฟิงถึงกับประหลาดใจ

 “ฮ่าๆ เด็กน้อย เริ่มรู้สึกเสียใจหรือยังล่ะ อย่าคิดนะว่ามีแค่สองมือแล้วจะทำกล้า ทำเก่ง หยิ่งผยองได้ วันนี้ล่ะ ฉันจะทำให้นายรู้ถึงจุดจบของคนชอบแส่เอง”

ทันทีที่ชายคนดังกล่าวสวนหมัดกลับมา การจู่โจมในครั้งนี้เองก็ดูรุนแรงขึ้น หมัดที่ทั้งไวและการเคลื่อนไหวก็คล่องแคล่ว เห็นแค่แวบแรก ชายคนนี้ก็คือผู้ช่ำชองในวิถีต่อสู้เป็นอย่างดี

“โครม” หลิน เฟิงถูกชายหัวล้านเตะเข้าที่อก ก่อนจะถอยมาห้าก้าว

“ตาย”

ชายหัวล้านเห็นว่าหลิน เฟิงถอยไปไม่กี่ก้าวหลังจากถูกเขาเตะไปซึ่งนั่นทำให้เขางุนงงมากก่อนจะรีบเข้าไปสู้อีก

ถ้าเป็นคนทั่วไปโดนเตะแบบนี้ก็คงเจ็บตัวไปแล้ว  แต่นี่เขาจะไม่ได้เป็นอะไรเลยและดูไม่น่าจะเจ็บตัวอีกด้วย นอกจากนี้หลิน เฟิงไม่ใช่แค่ไม่เป็นอะไร แต่เขายังเผยรอยยิ้มแปลกๆออกมาอีก

“ฮ่าๆ ก็เหมือนๆเดิมนี่น้า งั้นฉันจะเล่นกับนายอีกหน่อยก็แล้วกัน”

เขาไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้ หลิน เฟิงจึงทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่หายใจเสียด้วยซ้ำ

แต่เขากลับเอียงคอไปซ้ายที ขวาทีก่อนจะหักข้อมือ ราวกับคนที่เพิ่งออกกำลังวอร์มร่างกาย

“เกิดอะไรขึ้นนี่”

ในตอนนั้นเอง ชายหัวล้านจึงรีบพุ่งเข้าไปต่อย แต่ทันใดนั้นเอง เขาจึงรู้สึกว่าหลิน เฟิงในตอนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว เป็นความรู้สึกราวกับกำลังเผชิญกับสัตว์ป่าดุร้าย

“ก็ฉันแค่เล่นๆกับนายไง กำลังที่ใช้ไปก็แค่ครึ่งเดียว แต่ตอนนี้ฉันขอเอาจริงล่ะ”

ด้วยท่าทางแบบนั้น หลิน เฟิงจึงยื่นมือออกมาในทันใดก่อนจะคว้าหมับเข้าที่กำปั้นของชายคนดังกล่าว จากนั้นจึงเหวี่ยงออกข้างและทุ่มเขาลงบนพื้นอย่างจัง

จากนั้น หลิน เฟิงจึงใช้เท้าเหยียบไปบนอกชายหัวล้าน จนชายคนดังกล่าวปลิวออกไปนอกตรอก ล้มลงกับพื้นก่อนจะกระอักเลือดออกมา  เห็นได้ว่าพลังลูกถีบของหลิน เฟิงนั้นน่ากลัวแค่ไหน

“เป็นไปได้ไงวะ” ชายหัวล้านลุกขึ้น ก่อนจะถ่มเลือดออกมา รู้สึกไม่อยากเชื่อ

หลิน เฟิงออกกำลังกายอยู่บ่อยๆ พละกำลังเดิมของเขานั้นเดิมทีก็มากกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว นอกจากนี้หลังจากได้กินผลฮั๋วหยางเข้าไป พละกำลังของเขาจึงเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างน้อยที่สุดสามเท่า

ภายใต้แรงแบบนี้ หลิน เฟิงจึงสามารถฆ่าคนได้ในหมัดเดียว ดังนั้นเขาจึงยับยั้งแรงไปครึ่งหนึ่งเพื่อเล่นกับชายหัวโล้นคนนี้

“ว่าไง ยังคิดจะสู้อยู่หรือไง” เมื่อเห็นชายตรงหน้า หลิน เฟิงจึงกล่าวขึ้นพลางยิ้มๆ

แต่ทว่าชายหัวล้านในตอนนี้กลับมองหลิน เฟิงด้วยความกลัวสุดขีด แล้วจากนั้นก็ลุกขึ้นทันทีก่อนจะวิ่งหนีไป ทิ้งเขาอยู่ข้างหลังซึ่งนั่นทำให้หลิน เฟิงแปลกใจมาก

“หยุดเขาไว้ เขาเอาของๆฉันไป”

ในตรอกดังกล่าว เมื่อเด็กสาวคนนั้นได้เห็นการต่อสู้ระหว่างหลิน เฟิงกับชายหัวล้านคนนั้น เธอก็อึ้งไป และใช้เวลาอยู่นานกว่าที่เธอจะแสดงท่าทีอะไรออกมาได้ ในตอนนั้นเอง ชายหัวล้านจึงหนีออกไปพร้อมกับของ แต่เมื่อเขาหนีออกไป เด็กสาวจึงร้องขึ้นอย่างร้อนรน และชายหัวล้านก็วิ่งออกไป

“ตายจริง ฉันลืมบอกไปเลยว่าฉันแย่งกระเป๋านี่มาจากสาวสวยตรงหน้านั่น น่าอายจัง” หลังจากหมอนั่นพูดจบ หลิน เฟิงก็รีบไปจับตัวมันมาด้วยความเร็วสุดเหลือเชื่อ

จนเมื่อเห็นว่าหลิน เฟิงกำลังตามจับตัวเขานั้น ชายหัวล้านจึงรีบไปในที่ที่คนอยู่กันมากมายและแล้ววิ่งไปต่อไม่ได้

“อยู่ตรงนั้นแหละ หยุด...” 

รีวิวผู้อ่าน