px

เรื่อง : War Sovereign Soaring The Heavens
บทที่ 123 หลิงเทียนเกรี้ยวกราด!!


แต่ทว่าคำกล่าวต่อมาของหลิงเทียนก็ทำให้ถังจิ้งหายซึมเปลี่ยนเป็นตกตะลึงในทันใด

"ข้าไม่ได้คิดที่จะขายสูตรโอสถให้ท่าน แต่ข้าจะสอนวิธีการสร้างมันให้แก่ท่านเลย ขอเพียงให้ท่านรับปากว่า จะยังส่งมอบผลกำไรให้แก่ข้าเหมือนเมื่อก่อนก็พอ... แล้วนอกจากนั้นก็อยากให้ท่านรับปากว่าจะไม่ไปสอนผู้ใดอีก!" ต้วนหลิงเทียนเหลือมองถังจิ้นด้วยสายตาลึกซึ้ง

หลังจากที่หายจากอาการตกตะลึง อดไม่ได้ที่ถังจิ้งจะกล่าวถามออกมาด้วยความสงสัยว่า "แล้วนี่เจ้าไม่กลัวข้า ฆ่าเจ้าทิ้งหรือไร หลังจากที่ข้าได้รับสูตรโอสถไปแล้ว?"

"ฮ่าๆ แล้วท่านคิดจะทำเช่นนั้นหรือยังไงกัน? ให้ข้าเดา ท่านย่อมสงสัยว่าข้ายังมีอะไรดีๆอีกหรือไม่ ท่านย่อมคิดว่าเกิดในอนาคตมีโอกาสร่วมงานกันอีก ท่านอาจจะได้ผลประโยชน์อะไรมากกว่านี้จากสิ่งที่ข้ามี... และข้าก็รู้ ว่าท่านเป็นคนฉลาด นั่นหมายความว่าท่านย่อมรู้ดี ว่าการฆ่าไก่เพื่อเอาไข่ มันเป็นเรื่องไร้สาระและโง่งมขนาดไหน” ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมแสยะยิ้ม

"ฮึ่ม เจ้านี่มันเป็นจิ้งจอกน้อยที่เจ้าเล่ห์จริงๆ!" ถังจิ้งอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาอย่างขุ่นเคือง เพราะดูเหมือนเขาจะถูกหลอกด่าอย่างไรไม่รู้

ต้วนหลิงเทียนหยิบสูตรโอสถที่ได้จดเอาไว้ก่อนหน้านี้ให้ถังจิ้งดูและจดจำ เมื่อถังจิ้งจดจำวัตถุดิบสมุนไพรรวมถึงวิธีการสร้างหทั้งหมดได้แล้ว หลิงเทียนพลันจุดเปลวเพลิงหลอมโอสถขึ้นมาในฝ่ามือ เผากระดาษนั้นจนเป็นธุลีสลายไปอย่างสิ้นเชิง ...

"เจ้า... นี่เจ้าเป็นผู้หลอมโอสถตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?" เมื่อเห็นเปลวเพลิงโอสถปะทุขึ้นในมือของหลิงเทียนอย่างกะทันหัน ถังจิ้งอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงราวคนโง่งมอีกครั้ง เขาไม่รู้มากก่อนสักนิดว่าหลิงเทียนจะเป็นผู้หลอมโอสถคนหนึ่งด้วยอายุเพียงเท่านี้

ต้วนหลิงเทียนหยิบตรายืนยันตัวตนของสมาคมผู้หลอมโอสถออกมาให้ถังจิ้งดู ก่อนที่จะเก็บมันไว้เหมือนเดิม หลังจากนั้นเขาก็เดินออกมาจากร้านขายโอสถ โดยทิ้งให้เจ้าของร้านทำหน้าเหลอหลาเพราะตกตะลึงต่อไป

"เจ้าเด็กคนนี้ มันยังมีความลับอีกมากเท่าไรกัน?!" ยิ่งรู้จักหลิงเทียนมากขึ้นเท่าไร ถังจิ้งยิ่งไม่อาจหยั่งถึงตัวตนของหลิงเทียนได้มากขึ้นเท่านั้น ...

หลังจากที่เดินทางออกจากร้านขายโอสถ หลิงเทียนก็เดินทางกลับเขตที่พักของตระกูลลี่ เมื่อกลับมาถึงเขาพลันได้ยินเสียงที่คุ้นเคยลอยมาเข้าหูกำลังพูดคุยกันอยู่แว่วๆ ...

ถึงแม้ว่าเขาจะฟังไม่ชัดว่ากำลังคุยกันถึงเรื่องอะไร แต่เขาสามารถจดจำได้ว่าเจ้าของเสียงเป็นใครทันที

ไขมันน้อย ลี่ซวน!

"เจ้าอ้วนนี่มาทำอะไรที่นี่กัน หรือว่าตระกูลสาขาแนะนำมันมาที่ตระกูลใหญ่นี้?" ในขณะที่เดินเข้าไปหาหลิงเทียนก็แย้มยิ้มออกมา

ทว่าเมื่อเข้าไปถึงแล้วสัมผัสบรรยากาศเศร้าสลดในลานบ้าน รอยยิ้มพลันหายไปทันที ...

"ลูกพี่!" ไขมันน้อย รีบลุกขึ้นและตะโกนเรียกออกมาทันที ที่เห็นหลิงเทียนกลับมา

"ลี่ซวน เกิดอะไรขึ้นกัน?" หลิงเทียนสังเกตว่าท่าทางของมารดาเขาดูไม่ค่อยสู้ดีนัก ต้องมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้นเป็นแน่

หน้าอ้วนๆของลี่ซวนสั่นเล็กน้อย ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าสลด “ลูกพี่ ท่านผู้อาวุโสหลักตายแล้ว"

ผู้อาวุโสหลักที่ ลี่ซวนกล่าวถึง แน่นอนว่ายอมต้องเป็นผู้อาวุโสหลัก ที่มีนามว่าลี่หัวจากตระกูลลี่ที่เมืองวายุโปรย

“เจ้าว่าไงนะ?!”

ใบหน้าของหลิงเทียนบิดเบี้ยวทันทีเขาจับไหล่เจ้าอ้วนแล้วเขย่าไปมาเบาๆ “เจ้าพูดมา มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? แล้วผู้อาวุโสหลักเขาตายได้อย่างไร? "

หลิงเทียนย่อมรู้ถึงสภาพร่างกายของลี่หัวดี เพราะว่าเขาไปช่วยรักษาอาการบาดเจ็บเรื้อรังของลี่หัวมาก่อน มันไม่ได้เลวร้ายและมีผลตกค้างมากมายอะไรที่จะทำให้ผู้อาวุโสหลักที่มีระดับการบ่มเพาะไม่ใช่น้อยจากไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้ อย่างน้อยๆเขาต้องมีอายุอยู่ไปอีกหลายสิบปี

เช่นนั้นมันก็มีความเป็นไปได้อย่างเดียว ...

ผู้อาวุโสหลักต้องถูกใครสังหารอย่างแน่นอน!

“ลูกพี่ เป็นไอพวกตัวบัดซบจากตระกูลฟาง! มันเป็นชายชราตัวปัญหาคนหนึ่งที่เดินทางกลับมายังตระกูล มันมาถึงก็ทำการบีบบังคับให้ผู้อาวุโสหลัก ส่งมอบสูตรโอสถน้ำบ่มเพาะร่างกาย 6 กระบวนออกไป แต่ผู้อาวุโสหลักยินยอมตายดีกว่าที่จะส่งมอบสูตรโอสถออกไป" ไขมันน้อยกล่าวออกมาพร้อมอารมณ์แค้นใจที่ปะทุออกมาอย่างเห็นได้ชัด

ต้วนหลิงเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะกล่าวถามออกมาว่า "ตระกูลฟาง ... เป็นไอพวกบัดซบตระกูลฟางนั่นอีกแล้ว เจ้าอ้วนระดับบ่มเพาะของไอแก่นั่นอยู่ระดับใด?"

"เขา...เขาดูเหมือนจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ในระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 2... นี่เพราะยามที่เขาลงมือ มีรูปร่างช้างแมมมอธโบราณปรากฏขึ้นมา 30 ตัวเหนือศีรษะ"

ใบหน้าของลี่ซวนดิ่งลงเล็กน้อย "หากไม่ใช่เพราะว่าพวกมันกลัวตระกูลลี่สาขาหลักที่อยู่ในเมืองออโรร่าแห่งนี้ พวกมันคงล้างตระกูลลี่สาขาเมืองวายุโปรยไปแล้ว เหตุผลที่ข้ามาที่นี่ ก็เพื่อดูว่าตระกูลลี่สาขาหลักนี้ จะยินดีล้างแค้นให้แก่ผู้อาวุโสหลักหรือไม่ หากพวกเขาไม่เต็มใจ ข้าจะไปหาท่านตาของข้าเอง!"

"ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปรบกวนคนของตระกูลลี่ เจ้าไปกับข้าตอนนี้เลย" ดวงตาของหลิงเทียนพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา สภาวะและบรรยากาศรอบๆตัวเขาหนาวยะเยือกและชวนให้หวาดกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

"ละ..ลูกพี่ แต่ไอแก่บัดซบนั่นมันอยู่ระดับกำเนิดแก่นแท้... " ไขมันน้อยกล่าวออกมาอย่างลังเล

"แล้วยังไง?" หลิงเทียนกล่าวออกมาอย่างเย็นชา

ฉงเฉวียนนั้นกลืนโอสถกวาดจิตพิสุทธิ์เม็ดที่ 2 ไป จนตอนนี้เขาซึมซับผลของโอสถที่ละลายออกมาจนหมดสิ้นแล้ว ส่งผลให้ระดับบ่มเพาะของเขาตอนนี้พุ่งไปอยู่ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 9 แต่ไอแก่ของตระกูลฟางนั่นเป็นแค่ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 2 เท่านั้น แต่ถึงแม้ให้มันอยู่ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 9 มันก็ต้องตายไร้ที่ฝังเช่นเดิม!

ฉงเฉวียนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่เคยเหยียบไปในระดับแรกสัมผัสธรรมชาติ! ถึงแม้ว่าตอนนี้ระดับบ่มเพาะของเขาจะตกลงมาไกลโขจนเหลือเท่านี้ แต่ในแง่ประสบการณ์แล้วแค่สวะระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 9 จะไปมีปัญญาต่อต้านอะไรเขาได้ ...

ยิ่งไปกว่านั้นถึงจะไม่ต้องสนใจในเรื่องของประสบการณ์ แต่ด้วยอาวุธวิญญาณระดับ 7 ที่ฉงเฉวียนครอบครองอยู่ มองไปทั่วทั้งอาณาจักรนภาล่องแห่งนี้ ก็คงไม่มีผู้ฝึกยุทธ์คนใดที่มีระดับต่ำกว่าวิญญาณแรกก่อตั้งคนไหนที่จะสามารถต่อสู้กับฉงเฉวียนได้!

"ท่านแม่เดี๋ยวข้าจะกลับไปยังเมืองวายุโปรยสักครู่ ข้ากลับมาทันพรุ่งนี้อย่างแน่นอนไม่จำเป็นต้องเลื่อนการเดินทางอะไรทั้งนั้น ฝากท่านแม่บอกเค่อเอ๋อด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วง" ต้วนหลิงเทียนกล่าวแจ้งมารดาเขาเสร็จก็จับไหล่ของลี่ซวนก่อนที่จะพุ่งร่างทะยานออกจากเขตที่พักตระกูลลี่ทันที

ตอนนี้ไขมันน้อยตาพร่าหูตึงเพราะแรงลมปะทะจนไม่สามารถรับรู้อะไรได้ ใบหน้าอ้วนๆของมันถูกแรงลมปะทะจนกระเพื่อมอย่างนัก ทั้งสีหน้าของมันยังซีดเซียวไม่น้อย

ทว่าเมื่อมันพยายามเงยหน้าขึ้นมามองเหนือศีรษะหลิงเทียน มันก็ต้องอ้าปากค้างทำสีหน้าราวคนเสียสติทันที!

"กะ ... 9 ...ความแข็งแกร่ง 9 ช้างแมมมอธโบราณ! ลูกพี่แข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?!" ไขมันน้อยถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่

สักพักไขมันน้อยก็สังเกตได้ว่าหลิงเทียนหยุดเคลื่อนที่แล้ว และเมื่อเขามองดูรอบๆก็พบว่าตอนนี้หลิงเทียนพาเขามาหยุดอยู่หน้าโรงเตี๊ยมหลังหนึ่ง

"ลูกพี่ ท่านพาข้ามาที่นี่ทำไมหรือ?" ไขมันน้อยสงสัยเล็กน้อย

"เจ้ารอนี่ก่อน" หลิงเทียนกล่าวกับไขมันน้อยก่อนที่จะเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมอย่างรวดเร็ว

"ตามข้ามา"

"ขอรับ นายท่าน" ฉงเฉวียนไม่ได้กล่าวถามอะไรทั้งสิ้น เขาเพียงเดินตามหลิงเทียนมาเงียบๆ

ตอนนี้เขาสัมผัสได้ว่าน้ำเสียงของนายท่านคนนี้แข็งกระด้างอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าเป็นอาการของคนที่กำลังระงับโทสะอารมณ์ที่คุกรุ่น ... "ข้าอยากรู้นักว่า ตัวโง่งมใดกล้าสร้างปัญหาให้นายท่าน!"

หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนเดินออกจากโรงเตี๊ยมเขาก็ให้ลี่ซวนวิ่งไปซื้อม้ามา 3 ตัว และรีบมุ่งหน้าไปยังเมืองวายุโปรยทันที

"ลูกพี่ ท่านไปพาใครมาหรือ?" ถึงแม้ว่าตอนนี้ไขมันน้อยจะอึ้งและทึ่งกับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นพรวดพราดของลูกพี่มัน แต่มันย่อมรู้ดีว่าเท่านี้ไม่พอมือของไอแก่บัดซบของตระกูลฟางนั่น

แต่ทว่ายามที่ลี่ซวนเห็นฉงเฉวียนครั้งแรก ไม่รู้ทำไมในใจของเขาพลันรู้สึกปลอดโปร่งคลายกังวล...อาจเป็นเพราะคนที่หลิงเทียนพาเขามาหาต้องเป็นคนที่ช่วยจัดการเรื่องราวได้กระมัง

"เขาเป็นคนรับใช้ของข้า" ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาเบาๆ

คนรับใช้?

ตาหยีๆของลี่ซวนบังเกิดความสงสัยขึ้นมาทันที ก่อนที่จะจับจ้องไปยังฉงเฉวียนที่ควบขี่ม้าอยู่เบื้องหน้า

เท่าที่เขาเข้าใจ หากคนตรงหน้าเป็นข้ารับใช้ของลูกพี่ ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่น่าจะเหนือไปกว่าลูกพี่สิ ...

"ลูกพี่ พวกเราไปหาท่านตาของข้าไม่ดีหรือ?" ไขมันน้อยกล่าวถามออกมา

"อะไรเจ้าไม่เชื่อคำข้าหรือไง ถ้าเจ้ากล่าวออกมาด้วยความไม่แน่ใจหรือถามอะไรข้าอีกคำ ข้าจะเตะตูดกลมๆของเจ้าจนตกหลังม้า!" ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบพลันกระตุ้นม้าให้วิ่งไปใกล้ๆมาของลี่ซวน

"อย่านะลูกพี่ อย่าทำข้า ข้าไม่พูดแล้ววว!"

ใบหน้าของลี่ซวนซีดลงเพราะกลัวถูกเตะ มันรีบคว้าแส้แล้วหวดไปที่หลังม้าพร้อมตะโกนออกมาด้วยความร้อนรน "ไปๆๆๆ!"

ทั้ง 3 คนมุ่งหน้าไปยังเมืองวายุโปรยด้วยความเร็วสูง

เมืองวายุโปรยก็ยังคงคึกคักเหมือนเคย ร้านรวงผู้คนจับจ่ายใช้สอยพัลวัน ตลาดคึกคัก ม้าเกวียนควบขี่ขวักไขว่วุ่นวายไปทั่วอันเป็นบรรยากาศทั่วไป

แต่ทว่าดูเหมือนยามนี้ร้านรวงของตระกูลลี่จะแลดูเงียบเหงา ทั้งคนในตระกูลก็เช่นกัน ...พวกเขาทั้งหมดอยู่ในชุดไว้ทุกข์

ต้วนหลิงเทียนสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะเดินทางเข้าไปยังเขตที่พักตระกูลลี่ พร้อมกันกับลี่ซวนและฉงเฉวียน

ตอนนี้คนของตระกูลลี่มารวมกันที่ห้องไว้ทุกข์

เมื่อต้วนหลิงเทียนเดินเข้ามาเขาก็เห็นสถานการณ์รอบๆได้ชัดเจน ด้านหน้าเป็นประมุขตระกูลลี่ ลี่หนันเฟิงและก็เหล่าผู้อาวุโสท่านอื่นๆ กำลังจุดธูปคารวะป้ายวิญญาณของผู้อาวุโสหลักลี่หัวด้วยความเศร้าโศก ...

แม้กระทั่งบุตรีของผู้อาวุโสหลักลี่หัว ที่แต่งออกเรือนไปอยู่ตระกูลอื่น ก็เดินทางกลับมาด้วยเช่นกัน นางคุกเข่าอยู่กับลูกๆของนาง เด็กๆเองก็ร่ำไห้ด้วยความเศร้าโศกไม่ต่างอะไรจากนาง

"ต้วนหลิงเทียน!" หลังจากนั้นไม่นานลี่หนันเฟิงและผู้อาวุโสคนอื่นๆ ก็สังเกตเห็นต้วนหลิงเทียน พวกเขาควรจะดีใจที่ต้วนหลิงเทียนกลับมา แต่ทว่าตอนนี้พวกเขาไม่อาจแสดงความรู้สึกดีใจอะไรออกมาได้

ผู้อาวุโสหลักเสียชีวิตแล้ว

ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลลี่จากไปแล้ว...

แล้วจากนี้ไปตระกูลลี่จะทำอย่างไร?

"ท่านประมุข" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าทักทายลี่หนันเฟิงและอาวุโสคนอื่นๆ ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้า2-3ก้าวแล้วหยิบธูปออกมาจุด ก่อนที่จะไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าป้ายวิญญาณของผู้อาวุโสหลัก พร้อมทั้งประสานมือขึ้นมาคารวะ

"ผู้อาวุโสหลัก ท่านทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อตระกูลลี่ และท่านยินดีที่จะอยู่คุ้มครองตระกูลลี่ที่เมืองวายุโปรยแห่งนี้ แทนที่จะท่องทะยานไปยังโลกกว้าง....ล้วนลำบากท่านมากแล้ว" หลิงเทียนมองไปยังป้ายวิญญาณของอาวุโสหลักด้วยแววตาสะทกสะท้อน

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้สนิทสนมกับอาวุโสหลักลี่หัวนานสักเท่าไร แต่ผู้อาวุโสหลักลี่หัวคนนี้ก็ช่วยเหลือเขาหลายต่อหลายครั้ง และอดทนต่อพฤติกรรมที่ตระหนี่ของเขา เขาเองก็ได้สลักสิ่งเหล่านี้เอาไว้ในความทรงจำ

เพราะเขานั้นให้ความเคารพและนับถืออาวุโสหลักลี่หัวเสมอมา

"ผู้อาวุโสหลักอย่าได้กังวลข้าจะแก้แค้นให้ท่านเอง และหลังจากนี้เมืองวายุโปรยแห่งนี้จะไม่มีพวกบัดซบตระกูลฟางอีกแม้แต่คนเดียว" ต้วนหลิงเทียนคารวะป้ายวิญญาณของลี่หัวก่อนที่จะนำธูปไปปัก

สิ่งที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวทำให้ประมุขตระกูลลี่อย่างลี่หนันเฟิง ผู้อาวุโสทั้งหมดแล้วก็คนในห้องไว้ทุกข์ถึงกับตกตะลึง แต่จากลักษณะนิสัยของต้วนหลิงเทียนที่พวกเขารู้จัก เขานั้นไม่ได้มีนิสัยโอ้อวดหรือกล่าววาจาไร้สาระแต่อย่างใด

แล้วเขาจะทำได้อย่างไร?

"ฉงเฉวียนตามข้ามา!" ร่างกายของหลิงเทียนสั่นเล็กน้อยก่อนที่เงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 9 ตัวจะลอยเด่นอยู่เหนือศีรษะเขา

วิชาท่าร่างวิญญาณอสรพิษเคลื่อนกาย!

และในพริบตานั้นเองร่างของหลิงเทียนก็กระพริบแล้วหายไปจากสายตาของผู้คนในห้องไว้ทุกข์พร้อมกับฉงเฉวียนอย่างรวดเร็ว ฉงเฉวียนที่พุ่งตามไปก็ใช้ความแข็งแกร่ง 9 ช้างแมมมอธโบราณเช่นกัน

"ความแข็งแกร่ง 9 ช้างแมมมอธโบราณ! นี่ ต้วนหลิงเทียนเขา ... " สีหน้าของลี่หนันเฟิงตกตะลึงอย่างถึงขีดสุดทั้งยังสับสนไม่น้อย ถึงแม้จะเป็นเขาเองที่มีระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 6 และบ่มเพาะพลังงานต้นกำเนิดอย่างถึงขีดสุดแล้ว เขาก็สามารถใช้ความแข็งแกร่งได้แค่ 8 ช้างแมมมอธโบราณเท่านั้น

เหล่าผู้อาวุโสในตระกูลลี่เองก็สับสนและตกตะลึงเช่นกัน ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนกล่าวได้ว่าประสบความสำเร็จเหนือล้ำกว่าที่พวกเขาจินตนาการเอาไว้ไกลโข

"ท่านประมุขถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียน จะใกล้เคียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับก่อกำเนิดขั้นที่ 7 แต่นั่นก็ยังไม่มากพอที่เขาจะจัดการกับไอแก่บัดซบนั่นได้" หนึ่งในผู้อาวุโสของตระกูลลี่กล่าวออกมา

"เจ้าไม่ต้องกังวล หรือเจ้าไม่เห็นว่ามีคนอื่นมากับเขาด้วย?" ลี่หนันเฟิงเห็นได้ชัดว่าต้วนหลิงเทียนมีความมั่นใจสูงมาก เท่าที่เขารู้ต้วนหลิงเทียนไม่เคยกระทำการใดๆที่เขาไม่มั่นใจมาก่อน

ไม่ว่าจะเป็นครั้งที่ทำการต่อสู้กับ ลี่เจี๋ย บุตรชายของผู้อาวุโส 7 ลี่คุน หรือต่อสู้กับผู้ดูแลตระกูลฟาง ฟางเจี้ยน ทุกสิ่งที่หลิงเทียนกระทำล้วนเกินความคาดหมายของผู้คนทั้งสิ้น

"ท่านประมุขแต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกันนะท่าน!"

ไขมันน้อยลี่ซวนกล่าวออกมาด้วยความกังวล "ท่านประมุข ข้าคิดว่าคิดว่าผู้ที่ติดตามลูกพี่ น่าจะมีระดับบ่มเพาะใกล้ๆกันกับลูกพี่ เขาไม่น่าจะใช่คู่มือของไอแก่อุบาทว์นั่นเช่นกัน!"

"ทำไม?" ลี่หนันเฟิงสงสัยเล็กน้อย

ผู้อาวุโส 5 ลี่ติงเองก็จับจ้องไปยังบุตรชายอ้วนกลมของตัวเองด้วยเช่นกัน "บัดซบเจ้ามีอันใดก็รีบกล่าวออกมา เร็วเข้า อย่าได้อ้ำอึ้ง!"

"ผู้ที่ติดตามลูกพี่มานั้นเรียกลูกพี่ว่านายท่าน ทั้งลูกพี่ยังบอกว่าเขาเป็นคนรับใช้ด้วย ... ท่านคิดว่าเขา ... "ลี่ซวนได้แต่ยิ้มออกมาเจื่อนๆ

นั่นเพราะเขายังพูดไม่ทันจบคำ แต่สีหน้าของผู้คนที่ฟังอยู่ก็บิดเบี้ยวและเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด แพราะทุกคนกำลังตระหนักได้ถึงความเลวร้ายของสถานการณ์

"พวกเรารีบไปกันเถอะ!" ลี่หนันเฟิงกล่าวจบก็พุ่งร่างออกไปคนแรก ผู้อาวุโสคนอื่นๆก็พุ่งออกจากห้องไว้ทุกข์ติดตามประมุขตระกูลไปติดๆ

"ต้วนหลิงเทียน เจ้าเด็กโง่! เจ้าใจร้อนเกินไปแล้ว!!" ใบหน้าลี่ติงเต็มไปด้วยความตึงเครียด

"บัดซบ! ข้าเองก็คิดว่าผู้มากับเขาจะแข็งแกร่งพอที่จะจัดการ ไอแก่โลงผุของตระกูลฟางนั่นได้ ข้าไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นเพียงคนรับใช้เท่านั้น!" น้ำเสียงของลี่หนันเฟิงเต็มไปด้วยความกังวล

"รีบไปเร็วเข้าหากพวกเราไปสายเกินไปเกรงว่าต้วนหลิงเทียนจะไม่มีโอกาสรอดชีวิตแล้ว วันนี้ตระกูลลี่ของพวกเราจะสู้ตายกับพวกตระกูลฟาง และแก้แค้นให้ผู้อาวุโสหลัก ถึงตายก็ไม่เสียใจ!!"

"ผู้อาวุโสหลักทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อตระกูลลี่มามากแล้ว ถึงเวลาที่พวกเราจะกระทำบางอย่างเพื่อท่านผู้อาวุโสหลักสักครั้ง"

...

เหล่าผู้อาวุโสของ9ระกูลลี่ตอนนี้ฮึกเหิมอย่างมาก

รีวิวผู้อ่าน