px

เรื่อง : Eternal martial sorvereign
Chapter 38 – เจ้าเห็นมันทั้งหมด?


Chapter 38 – เจ้าเห็นมันทั้งหมด?

 

 

คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อน ความโกรธภายในจิตใจของหญิงสาวก็ค่อยๆหายไปทีละน้อย เด็กหนุ่มไม่ได้เป็นหนึ่งในพวกคนชั่วที่เหมือนกับสัตว์ร้ายเหล่านั้นอย่างแม้จริง เขามีโอกาสนับไม่ถ้วนเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาที่จะใช้ประโยชน์จากนาง – เหตุใดจึงต้องรอจนถึงตอนนี้?

 

ใช่แล้ว คนเหล่านั้นได้บอกมันถูกเรียกว่า ‘ผงความ’ ที่เป็นพิษชั่วร้ายชนิดหนึ่ง” ทันใดนั้น หญิงสาวผิวขาวก็จำบางสิ่งได้

 

ความโกรธภายในตัวนางได้บางเบาลงและความเกลียดชังที่นางมีต่อเด็กหนุ่มก็ยังหายไปด้วย

 

แต่ร่างกายของข้าถูกเขานำไปแล้ว” คิดถึงสิ่งนี้ หญิงสาวยังคงรู้สึกซับซ้อนอย่างมากและคิ้วของนางก็ขมวดเป็นร่องลึก การแสดงออกที่ขัดแย้งก็มีบนใบหน้าที่สวยงามของนาง

 

กระบี่ไม่ได้แทงผ่านเซี่ยวหยุนโดยสมบูรณ์ตามที่เขาคาดไว้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจทีเดียว เมื่อเขาเปิดดวงตาของตนเอง เขาก็ได้เห็นหญิงสาวยืนอยู่ตรงข้ามเขาอย่างเงียบๆ ส่วนกระบี่ก็ได้วางอยู่บนพื้น จากการแสดงของหญิงสาว ดูเหมือนว่านางไม่สามารถแบกรับสิ่งที่ผ่านมาได้

 

เห็นเช่นนี้ เซี่ยวหยุนถอนหายใจด้วยความโล่งอกอยู่ภายใน มันดูเหมือนว่านางจะไม่ได้ให้เขาเป็นคนชั่วโดยสิ้นเชิง

 

“ฮึ่ม ถ้ามันไม่ใช่เพราะว่าเจ้าช่วยข้าถึงสองครั้ง ข้าคงจะสังหารเจ้าไปแล้วในวันนี้” หญิงสาวผิวขาวพูดอย่างเย็นชา นางหยิบกระบี่ขึ้นขณะที่เดินไปยังรูอื่นในถ้ำ และยังคงตกใจหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้น

 

สวรรค์ช่างสนุกในเล่นตลกกับผู้คนอย่างแท้จริง!” มองไปยังรูปร่างเรียวของนางที่เดินออกไป รอยยิ้มขมขื่นก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซี่ยวหยุน

 

เซี่ยวหยุนส่ายหัวและมองไปยังบาดแผลที่กระบี่ทิ้งไว้บนหน้าอกของเขา เลือกยังคงไหลออกมาจากมัน แล้วเสื้อผ้าของเขาก็ถูกย้อมเป็นสีแดง โชคดีที่บาดแผลไม่ได้ลึกมาและก็ตัดเปิดเพียงแค่ผิวหนังของเขาเท่านั้น จากสิ่งนี้ เขาสามารถบอกได้ว่าหญิงสาวไม่ได้แผนที่จะสังหารเขา

 

บางนางอาจจะถูกครอบโดยความโกรธในเวลานั้น” เซี่ยวหยุนไม่ได้ตำหนิ – ทุกคนที่อยู่ในสถานการณ์แบบนางก็คงจะสูญเสียเหตุผลทั้งหมดของพวกเขาไปเช่นกัน โชคดี ที่ในวินาทีสุดท้าย หญิงสาวได้รั้งมือของนางไว้ แสดงให้เห็นว่านางไม่ได้เกลียดเขาโดยสมบูรณ์ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

 

 

ข้าจำเป็นต้องห้ามเลือดนี้” เซี่ยวหยุนส่ายหัวและหยุดคิดถึงสิ่งนั้น เขาควบคุมลมหายใจขณะที่กำลังปิดผนึกหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำที่อยู่ใกล้บาดแผล ป้องกันไม่ให้สูญเสียเลือดไปมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ จากนั้นเขาก็นึกชั่วครูก่อนที่จะเดินไปยังรูอื่นในถ้ำ

 

มีทางเดินและรูมากมายในถ้ำ หลังจากค้นหาสถานที่สะอาดแล้ว เซี่ยวหยุนก็นั่งลงและตรวจสอบร่างกายของเขา จิตใจของจมลงไปในทะเลแห่งจิตสำนึกและพบว่าจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาฟื้นตัวกลับมาอย่างสมบูรณ์แล้ว พิษได้หายไปแล้ว

 

“พี่ใหญ่ เหตุใดพี่สาวใหญ่จึงพยายามทำร้ายท่าน?” เถาวัลย์ม่วงถามขณะที่จิตใจของเซี่ยวหยุนเข้าสู่ทะเลแห่งจิตสำนึก

 

นางได้ค้นพบสิ่งนี้มานานแล้วและต้องการจะถาม แต่เพราะว่ามันรู้สึกว่าเซี่ยวหยุนได้เอาใจใส่หญิงสาวคนนั้นอย่างมาก มันจึงละเว้นไว้ก่อน ได้ยินสหายตัวน้อยถามถึงสิ่งนี้ เซี่ยวหยุนรู้สึกปวดหัวขึ้นมาเลย

 

“พี่ใหญ่ เหตุใดท่านจึงทำมันตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา?” สหายตัวน้อยยังคงถามต่อ ขณะที่รู้สึกค่อนข้างอยากรู้

 

“เจ้าเห็นมันทั้งหมด?!” เซี่ยวหยุนอุทานด้วยความตกใจ

 

“อืม” สหายตัวน้อยนั้นไร้เดียงสาและบริสุทธิ์หลังจากพยักหน้าด้วยดวงตาสีม่วงของมัน มันยังคงกระพริบตาต่อขณะที่มันถามด้วยความสับสน “ข้าเห็นว่าท่านและพี่สาวใหญ่นั้นมีความสุขมากขณะที่ท่านกำลังทำ 'ศึก' ของท่าน! เหตุใดจู่ๆนางจึงต้องการสังหารท่านกันล่ะ?”

 

“เด็กน้อยไม่ควรจะถามมากเกินไป” เซี่ยวหยุนรู้สึกพูดไม่ออก

 

“เอ๋” ม่วงน้อยกระพริบและรู้สึกไม่ชอบมาก “ข้าไม่ใช่เด็กน้อย”

 

โชคดีที่สหายตัวน้อยตัวนี้ดูเหมือนจะไม่เข้าใจอะไรมากนัก” เซี่ยวหยุนถอนหายใจด้วยความโล่งอกภายใน “ข้าจะต้องส่งมอบสหายตัวน้อยให้กับพี่สาวใหญ่ซือเฟยให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ มิฉะนั้นมันจะไม่ทราบทุกสิ่งที่ข้าทำเลยหรือ?” เขารู้สึกว่าไม่สามารถปล่อยให้เรื่องนี้ล่าช้าได้อีกต่อไป

 

หลังจากพบว่าจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาสบายดีแล้ว จิตใจของเซี่ยวหยุนก็ล้วงลงไปในหม้อปรุงยาเปลวไฟสีม่วง เช่นเดียวกับแผนที่สำหรับค้นหาเม็ดยาพระเจ้าเก้าหมุนเวียน ด้วยความคิดเพียงเล็กน้อย เซี่ยวหยุนก็นำข้อความโบราณออกมา ในขณะที่เขาใช้เวลาบางส่วนเพื่อศึกษาวิถีแห่งการกลั่นสกัดเม็ดยา

 

เพื่อที่จะกลั่นสกัดเม็ดยา อย่างแรกเลยคือต้องเข้าใจถึงสรรพคุณของสมุนไพรที่เป็นส่วนผสมก่อน จากนั้นจึงเรียนรู้การควบคุมไฟ หลังจากนั้นพวกเขาก็จะสามารถที่จะกลั่นสกัดแก่นแท้ของส่วนผสมเหล่านั้นได้ขณะที่กำจัดสิ่งเจือปนและส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป มันดูเหมือนจะง่ายมาก แต่ความก้าวหน้าก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามีเข้าใจถึงวิธีแห่งการกลั่นสกัดเม็ดยานั้นมากแค่ไหน

 

แม้แต่ความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในการควบคุมเปลวไฟอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิผลของเม็ดยา และกระทั่งความแตกต่างในอายุของส่วนผสมก็จะสามารถลดคุณภาพของเม็ดยาได้ ในทางกลับกัน การใช้สวนผสมที่หายากและมีคุณค่าก็จะสามารถเพิ่มคุณภาพของเม็ดยาและก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่คาดฝันด้วย

 

กำลังอ่านหลักเม็ดยาเปลวไฟสีม่วง ทั่วทั้งจิตใจของเขาสั่นสะท้านขณะที่เขาเริ่มสนใจในการกลั่นสกัดเม็ดยามากยิ่งขึ้น ด้วยพลังวิญญาณที่ทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อของเขา เขาสามารถที่จดจำข้อความทั้งหมดไว้ได้

 

“มันช่างน่าเสียดายที่ข้าไม่มีส่วนผสมเพียงพอ มิฉะนั้น ข้าจะสามารถเริ่มเรียนรู้การกลั่นสกัดเม็ดยาได้ในทันที” เซี่ยวหยุนใส่ข้อความโบราณให้กลับเข้าไปภายในหม้อปรุงยาเปลวไฟสีม่วง ดวงตาของเขาแคบลงเล็กน้อยและคิดถึงหญิงสาวผิวขาวอย่างช่วยไม่ได้ มันดูเหมือนว่านางจะหมดความจำเป็นที่ต้องใช้เม็ดยาแล้วในตอนนี้!

 

“ข้าไม่พบเม็ดยา?” ดวงตาของเซี่ยวหยุนกระพริบขณะที่เขาจำได้ทันที เขาได้เอาเม็ดยาออกมาจากหม้อปรุงยาเปลวไฟสีม่วงและเดินไปยังรูในถ้ำที่หญิงสาวอยู่

 

"เจ้ามาทำอะไรที่นี่?" เมื่อเซี่ยวหยุนเดินเข้ามา หญิงสาวผิวขาวจู่ๆก็เปิดดวงตาของนางขณะที่นางมองไปที่เด็กหนุ่มอย่างระมัดระวัง เห็นเซี่ยวหยุนเข้ามาอย่างกะทันหัน นางรู้สึกค่อนข้างไม่สบายใจ

 

เซี่ยวหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วมองไปที่หญิงสาวที่จิตใจยังคงตกใจอยู่ เขาไม่ได้อยู่อะไรที่ไม่จำเป็น กลับกันเขาได้ส่งมอบเม็ดยาไปและกล่าวว่า “น่าคือเม็ดยาที่ข้าหามาให้เจ้า”

 

“เม็ดยา?” ความแปลกประหลาดปรากฏขึ้นภายในดวงตาของหญิงสาวผิวขาว ขณะที่นางมองไปยังเม็ดยาในฝ่ามือของเด็กหนุ่ม ซึ่งปลดปล่อยคลื่นแก่นแท้แห่งปราณอันหนาแน่นออกมา แล้วรอยยิ้มที่ตื่นเต้นได้ปรากฏบนใบหน้าของนาง

 

รอยยิ้มของนางนั้นเหมือนกับรัศมีของแสงแดดในฤดูหนาวที่ทำให้แม้แต่สวรรค์และโลกดูเหมือนจะมัวหมองเมื่อเทียบเคียง เซี่ยวหยุนก็รู้สึกมีความสุขมากเช่นกัน

 

อย่างไรก็ตามหลังจากความสุขมาพร้อมกับความลังเลใจ

 

“อย่ากังวล ข้าไม่ได้พยายามที่จะทำร้ายเจ้า” เซี่ยวหยุนรู้ว่าหญิงสาวในตอนนี้นั้นอ่อนไหวง่ายอย่างยิ่งและก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญเลยที่นางลังเล กลับกันเขาพูดกับนางด้วยน้ำเสียงอบอุ่น เพราะว่าเขารู้อยู่แล้ว่ามันจำเป็นต้องใช้เวลาที่จะเยียวยาบาดแผลภายในหัวใจของนาง

 

เห็นว่าเซี่ยวหยุนมองอย่างจริงใจและตั้งใจจริงอย่างไร หญิงสาวผิวขาวก็หยุดกังวลและรับเม็ดยามา

 

“ข้าจะคอยคุ้มครองเจ้าที่ด้านนอก” เซี่ยวหยุนถอนลมหายใจขณะที่เขาหมุนตัวและจากไป

 

เฝ้ามองเด็กหนุ่มเดินออกไป หญิงสาวผิวขาวก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและคิดว่า “มันเป็นไปได้ว่าเขาไม่ได้กังวลเลยว่าข้าจะสังหารเขาหลังจากที่ข้าฟื้นคืนความแข็งแกร่งกลับมา?”

 

เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวไม่ได้คิดว่าเซี่ยวหยุนจะให้เม็ดยากับนาง อย่างไรก็ตาม นางส่ายหัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเด็กหนุ่มนั้นเต็มใจที่จะตายเพื่อรับผิดชอบ นางก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องทั้งหมดอีกต่อไปแล้ว

 

ไม่รู้ตัว ความรู้สึกที่นางมีต่อเด็กหนุ่มได้เริ่มชื่นชอบมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้านางก็ส่ายหัวขณะที่พึมพำว่า “ข้าจะยกโทษให้เขาเช่นนั้นได้อย่างไรกัน?”

 

หลังจากนั้นนางก็กลืนเม็ดยา

 

เม็ดยานี้ทำโดยผู้อาวุโสของนางและมันสามารถช่วยให้คนๆหนึ่งฟื้นแก่นแท้แห่งปราณของพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว เมื่อมันเข้าสู่ร่างกายนาย พลังงานสมุนไพรได้กระจายออกมา กำลังบำรุงรักษาแก่นาง คลื่นแก่นแท้แห่งปราณอันหนาแน่นก็กวาดออกมาเหมือนกับน้ำท่วมจากเม็ดยา ในขณะนั้น การเปลี่ยนแปลงก็เริ่มปรากฎขึ้นภายในตันเถียนของหญิงสาว

 

หลายชั่วโมงต่อมา หญิงสาวผิวขาวก็เปิดดวงตาของนางขึ้นทันที กลิ่นอายรอบๆนางกลายเป็นแหลมคมขึ้น ในขณะนั้น นางได้กลายเป็นเทพธิดาจากสวรรค์ที่ล่วงล้ำไม่ได้อีกครา

 

"ข้าฟื้นคืนความแข็งแกร่งส่วนใหญ่กลับมาแล้ว แต่มันก็น่าเสียที่แกนกลางแก่นแท้ของข้านั้นเสียหาย และรากฐานของข้าก็ขึ้นอยู่กับมัน ปัจจุบันความแข็งแกร่งของข้าก็เพียงแค่ขั้นสมบูรณ์ขอบเขตต้นกำเนิดเท่านั้น ถ้าข้าต้องการฟื้นความแข็งแกร่งระดับขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริง ข้าจำเป็นต้องฟื้นคืนแก่นแท้สำคัญที่แกนกลางแก่นแท้ของข้าสูญเสียไป อย่างไรก็ตาม ข้าไม่มีเม็ดยาอีกต่อไปแล้ว ข้าควรทำอย่างไร?"

 

“ศิลาแก่นแท้สามารถช่วยได้เพียงแค่เรียกคืนแก่นแท้แห่งปราณเท่านั้น แต่ไม่สามารถช่วยข้าฟื้นฟูแก่นแท้สำคัญที่แกนกลางแก่นแท้ของข้าสูญเสียไปได้ มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับข้าที่กลับไปสู่สภาพสูงสุดของข้า มันคงจะเป็นเรื่องสำหรับข้าด้วยเช่นกันที่จะอยู่รอดได้ในสถานที่เช่นนี้ แล้วนับประสากับอาณาจักรเมืองหลวงแห่งสวรรค์” หญิงสาวผิวขาวกล่าวด้วยความกังวลบนใบหน้าของนาง

 

ถ้านางไม่สามารถฟื้นความแข็งแกร่งของนางได้ นางจะออกจากสถานที่แห่งนี้ได้อย่างไรกัน? ขณะที่นางคิดกับตัวเอง เซี่ยวหยุนก็เดินเข้ามา

 

“เจ้ามาที่นี่ทำไม?” ใบหน้าของหญิงสาวผิวขาวเปลี่ยนเป็นหนาวเย็นขณะที่กลิ่นอายอันกดขี่กวาดออกมา ทำให้มันดูเหมือนว่าอยากจะขับไล่ทุกสิ่งออกไปนับพันไมล์ ตอนนี้นางได้ฟื้นคืนความแข็งแกร่งแล้ว นางแตกต่างจากตอนอ่อนแอและตอนเป็นหญิงสาวที่น่าสงสารก่อนหน้านี้โดยสมบูรณ์ นางได้หวนคืนมาวางตัวเช่นเดิมแล้ว

 

“ข้ามีหยดน้ำจิตวิญญาณซึ่งอาจจะสามารถช่วยเจ้าฟื้นแก่นแท้แห่งปราณได้” เซี่ยวหยุนเหยียดฝ่ามือออกมา ที่มีหยดของหยดน้ำสีหยกเขียวเปล่งรัศมีอยู่ หยดน้ำมีขนาดใหญ่มากสุดเพียงแค่เล็บมือเท่านั้น แต่มันมีกลิ่นอายแห่งชีวิตที่หนาแน่นอย่างไม่น่าเชื่อ

 

“พลังชีวิตที่หนาแน่นอย่างไม่น่าเชื่อนี่มันอะไรกัน?” เพียงแค่สูดลมหายใจเดียวที่กลิ่นอายของหยดน้ำปลดปล่อยออกมาก็ทำให้ทั่วทั้งจิตใจของนางสั่นสะท้าน นี่มันกระทั่งมีประสิทธิภาพมากกว่าเม็ดยา!

 

“เจ้ามีหยดน้ำจิตวิญญาณนี้ได้อย่างไร?” ความตกใจปรากฏขึ้นในดวงตาของหญิงสาว มันเป็นครั้งแรกที่นางได้มองไปยังเด็กหนุ่มด้วยความตกใจเช่นนี้ในดวงตาของนาง

 

ในสายตาของนาง ที่นี่เป็นดินแดนที่แห้งแล้ง ที่แม้แต่เซียนสูงสุดในที่นี่ก็หายากอย่างไม่น่าเชื่อ

 แล้วนับประสาอะไรกับสิ่งที่สูงค่าเฉกเช่นหยดน้ำจิตวิญญาณนี้

 

“เพียงแค่เอามันไป” เซี่ยวหยุดไม่ได้พูดอะไรอีกขณะที่เขาส่งหยดน้ำไปยังหญิงสาว

 

หญิงสาวผิวขาวลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะยอมรับมัน

 

ตามมาด้วยการที่เซี่ยวหยุนหมุนตัวอีกครั้งแล้วจากไป และไม่ได้รบกวนหญิงสาวอีก หลังจากดื่มหยดน้ำจิตวิญญาณ หญิงสาวผิวขาวก็รู้สึกว่าแก่นแท้สำคัญภายในแกนกลางแก่นแท้ของนางกำลังเริ่มเติมเต็มใหม่ขณะที่การบ่มเพาะของนางก็ยังเพิ่มขึ้นจนถึงขอบเขตแก่นแท้ที่แท้จริง ถ้านางมีน้ำค้างจิตวิญญาณมากกว่านี้ นางก็จะสามารถฟื้นตัวได้มากยิ่งขึ้น

 

“หยดน้ำจิตวิญญาณของเขาแม้กระทั่งมีประสิทธิภาพมากกว่าเม็ดยาจิตวิญญาณเหล่านี้อีก” หญิงสาวผิวขาวตกใจมากขณะที่นางกระติบตา คิดกับตัวเองว่า “เขาเป็นใครกัน?”

 

นางไม่สามารถเชื่อได้ว่าเด็กหนุ่มในขอบเขตต้นกำเนิดจะมีของเช่นนี้ แม้แต่คนที่มีการบ่มเพาะแบบนางก็ยังไม่มีสมบัติเช่นนี้!

 

ไม่กี่วันต่อมา เซี่ยวหยุนได้มอบหยดน้ำจิตวิญญาณอื่นกับหญิงสาวเพื่อช่วยรากฐานของนางให้ฟื้นตัว ทุกๆ 5 วัน เซี่ยวหยุนจะมอบหยดน้ำจิตวิญญาณให้นาง จนกว่าอาการบาดเจ็บของหญิงสาวจะหายไป

 

หญิงสาวผิวขาวได้เอาศิลาแก่นแท้โปร่งแสงจากแหวนมิติและถือพวกมันไว้ในมือขณะที่นางดูดซับแก่นแท้แห่งปราณภายในพวกมัน เมื่อเวลาผ่านไป การบ่มเพาะของนางก็ค่อยๆเพิ่มขึ้น ในช่วงเวลานี้ นางได้ใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อสนทนากับเซี่ยวหยุน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะก่อเกิดความเข้าใจร่วมกัน(น่าจะหมายถึง ‘ศึก’)

 

สุดท้าย หนึ่งเดือนก็ผ่านไป เมื่อเซี่ยวหยุนได้มอบหยดน้ำจิตวิญญาณหยดที่หกให้กับหญิงสาวผิวขาว นางก็ปฏิเสธมัน

 

“อาการบาดเจ็บของเจ้าหายสนิทแล้วหรือ?” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวผิวขาวปฏิเสธ เซี่ยวหยุนก็รู้สึกผิดหวังแปลกๆ

 

“อืม” เสื้อผ้าสีขาวของหญิงสาวดูขาวยิ่งกว่าหิมะ และผิวหนังก็ดูเหมือนน้ำแข็งและเหมือนหยก แม้ว่าจะไม่มีลมใดๆ เสื้อผ้าที่ยาวของนางและเส้นผมสีเข้มก็พลิ้วอยู่รอบๆนาง ผิวหนังของนางดูเหมือนส่องแสงแวววาว ราวกับว่ามีแสงสว่างอันศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับนาง ทำให้นางดูคล้ายกับเทพธิดาจากเก้าสวรรค์ที่ลงมายังแดนมรรตัย

 

ริมฝีปากสีแดงของหญิงสาวนั้นแยกกันเล็กน้อยและน้ำเสียงของนางก็ดูสงบและหนาวเย็น ราวกับว่านางต้องการผลักเขาให้อยู่ห่างออกไปกว่าพันไมล์ ความเย็นชาในน้ำเสียงของนางทำให้เซี่ยวหยุนรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย

 

ก่อนหน้านี้ เขาต้องการให้หญิงสาวฟื้นตัวให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเต็มใจมอบหยดน้ำที่ก่อเกิดจากจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาให้กับนาง

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อนางได้หายสนิทแล้ว เขาก็รู้สึกเศร้าจริงๆ นี่เป็นเพราะว่าเขารู้ว่าเมื่ออาการบาดเจ็บของนางได้หายสนิทแล้ว มันก็จะถึงเวลาที่จะต้องบอกลากันแล้ว

 

คิดถึงสิ่งนั้น เขายิ้มขมขื่นอย่างช่วยไม่ได้

รีวิวผู้อ่าน