px

เรื่อง : Omni genius
ตอนที่ 59   การปรากฏตัวของเจ้าหน้าที่เทศกิจ


ตอนที่ 59   การปรากฏตัวของเจ้าหน้าที่เทศกิจ

 

ผู้แปล  :  ThreeSwords

ปรับสำนวน  :  ThreeSwords

 

 

วันหยุดแสนหายากของฉินฟางได้ผ่านไป  และฉินฟางได้เรียนรู้ทักษะใหม่มาสองสามอย่าง  ทักษะ [ทำบะหมี่] ได้เลื่อนเป็นระดับกลางและพัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับทักษะหลัก [ศิลปะการปรุงอาหาร]  ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ฉินฟางมีความสุขมากที่สุด

 

ด้วยทักษะหลัก [ศิลปะการปรุงอาหาร] ที่อยู่ระดับกลาง  ฉินฟางก็รู้ว่าความกังวลในเรื่องการใช้ชีวิตในแต่ละวันได้รับการแก้ไขแล้ว  แม่เขาเองก็ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องค่าเล่าเรียนและเงินใช้จ่ายประจำวันอีกต่อไป  แถมฉินฟางยังมีเงินบางส่วนส่งกลับไปที่บ้านทุกเดือนอีกด้วย

 

เช้าวันต่อมา  ฉินฟางยังคงนอนหลับอยู่  แต่ก็ถูกปลุกให้ตื่นตอนที่เซียวมู่เสวี่ยเดินมาเคาะประตู  เนื่องจากการให้คนหนุ่มสาวมาอาศัยอยู่ด้วยกันดูแล้วไม่สะดวกใจนัก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าร้อนที่สวมเสื้อผ้าน้อยชิ้น  ถังเฟยเฟยจึงทำการหว่านล้อมฟ่านเจี่ยเจียจนยอมให้เซียวมู่เสวี่ยพักอยู่ที่ห้องเธอเป็นการชั่วคราว

 

หลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จ  ถังเฟยเฟยก็ได้มาถึงแล้ว  จากนั้นทั้งสามคนก็เดินตรงมาที่ร้านแผงลอยด้วยกัน

 

พวกเขามากันแต่เช้าตรู่  แต่เช้านี้ก็ดูเหมือนว่าจะขายดีด้วยเช่นกัน  เพราะหลังจากทำบะหมี่แสนอร่อยให้กับสองสาวแล้ว  ลูกค้าก็เริ่มเข้ามา

 

“หืมม?  เสี่ยวฉิน  บะหมี่วันนี้อร่อยจริงๆ!”

 

ลูกค้าส่วนใหญ่ในตอนนี้ล้วนเป็นขาประจำ  ดังนั้นฉินฟางจึงได้ยินคำชื่นชมแบบนี้จากพวกเขาเป็นประจำ  เขาเพียงแค่ตอบกลับพลางหัวเราะว่า  “เมื่อวานนี้ผมไม่ได้เปิดร้าน  เพื่อไปเตรียมเครื่องปรุงรสแบบพิเศษ  นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมวันนี้รสชาติถึงได้ดีมาก!”

 

เป็นธรรมดาที่พวกลูกค้าจะไม่ได้สงสัยอะไร  เส้นบะหมี่ของฉินฟางค่อนข้างดีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว  พวกเขาเคยบ่นกับฉินฟางเรื่องที่เครื่องปรุงรสไม่ค่อยดีครั้งที่แล้ว  แต่ตอนนี้เมื่อรสชาติดีขึ้นกว่าเดิมพวกเขาจึงพออกพอใจมาก

 

เมื่อราเม็งอร่อยขึ้นก็ย่อมทำให้ธุรกิจของฉินฟางดีขึ้นตามไปด้วย  ลูกค้าจำนวนมากรู้สึกไม่ค่อยอิ่มหลังทานไปหนึ่งชาม  จึงสั่งชามเล็กมาทานเพิ่ม  ต่อมาพวกเขาก็จะเอามือลูบท้องและออกจากร้านไปอย่างมีความสุข

 

ฉินฟางลองประเมินคร่าวๆ ก็พบว่าแค่ช่วงเช้านี้  ยอดขายของเขาดีขึ้นกว่าเดิมเกือบ 50%  ซึ่งแน่นอนว่ารายได้ของเขาก็เพิ่มขึ้นมากด้วยเช่นกัน  อย่างไรก็ตามเนื่องจากต้องแบ่งส่วนหนึ่งเป็นค่าจ้างให้กับเซียวมู่เสวี่ย  กำไรที่ฉินฟางได้สุดท้ายก็กลับมาเท่าเดิม

 

ในขณะที่การค้าของฉินฟางดีขึ้น  ย่อมเป็นธรรมดาที่ของคนอื่นจะย่ำแย่ลง  โดยเฉพาะคนที่เป็นคู่แข่งโดยตรงของฉินฟางอย่างลุงของเซียวมู่เสวี่ย  คนอ้วนเฉินที่ตลอดทั้งเช้านี้มีลูกค้าเพียงสองสามคน  แถมยังเป็นลูกค้าที่ต้องรีบกินรีบไป  ประกอบกับร้านแผงลอยของฉินฟางมีคนมากเกินไป

 

เมื่อเอ่ยถึงคนอ้วนเฉินแล้ว  ตอนที่เขาเห็นเซียวมู่เสวี่ยเดินเข้ามาพร้อมกับฉินฟาง  ใบหน้าก็ซีดลงทันทีและเกือบที่จะหลบไปซ่อน  เพราะไม่อาจสู้หน้าเซียวมู่เสวี่ยได้

 

เป็นป้าของเซียวมู่เสวี่ยหรือก็คือภรรยาของคนอ้วนเฉินที่เดินเข้ามาคุยแทน  เซียวมู่เสวี่ยไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อน  และพูดเพียงว่าต้องการแยกไปอยู่เอง  อีกทั้งฉินฟางกับเธอใกล้ที่จะเป็นเพื่อนร่วมคณะเรียน  ก็เลยทำธุรกิจร่วมกัน

 

ภรรยาของคนอ้วนเฉินเป็นคนที่ไม่ได้คิดอะไรซับซ้อน  พอเห็นว่าเธอไม่อาจกล่อมเซียวมู่เสวี่ยให้กลับมาได้  จึงไม่ทางเลือกที่ต้องกลับไปยังร้านแผงลอยของตัวเอง

 

หลังจากนั้นเมื่อคนอ้วนเฉินกับภรรยาเห็นร้านของฉินฟางขายดีมากๆ  จนส่งผลกระทบกับยอดขายของร้านตัวเอง  พวกเขาก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงนอกจากยกร้านไปที่อื่นแทน  ก่อนที่จะไปก็ได้ทิ้งข้อมูลติดต่อไว้ให้เซียวมู่เสวี่ย  แต่ฉินฟางก็รู้ว่าเธอจะไม่มีวันติดต่อกลับไปหาคนพวกนั้น

 

ดังนั้นเช้าอันสงบสุขก็ผ่านไปในลักษณะนี้  ตลอดทั้งวันธุรกิจของฉินฟางดีขึ้นเรื่อยๆ  จากเดิมที่ยุ่งเพราะมีแค่ฉินฟางกับถังเฟยเฟย  อย่างไรก็ตามตอนนี้ถึงแม้จะมีเซียวมู่เสวี่ยเพิ่มเข้ามา  พวกเขาก็ไม่ได้ยุ่งน้อยลงเลย  ทั้งสามคนวุ่นวายกันจนหัวฟู  แต่เมื่อเห็นลูกค้าจากไปพร้อมกับรอยยิ้มอันพึงพอใจแล้ว  พวกเขาก็รู้สึกยินดี

 

อย่างไรก็ตามเบื้องหลังของความสงบก็อาจมีพายุที่อาจกำลังตั้งเค้ามาถาโถมเข้าใส่ฉินฟางกับพวกสาวๆ...

 

*เอี้ยด*  *เอี้ยด*  *เอี้ยด*

 

ตอนเย็นในขณะที่ยอดขายของฉินฟางกำลังลดน้อยถอยลง  รถกระบะสี่คันก็ขับเรียงแถวเข้ามา  พวกมันจอดอยู่ตรงหน้าร้านแผงลอยของฉินฟาง  และตั้งกำแพงล้อมฉินฟางไว้ราวกับจะปิดทางหนีของเขา

 

ต่อมาก็มีผู้คนอายุราวสามสิบถึงสี่สิบปีหลั่งไหลลงมาจากรถกระบะพวกนั้น  พวกเขาล้วนสวมชุดเครื่องแบบกับหมวกทรงทหารเดียวกัน  บนแขนเสื้อปักคำว่า “เทศกิจ” เอาไว้

 

“เจ้าหน้าที่เทศกิจมา!  รีบหนีเร็ว!”

 

รถกระบะเหล่านั้นมาอย่างกะทันหัน  คนที่ลงมาจากรถก็มากมาย  กระทั่งมีจำนวนเยอะกว่าเจ้าของร้านแผงลอยที่นี่เสียด้วยซ้ำ  และใครก็ไม่รู้จู่ๆ ตะโกนออกมาให้วิ่งหนี  ก่อนที่ฉินฟางจะได้ทันตอบสนอง  เจ้าของร้านแผงลอยคนหนึ่งข้างหลังก็เริ่มผลักดันรถเข็นและวิ่งหนีออกไปแล้ว

 

ไม่เพียงแต่เจ้าของร้านคนนั้น  เจ้าของร้านคนอื่นที่เคยผ่านประสบการณ์แบบนี้มา  เมื่อประสบพบเหตุ  พวกเขาก็รีบวิ่งตามเจ้าของร้านคนแรกที่หนีไป  และคนที่วิ่งหนีได้เร็วก็เริ่มมองไม่เห็นตัวแล้ว

 

“การตั้งร้านโดยไม่ได้รับใบอนุญาต  เป็นการขายของที่ผิดกฎหมาย  ทำลายภาพลักษณ์ของเมือง  จงทำการยึดสิ่งของทุกอย่าง!”

 

ชายร่างอ้วนคนหนึ่งลงมาจากรถ  และเดินเข้ามาโดยเอามือไขว้หลัง  เบื้องหลังก็ติดตามมาด้วยเหล่าลูกสมุน  ชายร่างอ้วนคนนี้ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าทีมของเจ้าหน้าที่เทศกิจชุดนี้  เพราะทันทีที่ลงมาเขาก็ทำการตัดสินโทษให้เหล่าเจ้าของร้านแผงลอยทั้งหมด

 

เจ้าหน้าที่เกือบสี่สิบคนซึ่งสวมชุดเครื่องแบบวิ่งออกไป  เพื่อไล่กวดเหล่าเจ้าของร้านที่กำลังพยายามวิ่งหนี  เมื่อล้อมได้หนึ่งคน  พวกมันก็จะทำการเตะให้ล้มลงทันที  จากนั้นยื้อแย่งเงินที่ทางเจ้าของร้านหามาได้ในวันนี้  พร้อมกับบอกว่าจะทำการยึดเงินที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย  ถ้ามีใครกล้าขัดขืนหรือดูหมิ่นเจ้าพนักงานแล้ว  ก็จะถูกเจ้าหน้าที่ทุบตีอย่างหนัก

 

“ฉินฟาง  พวกเราจะวิ่งหนีไหม?”

 

พอเห็นเหล่าเจ้าหน้าที่ตรงเข้าไปยื้อแย่งเงิน  ถังเฟยเฟยก็เครียดในทันที  ผลกำไรของพวกเขาในวันนี้ไม่ใช่เล็กน้อย  และถ้ามันถูกยึดกเอาไปแบบนี้  ความสูญเสียที่สามคนจะต้องแบกรับนั้นหนักหนาเกินไป

 

“เฟยเฟย มู่เสวี่ย  ซ่อนเงินไว้ให้ดี  ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น  ผมจะรับมือเอง”

 

สีหน้าของฉินฟางในตอนนี้ก็ไม่ค่อยดีเช่นกัน  เหล่าเจ้าหน้าที่เทศกิจพวกนี้มาเป็นกลุ่มใหญ่  และอาจเป็นแค่พนักงานชั่วคราวที่จ้างมาเพื่ออวดศักดา  อย่างไรก็ตามฉินฟางก็ไม่กล้าที่จะบุ่มบ่าม  ไม่งั้นแล้วเขาอาจจะจบลงเหมือนกับเหล่าเจ้าของร้านที่มีรอยช้ำไปทั่วตัว

 

แต่ฉินฟางเองก็ไม่อาจสูญเสียเงินนี้ไปได้เช่นกัน  กับคนอื่นเขาอาจพูดเจรจาขอให้ผ่อนผันได้  ทว่าคงไม่ใช่กับเจ้าหน้าที่เทศกิจซึ่งไร้มนุษยธรรมพวกนี้  ดีที่ถังเฟยเฟยกับเซียวมู่เสวี่ยเป็นสาวสวย  เห็นได้ชัดว่าเงินอาจปลอดภัยกว่าเมื่ออยู่กับพวกเธอ

 

เหล่าเจ้าหน้าที่ได้ล้อมจับเจ้าของร้านแผงลอยไปสิบกว่าราย  ผลประโยชน์ที่พวกมันได้รับนั้นล้นหลาม  และในไม่ช้าไม่นานพวกมันก็ทำการกวาดล้างพื้นที่แถวนั้นจนเกลี้ยง  รถเข็น เครื่องมือ โต๊ะ เก้าอี้ ฯลฯ ล้วนถูก ’พนักงานชั่วคราว’ พวกนั้นขนไป  ส่วนชายร่างอ้วนได้ใช้สายตาที่หยาบโลนจ้องถังเฟยเฟยกับเซียวมู่เสวี่ยเขม็ง  ราวกับหมาป่าที่หิวโหยกำลังมองเหยื่อของมัน

 

< รองหัวหน้าทีมเทศกิจ  เลเวล 2  ผู้โลภโมโทสัน ตัณหาจัด และประจบสอพลอ  เมื่อจัดการกับคนประเภทนี้  คุณต้องใช้ก้อนอิฐฟาดพวกมันอย่างรุนแรง! >

 

ฉินฟางทำการประเมินหัวหน้าชุดเทศกิจ  และเห็นผลที่ได้จากระบบ

 

 

……………………………..

 

รีวิวผู้อ่าน