px

เรื่อง : Omni genius
ตอนที่ 85 งานประมูลการกุศลหมิงฉือ


ตอนที่ 85 งานประมูลการกุศลหมิงฉือ

 

 “อ่อใช่! นายไม่ได้มาเพื่อที่จะได้กินข้าวฟรีแค่อย่างเดียวใช่ไหม?”

 

 ในตอนที่ทานอาหารเสร็จอย่างรวดเร็ว เวลาพึ่งจะทุ่มนึงอวี่ม่อ จึงบอกหนิงเว่ยเฉียง ว่าควรที่จะมีเหตุผลอื่นนอกจากที่จะมาหาเธอ และกินฟรี

 

 “แน่อยู่แล้ว! เอ่อ… ฉันขับรถชนเมื่อวันก่อน และฉันมีนัดรวมกลุ่มในคืนนี้ ฉันต้องการที่จะยืมรถจากเธอ พี่สาวสุดที่รักของฉัน!”

 

 “หยุดใช้ข้ออ้างได้แล้ว!นายต้องการที่จะไปและแข่งรถอีกแล้วใช่ไหม? ถามตัวเองก่อนเถอะ กี่ครั้งแล้วที่มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น? นายต้องการที่จะให้ครอบครัวของนายส่งนายไปตายตอนที่นายยังอายุน้อยๆรึไงห้ะ?! ฉันไม่ให้นายยืมรถของฉันครั้งนี้หรอก!”

 

ในตอนที่กล่าวถึงนิสัยการขับรถซิ่งของหนิงเว่ยเฉียง นั้น  หนิงอวี่ม่อโกรธอย่างมากและเริ่มที่จะดุว่าเขาโดยไม่สนใจว่ามันมีคนนอกอยู่ที่นี่เช่นกัน

 

 “ไม่เอาน่า! ฉันมีอะไรที่ต้องทำคืนนี้จริงๆนะ…”

 

หนิงเว่ยเฉียงหัวเราะอย่างขมขื่น แต่ก็ยังที่จะอ้อนวอนต่อไป

 

 “ต้องทำอะไร? ไหนบอกมาให้ฉันฟังสิ”

 

  แน่นอนอยู่แล้วว่าหนิงอวี่ม่อ ไม่ได้ชื่อคำพูดของหนิงเว่ยเฉียง เลยสักคำ และเธอก็ ‘ยิ้ม’ อย่างเล็กน้อย ราวกับกำลังรอให้หนิงเว่ยเฉียงให้เหตุผล

 

 “มันเป็นแบบนี้… คืนนี้ งานประมูลการกุศลที่หมิงฉือ เพื่อนของฉันที่อยู่ที่เมืองหนิงไห่ นั้นได้รับเชิญให้ไปร่วมงานเกือบทั้งหมด และฉันต้องให้เกียรติเจ้าของงานหน่อยใช่ไหมละ อ่อใช่!  เฟยเฟย พี่ชายของเธอก็จะไปงานนี้เหมือนกัน!”

 

หนิงเว่ยเฉียง พูดอย่างจริงใจ

 

 “จริงเหรอ?”

 

 

หนิงอวี่ม่อนั้นยังคงสงสัยและยังไม่เชื่อในคำพูดของเขา

 

 “ถ้าเธอไม่เชื่อฉัน เธอสามารถโทรหาพี่ชายของเฟยเฟย และถามเขาได้! เขาจะไปงานคืนนี้อย่างแน่นอน!”

 

 

หนิงเว่ยเฉียง นั้นแนวแน่ และกำลังที่จะหยิบโทรศัพท์ของเขาและโทรออกด้วยตัวของเขาเอง

 

“โอเค โอเค! ครั้งนี้นายชนะ! กุญแจรถอยู่ในลิ้นชักของฉัน ไปหยิบมาเองละกัน”

 

หลังจากที่หนิงเว่ยเฉียง  รวบรวมความกล้าของเขาออกมาหนิงอวี่ม่อ ตัดสินใจที่จะเชื่อในตัวเขาและให้เขายืมรถของเธอไป

 

 “เธอมีพี่ชายคนนึงด้วยเหรอ?”

 

 ฉินฟาง ถาม ถังเฟยเฟย อย่างสงสัย เขาคิดมาโดยตลอดว่า  ถังเฟยเฟยนั้นเป็นลูกคนเดียว และไม่ได้รู้ว่าเธอมีพี่ชายด้วย

 

 “ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่สองคน! พวกเขาป่าเถื่อนมาก ถ้าเกิดว่าเธอกล้าพอที่จะรังแกฉันหละก็ ระวังตัวไว้ให้ดี! ฉันอาจจะบอกให้พวกเขามาคุยกับเธอ!”

 

 

 ถังเฟยเฟยทำท่าทางดุร้ายอย่างรวดเร็ว ด้วยฟันเขี้ยวและกรงเล็บมือ ยังไงก็ตาม มันก็ยังดูน่ารักมากกว่า

  “เออใช่เสี่ยวทำไมถึงไม่พาฉินฟางไปเก็บเกี่ยวประสบการ์ณและเพิ่มคอนเนคชั่นด้วยเลยหละ? การเจอคนมากขึ้นไม่ได้ทำร้ายเขาซะหน่อย! เฟยเฟย เธออยู่ที่นี่คืนนี้และนอนกับฉันนะคืนนี้! ”

 

 ในขณะที่ หนิงเว่ยเฉียงหยิบกุญแจรถ จู่ๆ หนิงอวี่ม่อก็ทำข้อเสนอแกมบังคับอย่างรวดเร็ว

 

 

 “เอิ่ม เธอพูดถูก! ฉินฟาง ทำไมถึงไม่ไปกับเสี่ยวเฉียงหน่อยละ  ถ้ามีเขาอยู่แล้วหละก็ เธอจะไม่โดนรังแกแน่! ”

 

ถังเฟยเฟย ไม่ได้คัดค้านอะไร

 

 “โอเค ไม่เป็นปัญหากับฉันอยู่แล้ว! ฉินฟางถ้านายจะไปด้วย งั้นมากับฉันเลย!”

 

หนิงเว่ยเฉียงไม่ได้ปฎิเสธอะไรและยอมรับข้อตกลง เขาได้ข้อสรุปเหตุผลที่หนิงอวี่ม่อ ยอมให้ ฉินฟาง ไป มันไม่ได้เหมือนกับการที่ให้ ฉินฟาง เรียนรู้โลกใบนี้ แต่มันเพื่อที่จะให้ส่งคนไปเพื่อควบคุมเขาและแน่ใจว่าเขาจะไปงานประมูลการกุศลจริงๆ

 

 

“ถ้าอย่างงั้นฉันจะไป! เฟยเฟย เธออยู่ที่นี่เป็นเพื่อนหนิงอวี่ม่อละกัน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น โทรหาฉันเลย”

 

 

 ฉินฟาง คิดเกี่ยวกับมันและไม่ได้ลังเลที่จะไป  เขาเอาโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ของเขาไปด้วย มันมีเบอร์ทั้งหมดอยู่แล้วและสามารถช่วยแก้ไขปัญหาของการที่จะต้องซื้อใหม่ด้วยตัวของเขาเอง

 

 

ในที่สุด ฉินฟาง ก็ตามหนิงเว่ยเฉียง ไปและออกจากบ้าน

 พวกเขาไปยังโรงจอดรถและออกไปกับรถออดี้สุดเท่

 

 สิ่งที่ทำให้ฉินฟาง ประหลาดใจนั้นคือสิ่งที่อยู่ในโรงจอดรถ มันมีรถหรูหราหลายคันนอกเหนือจากรถออดี้ มากไปกว่านั้น มันไม่ได้รวมถึงรถพอร์ช  ที่เป็นซากเมื่อวันหลายวันที่แล้ว

 

 

 “ฮ่าๆ ฉินฟาง อย่าคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นให้มาก พ่อของฉันไม่ใช่ข้าราชการทุจริตนะ ลุงของฉันเป็นเศรษฐีพันล้าน และเพราะว่าปู่ของฉันมีลูกสาวแค่คนเดียวซึ่งก็คือแม่ของฉัน เราเลยอยู่อย่างสบายมากกว่าคนอื่นๆ”

 

 

 การเห็นฉินฟาง รู้สึกสงสัยหนิงเว่ยเฉียงจึงรีบอธิบายถึงความร่ำรวยของพวกเขา

 

 

 งานประมูลหมิงฉือ นั้นเป็นที่ระดับหรูหราสำหรับการนัดพบปะที่เมืองหมิงฉือคนที่จะสามารถมีสิทธิ์เข้างานประมูลได้นั้นเป็นผู้คนที่มีอิทธิพลหรือไม่ก็ลูกของผู้มีอิทธิพล แค่ค่าการเป็นสมาชิกนั้นราคาสูงถึง $500,000 ต่อปี ซึ่งสามารถทำให้ผู้คนหมดตัวได้เลยทีเดียว

 

 ด้วยค่าการเป็นสมาชิกที่แพงมากมาย มันมีการบริการที่ดีที่สุดในงานประมูล อย่างแน่นอน ประโยคนึงที่ดังที่สุดเกี่ยวกับการบริการใน งานประมูล คือ “ตราบเท่าที่คุณสามารถจิตนาการมันขึ้นมาได้ และสามารถจ่ายสำหรับมันได้ พวกเรา จะหามันมาให้สำหรับคุณ”

 

 

 ด้วยสถานะของ ฉินฟาง ตอนนี้แล้ว เขาไม่สามารถที่จะเข้าไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ามี หนิงเว่ยเฉียง อยู่กับเขา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคงจะไม่พูดอะไรและยอมให้ฉินฟาง ผ่านเข้าไปได้

 

 

 “ ที่งานประมูล สามารถพิจารณาได้ว่าเป็นโลกแห่งสังคมขนาดเล็กของคนชั้นสูง อะไรที่คุณสามารถจิตนาการได้นั้นมีอยู่ในที่แห่งนี้ และถึงแม้ว่ามันอาจจะเป็นบางสิ่งที่คุณไม่สามารถจิตนาการได้ก็ตาม”

 

 

 หลังจากที่พาฉินฟาง เข้ามาแล้วหนิงเว่ยเฉียง ใช้โอกาสนี้เพื่อที่จะคุยเกี่ยวกับ งานประมูลนี่

 

 

 “คืนนี้เราจะต้องไปที่งานประมูลการกุศล สำหรับนอกเหนือจากนั้น ฉันจะพานายไปและให้นายได้ประสบการ์ณกับพวกเขา ถ้าฉันมีเวลา”

 

 

“หืมมม? ฉินฟาง บังเอิญอะไรแบบนี้!”

 

 

ฉินฟาง ประหลาดใจเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ในตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นมามองว่าคนๆนั้นคือใคร เขาพบกับโจรที่เขาเข้าใจผิดเฉินเจียงหนาน ที่กำลังเดินมาหาเขา

 

  “เอ่อออ มันค่อนข้างที่จะบังเอิญจริงๆเลยนะเนี่ย!”

 

มองไปยังเฉินเจียงหนาน ถึงแม้ว่าฉินฟาง จะมองไปยังนิสัยของเขา แต่ตั้งแต่ที่พวกเขาเจอกัน เขายังไม่ได้แม้แต่จะมองหน้าของเขาอีก

 

 

 “ฉินฟาง ฉันไม่ได้คิดว่าเธอจะรู้จักเฉินเจียงหนาน ด้วย!”

 

 

หนิงเว่ยเฉียงนั้นรู้สึกตกใจ และจากที่เขาเรียก  เฉินเจียงหนาน นั้น มันแน่นอนอยู่แล้วว่าเขารู้จักกัน

 

 “เอิ่ม ฉันไม่ค่อยจะรู้จักเขาเท่าไหร่นัก มันก็แค่บางอย่างที่เกิดขึ้นและมันก็เป็นเหตุผลที่เรารู้จักกัน”

 

ฉินฟาง ไม่ได้บอกกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดและบอกแบบรวดรัด

 

 “อย่าพูดถึงมันอีก! เมื่อวานนี้ฉันขายขี้หน้ามากและฉันถูกต่อว่าหลายครั้งจากตาแก่ของฉันตอนที่ฉันกลับถึงบ้าน!”

 

 

 เฉินเจียงหนาน ไม่ได้รับรู้เลยว่าฉินฟางกำลังช่วยรักษาภาพพจน์ของเขาอยู่และพูดในสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา

 “โอ้? เกิดอะไรขึ้น? ที่สามารถที่จะทำให้ศาสตราจารย์เฉิน โกรธได้และมันคงจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆแน่! ”

 

 

หนิงเว่ยเฉียงถามอย่างรวดเร็วด้วยความสงสัย

 

 

 “มันไม่เกี่ยวกับว่าจะเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก มันก็แค่เพราะแจกันโบราณที่เราประมูลมาเมื่อวันก่อน ซึ่งแจกันโบราณอันนั้นถูกซื้อมาในราคา $300,000 แต่มันก็เป็นของปลอม”

 

เฉินเจียงหนานพูดอย่างไม่พอใจ

 

 “ของปลอม? เป็นไปไม่ได้! ฉันก็อยู่ที่นั้นเหมือนกันและมันเหมือนกับของจริงที่ขายให้ฉัน….”

 

หนิงเว่ยเฉียง อึ้งและพูดด้วยความช็อคจากใจของเขา

 

 “ฉันซื้อมันมาเพราะฉันคิดว่ามันคือของจริง แต่…ฉันซื้อแจกันนี้มาโดยเฉพาะเพื่อที่จะให้ศาสตราจารย์ลู่ เพื่อที่จะประเมิณราคา แต่มันกลับของปลอมอย่างแน่นอน พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ฉันต้องขอบคุณ ฉินฟาง จริงๆ ถ้าไม่ได้สายตาอันแหลมคมของเขา ครอบครัวของฉันคงจะโง่ไปอยู่พักใหญ่!”

 

 เฉินเจียงหนานพูดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอย่างง่ายดายและไม่ได้ลืมที่จะชมเชยฉินฟาง

 

 “โอ้?  ฉินฟางนาย รู้วิธีที่จะประเมินราคาของสมบัติด้วยเหรอ?”

 

 หนิงเว่ยเฉียงนั้นตกใจอีกรอบหนึ่ง การที่จะประเมิณราคาของสมบัตินั้นไม่ใช่อะไรที่ใครก็ตามจะสามารถทำได้ สิ่งที่ต้องมีนั้นไม่ใช่แค่มีความรู้เกี่ยวกับประวัติและวัสดุของวัตถุโบราณเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกฎเกณฑ์ของมันอีกด้วย วัยรุ่นราวคราวเดียวกันเกือบทุกคนนั้นรู้แค่วิธีที่จะใช้เงินและเล่นไปวันๆ และไม่เก่งเกี่ยวกับการประเมิณราคาของสมบัติเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าไม่เช่นนั้น มันคงจะไม่มีสถานการ์ณที่ครอบครัวของ เฉินเจียงหนานซื้อวัตถุโบราณปลอมแน่นอน

 

 

 

 “ฉันรู้แค่นิดหน่อย แต่ฉันไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ!”

 

 

ฉินฟาง พิจารณาและให้เหตุผลไม่ได้เรื่องออกไป เขามีสกิล[การประเมิณ] สามารถที่จะแยกแยะความจริงแท้ของสิ่งของได้อย่างชัดเจน แต่เขาไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้ “ใช่ ฉันพึ่งใช้ [การประเมิณ] กับมันและผลของมันออกมาอย่างชัดเจน ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่ไหม?”

 

 “ดีแล้วหละ! จากนี้ไป นายควรที่จะช่วยฉันเพื่อที่จะแยกแยะของดีๆ นายไม่ควรที่จะปล่อยให้ฉันสนุกที่ได้ซื้อแต่ของปลอมๆ!”

 

 

หนิงเว่ยเฉียงมีความสุขมากโดยทันทีและดึงฉินฟางไปยังการประมูลการกุศล

 

รีวิวผู้อ่าน