px

เรื่อง : War Sovereign Soaring The Heavens
บทที่ 144 เจ้าพระยา


"เจ้า ... เจ้ากล้าเถียงข้าด้วยวาจาไร้สาระงั้นหรือ!" นี่เฝินรู้สึกหงุดหงิดและขุ่นเคืองไม่น้อย เมื่อได้ยินวาจาที่...ยากจะโต้เถียงของหลิงเทียน

"พอแล้ว ลูกเฝิน สิ่งที่น้องชายท่านนี้กล่าว เขาหาได้กล่าวอย่างเลื่อนลอยไร้สาระไม่" พระยานี่เหวี่ย กล่าวท้วงบุตรออกมาก่อนที่จะจับจ้องไปยังหลิงเทียนด้วยแววตาลึกซึ้ง "น้องชายท่านนี้ ไม่ทราบว่าเจ้ามีหนทางรักษาพิษของพังพอนทมิฬไร้ลักษณ์จริงๆหรือ?"

ต้วนหลิงเทียนเพียงยิ้มออกมาบางๆ "เอาล่ะท่านพระยา ข้าขอกล่าวตามตรง ตอนนี้ข้ายังคงไม่มีความสามารถ ที่จะรักษาพิษของพังพอนทมิฬไร้ลักษณ์ให้หายขาดได้ อย่างสมบูรณ์ ... "

"ฮึ่ม! นั่นไงเล่าท่านพ่อ! ข้าว่าแล้ว แม้แต่หัวหน้าสมาคมผู้หลอมโอสถ ที่เป็นผู้หลอมโอสถระดับ 6 ยังไม่อาจทำอะไรกับพิษของท่านปู่ได้ แล้วเด็กน้อยเช่นเขาจะไปทำอันใดได้?" ใบหน้าของนี่เฝินเริ่มหมองคล้ำลงเมื่อได้ยินคำกล่าวของต้วนหลิงเทียน

"เฝิน เจ้าเงียบก่อน!" นี่เหวี่ยถลึงตามองนี่เฝิน ก่อนที่จะจับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาจริงจัง แล้วกล่าวถามออกมาอย่างร้อนรนว่า “น้องชาย เมื่อครู่คำกล่าวของเจ้า มันหมายความว่าอะไรหรือ?”

ต้วนหลิงเทียนเพียงยักไหล่ออกมาอย่างสบายๆ ก่อนจะกล่าวว่า “ความหมายของข้าก็คือ ... ตอนนี้ข้าสามารถรักษาพิษของพังพอนทมิฬไร้ลักษณ์ให้แก่ท่านเจ้าพระยาได้บางส่วน แต่หากจะให้ข้ารักษาเขาจนหายขาดนั้น และถอนพิษออกจนหมดนั้น พวกท่านต้องรอจนกว่าข้าจะเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 8 เสียก่อน”

ผู้หลอมโอสถระดับ 8? พ่อลูกทั้งสองคนได้แต่จับจ้องไปยังชายหนุ่มชุดสีม่วงตรงหน้าด้วยแววตาโง่งม

เด็กคนนี้ดูเหมือนจะมีอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น แต่เขายังกล้ากล่าววาจาเหลวไหลเพ้อฝันเรื่องเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 8 ? แต่ถึงแม้เขาจะกลายเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 8 ได้แล้วจะอย่างไร?! ผู้ใดจะไปสามารอยู่รอเขาได้กัน?!

"เด็กน้อย จวนเจ้าพระยาเรืองฤทธิ์ของเรา หาได้มีเวลาที่จะมากล่าววาจาเหลวไร้ ไร้สาระกับเจ้า ผู้หลอมโอสถระดับ 8 เช่นนั้นหรือ ... เจ้ากล้ากล่าววาจาเหลวไหลเช่นนี้ได้อย่างไร! แค่กว่าเจ้าจะกลายเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 ได้ ไม่รู้จะต้องใช้เวลาอีกกี่ ... " นี่เฝินนั้นขุ่นเคืองอย่างถึงขีดสุด แต่ในขณะที่เขากล่าววาจาต่อว่าระบายอารมณ์ออกมา ภาพที่ชายหนุ่มชุดสีม่วงตรงหน้ากระทำ ถึงกับทำให้เขาอ้าปากค้างทั้งตายังเบิกกว้างแทบถลน

นั่นเพราะยามนี้ต้วนหลิงเทียนพึ่งจะหงายฝ่ามือขึ้นฟ้า แล้วจุดเปลวเพลิงหลอมโอสถให้ปะทุพวกพุ่งออกมาอย่างอัศจรรย์

ดวงตาของนี่เหวี่ยหรี่ลงโดยพลัน

ผู้หลอมโอสถระดับ 9 ..ด้วยอายุเพียง 18 ปี?

ชายหนุ่มคนนี้เป็นยิ่งกว่าสัตว์ประหลาดของตระกูลเซี่ยว เซี่ยวเหอนั้นเสียอีก!

นี่ไม่รู้ว่านี่เหวี่ยจะแสดงท่าทีอย่างไร หากเขารู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้า หรือต้วนหลิงเทียนนี้ พึ่งล่อหลอกตุ๋นเงินเซี่ยวเหออะไรนั่นมาถึง 5,000,000 เหรียญเงิน ต่อหน้าต่อตาผู้คนในสมาคมผู้หลอมโอสถ! ...

"ข้าขอเวลาไม่เกิน 2 ปี ข้าต้องสามารถเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 8 ได้อย่างแน่นอน แต่พวกท่านอย่าได้กังวล ยามนี้ถึงข้าจะเป็นเพียงผู้หลอมโอสถระดับ 9 แต่ทว่ายังสามารถถอนพิษของพังพอนทมิฬไร้ลักษณ์จนทำให้ เจ้าพระยานั้นไม่รู้สึกเจ็บปวดหรือต้องทนทรมานจากพิษของมันอีกต่อไป ซ้ำยังดำเนินชีวิตต่อได้อย่างปกติสุขไม่ต่างอะไรกับคนธรรมดาที่สูญเสียระดับบ่มเพาะ แต่หากข้าสามารถเป็นผู้หลอมโอสถระดับ 8 ได้เมื่อไหร่ ข้าจะสามารถล้างพิษของพังพอนทมิฬไร้ลักษณ์ และฟื้นฟูพลังยุทธ์ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติของ เจ้าพระยาได้ทันที!" น้ำเสียงของหลิงเทียนนั้นหาได้ดังสักเท่าไร แต่ทว่ามันหนักแน่น ชัดเจน และมีความมั่นใจอยู่เต็มเปี่ยม

นี่เหวี่ยพลันสูดลมหายใจเข้าด้วยความตื่นตระหนกแล้วกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงต่ำ "เจ้า...เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าบิดาของข้าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติ?"

"นี่ง่ายดายนัก หากเจ้าพระยา ไม่ได้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติ เกรงว่าเขาคงไม่สามารถประคองอาการมาได้นานถึงเพียงนี้ และหากข้าเดาไม่ผิด ยามนี้ สุขภาพและอาการของเจ้าพระยาคงไม่ค่อยสู้ดีนัก กล่าวได้ว่าอยู่ในช่วงระยะสุดท้ายแล้ว หากไม่รีบรักษาเกรงว่าอวัยวะภายในของเขาต้องถูกทำลาย ตกตายในเวลาอีกไม่ถึง 1 ปี " ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาอย่างช้าๆ

นี่เฝินพลันแข็งค้างไปเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยชายหนุ่มตรงหน้าที่มีอายุอานามอ่อนกว่าเขาราว 7-8 ปีจะมีความสามารถสูส่งถึงเพียงนี้ เรื่องของเจ้าพระยาเรืองฤทธิ์แห่งจวนเจาพระยาเรืองฤทธิ์ ที่เป็นปู่ของเขานั้น แม้แต่คนในจวนเองยังล่วงรู้กันแค่ไม่กี่คน ซ้ำยังเป็นคนสนิทแทบทั้งสิ้น! แต่ชายหนุ่มคนนี้อาศัยเพียงการคาดเดากลับล่วงรู้ และกล่าวสรุปออกมาได้ถูกต้องไม่มีผิดเพี้ยน! สวรรค์!!

"น้องชาย ข้ายังไม่ทราบเลยว่าเจ้ามีนามว่ากระไร" นี่เหวี่ยนั้นแทบไม่อาจระงับความตื่นเต้นเอาไว้ได้ยามนี้เขาแทบจะเชื่อคำกล่าวของหลิงเทียนจนหมดสิ้น เรื่องที่เขาครุ่นคิดอยู่ในตอนนี้มีเพียง...

...หรือผู้หลอมโอสถระดับ 9 ที่อายุเพียง18 ปีผู้นี้จะสร้างปาฏิหาริย์ได้จริงๆ! หรือไม่ก็ตัวผู้หลอมโอสถระดับ 9 ที่อายุเพียง 18 ปี ผู้นี้! นี่ล่ะคือปาฏิหาริย์!!

"หลิงเทียน!" ต้วนหลิงเทียนกล่าวตอบออกไปช้าๆ เขาไม่ได้กล่าวบอกนามจริงในโลกนี้แก่พระยา

"หลิงเทียน?" ทว่านี่เหวี่ยพลันตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เมื่อได้ยินนามนี้ของต้วนหลิงเทียน และดูเหมือนเขาฉุกคิดถึงอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา แล้วก็มองไปยังต้วนหลิงเทียน "น้องชายหลิงเทียน เจ้าจะไปเจอบิดาข้าตอนนี้เลยหรือไม่?"

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับคำช้าๆ

นี่เฝินจ้องมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาลึกซึ้งครู่หนึ่ง ก่อนที่จะทำท่าทางแปลกๆ สุดท้ายก็ส่ายศีรษะออกมาเบาๆ

ไม่นานนัก หลิงเทียนก็ได้พบกับเจ้าพระยาที่บริเวณลานด้านหลังของจวนเจ้าพระยา

ชายชราในชุดคลุมสีเทา แลดูอ่อนระโหยโรยแรงไปไม่น้อย หลังจากที่ตรากตรำเพราะพิษอยู่เป็นเวลากว่า 3 ปี ยามนี้เขาดูอ่อนแรงจนราวกับว่า ขอเพียงมีลมพัดโชยมาเพียงแผ่วเบาก็สามารถพัดเขาให้ล้มลงได้ ...แต่จะอย่างไรก็ตามประกายตาที่จ้องมองมา อีกทั้งนรลักษณ์ของเขายังบ่งบอกถึงความสูงส่งและบอกเล่าเกียรติประวัติอันยิ่งใหญ่เกรียงไกรของเขาได้เป็นอย่างดี

“ท่านพ่อ” นี่เหวี่ยทำความเคารพด้วยความรักและเคารพชายชราทันทีที่เห็นหน้า

"ท่านปู" นี่เฝินเองก็ทำความเคารพด้วยความนับถืออย่างถึงที่สุด

"ท่านเจ้าพระยา" ต้วนหลิงเทียนเพียงกล่าวเรียกหาและส่งยิ้มบางๆไปให้ชายชรา

"เรื่องอะไรกันหรือ?" ชายชราพลันใช้สายตาราวกับพญาอินทรีย์จับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียน สายตาของเขาราวจะมองทะลุได้ทุกสิ่ง ...น่าเสียดายที่เขายังไม่อาจมองอะไรในตัวหลิงเทียนออก

"ท่านพ่อ นี่คือน้องชายหลิงเทียน เขามาที่นี่เพื่อรักษาพิษให้แก่ท่าน" นี่เหวี่ยกล่าวออกมาอย่างด้วยความเคารพ เขามักเทิดทูนบิดาของเขาไว้สูงส่งเหนือล้ำกว่าอะไรทั้งสิ้นทั้งมวล แม้หลายปีที่ผ่านมานี้บิดาของเขาจะหาได้แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ดั่งกาลก่อน แต่สำหรับเขาแล้วบิดาของเขาเป็นดั่งภูผาและมหานทีอันยิ่งใหญ่ ตั้งตระหง่าน คงอยู่ในใจของเขามิเสื่อมคลาย

"โอ้?" แววตาของชายชราทอประกายวูบหนึ่ง เขาย่อมรู้จักลูกชายของตัวเองดี และเขารู้ว่าลูกชายของเขาไม่ใช่คนที่จะกล่าววาจาและกระทำสิ่งใดออกมาอย่างเลื่อนลอย หากถึงขั้นที่ลูกชายของเขานำชายหนุ่มผู้นี้มาเห็นทีว่า ลูกชายของเขาคงเชื่อมั่นในตัวชายหนุ่มคนนี้ไม่น้อย

ต้วนหลิงเทียนเพียงยิ้มก่อนที่จะแสร้งล้วงมือไปในอกเสื้อและลอบหยิบกระดาษกับพู่กันออกจากแหวนมิติ เขาเขียนวัตถุดิบและรายการสมุนไพรบางอย่างลงในกระดาษ ก่อนที่จะยื่นส่งไปให้นี่เหวี่ย “เอาล่ะท่านพระยา ช่วยไปเตรียมวัตถุดิบสมุนไพรเหล่านี้มาให้ข้าหน่อย หากท่านนำมาได้เมื่อไหร่ ข้าจะหลอมสร้างโอสถถอนพิษให้แก่เจ้าพระยาทันที”

หลอมกลั่นโอสถ?

ชายชราหันไปจับจ้องต้วนหลิงเทียนอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวออกมา "เด็กน้อยเจ้าเป็นผู้หลอมโอสถ?"

"ท่านปู่ แม้น้องชายหลิงเทียนจะอายุยังน้อย แต่เขาก็เป็นผู้หลอมโอสถระดับ 9 แล้ว" นี่เฝินกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม

"ผู้หลอมโอสถระดับ 9 ? ไม่เลว...ไม่เลวเลยทีเดียว" ชายชราพยักหน้าอย่างต่อเนื่องหลังจากที่จ้องมองหลิงเทียนด้วยสายตาชื่นชม ผู้หลอมโอสถระดับ 9 ด้วยอายุเพียง 18 ปี ... แม้กระทั่งคนที่ผ่านโลกมามากเช่นเขายังตื่นตระหนกอย่างแท้จริง ...

แล้วนี่เฝินก็รีบวิ่งตามนี่เหวี่ยไปเพื่อช่วยจัดเตรียมโอสถด้วยความรีบร้อนทันที

"เฮ้ลูกเฝิน เจ้าว่า มันจะยอดเยี่ยมถึงเพียงใดกัน หากน้องชายหลิงเทียนคนนี้ เป็นบุตรของ หรูเฟิงอาเจ้า " ระหว่างทาง นี่เหวี่ยกล่าวออกมาพร้อมถอนหายใจ

"ท่านพ่อ พวกเขาเพียงมีชื่อคล้ายคลึงกันเท่านั้น น้องจากนี้น้องชายหลิงเทียนนั้นมีแซ่ว่า หลิง ชื่อเทียน แต่บุตรชายของท่านอาต้วนหรูเฟิง นั้น แซ่ต้วน นามว่าหลิงเทียน ...ต้วนหลิงเทียน กับหลิงเทียนนั้นต่างกันไม่น้อย" นี่เฝิน นั้นส่ายหัวออกมาด้วยความเสียดาย เขาอดย้อนคิดไปยังกาลก่อนขึ้นมาไม่ได้ เขาคิดถึงท่านอา...ผู้ที่เคยเป็นผู้ฝึกยุทธ์อัจฉริยะไร้คู่เปรียบแห่งตระกูลต้วน

น่าเสียดายที่แม้แต่ สวรรค์ยังอิจฉาในอัจฉริยะภาพของเขา ทำให้หนทางของเขานั้นยากลำบากจนมิอาจข้ามผ่าน...

"ข้าเองก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่ยามเห็นเขา ข้าเองก็บังเกิดความรู้สึกคุ้นเคยแปลกๆไม่น้อย ... น่าเสียดายนักหากปีนั้นข้าไม่ต้องนำทัพไปออกศึก มีหรือข้าจะปล่อยให้น้องสะใภ้ และลูกชายของเขาต้องระเห็จระเหินออกจากตระกูลต้วนไปเช่นนั้น! และยิ่งโชคร้ายเข้าไปอีก ที่ข้าไม่เคยถามไถ่เรื่องราวของน้องสะใภ้จากหรูเฟิงแม้เพียงครั้ง ถึงไอพวกตระกูลต้วนบัดซบนั่นจะรู้ แต่พวกมันก็ไม่เต็มใจที่จะกล่าวบอกอะไรข้า! นี่ทำให้ข้าไร้หนทางที่จะตามหาพวกนางสองคนแม่ลูก น่าแค้นใจนัก!"

"เฮ่อ...แถมนี่ก็หลายปีมาแล้ว ข้าเองก็สงสัยว่าทั้งสองคนนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง” ใบหน้าของนี่เหวี่ยนั้นเต็มไปด้วยความเสียใจ

"ท่านพ่ออย่าได้กังวล น้าหลัว กับเทียนน้อยย่อมไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน สวรรค์ย่อมต้องปกป้องคุ้มครองคนดีอยู่แล้ว " นี่เฝินกล่าวปลอบโยนบิดาของเขา

"หากเทียนน้อยยังอยู่ข้าคิดว่า เขากับ หลิงเทียนผู้นี้ ย่อมเป็นชายหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ...ลูกเฝิน เจ้าว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่พวกเขาจะเป็นคนๆเดียวกัน?"

"ท่านพ่อท่านคิดอะไรของท่านกัน ท่านดูหน้าตาท่านอาหรูเฟิงซี่ เขาออกจะหล่อเหลาปานนั้น อีกทั้งน้าหลัวเองก็งดงาม ราวกับเทพธิดา... แล้วเขาจะมีบุตรชายหน้าตาธรรมดาๆ อย่างน้องหลิงเทียนได้อย่างไรเล่า? เรื่องชื่อนี่คงเป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น อีกอย่างน้องหลิงเทียนคนนี้ เขาหาได้แซ่ต้วนไม่”

"ถูกของเจ้า หากเป็นบุตรของหรูเฟิงกับน้องสะใภ้ ย่อมมีรูปลักษณ์ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน"

...

ส่วนในลานกว้างด้านหลังจวนตอนนี้ ต้วนหลิงเทียนกับชายชรากำลังนั่งสนทนากัน

"ท่านเจ้าพระยา จากที่ข้ารู้มาพังพอนทมิฬไร้ลักษณ์นั้น มีลักษณะนิสัยอันเป็นเอกลักษณ์ที่จะไม่โจมตีหรือทำร้ายผู้ใดก่อน หากไม่ได้ไปยุ่งวุ่นวายอะไรกับมัน แล้วท่านไปทำอะไรมันเข้าเล่า ถึงถูกทำร้ายจนติดพิษมาเช่นนี้?" ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกมาด้วยความสงสัย

"มิคาด! น้องชายหลิงเทียน กลับล่วงรู้ถึงลักษณะของพังพอนทมิฬไร้ลักษณ์ด้วย?" ชายชรารู้สึกประหลาดใจไม่น้อย และตอนนี้เอง ความรู้สึกของเขาที่สัมผัสได้ว่าชายหนุ่มตรงหน้านั้นไม่ธรรมดา ก็เพิ่มพูนยิ่งขึ้น "เจ้ากล่าวถูกต้องแล้ว พังพอนทมิฬไร้ลักษณ์นั้นไม่ได้จู่โจมข้าก่อน แต่ในยามนั้นข้าต้องการผลไม้จิตวิญญาณที่พังพอนทมิฬไร้ลักษณ์ครอบครองอยู่ ข้าจึงจำเป็นต้องลงมือ บีบบังคับให้มันล่าถอย ...สุดท้ายข้าก็ไล่มันไปได้ แต่ก่อนไปมันก็ได้ทำร้ายข้าจนต้องติดพิษเช่นนี้... แต่จะอย่างไรก็นับว่าข้ายังมีโชค! ที่ได้รับผลไม้จิตวิญญาณนั้นมา "

"ผลไม้จิตวิญญาณนั่น มีค่ากับท่านมากนักหรือ?" ต้วนหลิงเทียนกล่าวถาม

"ใช่มันมีความสำคัญมากนัก... หากไม่มีมันแล้ว ภรรยาของข้าต้องประสบความลำบากอย่างแน่นอน" ชายชรากล่าวออกมาช้าๆ

ชายชราไม่ได้กล่าวรายละเอียดอะไรถึงเรื่องนี้มากนัก และต้วนหลิงเทียนเองก็ไม่ได้คิดจะถามเซ้าซี้อะไร เนื่องจากทุกคนล้วนมีความลับที่ไม่อยากบอกใครได้ทั้งนั้น แม้เขาค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นอย่างมากก็ตาม ว่าผลไม้จิตวิญญาณที่พังพอนทมิฬไร้ลักษณ์ครอบครองอยู่มันทำอะไรได้กันแน่ ถึงขนาดทำให้เจ้าพระยาคนนี้เสี่ยงชีวิตเพื่อแย่งชิงมันมา

"แต่ดูเหมือนว่า ท่านเจ้าพระยาเองก็ไม่ได้เสียใจอะไรในเรื่องนี้นี่?" ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มบางๆ

"ในชีวิตคนเรานั้น มีบางสิ่งที่จำต้องกระทำ และบางสิ่งที่ไม่สมควรกระทำ ... สำหรับตัวข้านั้น ต่อให้ต้องเสี่ยงอันตรายถึงเพียงไหน และถึงแม้จะต่อให้ข้าต้องตาย ข้าก็ไม่คิดเสียใจที่จะลงมือกระทำ...หากมันเป็นเรื่องที่จะสามารถช่วยเหลือครอบครัวของข้าให้อยู่รอดปลอดภัย! " ชายชราเพียงส่ายหน้าออกมาเบาๆ เขาไม่มีความเสียใจสักนิดที่ตนต้องบาดเจ็บเช่นนี้

และตอนนี้ถึงแม้จะเป็นต้วนหลิงเทียนเอง ก็ยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชม... ‘ชายชราผู้นี้นับว่าคู่ควรให้นับถือ!’

“ท่านเจ้าพระยาอย่าได้กังวล พิษร้ายที่กัดกินอวัยวะภายในของท่านยามนี้ สามารถถูกถอนได้อย่างหมดสิ้นทันที ที่ใช้โอสถที่ข้าปรุงเสร็จจนหมด และเมื่อถึงตอนนั้นถึงแม้ว่าท่านยังไม่อาจใช้พลังงานต้นกำเนิดได้ แต่ท่านก็ยังสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างเป็นปกติ และไม่ต้องทนเจ็บปวดอะไรจากพิษร้ายอีกต่อไป” ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกมาช้าๆ

"เช่นนั้น ข้าต้องขอขอบคุณน้องชายหลิงเทียนอย่างมาก " ชายชราพยักหน้าออกมาพร้อมรอยยิ้มและประกายตาเรืองวูบ

บางทีในแง่ของผู้ฝึกยุทธ์เขาอาจจะเคยยืนอยู่ในจุดสูงสุดของอาณาจักรนภาล่องแห่งนี้ และสามารถก้มลงมามองทุกผู้คนได้อย่างไม่แยแสอะไร แต่ในแง่ของผู้หลอมโอสถเขาอดไม่ได้ ที่จะชื่นชมชายหนุ่มคนนี้

เพียงแค่สามารถเป็นผู้หลอมโอสถได้ตั้งแต่อายุ 18 ปี นี่ก็นับว่ามีความสามารถและพรสวรรค์ที่น่าตื่นตระหนกแล้ว!

ไม่นาน...นี่เหวี่ยและบุตรชายเขา ก็สามารถรวบรวมวัตถุดิบสมุนไพรที่หลิงเทียนจดไปให้จนครบถ้วน

ต้วนหลิงเทียนไม่คิดปิดบังอะไร เขาหยิบเตาหลอมโอสถออกมาทันที และเริ่มหลอมกลั่นโอสถต่อหน้าชายทั้ง 3 จากตระกูล นี่ ...

แม้ทั้ง 3 จะไม่ได้มีความรู้ความสามารถในด้านศาสตร์แห่งโอสถสักเท่าไร แต่เมื่อพวกเขาได้จับจ้องท่าทางและการกระทำของหลิงเทียนในขณะที่หลอมกลั่นโอสถ พวกเขาก็รู้สึกว่ามันยอดเยี่ยมราวกับเทพเซียนกำลังช่วยเหลือเขาอยู่ข้างๆ อย่างไรอย่างนั้น นับว่าสามารถเปิดหูเปิดตาพวกเขาให้สัมผัสได้ถึงความยอดเยี่ยมสูงส่งของผู้หลอมโอสถ และทำให้พวกเขาบังเกิดความตื่นตระหนกในใจอย่างล้นหลาม

หลังจากผ่านไป 1 ชั่วยามต้วนหลิงเทียนก็ตั้งสมาธิและ ก่อนที่จะตบมือของเขาลงไปยังเตาหลอมโอสถ! และทันใดนั้นเองโอสถที่ส่องประกายราวเรืองรองราวอัญมณี ก็ลอยขึ้นมาจากเตาหลอมโอสถ ก่อนที่จะตกลงบนมือของเขา

แน่นอนว่าโอสถที่เขาปรุงครั้งนี้ก็ย่อมเป็น โอสถกวาดจิตพิสุทธิ์ ที่นับได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกชั่วชีวิตของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด ที่มีสรรพคุณแก้พิษร้ายได้อย่างมากมาย

ถึงแม้ว่าพิษของพังพอนทมิฬไร้ลักษณ์ที่ชายชราจะได้รับมาจะน่าหวาดกลัว แต่หากเทียบกับ พิษร้ายของปรสิตกลืนกำเนิดนั้น ยังนับว่าด้อยกว่ากันอยู่มาก พิษร้ายของพังพอนทมิฬไร้ลักษณ์นั้น ขอเพียงใช้โอสถ กวาดจิตพิสุทธิ์ระดับ 8 ก็สามารถถอดถอนได้จนหมดสิ้น ทว่าพิษปรสิตกลืนกำเนิดของฉงเฉวียนนั้น ต้องใช้โอสถกวาดจิตพิสุทธิ์ระดับ 7 ถึงจะสามารถขจัดได้อย่างสิ้นเชิง

"ท่านเจ้าพระยา โอสถทั้ง 3 เม็ดนี่ให้ท่านกินมันเดือนละเม็ดจนหมด " ต้วนหลิงเทียนยื่นส่งเม็ดยาไปให้เจ้าพระยา

รีวิวผู้อ่าน