px

เรื่อง : War Sovereign Soaring The Heavens
บทที่ 270 : พลังสั่นสะเทือน!


บทที่ 270 : พลังสั่นสะเทือน!

 

 

ต้วนหลิงเทียนส่งนมผา 10,000 ปีถึงมือเค่อเอ๋อไม่ทันไร เสี่ยวจินพลันโผล่หัวเล็กๆของมันออกมาจากใต้แขนเสื้อเค่อเอ๋อ และเริ่มส่งเสียงร้องออกมาแล้ว

ดวงตาคู่หยกสีเขียวของเสี่ยวจิน จับจ้องไปยังนมผา 10,000 ปีในมือของเค่อเอ๋ออย่างไม่วางตา  ในแววตานั้นแฝงไปด้วยความปรารถนาอันร้อนแรง ...

"จี๊ด จี๊ด ~" เสี่ยวจินร้องออกมาก่อนที่จะเอาหัวไปถูกๆ ราวกับมันกำลังอ้อนขอ นมผา 10,000 ปี...

เค่อเอ๋อพลันเก็บนมผา 10,000 ปีลงไปในแหวนมิติทันที ก่อนที่นางลูบหัวน้อยๆของเสี่ยวจิน พร้อมกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มบางๆ "เสี่ยวจินนายน้อยบอกว่าตอนนี้เจ้ายังไม่ควรกินเพิ่ม... หลังจากนี้สักพักข้าค่อยให้เจ้ากินมันนะ "

"จี๊ดๆ ~" ดวงตาสีเขียวของเจ้าหนูขนทองเปล่งประกายออกมาอย่างดีใจ

"ดูเหมือนว่าเจ้าเสี่ยวจินนี่ จะชมชอบการกินไม่ต่างอันใดจากเสี่ยวเฮยและเสี่ยวไป๋เลย" ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวออกมาพร้อมยิ้มบางๆ

หลังจากที่ใช้เวลาอยู่กับสาวน้อยทั้ง 2 อีกครู่หนึ่ง ต้วนหลิงเทียนก็ยิ้มบางๆและกล่าวออกมาว่า "เค่อเอ๋อ เสี่ยวเฟย...ข้าต้องกลับก่อนแล้ว"

ภายใต้สายตาที่ไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไร ต้วนหลิงเทียนก็เดินออกจากหุบเขาไปด้วยความเร็ว

ที่นี่จะอย่างไรก็คือขุนเขาเหยากวง มันเป็นสถานที่ๆเต็มไปด้วยศิษย์สตรีของนิกายกระบี่ 7 ดาว มันไม่เหมาะสมสักเท่าไร ที่บุรุษอย่างเขาจะอยู่ที่นี่

ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนเดินทางกลับขุนเขาเทียนชู  ก็ยังมิวายโดนเหล่าศิษย์สตรีขุนเขาเหยากวงจับจ้องมาอย่างร้อนแรง

บนลานหินของขุนเขาเทียนชูตอนนี้ก็มีผู้คนจำนวนมากที่จับจ้องมายังเขา  แต่เมื่อเจ้าของสายตาพวกนี้เป็นบุรุษ มันก็ไม่มีความอิจฉาอะไร ...มีแต่ความขยะแขยง

"ต้วนหลิงเทียน!" ทันใดนั้นเอง เสียงชราพลันดังขึ้น ทำให้ต้วนหลิงเทียนหยุดเดินและมองตามเสียงนั้นไป

ปรากฏร่างชายชราเดินเคียงไหล่มากับชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง

ชายชรา 1 ในนั้นที่ทักทายต้วนหลิงเทียนเป็นผู้อาวุโสของศิษย์สายนอกแห่งขุนเขาเทียนเฉวียน หลู่ชิว

"อาวุโสหลู่" ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางๆพร้อมกล่าวคำทักทายอาวุโสหลู่  เขาไม่คิดว่าเขาจะได้พบผู้อาวุโสตั้งแต่กลับมาถึงขุนเขาเทียนเฉวียนเช่นนี้

หลู่ชิวที่เดินเข้ามา ค่อยๆจับจ้องสำรวจไปทั่วร่างของต้วนหลิงเทียนอย่างช้าๆ  ดูเหมือนเขาจะพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงอันน่าอัศจรรย์ไม่น้อย "เจ้า ..เรื่องนี้ "

"แหะๆ เรื่องมันยาวน่ะผู้อาวุโส" ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวออกมาพร้อมรอยยิ้ม แต่เขาก็ไม่ได้บอกอะไรออกไป

หลู่ชิวก็ไม่คิดถามเซ้าซี้ เมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนไม่สะดวกใจจะกล่าวถึงเรื่องนี้  หลังจากนั้นเขาก็หันไปมองชายวัยกลางคนก่อนที่จะกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม "นี่คือผู้อาวุโสจ้าวหลิน เขาเองก็เป็นผู้อาวุโสของศิษย์สายนอกประจำขุนเขาเทียนเฉวียนเราเช่นกัน"

"อาวุโสจ้าวหลิน" ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางๆ ขณะกล่าวทักทายชายวัยกลางคน

"อืม" แต่ชายวัยกลางคนทำเพียงเหลือบมองต้วนหลิงเทียนวูบเดียวเท่านั้น หลังจานั้นมันก็หันกลับไปเชิดหน้า ความจองหองหยิ่งยโสปรากฏออกมาบนใบหน้าของมัน ขณะที่มันระบายลมหายใจ

ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย

ด้วยอาศัยพลังวิญญาณและประสบการณ์ ของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด เขาสามารถบอกได้ว่าชายวัยกลางคนผู้นี้มีระดับบ่มเพาะอยู่ที่ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติขั้นที่ 1

เป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับแรกสัมผัสธรรมชาติขั้นที่ 1 ทว่ากลับหยิ่งยโสยิ่งกว่าผู้อาวุโสหลู่ชิว ทั้งๆที่มันด้อยกว่าด้วยซ้ำ

ในใจต้วนหลิงเทียนพลันรู้สึกไม่ถูกชะตากับมันทันที

แต่เขาก็ไม่คิดจะสนใจอะไรเรื่องนี้ ตราบใดที่เขาไม่ไปมีเรื่องราวกับอะไรกับจ้าวหลิน หรือจ้าวหลินนี้ไม่มายุ่งวุ่นวายอะไรเขา ต้วนหลิงเทียนก็ไม่คิดจะแยแสมัน

หลู่ชิวก็อดไม่ได้ที่จะละอายเล็กน้อย เมื่อเห็นทีท่าของจ้าวหลิน  เขาพยักหน้าให้ต้วนหลิงเทียนเล็กน้อย "เอาล่ะ เช่นนั้นพวกข้าไปก่อน"

"เชิญ อาวุโสหลู่"ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางๆ ก่อนที่จะพยักหน้าให้กับอาวุโสหลู่อย่างสุภาพ ใครสุภาพกับเขา เขาก็จะสุภาพกลับ

ส่วนจ้าวหลินนั้นต้วนหลิงเทียนไม่คิดสนใจอะไรมัน

ต้วนหลิงเทียนที่กำลังเดินออกจากลานหินของขุนเขาเทียนเฉวียนหลังจากที่แยกกับอาวุโสหลู่และจ้าวหลิน  หันไปมองยังอาคารที่คึกคักเต็มไปด้วยผู้คนเล็กน้อย ศิษย์สายนอกมาชุมนุมกันมากมายนัก...

บ้างมาซื้อโอสถสมุนไพร บ้างก็ซื้ออาวุธวิญญาณ

บางครั้งอาจจะนำสมุนไพรมาแลกกับโอสถ หรืออาวุธวิญญาณ

หลังจากนั้นไม่นานต้วนหลิงเทียนก็ตัดสินใจเดินขึ้นไปยังยอดขุนเขาเทียนเฉวียน  เขาพยายามแผ่สัมผัสไปรอบๆ สักครู่ เมื่อเขามั่นใจว่าไม่มีใครพบเห็นเขาก็เลือกเดินไปยังหนทางสายเล็กเส้นหนึ่ง เพื่อมุ่งหน้าสู่ยอดเขาเทียนเฉวียน

ขุนเขาเทียนเฉวียนกล่าวไปก็ใหญ่โตไม่น้อย  ทางเดินขึ้นขุนเขาก็มีสายลมแรงพัดกระหน่ำ และหนทางขึ้นสู่ยอดเขาก็มีไม่น้อยไปกว่า10 เส้นทาง

ไม่นานต้วนหลิงเทียนก็ขึ้นมาถึงยอดเขา

ยอดเขายามนี้เงียบสงบ มีเพียงลมหนาวพัดผ่าน ไร้ซึ่งวี่แววผู้คน ..ต้วนหลิงเทียนเดินหาสถานที่ริมหน้าผาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะกระโดดลงหน้าผาไป

หากมีใครบังเอิญอยู่ที่นี่และพบเห็นภาพนี้เข้าล่ะก็ ไม่พ้นพวกเขาต้องบังเกิดความตกใจอย่างสุดขีด กระทั่งอาจจะคิดไปว่าต้วนหลิงเทียนต้องการฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ... อย่างไรก็ตามหลังจากที่ร่างของต้วนหลิงเทียนตกทะลุเมฆหมอกมาแล้ว เขาก็ร่วงมายืนบนต้นไม้เฉียงๆ ได้อย่างมั่นคง

ตึก!

ต้นไม้เอียงลงเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะกลับมาสมดุลเหมือนเดิม

ต้วนหลิงเทียนเคลื่อนร่างเข้าถ้ำหินย้อยไปทันที

เมื่อกลับเข้าไปถึงส่วนลึกที่สุดของถ้ำ ต้วนหลิงเทียนก็เห็นเจ้างูน้อยทั้ง 2 ยังคงหลับใหลอยู่เหมือนเดิม  กระทั่งตำแหน่งที่นอนของพวกมันยังไม่เปลี่ยนไปด้วยซ้ำ ...

“เอ้ย นี่พวกมันคงไม่ใช่ หมูกลับชาติมาเกิดจริงๆหรอกนะ?” ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะสงสัย เพราความสามารถในการนอนของเจ้าอสรพิษน้อยทั้ง 2 เป็นอะไรที่ตัวเขายอมรับว่าพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง

หลังจากที่จ้องมองเจ้าตัวน้อยที่หลับสนิทครู่หนึ่ง ต้วนหลิงเทียนก็ค่อยๆเดินไปยังก้อนหิน ก่อนที่จะขึ้นไปนั่งขัดสมาธิบนนั้น เขาล้วงโอสถเร่งพลังกำเนิดก่อนที่จะกลืนลงไปและเริ่มบ่มเพาะพลัง ...

วิชา 9 มังกรจักรพรรดิสงคราม รูปแบบนาคาพิโรธ

พลังงานต้นกำเนิดในร่างของต้วนหลิงเทียนโคจรไปทั่วร่างด้วยความเร็ว  ควบคู่ไปกับพลังงานต้นกำเนิดที่แผ่ซ่านออกจากเม็ดยาเร่งพลังกำเนิด และพรสวรรค์ที่สูงที่สุดในเชิงยุทธ์ทำให้ทุกรอบของการโคจรพลัง ต้วนหลิงเทียนสามารถสั่งสมพลังงานต้นกำเนิดได้ก้าวหน้าขึ้นมากไปกว่าเดิมอย่างมาก

ทุกๆรอบโคจรต้วนหลิงเทียนสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานที่เพิ่มพูนขึ้นอย่างชัดเจน

หลังจากครู่หนึ่ง ต้วนหลิงเทียนพลันจับสัมผัสได้ว่า พลังงานต้นกำเนิดในร่างของเขามีการเปลี่ยนแปลงที่ประหลาดประการหนึ่ง

การเปลี่ยนแปลงนี้มันปรากฏออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ... .

ทว่าต้วนหลิงเทียนกลับสัมผัสมันได้ชัดเจน!

ทันใดนั้นเองต้วนหลิงเทียนพลันลืมตาเบิกกว้างออกมา ประกายตาระยิบระยับพร่างพราวอยู่ในดวงตาของเขา ราวกับเป็นธารดารา

"ข้าสงสัยนัก! ว่าสามารถใช้ลักษณะพลังงานเมื่อครู่ ถ่ายเทออกมานอกร่างกายได้หรือไม่" ครู่ต่อมาต้วนหลิงเทียนก็จับจ้องไปยังแขนของเขาก่อนที่จะเริ่มเหวี่ยงออกไปพร้อมเร่งเร้าพลังงานต้นกำเนิด...

ครืนนน  ซู่มมมม!

เหนือศีรษะต้วนหลิงเทียนบังเกิดเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 71 ตัวอย่างเข้มแข็ง ท่าทางราวกับมันพร้อมจะทะยานข้ามผืนฟ้า ...

ทันใดนั้นต้วนหลิงเทียนก็ลงมืออีกครั้ง

ฟุ่บ!

แขนของเขาวาดไปในอากาศพร้อมเร่งเร้าพลังงานต้นกำเนิดใช้ความแข็งแกร่งเต็มกำลัง 71 ช้างแมมมอธโบราณ

เวิงงงง!

อากาศพลันสั่นสะท้านระเบิดออก!

หากใครตั้งใจมองรอบๆ แขนของต้วนหลิงเทียนแล้ว่ละก็  จะพบว่าพลังงานต้นกำเนิดที่ควบแน่นหมุนวนอยู่รอบๆ แขนของต้วนหลิงเทียนตอนนี้ มั่นสั่นสะเทือนด้วยความถี่สูง ....

พลังงานต้นกำเนิดของเขาสั่นสะเทือนด้วยความถี่ที่สูงล้ำอย่างมาก ...ดูเหมือนนี่จะเป็นการใช้พลังงานต้นกำเนิดอย่างสูงส่งประการหนึ่ง

"นี่มัน…." ม่านตาของต้วนหลิงเทียนพลันหดแคบลงทันที เขารีบย้อนกลับไปค้นหาในความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดในหัวทันที

และต้วนหลิงเทียนเลือกที่จะพินิจไปที่ความทรงจำส่วนที่เกี่ยวกับรูปแบบนาคาพิโรธ อันเป็น รูปแบบที่ 3 ของวิชาบ่มเพาะ 9 มังกรจักรพรรดิสงคราม

รูปแบบนาคาพิโรธนี้ เป็นวิธีบ่มเพาะพลังงานต้นกำเนิด ที่จักรพรรดิกลับชาติมาเกิด ได้คิดค้นและพัฒนามันขึ้นมาจาก รูปแบบการใช้พลังงานต้นกำเนิดของ สัตว์อสูรปีศาจ นาคา

นาคา เป็นสัตว์อสูรปีศาจประเภทหนึ่ง ที่อยู่ก้ำกึ่งระหว่างงูหลามและมังกรวารี ความแข็งแกร่งของมันน่าสะพรึงมาก  และความสามารถที่เหนือชั้นที่สุดของมันก็คือ การส่งผ่านพลังงานต้นกำเนิดที่สั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่งนี้ออกมาภายนอกร่างกาย

"เป็นพลังงานสั่นสะเทือน!!" ต้วนหลิงเทียนหดแขนกลับมา ก่อนที่หงายฝ่ามือขึ้นมา พร้อมกับเร่งเร้าพลังงานต้นกำเนิด เขากำลังทดลองเร่งเร้าการสั่นสะเทือนนี้ ...

ความถี่ในการสั่นสะเทือนพลันมากขึ้นเรื่อยๆ!

ครู่ต่อมาต้วนหลิงเทียนก็กดฝ่ามือลงไปยังหินงอก ตรงพื้นถ้ำ

ทันใดนั้นเอง

กึง!กึง!กึง!กึง!กึง!

...

เมื่อพลังงานต้นกำเนิดเหนือฝ่ามือของต้วนหลิงเทียนเริ่มสัมผัสหิน  มันก็ป่นหน้าหินนั้นจนแหลกสลายเป็นธุลี

เขาค่อยๆพลักฝ่ามือลงไป

ทันใดนั้นหินทั้งก้อนพลันแตกสลายกลายเป็นธุลีทั้งหมด ...

"พลังงานสั่นสะเทือนช่างน่ากลัวอะไรขนาดนี้!" สองตาของต้วนหลิงเทียนเบิกกว้าง  เขายกฝ่ามือขึ้นมาก่อนที่จะจ้องมองพลังงานต้นกำเนิดที่กำลังสั่นสะเทือนบ่นฝ่ามือเขาอย่างไม่เชื่อสายตา...

พลังงานต้นกำเนิดที่สั่นสะเทือนด้วยความถี่สูงนี้ ช่างท้าทายสวรรค์นัก!

ต้วนหลิงเทียนค่อนข้างมั่นใจว่า หากเขาใช้พลังงานต้นกำเนิดที่สั่นสะเทือนความถี่สูงเช่นนี้ ครอบคลุมไปทั่วทั้งร่างของเขาในการต่อสู้แล้วล่ะก็ ถึงแม้ตอนนี้เขาจะใช้ความแข็งแกร่งได้เพียง 71 ช้างแมมมอธโบราณ แต่ถ้าหากเขาพบเจอผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 6 ที่มีความแข็งแกร่ง 80 ช้างแมมมอธโบราณ เขาน่าจะรับมืออีกฝ่ายได้อย่างไม่เสียเปรียบ

แม้กระทั่ง ยังมีโอกาสอย่างมากที่เขาจะสามารถเอาชนะผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 6 ได้อย่างง่ายดาย หากพึ่งพลังงานสั่นสะเทือนนี้!

การสั่นสะเทือนเช่นนี้ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของระดับพลังจะไม่ได้เพิ่มขึ้น  แต่วิธีใช้พลังในรูปแบบดังกล่าวก็นับว่าเป็นวิธีที่ท้าทายสวรรค์อย่างยิ่ง!

"จากความทรงจำของจักรพรรดิกลับชาติมาเกิด ... ด้วยการที่พึ่งพาพลังงานต้นกำเนิดที่มีเอกลักษณ์ สั่นสะเทือนด้วยความถี่สูงเช่นนี้ สัตว์อสูรปีศาจอย่างนาคา ยังสามารถเอาชนะสัตว์อสูรปีศาจที่แข็งแกร่งกว่ามันได้อย่างง่ายดาย!" ต้วนหลิงเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ มันเป็นเรื่องยากที่จะระงับความตื่นเต้นในใจนี้ได้

ที่แท้ แก่นแท้สำคัญของรูปแบบนาคาพิโรธคือสิ่งนี้นั่นเอง

เขามักคิดเสมอว่า รูปแบบที่ 3 นาคาพิโรธนี้ไม่มีอะไรพิเศษ  แต่ตอนนี้เขาสำนึกแล้วว่า เป็นเขาที่ดูแคลนจักรพรรดิกลับชาติมาเกิดมากเกินไป!

ต้วนหลิงเทียนนึกย้อนไปถึงรูปแบบทั้งหมดที่เขาฝึกฝนมาตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้

รูปแบบแรกของวิชาบ่มเพาะ 9 มังกรจักรพรรดิสงครามก็คือรูปแบบวิญญาณอสรพิษ  ซึ่งในรูปแบบนี้จะเน้นฝึกฝนเคี่ยวกรำร่างกายของผู้ใช้ให้มีความยืดหยุ่นดั่งอสรพิษ ...

ส่วนรูปแบบที่ 2 ของวิชาบ่มเพาะ 9 มังกรจักรพรรดิสงคราม นั้นคือรูปแบบงูเหลือมคลั่ง  รูปแบบนี้ ต้วนหลิงเทียนสามารถใช้พลังงานต้นกำเนิดเพื่อบ่มเพาะเคี่ยวกรำร่างกายของเขาให้แข็งแกร่งขึ้นในแต่ละระดับขั้น กล่าวได้ว่ายามต้วนหลิงเทียนฟาดแขนนั้น มันทรงพลังดั่งงูเหลือมฟาดหางป่นหินผาได้เลยทีเดียว

ตอนนี้มาถึงรูปแบบที่ 3 ของวิชาบ่มเพาะ 9 มังกรจักรพรรดิสงครามอย่างนาคาพิโรธ และรูปแบบนี้ความพิเศษของมันก็อยู่ที่ พลังงานสั่นสะเทือน! พลังงานที่มีความถี่สูงนั้น ยามกระทบมันจะเกิดผลกระทบเป็นระลอกทับซ้อนมากมายในเสี้ยวพริบตา ก่อเกิดเป็นพลังทำลายสูงส่งยากรับมือ!

"พลังงานสั่นสะเทือน นับว่ามีประโยชน์มากกว่าวิชาต่อสู้ซะอีก ...เพราะมันสามารถใช้ควบคู่ไปกับวิชายุทธ์ต่างๆได้ หากนำไปผสมกับความแข็งแกร่งของระดับบ่มเพาะแล้วล่ะก็... นับว่าก่อให้เกิดผลลัพธ์อันน่าสะพรึงนัก!! "ตาของต้วนหลิงเทียนยังจ้องไปยังฝ่ามือเขาที่เต็มไปด้วยพลังงานต้นกำเนิด  เขากดมันลงไปยังผนังถ้ำทันที

ตอนนี้เขาไม่ได้ใช้พลังสั่นสะเทือน

แม้พลังงานต้นกำเนิดของเขาจะแตะสัมผัสผนังถ้ำแล้ว  แต่ผนังถ้ำก็ไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย

ทว่าเมื่อเขาเริ่มใช้พลังงานในรูปแบบสั่นสะเทือนเบาๆ

กึง!

ถึงฝ่ามือของต้วนหลิงเทียนจะดันผนังถ้ำไว้เฉยๆเหมือนตอนแรกโดยไม่ได้ขยับอะไร ทว่าพลังงานต้นกำเนิดของเขากลับเริ่มสั่นสะเทือนขึ้นมา สั่นสะเทือนน้อยความถีต่ำ เมื่อเขาเร่งระดับการสั่นสะเทือนมากเท่าไร ความถี่ก็ยิ่งสูงมากขึ้น

กึง! กึง! กึง! กึง! กึง! กึง! กึง!

...

พลังงานต้นกำเนิดของเขาในที่สุดก็สั่นสะเทือนในระดับสูงสุด ตอนนี้ผนังถ้ำที่ฝ่ามือเขาสัมผัสก็เริ่มถูกทำลายลงด้วยพลังงานสั่นสะเทือนความถี่สูง มันป่นละเอียดเป็นผง เป็นหลุมลงไป...

เขาสามารถจินตนาการได้เลยว่า หากฝ่ามือที่เต็มไปด้วยพลังสั่นสะเทือนนี้ฟาดทำร้ายผู้คนแล้วล่ะก็  เนื้อหนัง เส้นโลหิต กระทั่งกระดูกของมัน  ย่อมได้รับผลกระทบร้ายแรงของพลังงานสั่นสะเทือนนี้แน่นอน!

"หึหึ นั่นคงเป็นอะไรที่น่าชมดูนัก" มุมปากของต้วนหลิงเทียนเผยรอยยิ้มแสยะออกมา ตอนนี้เขาไม่ต้องการอะไรมากไปกว่า...ไปทดสอบพลังนี้โดยการฟาดทุบตีใส่ร่างใครสักคน!

"ก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ วิชาบ่มเพาะที่จักรพรรดิกลับชาติมาเกิดคิดค้นขึ้นหลังรวบรวมประสบการณ์ทั้ง 2 ชาติภพ อย่างวิชา 9 มังกรจักรพรรดิสงครามนั้น แต่ละรูปแบบย่อมมีความพิเศษและลักษณะเฉพาะ...รูปแบบวิญญาณอสรพิษนั้นขับเน้นความยืดหยุ่นของร่างกาย แปรเปลี่ยนไร้จำกัด  รูปแบบงูเหลือมคลั่งเน้นไปที่ความแข็งแกร่งของเนื้อหนัง ดุดันเกรี้ยวกราด  ส่วนรูปแบบนาคาพิโรธนี่ ก็เป็นพลังสั่นสะเทือนอันน่าหวาดกลัว!  เช่นนั้น 6 รูปแบบที่เหลือก็สมควรมีลักษณะพิเศษของตัวเองเช่นกัน! " อารมณ์ของต้วนหลิงเทียนตอนนี้รื่นเริง ซ้ำยังตื่นเต้นอย่างมาก กระทั่งผ่านไปเป็นเวลานานยังยากที่เขาจะสงบลงได้...

 

รีวิวผู้อ่าน