px

เรื่อง : War Sovereign Soaring The Heavens
 บทที่ 272 : ทีมเล็กๆ


 บทที่ 272 : ทีมเล็กๆ

 

 

แววตาของต้วนหลิงเทียนเย็นลงเล็กน้อยเมื่อเห็นเสือดาววายุพุ่งเข้ามา  เขาเตรียมตัวพุ่งร่างสวนไปปะทะกับมันทันที เพื่อเทียบความแข็งแกร่งระหว่างเขากับมัน

"หืม?" ทันใดนั้นเอง พลังวิญญาณของต้วนหลิงเทียนพลันสั่นไหวเล็กน้อย  เขาสัมผัสได้ถึง การมาของกลุ่มคน 3 คนจากด้านหลัง

เมื่อมีคนมาต้วนหลิงเทียนเพียงเคลื่อนตัวฉากหลบกรงเล็บของเสือดาววายุไปเท่านั้น ...

ผู้มาใหม่ เป็นชาย 2 หญิง 1

เจ้าเสือดาววายุที่โจมตีพลาดมันไม่รีรอ พลันกระโจนเข้ามาอีกครั้ง และตอนนี้เอง ต้วนหลิงเทียนก็ถึงกับต้องสะดุ้ง!

"ระวัง!" ในขณะที่เขาจะลงมือสังหารเสือดาววายุ เสียงตะโกนอันอ่อนโยนพลันดังขึ้น ...

พริบตานั้นจมูกของต้วนหลิงเทียนพลันได้กลิ่นหอม ก่อนที่จะเห็นร่างอ้อนแอ้นอ่อนโยน ของสตรี 1 ในกลุ่ม3 คนนั้น พลิ้วร่างมาตรงหน้าเขาในชั่วพริบตา

วูบ!

สตรีผู้นี้นับว่าทรวดทรงองค์เอวอ้อนแอ้นอรชรไม่น้อย ดาบ 3 ฉื่อในมือนางฟันฉับไปว่องไวดั่งเส้นแสง เหนือขึ้นไปปรากฏเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 46 ตัว ... บ่งบอกว่านางอยู่ในระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 3!

อาวุธวิญญาณระดับ 8!

ต้วนหลิงเทียนที่มองร่างนางอยู่ก็เห็นว่านางลงมือเพียงครั้งเท่านั้น

ถึงแม้ว่าเสือดาววายุจะรวดเร็ว แต่จะอย่างไรมันก็ยังอยู่ในระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 2 เท่านั้น  มันไม่อาจตอบโต้อะไรสตรีที่มีระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 3 ที่ถือดาบวิญญาณระดับ 8 ในมือได้

เพียงพริบตามันก็ถูกนางฆ่า

"เจ้าปลอดภัยหรือไม่?" หลังจากที่สตรีผู้นั้นลงมือสังหารเสือดาววายุแล้ว นางก็หันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตากังวลเล็กน้อย  ทว่าเมื่อนางเห็นผิวกายของต้วนหลิงเทียนที่เรียบเนียนกระจ่างดั่งผิวทารก ความประหลาดใจก็ฉายชัดบนหน้านางทันที

"ข้าสบายดี" ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางๆ พร้อมส่ายหัวให้สตรีตรงหน้า

สตรีนางนี้มีอายุราวๆ 23-24 ปี ถึงแม้ว่านางจะไม่ได้งดงามเทียบเท่าเค่อเอ๋อและลี่เฟย แต่ใบหน้าของนางก็งดงามหมดจด ม่วงท่าเองก็แลดูอ่อนโยน ผิวพรรณกล่าวไปก็เรียบเนียนขาวไม่น้อย ทั้งหมดนี้บังเกิดเป็นความงามสบายตาประการหนึ่ง

สตรีคนนั้นมองไปยังชุดศิษย์สายนอกของต้วนหลิงเทียน ก่อนที่จะยิ้มบางๆพร้อมกล่าวออกมา "เจ้าเป็นศิษย์สายนอกของนิกายกระบี่ 7 ดาวเราใช่หรือไม่?"

"ใช่แล้ว" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับ ก่อนหน้านี้เขาก็สังเกตเห็นแล้วว่า ไม่ใช่เพียงสตรีผู้นี้คนเดียวที่เป็นศิษย์สายนอก แต่ชายอีก 2 คนที่มาด้วยก็เป็นศิษย์สายนอกของนิกายกระบี่ 7 ดาวเช่นกัน

"ข้าชีหลัน ศิษย์จากขุนเขาเหยากวง ยินดีที่ได้รู้จักเจ้า" หญิงสาวนางนี้กล่าวแนะนำตัวพร้อมยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน ดวงตาของนางบ่งบอกว่านางเป็นคนจิตใจดีไม่น้อย

"ข้าต้วนหลิงเทียนจากเขาเทียนเฉวียน" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าให้ชีหลันก่อนที่จะกล่าวตอบ เขาประทับใจสตรีที่จิตใจอบอุ่นผู้นี้ไม่น้อย

"ต้วนหลิงเทียน นี่เจ้าเข้าป่าแรกเริ่มมานี่ด้วยตัวคนเดียวหรือ?" ชีหลันที่หันมองไปรอบๆ ไม่เห็นผู้ใด นางก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวถามต้วนหลิงเทียนด้วยความประหลาดใจ

"ใช่แล้ว" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า

อะไร! เจ้าจะบุ่มบ่ามเกินไปแล้ว! ...เจ้าเป็นเพียงศิษย์สายนอกที่พึ่งเข้าร่วมนิกายเรามาได้เมื่อ 2 วันก่อนใช่หรือไม่? แล้วเจ้ายังกล้ามาคนเดียว ? ระดับบ่มเพาะเจ้าคงอยู่ที่ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 1 ใช่หรือไม่? เช่นนั้นทีหลังยามเจ้าคิดเข้าป่าแรกเริ่มนี่ เจ้าต้องมาพร้อมกับกลุ่มคน! เข้าใจหรือไม่ มิเช่นนั้นเจ้าอาจจะต้องตกตาย อย่างเช่นเมื่อครู่ก็ได้!"

นางคิดว่า...หากไม่ใช่เพราะนางมาช่วยต้วนหลิงเทียนได้ทันเวลา เกรงว่าต้วนหลิงเทียนคงต้องถูกคมเขี้ยวของเสือดาววายุปลิดปลงชีวิตไปแล้ว

ต้วนหลิงเทียนย่อมสัมผัสได้ว่า ชีหลันกล่าวออกมาด้วยความเป็นห่วงจากใจ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะแย้มยิ้มออกมา "อา...ขอบคุณเจ้ามาก ที่กล่าวตักเตือนข้า"

เขารู้ดีว่าทั้งหมดเป็นเพราะเมื่อครู่เขาใช้ความแข็งแกร่งเพียง 20 ช้างแมมมอธโบราณ ต่อกรกับเสือดาววายุ  ทำให้ชีหลันเข้าใจผิดว่า ตัวเขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 1

แต่เขาก็ไม่ได้กล่าวอธิบายอะไรออกไป แต่เดิมเขาก็ไม่ใช่พวกชอบโอ้อวดอะไรอยู่แล้ว

ชีหลันมองไปยังต้วนหลิงเทียนก่อนที่จะกล่าวเชิญชวนออกมา "เช่นนั้นเหตุใดเจ้าไม่มาร่วมกลุ่มกับพวกเราล่ะ? เจ้าน่าจะปลอดภัยมากกว่าหากมากับพวกเรา ...เมื่อเสร็จการล่าแล้ว พวกเราจะมาแบ่งปันสิ่งของอยางเท่าเทียม เจ้าว่าอย่างไรบ้าง? อ่อ สหายของข้า ทั้ง 2 แข็งแกร่งมากเลยล่ะ!"

เดิมทีต้วนหลิงเทียนก็คิดที่จะกล่าวคำปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นแววตาที่เป็นห่วงและหวังปกป้องสหายร่วมนิกาย เขาก็ไม่อาจหักหาญน้ำใจนาง ได้แต่กล่าวตอบรับไป "เอาสิ ต้องลำบากพวกเจ้าแล้ว"

จะอย่างไรตัวเขาก็ไม่ได้มีอะไรต้องทำอยู่แล้วนอกจากทดสอบพลัง  การร่วมทีมไปกับ 3 คนนี่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร

"มาๆ ข้าจะแนะนำสหายให้เจ้ารู้จัก" ชีหลันยิ้มให้ต้วนหลิงเทียน ก่อนที่จะนำต้วนหลิงเทียนไปหา ศิษย์สายนอกนิกายอีก 2 คนที่ยืนรออยู่

"หูลี่, เช่าเฟย ... นี่ต้วนหลิงเทียน ​​เป็นศิษย์ของขุนเขาเทียนเฉวียน เขาจะเข้าร่วมกลุ่มกับพวกเราเพือไปล่าในป่าแรกเริ่มเพื่อฝึกฝนหาประสบการณ์ด้วยกัน ข้ารับปากเขาไว้แล้วว่าพวกเรา 4 คนจะแบ่งผลประโยชน์ด้วยความเท่าเทียม.."ชีหลันกล่าวบอกต่อศิษย์สายนอกทั้ง 2 ที่เป็นบุรุษ

“เฮ่! ข้าหูลี่จากขุนเขาเทียนจียินดีที่ได้รู้จักเจ้า”ศิษย์สายนอกร่างกายกำยำแลไปคล้ายมีอายุใกล้เคียงกับชีหลันกล่าวทักทายต้วนหลิงเทียนพร้อมรอยยิ้ม

"ข้าต้วนหลิงเทียน" ต้วนหลิงเทียนก็ยิ้มตอบชายหนุ่มร่างกำยำนี่เช่นกัน  ผู้ใดเคารพเขา แน่นอนว่าเขาย่อมให้ความเคารพกลับ

"ฮึ่ม!" ตอนนี้เองชายหนุ่มอีกคนที่อยู่ข้างๆเพียงแสยะยิ้มออกมาอย่างเย็นชา จับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาไม่แยแส  ก่อนที่จะขมวดคิ้วเป็นปม "ชีหลัน ก็แค่ไอเด็กหนุ่มหน้าสวย ที่ยังมีระดับบ่มเพาะเพียงแค่ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นแรก เขาไปด้วยก็เป็นภาระเปล่าๆ"

หน้าของต้วนหลิงเทียนลดลงมาทันที

ชีหลันและหูลี่บังเกิดความละอายไม่น้อย ทั้ง 2 หันไปกล่าวกับต้วนหลิงเทียนทันที  "ต้วนหลิงเทียน เช่าเฟิงเป็นลูกศิษย์ของผู้อาวุโสประจำขุนเขาเทียนฉี  ถึงแม้อายุของเช่าเฟิงจะเท่าเทียมกับข้าและชีหลัน แต่เขาก็ตัดผ่านไปยังระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 4 แล้ว ...ดังนั้นจึงช่วยไม่ได้ที่เขาจะหยิ่งยโสเล็กน้อย  เจ้าก็อย่าได้ไปใส่ใจอะไรกับวาจาเมื่อครู่นี้ของเขามาก  จะอย่างไรพวกเราก็เป็นศิษย์ร่วมนิกายเดียวกัน เพียงได้พบก็ถือว่ามีวาสนาร่วมกันแล้ว  เอาเป็นว่าเจ้าเข้ากลุ่มของพวกเราเถอะ! "

“ใช่แล้ว ต้วนหลิงเทียน เจ้าอย่าได้ใส่ใจ เรื่องที่เช่าเฟิงกล่าวเลย” ชีหลันยิ้มออกมาก่อนที่จะมองเชิงขอโทษต้วนหลิงเทียน

เช่าเฟิงขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย แต่เมื่อเขาจะกล่าวคำก็เห็นหูลี่และชีหลันหันมามอง พร้อมส่ายหน้าไปมา

สุดท้ายเขาก็ไม่กล่าวคำอะไรออกมาอีก เพียงสบถออกมาอย่างไม่พอใจ

ต้วนหลิงเทียนย่อมรับรู้ได้ถึงความจริงจากจากหูลี่และชีหลัน เขาเองก็ประทับใจทั้ง 2 ไม่น้อย จึงไม่คิดขัดศรัทธา เพียงพยักหน้าตกลงไป

"เอาล่ะ เช่นนั้นพวกเราไปเดินเล่นในป่าแรกเริ่มกันเถอะ!” หูลี่กล่าวออกมาอย่างเริงร่า จิตวิญญาณของเขาช่างกล้าหาญทะลุฟ้านัก

สมกับเป็นบุรุษ!

ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะยกย่องหูลี่อยู่ในใจ

ในที่สุดกลุ่ม 4 คนก็เดินลุยเข้าไปในป่าแรกเริ่ม และตลอดทางชีหลันก็ตั้งใจเฝ้าระวังและจริงจังอย่างมาก  เมื่อกำลังเข้าสู่เขตป่าหนาทึบ นางหันมากล่าวกับต้วนหลิงเทียน "ต้วนหลิงเทียน ในป่าแรกเริ่มนี้นับว่ามีอันตรายมากนัก ยามนี้พวกเรายังอยู่ชายป่า แต่อีกไม่นานพวกเราจะเริ่มล่วงล้ำเข้าไปยังเขตชั้นในแล้ว ...สัตว์อสูรจะทวีความดุร้ายและมีจำนวนมากขึ้น ความแข็งแกร่งของเจ้ายังน้อยอาจจะลำบากอยู่บ้าง ดังนั้นเจ้าต้องคอยอยู่ใกล้ๆพวกเราเอาไว้  อย่าได้แยกออกไปเด็ดขาด "

"ได้ ข้าจะระวัง" ต้วนหลิงเทียนยิ้มให้ชีหลัน ในใจเขารู้สึกอบอุ่นขึ้นมาไม่น้อย

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้กลัวสัตว์อสูรอะไร แต่ชีหลันไม่ได้รู้เรื่องนี้ ...นางเพียงคิดว่าเขามีระดับบ่มเพาะเพียงแค่ระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 1 เท่านั้น

"เหอะ ความแข็งแกร่งยังมิเพียงพอ ยังกลับกล้ามาเหยียบเข้ามาในป่าแรกเริ่ม รนหาที่ตายชัดๆ" เช่าเฟยที่เดินตามหลังมากล่าวเย้ยหยันออกมาด้วยความไม่พอใจ

ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เมื่อหันไปมองก็พบว่ายามนี้ทั้งชีหลันและหูลี่หันมายิ้มเจื่อนๆพร้อมส่ายหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกมา และไม่คิดโต้แย้งอะไรกับเช่าเฟยอีก

เขาไม่คิดสร้างความลำบากให้หูลี่กับชีหลัน

จะอย่างไรเช่าเฟยก็เป็นสหายของทั้ง 2

เมื่อพวกเขาเดินลึกเข้าไปในป่าแรกเริ่ม ต้นไม้และพุ่มไม้ก็เริ่มหนาทึบมากขึ้นเรื่อยๆ ทางเดินก็สลับซับซ้อน มากยิ่งขึ้น

สภาพแวดล้อมเชนนี้ช่างเหมาะเจาะและเอื้อให้เหล่าสัตว์อสูรซุ่มโจมตีนัก...

"หืม?" ทันใดนั้นเองด้วยพลังวิญญาณอันเฉียบคมต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง เขาตื่นตัวและหันไปมองพุ่มไม้ข้างๆ หูลี่ด้วยสายตาจริงจังพร้อมกล่าวตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงต่ำ "ระวัง!"

หูลี่ก็บังเกิดความตื่นตัวขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินเสียงเตือนของต้วนหลิงเทียน

และพริบตานั้นเองก็มีหมาป่าตัวเขื่องขนมีสีเขียวดั่งหยกพุ่งพรวดออกมาจากพุ่มไม้ พร้อมกระโจนเข้าหาหูลี่ ด้วยปากท้ากว้างเผยคมเขี้ยวแสดงความกระหายเลือด

บนทองฟ้า เงาร่างช้างแมมมอธโบราณปรากฏออกมา 40 ตัว...

สัตว์อสูรระดับกำเนิดแก่แท้ขั้นที่ 3!

"หมาป่ามรกต!" ชีหลันกล่าวออกมาด้วยความตกตะลึง

ทันใดนั้นเองหูลี่ที่ถูกจู่โจมพลันเอี้ยวตัวไปเบื้องหน้าเล็กน้อย มือเอื้อมไปหยิบจับกระบี่ 3 ฉื่อที่สะพายไว้บนหลังด้วยความเร็วสูง ...

ฟั่บ!ฟั่บ!ฟั่บ!ฟั่บ!ฟั่บ!ฟั่บ!

...

ประกายกระบี่สีฟ้าเผยออกมา รังสีกระบี่จำนวนมากก่อตัวพวยพุ่งรอบตัวของหมาปามรกตในเสี้ยวพริบตา รังสีกระบี่นี้สะท้อนแสงเผยให้เห็นประกายวูบวาบพร่างพราว

เหนือศีรษะหูลี่บังเกิดเงาร่างช้างแมมมอธโบราณ 46 ตัว!

เห็นได้ชัดเจนว่าหูลี่มีระดับบ่มเพาะอยู่ในขีดขั้นเดียวกับชีหลัน นั่นคือระดับ กำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 3  อีกทั้งอาวุธวิญญาณที่เขาใช้ ก็เป็นกระบี่วิญญาณระดับ 8 เช่นกัน

"อ๋าววู!" หมาป่ามรกตร้องโหยหวนออกมา ก่อนที่ร่างของมันจะถูกสับเป็นชิ้นๆ ด้วยเพลงกระบี่ของหูลี่ โลหิตของมันสาดกระจายเจิ่งนองทั่วผืนดิน

หูลี่บังเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่จะระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก พร้อมหันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยความสำนึก "ต้วนหลิงเทียน เรื่องนี้ต้องขอบคุณเจ้ามาก หากไม่ได้เจ้า มิแคล้วข้าคงถูกมันกัดจมเขี้ยว"

"นั่นสิ ต้วนหลิงเทียนหมาป่ามรกตนี่ ขึ้นชื่อเรื่องการปกปิดตัวตนแอบซุ่มโจมตีเช่นนี้นัก เมื่อมันซุ่มในพุ่มไม้ เรามิอาจจับร่องรอยอันใดมันได้เลย ... แล้วเมื่อครู่เจ้าสังเกตเห็นได้อย่างไรกัน?" ชีหลันมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ  ตอนแรกนางคิดว่าต้วนหลิงเทียนนั้นยังอ่อนด้อยในเรื่องความแข็งแกร่งจนต้องให้พวกนางคอยช่วยเหลือดูแล  แต่ไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะแสดงความสามารถเช่นนี้ออกมา

เมื่อครู่นี้หากไม่ใช่เพราะต้วนหลิงเทียนพบตัวหมาป่ามรกตก่อนล่ะก็ หูลี่ต้องบาดเจ็บไม่น้อยเป็นแน่

"อ่อ จากตำแหน่งที่ข้ายืนอยู่ พอดีเห็นประกายแสงมรกตที่สะท้อนจากดวงตาของมันพอดีน่ะ" ต้วนหลิงเทียนยิ้มบางๆ พร้อมกล่าวอ้างออกมา

เขาไม่อาจบอกผู้อื่นว่าพลังวิญญาณของเขาเฉียบคมมาก ใช่ไหม?

"เพียงโชคดี เจอไอหมาบัดซบนั่นเท่านั้น!" คิ้วของเช่าเฟยขมวดขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเย็นชาไม่แยแส ซ้ำเต็มไปด้วยความรังเกียจ

หูลี่และชี่หลันหันไปมองเช่าเฟยด้วยความไม่พอใจ

"ฮ่า! แกนสัตว์อสูรของหมาป่ามรกตระดับกำเนิดแก่นแท้ขั้นที่ 3 นี่ช่างเล็กนัก" ในที่สุดหูลี่ก็ค้นพบแกนสัตว์อสูรของหมาป่ามรกตที่สะท้อนแสงร่ำๆ หลังจากที่ชำแหละอยู่ครูหนึ่ง

สัตว์อสูรระดับกำเนิดแก่นแท้นี้  ย่อมมีแกนสัตว์อสูรที่ควบแน่นอยู่ในร่างกายมันทุกตัว

แกนสัตว์อสูรมักถูกใช้เป็นวัตถุดิบในการทำโอสถ

"หูลี่วิชาตาข่ายฟ้าของเจ้านี่ พึ่งฝึกฝนเมื่อตอนเจ้าเข้าร่วมนิกายกระบี่ 7 ดาวในปีที่แล้วใช่หรือไม่? ไม่คิดเลยว่าตอนนี้เจ้าจักบรรลุระดับแก่นแท้แล้ว" ชีหลันมองหูลี่ด้วยความชื่นชม "เมื่อครู่! เจ้าสังหารหมาป่ามรกตด้วยกระบวนท่าเดียวเท่านั้น"

ศิษย์ของนิกายกระบี่ 7 ดาวนั้น มีหลายคนที่ไม่เคยฝึกฝนวิชากระบี่มาก่อนเลยก่อนที่พวกมันจะมาเข้าร่วมนิกาย  และส่วนมากแล้วเมื่อพวกมันเข้าร่วมนิกายได้ พวกมันก็มักจะฝึกฝนวิชากระบี่

นี่คือสิ่งที่ต้วนหลิงเทียนล่วงรู้มา

หูลี่เพียงหัวเราะ "เรื่องนี้ไม่สมควรกล่าวถึง ...ก่อนหน้านี้ตัวข้าก็ได้ฝึกวิชาที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับวิชากระบี่ตาข่ายฟ้านี้อยู่บ้าง ทำให้ข้าฝึกฝนวิชากระบี่ตาข่ายฟ้าได้รวดเร็ว ...ไม่ใช่ว่าเจ้าเองก็วิชากระบี่ล่องวายุจนบรรลุระดับผู้เชี่ยวชาญแล้วไม่ใช่รึ"  

"เฮ่อ จะอย่างไรก็ยังอยู่แค่ระดับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น อีกตั้งปี กว่าข้าจะบรรลุระดับแก่นแท้" ชีหลันเพียงระบายลมหายใจออกมา

 

รีวิวผู้อ่าน