Chapter 38: เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้
การเดินทางใน {REBIRTH} นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ไม่ว่าคุณจะอยู่ไกลแค่ไหนก็ตาม เพียงแค่ใช้ยันต์กลับเมืองและมันก็ถูกส่งไปยังตำแหน่งเทเลพอร์ตภายในเมือง มันก็จะส่งคุณไปยังตำแหน่งนั้นในพริบตา มันเป็นเรื่องที่สะดวกสบายมากกว่าการเดินทางไปในโลกจริงซะอีก
หลังจากดื่มไปหลายแก้วแล้ว ขุนนางครอทก็มาถึงร้านอาหาร
“เทพเจ้ากระทิง!!!”ทุกคนนั้นก็หันกลับไปมองเมื่อนักรบที่ทั้งสูงและแข็งแกร่งนั้นพุ่งมาด้านข้างหวังหยู่และทักทายเขาอย่างเมามัน
“ดังนั้นนายก็คือเขาสินะ….”หวังหยู่หยุดอยู่ชั่วครู่หนึ่งแล้วเขาก็หัวเราะขึ้น
หวังหยู่และขุนนางครอทนั้นเจอกันเพียงแค่ครั้งเดียวและในตอนนั้นมันก็อยู่ในหมู่บ้านเริ่มต้น ในเวลานั้นเองหวังหยู่นั้นไม่ได้สนใจในรูปร่างของขุนนางครอทเลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้เมื่อเขานั้นปรากฏตัวขึ้นในกลุ่ม หวังหยู่ก็ไม่สามารถจำเขาได้
“ใช่ ใช่ ใช่ มันเป็นผมเอง!”ขุนนางครอทยิ้ม
เมื่อเห็นพวกเขานั้นไม่คุ้นเคยกัน สมาชิกคนอื่นของนิกายซวนเฉินก็รู้สึกว่ามันไม่ง่ายเลย
“เหี้....ไรวะเนี่ย พวกเราสามารถเชื่อกระทิงเหล็กได้หรือไม่เนี่ย!”
“ตามสิ่งที่ฉันได้เห็น มันเหมือนกับว่าทั้งสองคนนั้นไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ...อย่าบอกฉันนะว่าเขาพึ่งพบกัน?”
“ระวังสิ่งที่นายพูดไว้ด้วย ลุงกระทิงนั้นจะทำอะไรที่ไร้สาระแบบนั้นเหรอ?”
“แม้ว่าคนอื่นจะไม่ทำกัน มันก็ไม่ได้หมายความว่ากระทิงเหล็กจะไม่ทำ พวกเรามาพนันกันไหมละ?”
“ไปไกลๆเลยไอ้เวร!”
ในเวลานั้นเอง หวังหยู่ก็ลากขุนนางครอทมาแนะนำตัวกับคนที่เหลือ “นี่คือหัวหน้ากิลด์ของนิกายซวนเฉิน ไร้ความกลัว นี่คือ รัศมีฤดูใบไม้ผลิ...”
สมาชิกแต่ละคนของนิกายซวนเฉินนั้นเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นผู้เล่นที่อยู่บนกระดานจัดอันดับ
สมาชิกของนิกายซวนเฉินแต่ละคนนั้นแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อน ไม่ว่าใครก็ตามที่เขาแนะนำ ขุนนางครอทก็ถอนหายใจออกมาแรงๆ แล้วปากของเขาก็พูดออกมาว่า “เหี้... นายกำลังล้อเล่นอยู่ใช่ไหมเนี่ย”
คำว่า “เหี้...”นั่นใช้ในการด่าคนอื่น แต่ในตอนนี้เมื่อสมาชิกอันหยิ่งยโสของนิกายซวนเฉินได้ยินคำนี้นั้นก็หมายถึงการชื่นชม รอยยิ้มอันกว้างขวางก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา
“นายรู้จักพวกเขาอย่างงั้นเหรอ?”หวังหยู่ถามอย่างสงสัยเมื่อเขาเห็นการแสดงออกของขุนนางครอท
“ขุนนางครอทสับสน แล้วก็รีบตอบ “เพียงแค่เปิดกระดานจัดอันดับดูก็จะรู้แล้วว่าพวกเขานั้นคือพวกคนที่อยู่บนกระดานจัดอันดับกันทั้งหมด! นิกายซวนเฉินของนายนี่มันรวบรวมผู้เล่นที่ทั้งทรงพลังและมีความสามารถมาก ไม่สงสัยเลยว่านิกายซวนเฉินนั้นถูกตีจนกระทั่งอยู่ในสภาพแบบนั้น!”
สมาชิกคนอื่นนั้นรู้สึกพึงพอใจกับตัวของพวกเขาเองมากเมื่อพวกเขาได้ยินคำชื่นชมจากขุนนางครอทและก็ทำให้พวกเขานั้นแทบจะลอยแล้ว
“เฮ้ กระทิงเหล็ก เพื่อนของนายนี่มันน่าดึงดูดมากกว่านายซะอีก!” หมิงตู่ที่พูดพล่อยๆ หมิงตู่นั้นพูดถากถางกับหวังหยู่
คนที่เหลือก็เห็นด้วย “ไม่เลวเลย นิกายซวนเฉินของพวกเรานั้นขาดคนแบบเขาจริงๆ! ถ้าความแข็งแกร่งของนายถึงความต้องการของพวกเราละก็ น้องชายก็สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกถาวรของพวกเราได้!”
“เฮะเฮะ”ขุนนครอทหัวเราะ และไม่ได้พูดอะไรเลย
ขุนนางครอทได้ยินเกี่ยวกับชื่อเสียงของนิกายซวนเฉินมาก่อน
“อย่าปฏิเสธว่าพวกเขานั้นหน้าด้านและน่ารังเกียจแบบนี้ พวกเขานั้นเป็นคนดี! อย่าไปหวาดกลัวเขา!”หวังหยู่ถามขุนนางครอท
ไร้ความกลัวพยักหน้าด้วยความตกลง “นั่นมันถูกแล้ว ไม่ต้องเชื่อข่าวลืออันเลวร้ายที่นายเคยได้ยินมา โอ้ใช่แล้ว ฉันสงสัยว่าน้องชายอันทรงเกียรตินี้มีชื่อว่า?”
“ชื่อของผมก็คือขุนนางครอท!”
“โอ้!!”ทุกคนมึนงงไปชั่วครู่ก่อนที่จะอุทานมาพร้อมกัน “ผู้พิทักษ์อันดับหนึ่งในประเทศ! ดังนั้นนายก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้วยเช่นกันสินะ!”
ในความเป็นจริงแล้ว ขุนนางครอทก็ยังเป็นผู้เล่นที่มีชื่อเสียงบนกระดานจัดอันดับซึ่งทุกคนนั้นประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อพวกเขาได้ยินชื่อนี้ ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขานั้นคิดว่า สำหรับผู้เล่นอย่างเช่นหวังหยู่นั้น เพื่อนทั้งหมดของเขานั้นก็จะต้องเป็นผู้เล่นระดับสูงเหมือนกับเขา
ขุนนางครอทอาย “อย่าพูดเกินจริงเลย ผมไม่สามารถที่จะเปรียบเทียบได้กับทุกคนที่อยู่ที่นี่! ผมนั้นเคยเห็นแม้กระทั่งการต่อสู้ของเทพเจ้ากระทิงเหล็กอีกด้วย!”
มันเหมือนกับว่าขุนนางครอทนั้นสันนิษฐานว่าทุกคนในนิกายซวนเฉินว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเดียวกับหวังหยู่
เมื่อพวกเขานั้นได้ยินคำพูดนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขานั้นก็มากยิ่งขึ้น
ไร้ความกลัวหัวเราะแล้วเขาก็ถามขึ้น “เฮ้ ขุนนางครอท กระทิงเหล็กได้บอกนายเกี่ยวกับว่าทำไมเขาถึงเรียกนายมาหรือเปล่า?”
“ไม่ครับ เทพเจ้ากระทิงนั้นได้ถามว่าให้ผมมาที่นี่ได้ไหม ดังนั้นผมก็ตอบว่าผมมาได้!”ขุนนางครอทตอบอย่างซื่อสัตย์
“เกี่ยวกับเรื่องนั้นแล้ว กิลด์ของพวกเรานั้นวางแผนที่จะรับภารกิจที่มีความยากสูงมากซึ่งมันแทบจะเป็นภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้สำเร็จในช่วงเวลานี้ของเกมได้เลย แต่นิกายซวนเฉินของพวกเรานั้นชื่นชอบในความท้าทาย ดังนั้นถ้านายไม่ต้องการที่จะรับความเสี่ยงกับพวกเราละก็ มันยังมีเวลาให้นายได้ถอยกลับได้ในตอนนี้…”ไร้ความกลัวตอบกลับ
“เควสนั่นมันอะไรกัน? มันก็เป็นเพียงแค่เกม ทำไมคุณถึงทำให้มันดูยากแบบนั้นกัน? ถึงแม้ว่าพวกเราจะตาย พวกเราก็จะสูญเสียค่าประสบการณ์เพียงแค่ 10% แล้วทำไมจะต้องหวาดกลัวด้วย”ขุนนางครอทหัวเราะ
ไร้ความกลัวส่ายหัว “มันไม่ใช่เพียง 10% หน่ะสิ!”
เมื่อเควสการป้องกันสำนักงานใหญ่เริ่มขึ้น จุดเกิดนั้นจะเปลี่ยนกลายเป็นตำแหน่งที่กำหนดไว้ในสำนักงานใหญ่ มันจะเป็นแบบนั้นจนกระทั่งเควสได้สำเร็จลงหรือกิลด์นั้นได้ทำเควสล้มเหลว
เมื่อมอนสเตอร์นั้นบุกโจมตีสำนักงานใหญ่ จุดเกิดก็จะไม่กลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยอีกต่อไป
ถ้ามอนสเตอร์นั้นได้บุกทำลายพวกเขาลงและถาโถมเข้ามายังสำนักงานใหญ่ พวกเขาก็จะถูกฆ่าแล้วฆ่าอีก พวกเขานั้นไม่สามารถออกจากเกมหรือยอมแพ้ได้จนกระทั่งพวกเขากลับมาสู่ระดับ 1
ขุนนางครอทนั้นคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบอย่างมั่นใจ “ตั้งแต่ที่พวกคุณนั้นกล้าที่จะทำเควสนี้กัน ถ้าอย่างงั้นคุณก็คงจะต้องมีความมั่นใจบางส่วน ตั้งแต่ที่เทพเจ้ากระทิงได้เรียกผมมาที่นี่ ผมก็ไม่สามารถทำให้เขาเสียหน้าโดยการจากไปในตอนนี้ได้ ผมจะต่อสู้ แม้ว่าในตอนจบผมจะต้องกลับไปยังหมู่บ้านเริ่มต้น!”
ไร้ความกลัวหัวเราะ “ยอดเยี่ยม! ไม่ต้องกังวลไป เมื่อเควสนี้สำเร็จนายได้จะได้รับผลประโยชน์มากมายเลยละ!”
“แล้วเควสที่พวกเรากำลังจะไปทำคืออะไรกัน?”ขุนนางครอทถามอย่างสงสัย
“เควสป้องกันสำนักงานใหญ่!”
“เหี้...อะไรวะเนี่ย! พี่ไร้ความกลัว ไม่ใช่ว่าพี่บ้าไปแล้วเหรอ?”ขุนนางครอทนั้นถอยหลังไปสองสามก้าว
เควสป้องกันสำนักงานใหญ่เป็นเควสที่ผู้เล่นสามารถที่จะทำสำเร็จได้ในตอนนี้งั้นเหรอ? แม้กระทั่งกิลด์ที่มีคนมากมายเช่นพันธมิตรอันนองเลือดพร้อมกับผู้เล่นหลายร้อยคนก็ยังไม่กล้าที่จะทำเควสป้องกันสำนักงานใหญ่อย่างแน่นอน
“ไม่ฉันก็ไม่ ที่จริงแล้วฉันมีความมั่นเพียง5ส่วน แต่ถ้านายมาเข้าร่วมทำเควสนี้ ฉันคิดว่ามันจะกลายเป็น10ส่วน!”ไร้ความกลัวตอบกลับอย่างสบายๆ
“โอ้…”
เมื่อเห็นความมั่นใจของไร้ความกลัวแล้ว ขุนนางครอทก็ถามอย่างสิ้นหวัง “นอกจากพวกเราแปดคนแล้ว มีใครอื่นที่จะช่วยพวกเราไหม?”
“คนอื่น? ทำไมคนนอกจะต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับปัญหาของนิกายซวนเฉินด้วยละ?”ไร้ความกลัวตอบกลับแบบไม่แตกต่างไปจากเดิม
“โอ้ พระเจ้า!” ขุนนางครอทด่าอย่างเงียบงัน แล้วเขาก็ถามขึ้น “พี่หมายความว่ามีแค่พวกเรา8คน?”
“ถูกแล้ว!”ไร้ความกลัวยิ้ม
ขุนนางครอทพูดไม่ออก อะไรกันที่ทำให้พวกเขานั้นมีความมั่นใจมากขนาดนี้ พวกเขากล้าที่จะทำเควสป้องกันสำนักงานใหญ่เพียงแค่แปดคน!
มันเป็นเรื่องที่รู้จักกันดีถึงความยากของเควสป้องกันสำนักงานใหญ่ซึ่งมันสามารถเปรียบเทียบได้เลยกับการลงดันเจี้ยนระดับนรก
ถึงแม้ว่าพวกเขาแปดคนนั้นจะสู้กับฝูงมอนสเตอร์นับร้อยตัวได้ก็ตาม แล้วบอสละ?
ใน{REBIRTH} ส่วนที่ยากที่สุดของเควสป้องกันสำนักงานใหญ่นั่นก็คือความจริงที่ว่าบอสนั้นจะเป็นผู้นำมอนสเตอร์ธรรมดาแล้วถาโถมโจมตีใส่ผู้ป้องกัน
สิ่งนี้นั้นเคยได้รับการทดสอบมาแล้วโดยเหล่าผู้เล่นที่เล่นเบต้าเทสต์
เมื่อเควสป้องกันสำนักงานใหญ่นั้นได้เริ่มต้นขึ้น บอสในพื้นที่จะถูกเพิ่มขึ้นหนึ่งขั้น
ในอีกหมายความหนึ่ง ถ้าบอสนั้นเป็นระดับเงิน มันก็จะกลายเป็นบอสระดับทองแทนในช่วงเวลาของเควสนี้
แต่เควสนี้มันไม่ได้ยากเพียงแค่บอสนั้นได้รับพลังที่เพิ่มขึ้น
จุดที่สำคัญที่สุดก็คือสกิลที่บอสได้รับในช่วงเควสป้องกันสำนักงานใหญ่ บอสทั้งหมดนั้นจะได้รับสกิลที่ชื่อว่า [เสริมกำลัง] ที่มันทำให้มอนสเตอร์รอบๆได้รับพลังเพิ่มเติมไปด้วย ทำให้เพิ่มค่าสถานะของพวกมัน
สกิลนี้นั้นคล้ายคลึงกับ [รัศมี] ของอัศวิน แต่มันก็แค่เพียงแข็งแกร่งกว่าเท่านั้น
[รัศมีอวยพร] ของเทมพลาร์นั้นก็เพิ่มพลังป้องกันกายภาพและพลังป้องกันเวทย์มนตร์ให้กับผู้เล่นคนอื่น ในขณะที่ [รัศมีโชติช่วง] ของครูเซเดอร์นั้นจะเพิ่มพลังโจมตีกายภาพและเวทย์มตร์ สกิลทั้งสองสกิลนั้นมีระยะมากที่สุดอยู่ที่สามเมตร
แต่สกิล [เสริมกำลัง] ที่บอสมีนั้นทรงพลังมากกว่าเป็นอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกัน ไม่เพียงแต่มันจะเพิ่มทั้งพลังโจมตีและพลังป้องกัน ตราบเท่าที่บอสยังอยู่ในสนามรบ มอนสเตอร์ทั้งหมดก็จะได้รับบัฟนี้อยู่ดี ไม่ว่าพวกมันนั้นจะอยู่ห่างจากบอสแค่ไหนก็ตาม
สิ่งนี้นั้นทำให้ค่าสถานะของมอนสเตอร์ธรรมดานั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่ามอนสเตอร์ระดับชนชั้นยอด แม้กระทั่งกิลด์ใมหญ่นั้นก็ไม่สามารถที่จะรับมือมอนสเตอร์ที่ได้รับการเพิ่มพลังมาได้
เพียงแค่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว คนเพียงแค่แปดคนจะต้านทานฝูงมอนสเตอร์ระดับชนชั้นยอดได้ยังไงกัน?
แต่คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขานั้นไม่มีการแสดงออกถึงความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย พวกเขานั้นเหมือนกับว่าพวกเขานั้นเควสนี้สำเร็จไปแล้วด้วยซ้ำ.... ขุนนางครอทนั้นคิดอย่างวุ่นวาย มันเหมือนกับข่าวลือที่ทุกคนในนิกายซวนเฉินนั้นเป็นพวกบ้า
“เป็นอะไรเหรอ? นายไม่เชื่อพวกเราอย่างงั้นเรอะ?”ไร้ความกลัวถามอย่างไม่มีความสุขเมื่อเขาเห็นการแสดงออกของไร้ความกลัว
“พูดตามตรงแล้ว ผมไม่เชื่อพวกคุณจริงๆ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แต่ผมก็รู้สึกว่าตั้งแต่ที่พวกเรานั้นยังมีระดับน้อยๆเช่นนี้อยู่ การฝึกซ้อมจากไม่มีอะไรเลยมันก็ไม่เป็นปัญหา! ถึงแม้ว่าพวกเราจะล้มเหลวกับอะไรแบบนี้ก็ตาม พวกเราก็ยังโอ้อวดถึงมันได้ใช่ไหมละ?”ขุนนางครอทตอบกลับ
“เพียงแค่คำพูดเพียงแค่ประโยคเดียว ผมก็คิดว่านายนั้นไปกับสมาชิกของนิกายซวนเฉินได้แล้วละ!”หวังหยู่หัวเราะ
ขุนนางครอทฉีกยิ้ม แล้วก็หันกลับไปถามไร้ความกลัว “เฮ้ บอส เมื่อพี่บอกว่าพี่มีความมั่นใจสิบส่วนสำหรับเควสนี้ ทำไมพี่ถึงจริงจังละ?”
“อื้ม! แน่นอนว่าฉันมีความมั่นใจเท่านั้นจริงๆ! สิบส่วนจากร้อยส่วน!”
“…”
ไอ้บัดซบนี่นั้นถามหาถึงการโดนกระทืบ ความกล้าที่จะทำเควสเช่นนี้นั้นมีเพียงแค่ 10% แต่พวกเขาก็ยังคงหวังว่ามันจะสำเร็๗?
ไร้ความกลัวประกาศ “เอาละ ถ้าอย่างงั้น ทุกคนควรที่จะใช้เวลานี้ในการเตรียมตัว ไปเตรียมยาเพิ่มพลังชีวิตและยาเพิ่มมานาด้วย สำหรับเควสป้องกันใหญ่นั้นจะต้องใช้เวลาประมาณสี่ชั่วโมงเพื่อที่จะทำให้มันสำเร็จ มั่นใจด้วยว่านายนั้นจ่ายค่าไฟและค่าเนตไปแล้วด้วย อย่าหายไปเมื่อพวกเรานั้นกำลังสู้บอสอยู่ละ”
“ค่าเนตและค่าไฟนั้นไม่ใช่ปัญหา ฉันจะต้องไปบอกแม่ของฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ มิฉะนั้นละก็เมื่อเธอเข้ามาในห้องของฉัน เธอก็จะตีฉันเมื่อฉันนั้นหมกมุ่นกับเกม!”โบซอนถอนหายใจ
ไร้ความกลัวพยักหน้าเช่นกัน “ใช่ ฉันก็จะต้องบอกพ่อของฉันเหมือนกัน”
“ผมจะต้องไปบอกภรรยาของผมเหมือนกัน”
“นายมีภรรยาแล้วเหรอ?”ทุกคนนั้นอุทานขึ้นมาพร้อมกัน
“ใช่…”หวังหยู่พยักหน้า
“เฮะ...”ทุกคนส่ายหัว มันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าผู้เชี่ยวชาญที่ท้าทายสวรรค์เช่นนี้ในกิลด์จะหวาดกลัวภรรยา
“มมมันไม่ใช่แบบที่พวกนายคิดกันอยู่..”หวังหยู่พยายามที่จะอธิบายเมื่อเขาตระหนักได้ว่าทุกคนนั้นเริ่มที่มีความคิดอันแปลกประหลาดไป
ไร้ความกลัวแนะนำให้กับรัศมีฤดูใบไม้ผลิในทันที “พี่ชายฤดูใบไม้ผลิ ไปสร้างกระทู้ในเว็บบอร์ด พี่จะต้องทำให้มันดูเว่อวังอลังการมากและทำให้ทุกคนจะต้องมาดู!”
“พี่ต้องการสร้างโพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้?”ขุนนางครอทถาม
“แน่นอน! มันเป็นอะไรบางอย่างที่ถูกจดจำไว้ในระบบ ยิ่งใหญ่ยิ่งดี! พวกเรานั้นจะต้องทำให้ทั้งโลกได้รับรู้ว่านิกายซวนเฉินของพวกเรานั้นเป็นอันดับหนึ่งใน {REBIRTH}!” ไร้ความกลัวประกาศ