Chapter 18 : ได้เลย ปู่คนแคระโมไบ
แม็กซ์ถึงกับผงะ ข้าวผัดหยางโจวจานหนึ่งนั้นปริมาณข้าวก็ไม่ใช่น้อยๆ สองจานนั้นเพียงพอสำหรับคนที่กินจุ บางทีคนแคระอาจจะมีท้องที่ใหญ่กว่าคนปกติรึเปล่า ?
แม็กซ์สงสัยแต่ไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า เขาทำแค่พยักหน้า “ได้ งั้นรอสักเดี๋ยว” เขาหยิบจานเปล่าแล้วเดินเข้าไปในครัว
โมไบตักข้าวผัดกินพร้อมกับก้มหน้าอยู่ตลอด ยิ่งกินเข้าไปมากเท่าไหร่เขายิ่งรู้สึกพอใจมากขึ้นเท่านั้น เขาไม่คิดว่าอาหารที่อร่อยแบบนี้จะมีผลฟื้นฟูที่ดียิ่งกว่าน้ำยาฟื้นฟูขั้นกลาง ด้วยความเร็วระดับนี้เขารู้สึกว่าบางทีมันอาจจะฟื้นฟูร่างกายของเขาให้กลับไปอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และทำงานได้ไปอีกหลายสิบปี
“ว้าว ปู่คนแคระน่าทึ่งจริงๆ ปู่กินได้ตั้ง 3 จานแหนะ !” เอมี่อ้าปากค้างและมองไปที่โมไบด้วยความอิจฉาและชื่นชม
โมไบเงยหน้าขึ้นมามองเอมี่ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอไม่ได้มองเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจ เขารู้สึกว่าเขาได้รับคำชมและยืดอกอย่างภาคภูมิใจโดยที่ไม่รู้ตัว เขากินข้าวเข้าไปอีกคำและพูดขึ้น “ข้าวผัดแบบนี้สามจานน่ะไม่ได้มากมายอะไรเลย ฉันกินได้สี่จานเลยด้วยซ้ำ !”
“จริงเหรอ ? ปู่กินได้สี่จานจริงๆเหรอ ?” เอมี่มองเขาด้วยสีหน้าชื่นชมพร้อมกับตาที่เริ่มเป็นประกาย
โมไบลังเลไปสักพักแต่เมื่อเห็นสายตาที่เป็นประกายของเอมี่ เขาก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้า “แน่...นอน”
เอมี่หันไปตะโกนเข้าไปในครัว“พ่อ ปู่คนแคระเขาบอกว่าเขากินได้สี่จานเลย พ่อทำให้ปู่เพิ่มอีกจานนึงนะไม่งั้นแล้วปู่จะไม่อิ่ม !”
“เดี๋ยวก่อน...”
โมไบมองไปที่เอมี่ แต่เมื่อเขามองเห็นรอยยิ้มที่ใสซื่อของเธอแล้ว เขาก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติไป
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเอมี่ แม็กซ์ก็หันไปมองโมไบ “อย่างงั้นเหรอ ?” ภายนอกเขาดูใจเย็นอย่างมาก แต่ภายในใจของเขานั้นกลับกำลังหัวเราะอยู่ ถ้าเขาไม่รู้นิสัยของเอมี่มาก่อน บางทีเขาอาจจะสงสัยว่าเอมี่น่ะเป็นคนเจ้าเล่ห์
“มัน...” โมไบรู้สึกอายขึ้นมานิดๆ เขากินได้มากกว่าคนธรรมดา เขารู้สึกว่าเขาเริ่มอิ่มเมื่อเขากินเข้าไปสัก 1-2 จาน จานที่สามนั้นถือว่าพอฝืนกินได้ แต่จานที่สี่นั้นจะทำให้เขารู้สึกจุก
“ปู่คนแคระ ปู่บอกหนูว่าปู่กินได้สี่จาน ดังนั้นเอมี่เลยไม่อยากให้ปู่กลับคำพูด” เอมี่พูดขึ้นพร้อมกับเอามือเท้าคาง
โมไบต้องการจะตบปากตัวเอง ทำไมฉันถึงพูดโม้ไปแบบไม่คิดนะ ? มันจะไม่มีปัญหาหากเธอเป็นคนอื่น แต่เมื่อเห็นสีหน้าคาดหวังของเธอแล้ว เขาก็ไม่อยากจะเสียหน้า หลังจากที่ลังเลอยู่สักพัก เขาก็กัดฟันแน่นและมองไปที่แม็กซ์ “ใช่ ทำมาให้ฉันอีก”
“ว้าว ปู่พูดออกมาแล้ว ปู่สุดยอดจริงๆเลย !” เอมี่ปรบมืออย่างดีใจพร้อมกับสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
โมไบปลอบใจตัวเอง ให้ตายสิ ! ฉันไม่ค่อยได้กินของดีๆนัก ดังนั้นมันก็ถือว่าดีถึงแม้ว่าฉันจะจุกก็ตาม นอกจากนี้แล้ว เมื่อมองไปที่รอยยิ้มอันสดใสบนใบหน้าของเอมี่ เขาก็รู้สึกพอใจขึ้นมา กินอีกจานก็ไม่ได้มากมายอะไรสำหรับเขา
แม็กซ์พยักหน้า “ได้ งั้นรอสักเดี๋ยว” เขาเริ่มหุงข้าวและทำข้าวผัดอีกจาน จากนั้นเขาก็หันกลับมามองเอมี่ด้วยสายตาเอ็นดู ต้องขอบคุณเธอจริงๆที่ทำให้ลูกค้าคนแรกอยู่ต่อและสั่งข้าวผัดถึงสี่จาน
แม็กซ์เสิร์ฟข้าวทีละจานๆโดยที่มีเอมี่คอยจับตาดูให้โมไบกินจนหมด
โมไบเรอออกมาแล้ววางช้อนลง ข้าวผัดสี่จานนี้ทำให้เขารู้สึกอุ่นไปทั่วทั้งตัวและมันก็ไม่ได้จุกแบบที่เขาคิดเอาไว้ ความรู้สึกพอใจแผ่ออกมาจากก้นบึ้งของจิตใจ เขารู้สึกว่าชีวิตของเขาถูกเติมเต็ม
แม็กซ์ยืนมองอาหารที่เขาทำถูกกินจนหมดด้วยความรู้สึกพอใจ ความรู้สึกประสบความสำเร็จได้แผ่ซ่านไปทั่วทั้งหัวใจของเขา เขารู้สึกดีใจเป็นอย่างมา ดูเหมือนว่าการเป็นเชฟก็ไม่ใช่เรื่องที่แย่อะไร
ก่อนที่โมไบจะรู้ตัว เอมี่ก็ได้มาอยู่ที่ข้างๆโต๊ะของเขา เธอยื่นมือออกมาและมองไปที่โมไบ ก่อนจะพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง “ปู่คนแคระ ถ้าปู่กินอิ่มแล้ว งั้นก็จ่ายมา...2,400 เหรียญทองแดง”
“ได้ แต่ฉันไม่ได้มีเหรียญทองแดงมากนัก ดังนั้นฉันจะให้ 24 เหรียญทองแทนก็แล้วกัน” โมไบพูดด้วยรอยยิ้ม เขาล้วงเอากระเป๋าเงินออกมาจากเสื้อ
“เหรียญทอง ?” เอมี่นิ่งไปในทันที จากนั้นเธอก็มองไปที่แม็กซ์ “พ่อ 24 เหรียญทองกับ 2,400 เหรียญทองแดงอันไหนมากกว่ากัน ?”
แม็กซ์มองไปที่เอมี่พร้อมกับยิ้ม “ทั้งสองอย่างนั้นเท่ากัน 1 เหรียญทองนั้นเท่ากับ 100 เหรียญทองแดง” เขาแปลกใจที่เธอรู้เกี่ยวกับการคูณเลข แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่รู้เรื่องการเปลี่ยนค่าเงินเลย
“เข้าใจแล้ว...” เอมี่พยักหน้า
“เอานี่ ! 24 เหรียญทอง” โมไบวางเงินเรียงเป็นกองเอาไว้ในมือเล็กๆของเอมี่
โมไบละสายตาจากเอมี่ ก่อนที่เขาจะหยิบค้อนแล้วลุกขึ้นมองไปที่แม็กซ์ “ข้าวผัดหยางโจวของคุณอร่อยจริงๆ ฉันยังไม่รู้ชื่อของคุณเลย”
“แม็กซ์” แม็กซ์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ลูกค้าคนนี้อารมณ์ร้อนและเย็นชา แต่จริงๆแล้วเขาก็ดูเขากับคนง่ายและตรงไปตรงมาดี
โมไบมองไปที่แม็กซ์ด้วยความแปลกใจ มีน้อยคนที่จะไม่พูดถึงนามสกุลเมื่อแนะนำตัว แต่คนจำนวนมากในเมืองเคออสนี้ต่างก็ปกปิดมันเอาไว้เพราะเหตุผลต่างๆกัน เขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้สักเท่าไหร่ เขาพยักหน้าและยิ้มให้ “งั้นฉันจะเรียกนายว่าแม็กซ์ก็แล้วกัน ฉันชื่อโมไบ นายเรียกฉันว่า ‘เฒ่าโม’ ก็ได้ เดี๋ยวฉันจะกลับมากินที่นี่ใหม่นะ”
แม็กซ์พยักหน้าและยิ้มให้ “ได้เลย งั้นไว้เจอกันใหม่”
ตอนที่โมไบหันหลังและกำลังจะเดินออกไป เขาก็หยุดและหันกลับมามองที่เอมี่ “สาวน้อย เธอเรียกฉันว่า ‘ปู่โมไบ’ ดีกว่านะ ไม่ใช่ปู่คนแคระ”
“ได้เลย ปู่คนแคระโมไบ” เอมี่ตอบกลับโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นมามอง ตอนนี้เธอกำลังหมกมุ่นอยู่กับการนับเงิน
“เด็กน้อย...” โมไบส่ายหน้าก่อนจะหันกลับแล้วเดินออกไป สาวน้อยนี่ทำให้เขาหมดคำพูด แต่เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้ มันก็ถือว่าเธอพูดถูก นอกจากนี้เธอก็ยังน่ารัก ดังนั้นเขาจึงไม่อาจจะถือสาอะไรกับเธอได้
แม็กซ์เก็บโต๊ะและมองไปที่เอมี่ที่กำลังนับเงินอยู่ ตาของเธอนั้นเป็นประกาย ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ชอบแค่อาหารแต่ยังชอบเงินอีกด้วย แม็กซ์เข้าไปในครัวพร้อมกับจานก่อนจะเริ่มเตรียมอาหารเที่ยงให้กับตัวเอง
ผ่านไปสักพักแม็กซ์ก็ออกมาพร้อมกับจานข้าวผัด เขามองไปที่เอมี่ที่กำลังนับเงินอยู่ เมื่อเอมี่ได้ยินเสียงแม็กซ์เดินออกมา เธอก็เงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าศร้อยก่อนที่จะพูดขึ้น “พ่อ เอมี่ไม่ได้ทำอะไรเลย หนูเก็บเงินให้พ่อไม่ได้ด้วยซ้ำ หนูช่วยอะไรพ่อไม่ได้เลยใช่มั้ย ?”